xs
xsm
sm
md
lg

“ศาลเจ้าอิมาโดะ” ขอพรความรัก...ต้นกำเนิดแมวกวักแห่งโตเกียว

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

Facebook :Travel @ Manager
แมวเหมียวและแมวกวักที่ศาลเจ้าอิมาโดะ
“แมวกวัก” มีต้นกำเนิดความเชื่อมาจากประเทศญี่ปุ่น โดยภาษาญี่ปุ่นเรียกแมวกวักว่า “มาเนะคิ เนะโคะ” (Maneki Neko - มาเนะคิแปลว่าเชื้อเชิญ ส่วนเนโคะแปลว่าแมว) ถือเป็นเครื่องรางนำโชคที่เชื่อกันว่าจะช่วยกวักเงินทองและโชคลาภเข้ามา

“ศาลเจ้าอิมาโดะ” (Imado Jinja) ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในโตเกียวในการขอพรเรื่องความรัก และเป็นอีกหนึ่งแห่งที่ถือเป็นต้นกำเนิดตำนานแมวกวัก (ส่วนอีกหนึ่งแห่งที่เชื่อว่าเป็นต้นกำเนิดแมวกวักเช่นกันก็คือวัดโกโทคุจิ - คลิกอ่านได้ที่นี่
ประตูด้านหน้าทางเข้าศาลเจ้า พร้อมป้ายแมวกวัก
ศาลเจ้าอิมาโดะสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1063 เป็นที่สถิตของเทพเจ้าคู่สามีภรรยา คือเทพอิซะนะงิ และเทพอิซะนะมิ ทั้งสองพระองค์ถือเป็นบรรพเทพอันเป็นต้นกำเนิดของเทพแห่งญี่ปุ่น การเสกสมรสของทั้งคู่ทำให้เกิดประเทศญี่ปุ่น และยังให้กำเนิดเทพเจ้าต่างๆ สืบมามากมาย ดังนั้นคนญี่ปุ่นจึงบูชาพระองค์ในฐานะเทพเจ้าของการสมรสและความรุ่งโรจน์

ส่วนที่มาของความเป็นต้นกำเนิดแมวกวักนั้น เล่ากันว่า มีคุณยายคนหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ในย่านอาซากุสะ คืนหนึ่งคุณยายฝันเห็นแมวหน้าตาน่ารักเข้ามาบอกว่า “หากสร้างตุ๊กตารูปร่างเหมือนเราแล้วล่ะก็จะมอบความโชคดีให้” ต่อมาจึงมีการทำตุ๊กตาแมวกวักขึ้นในแบบอิมาโดะยากิ หรือ Imado Ware ซึ่งเป็นงานปั้นเซรามิกแบบไม่เคลือบที่ทำขึ้นที่อิมาโดะ อันเป็นสไตล์หนึ่งของงานเครื่องปั้นดินเผาแบบญี่ปุ่น
ศาลเจ้าอิมาโดะ
นักท่องเที่ยวสามารถเดินเท้าจากสถานีรถไฟใต้ดินอาซากุสะเลียบริมแม่น้ำสุมิดะมายังศาลเจ้าได้ในเวลา 15 นาที โดยด้านหน้าศาลเจ้าจะมีเสาประตูโทริอิพร้อมป้ายแมวกวักคู่ติดอยู่ที่ประตูทางเข้า เห็นปุ๊บก็จะรู้ได้ทันที

เมื่อผ่านประตูเข้าไปด้านในสิ่งแรกที่เห็นก็คือบริเวณที่แขวนเอมะ หรือแผ่นป้ายเขียนคำอธิษฐานที่มีป้ายแขวนไว้เต็มทุกพื้นที่ แผ่นป้ายนี้เป็นรูปแมวกวักคู่ให้เข้ากับทั้งตำนานแมวกวักและความโด่งดังในเรื่องการขอพรความรัก
แมวกวักนั่งกันอยู่เต็มศาล
สาวๆญี่ปุ่นมาไหว้ขอพร
เมื่อเดินลึกเข้าไปอีกก็จะเห็นตัวอาคารศาลเจ้าที่มีขนาดไม่ใหญ่โตนัก แต่ด้านในมองเห็นแมวกวักคู่สีขาวขนาดใหญ่ที่สูงถึง 70 เซนติเมตร และมีขนาดรองๆ ลดหลั่นกันลงมา แต่ละตัวชูมือขึ้นสูงเพื่อกวักเรียกโชคลาภ เห็นแล้วก็อดยิ้มในความน่ารักไม่ได้

ผู้ที่มาขอพรก็จะมายืนตั้งจิตอธิษฐานกันที่นี่ แล้วสั่นกระดิ่งเพื่อให้เทพเจ้าได้ยินคำขอ จะโยนเหรียญหรือไม่ก็แล้วแต่ศรัทธา แล้วก็มักจะเดินลงมาที่ด้านหน้าศาลเจ้าเพื่อมาลูบรูปปั้นแมวกวักคู่ที่แกะจากหิน เชื่อกันว่าหากมาลูบขอพรแล้วจะสมปรารถนา แมวกวักหินที่ว่าก็เลยตัวลื่นเป็นมันแว้บเพราะมีคนมาลูบทุกวัน
แมวกวักหินที่คนมาลูบขอพรจนเป็นมันเงา
เอมะ หรือป้ายเขียนคำอธิษฐาน
อีกทั้งบริเวณด้านข้างศาลเจ้ายังมีสำนักงานของวัดที่ให้เช่าบูชาเครื่องรางต่างๆ รวมถึงเอมะหรือแผ่นเขียนข้อความอธิษฐาน โดยที่วัดนี้ทำแผ่นเอมะเป็นรูปร่างกลมไม่ให้มีเหลี่ยมมุมก็เพื่อ “เติมเต็มความสมบูรณ์แบบ” ใครอยากจะไปเขียนขอพรให้เจอเนื้อคู่ หรือขอให้รักกับคนรักไปนานๆ ก็สามารถเลือกแผ่นเอมะแบบที่ชอบ จ่ายเงินบำรุงวัดแล้วก็เขียนและแขวนกันได้เลย นอกจากนั้นก็ยังมีเครื่องรางแบบญี่ปุ่นที่ไว้พกติดตัว เครื่องรางแบบพวงกุญแจ และอีกหลากหลายรูปแบบหลายราคาแตกต่างกันไป ที่แน่นอนว่าทำเป็นรูปแมวกวักคู่น่ารักน่าเอ็นดูเป็นที่สุด คนรักแมวยังไงก็ต้องเสียเงินมาไว้ครอบครองเป็นสิริมงคล
กล่องเสี่ยงเซียมซี
ที่อยู่ใกล้ๆ กันก็มีให้เสี่ยงเซียมซี ซึ่งคล้ายกับการจับฉลากมากกว่า หยอดเงินทำบุญแล้วหยิบสลากขึ้นมาแกะอ่าน แต่อันนี้สำหรับนักท่องเที่ยวอาจจะไม่สะดวกเพราะเซียมซีเป็นภาษาญี่ปุ่น ดังนั้นจะเดินเล่นชมสิ่งต่างๆ บริเวณศาลเจ้าเพลินๆ ก็เพียงพอ ซึ่งก็ได้เห็นเครื่องประดับตกแต่งสวนต่างๆ เป็นรูปแมวเหมียวน่ารักๆ เต็มไปหมด ยังไม่พอ...ยังมีเจ้าแมวเหมียวอ้วนตัวเป็นๆ นอนหลับชิลอยู่บนศาลเจ้า ให้นักท่องเที่ยวและคนญี่ปุ่นได้อุทาน “คาวาอี้” แล้วหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปกันเป็นแถวๆ

ขอแนะนำเลยสำหรับคนรักแมว และอยากมาขอพรเรื่องความรัก อย่าได้พลาด “ศาลเจ้าอิมาโดะ” หากมาญี่ปุ่นครั้งหน้า
ของตกแต่งสวนก็เป็นรูปแมวน่ารักๆ
"ศาลเจ้าอิมาโดะ" เปิดให้เข้าชมและสักการะทุกวันในเวลา 09.00-17.00 น. ไม่เสียค่าเข้าชม การเดินทางมาที่ศาลเจ้าอิมาโดะ สามารถนั่งรถไฟใต้ดินสายกินซ่า (Ginza Line) หรือสายอาซากุสะ (Asakusa Line) มาลงที่สถานีอาซากุสะ แล้วเดินจากสถานีขึ้นไปทางเหนือ เลียบแม่น้ำสุมิดะไป 1.2 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 15 นาที ก็จะถึงศาลเจ้า

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager


กำลังโหลดความคิดเห็น