Facebook :Travel @ Manager
เมื่อในมื้อหิวๆ มื้อนี้ “ตระเวนกิน” นึกอยากจะอิ่มอร่อยกับอาหารไทยทั้ง 4 ภาค ในคราวเดียวกัน เห็นทีว่าเราคงต้องหิ้วท้องมาตอบโจทย์ความต้องการของเรากันที่ร้านนี้ “Pot Ministry” (พอท มินิสทรี) ซึ่งมีอยู่ด้วยกันถึง 3 สาขา แต่ว่าเราขอเลือกที่จะมาฝากท้องอิ่มกันที่สาขา EmQuartier ตั้งอยู่ที่ ชั้น 8 ของศูนย์การค้า The EmQuartier
ที่เราเลือกมาที่ร้าน “Pot Ministry” ก็เพราะว่ามาที่นี่เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางของอาหารไทยจากทั้ง 4 ภาค ได้แก่ ภาคกลาง ภาคอีสาน ภาคเหนือ และภาคใต้ โดยทางร้านได้เลือกนำเอาเมนูจานเด็ดสูตรดั้งเดิมของแต่ละภาคมานำเสนอ โดยให้ความสำคัญในเรื่องของการคัดสรรวัตถุดิบที่นำมาจากท้องถิ่นที่เป็นจุดเด่นของแต่ละภาค มาปรุงแต่งเป็นเมนูจานเด็ดที่ชวนลิ้มลองมากหลาย แล้วยังมีจุดเด่นอีกอย่างคือ ที่นี่นำเสนอหม้อไฟสไตล์ไทยในแบบฉบับเฉพาะของพอท มินิสทรี ที่ปรุงแต่งน้ำซุปสูตรเด็ดเฉพาะแบบสไตล์ไทยๆ ออกมาเป็นน้ำซุป 4 ภาค ที่นำเอาเอกลักษณ์จุดเด่นของเครื่องปรุงในแต่ละภาค มารังสรรค์เป็นน้ำซุป 4 รสชาติที่ไม่มีร้านไหนเหมือนให้เหล่านักกินได้ลิ้มลองกัน
อีกทั้งในส่วนของบรรยากาศร้านก็ชวนนั่งเป็นอย่างมาก ทางร้านตกแต่งบรรยากาศได้อย่างดูดีมีสไตล์ แฝงไว้ด้วยความคลาสสิกแนวไทยโมเดิร์น ชวนนั่งสบายๆ ในห้องแอร์ มีโต๊ะนั่งหลากหลายโซนให้เลือกนั่งตามชอบใจ รวมถึงยังมีโซนโต๊ะนั่งด้านนอกให้ได้รับลมธรรมชาติเย็นกาย พร้อมชมวิวเมืองในมุมสูงที่สวยงาม และที่สำคัญทุกโต๊ะนั่งจะมีเตาไฟฟ้าอย่างดีไว้ให้บริการเรียบร้อย
ในมื้อนี้เราเลือกที่จะอิ่มเอมกับทั้งอาหารไทย 4 ภาค และหม้อไฟสไตล์ไทยของที่นี่แบบครบครัน โดยขอประเดิมด้วยการสั่งหม้อไฟสไตล์ไทยมาลองลิ้ม ซึ่งมีเมนูต่างๆ ให้เลือกหลายอย่าง แล้วที่เราเลือกสั่งมากินก็คือ เซตเนื้อออสเตรเลีย (950 บาท++ ลดราคา 50% ถึง 31 ธ.ค. 2561) บอกเลยว่าใครชอบกินเนื้อไม่ควรพลาด เพราะเป็นเนื้อสตริปลอยน์นำเข้าจากออสเตรเลีย สไลด์มาเป็นชิ้นบางกำลังดีเหมาะแก่การลวกกินกับน้ำซุปร้อนๆ จะสัมผัสได้ถึงเนื้อวัวคุณภาพดีที่เคี้ยวนุ่มหนึบหนับ มีความหวานละมุนปาก แล้วในชุดยังมีลูกชิ้นเนื้ออย่างดี เอ็นแก้วเนื้อ ตับเนื้อ พร้อมเห็ดและผักสดต่างๆ ให้ลวกกิน
ส่วนน้ำซุปอย่างที่บอกว่ามีให้เลือกถึง 4 ภาค 4 รสชาติ คือ น้ำซุปภาคกลาง เป็นน้ำซุปเกาเหลาหมูตุ๋น หรือเนื้อตุ๋นที่ครบเครื่องสมุนไพร (แล้วแต่เลือกสั่ง) รสชาติน้ำซุปหอมหวานกลมกล่อมถูกปาก เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มเต้าหู้ยี้ น้ำซุปภาคอีสาน เป็นน้ำซุปแจ่วฮ้อน ที่หอมกรุ่นไปด้วยผักสมุนไพรท้องถิ่น รสชาติจัดจ้านเด็ดดวง เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มแจ่วสูตรดั้งเดิมรสแซ่บ และน้ำจิ้มสามรส น้ำซุปภาคเหนือ เป็นต้มแหนมหมูยอที่หอมกรุ่นละมุนละไมไปด้วยสมุนไพร มันฝรั่งและมันเทศ รสชาติกลมกล่อมถูกลิ้น เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มใบกะเพราสูตรเฉพาะของทางร้าน และน้ำจิ้มถั่วกระเทียมดอง น้ำซุปภาคใต้ เป็นต้มส้มแกงเหลือง ที่เด็ดด้วยการเคี่ยวน้ำสต็อกไก่กับเครื่องเทศแท้ๆ ของภาคใต้ รสชาติจัดจ้านถึงเครื่องแกงใต้ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มพริกขมิ้น และน้ำจิ้มขิงเต้าเจี้ยวรสดีถูกปาก ซึ่งน้ำซุปสามารถเลือกกินได้เพียง 2 รสชาติในหม้อเดียว (สามารถขอชิมน้ำซุปทั้ง 4 รสชาติก่อน แล้วค่อยเลือกว่าอยากได้ 2 รสชาติไหน)
ได้อร่อยและซดน้ำซุปร้อนๆ จากหม้อไฟสไตล์ไทยกันแล้ว มาชิมอาหารจานเด็ดทั้ง 4 ภาคกันบ้าง เริ่มด้วยภาคกลาง ข้าวหมูกรอบพริกเกลือ (250 บาท++) หน้าตาน่ากิน เป็นข้าวหอมมะลิสั่งมาเป็นพิเศษจากเชียงรายนำมาหุงสุกอบกับหม้อดิน แล้วมีหมูกรอบชิ้นใหญ่ที่มีความหนาถึง 5 ชั้น ปรุงตามสูตรเด็ดพิเศษ แล้วนำมาคั่วกับพริกเกลือสูตรเฉพาะ ลิ้มรสหมูกรอบเคี้ยวกรุบกรอบเต็มปากเต็มคำ ได้รสชาติพริกเกลือรสเข้มข้นโดนใจ กินคู่กับข้าวหอมมะลินุ่มลิ้น อิ่มอุ่นท้องดีจริง
เมนูภาคกลางอีกหนึ่งจานที่ชวนกิน คือ หมี่ผัดกระเฉดกุ้งสด (290 บาท++) เส้นหมี่ขาวลวก ผัดกับมันกุ้ง กระเทียม พริก และกุ้งสด ใส่ผักกะเฉดยอดอ่อนๆ และใส่น้ำปรุงรสสูตรพิเศษของทางร้าน ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากันอีกที เสิร์ฟมาร้อนๆ ชิมเส้นหมี่เหนียวนุ่มชุ่มน้ำปรุงรสกลมกล่อมถูกลิ้น ผักกะเฉดยอดอ่อนเคี้ยวกรอบ กุ้งเนื้อแน่นสดหวานได้ใจ
เมนูถัดมาเป็นของภาคเหนือ ชื่อว่า หมี่พัน (150 บาท++) เป็นเมนูเด่นของจังหวัดอุตรดิตถ์ มีข้าวแคบสีสันสดใสได้จากสีธรรมชาติอย่างใบเตย และพริกหยวกผสมกับเม็ดงาดำที่ส่งตรงมาจากอุตรดิตถ์ ห่อม้วนกับไส้ที่มีส่วนผสมของเส้นหมี่ขาวลวกปรุงรส ใส่ถั่วงอก ผักชี และแคบหมู กินเปล่าๆ โดยไม่ต้องมีน้ำจิ้มอะไรเลย จะได้รสชาติหมี่พันที่แป้งเหนียวนุ่มเข้ากันกับไส้รสชาติดีกินเพลินปาก
ต่อด้วยเมนูจากภาคใต้ แกงเนื้อปูใบชะคราม (550 บาท++) ด้านล่างเป็นใบชะครามจากชุมพรลวกสุก ชั้นต่อมาเป็นเนื้อปูก้อนส่วนกรรเชียงล้วนๆ แล้วราดด้วยซอสแกงคั่วที่ทางร้านปรุงขึ้นมาตามสูตรเด็ด ลิ้มรสแกงเนื้อปูสัมผัสได้ถึงเนื้อปูก้อนชิ้นใหญ่ที่หวานสด ชุ่มน้ำแกงคั่วรสจัดจ้านถึงพริกถึงเครื่องแกง ส่วนใบชะครามก็กินเข้ากันแบบลงตัว
จากนั้นมากินเมนู เนื้อออสเตรเลียย่างแจ่ว (550 บาท++) เมนูเด็ดจากภาคอีสาน ทางร้านคัดสรรเนื้อสตริปลอยน์นำเข้าจากออสเตรเลีย นำมาหมักกับเครื่องสมุนไพรแล้วย่างจนเนื้อสุกกำลังดี หั่นมาเป็นชิ้นพอดีคำ จิ้มชิ้นเนื้อส่งเข้าปาก เนื้อเคี้ยวนุ่มได้รสชาติความหวานของเนื้อชั้นดี และมีน้ำจิ้มแจ่วรสจัดจ้านหอมกลิ่นข้าวคั่วให้จิ้มเพิ่มรสชาติความแซ่บ
นอกเหนือจากเมนูอาหารจานเด่นที่ชวนกินแล้ว ทางร้านยังมีเมนูเครื่องดื่มที่ชวนดื่มไม่แพ้กันให้สั่งมาดื่มแบบชื่นใจ ไม่ว่าจะเป็น น้ำมะพร้าวสด (260 บาท++) ที่หอมหวานเย็นชื่นใจ เพราะเป็นมะพร้าวน้ำหอมจากบ้านแพ้ว น้ำกระเจี๊ยบน้ำผึ้ง (150 บาท++) เป็นกระเจี๊ยบต้มผสมกับน้ำผึ้ง เก๋ไก๋ด้วยก้อนน้ำแข็งกระเจี๊ยบ เทน้ำกระเจี๊ยบลงไปในน้ำแข็งดื่มแล้วหวานอมเปรี้ยวหอมน้ำผึ้งชื่นใจ และ ชาเย็นลิ้นจี่ (150 บาท++) เป็นชาผลไม้ชงรวมกับน้ำลิ้นจี่ ใส่เนื้อลิ้นจี่ ใส่น้ำแข็งดื่มแล้วหวานหอมกลิ่นลิ้นจี่สดชื่นปาก
แล้วก็ยังมีอาหารไทยอื่นๆ อีกหลายเมนูให้เลือกสั่งมากินกันแบบอิ่มท้องไม่ว่าจะเป็น APP เมือง (350 บาท++) หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ทอด (350 บาท++) ก๋วยเตี๋ยวคั่วกะปิเส้นใหญ่ (220 บาท++) ลาซานญ่าน้ำพริกอ่อง (290 บาท++) เป็นต้น อีกทั้งหากมากินอาหารที่นี่แล้ว ทางร้านจะมอบเมนูของหวานให้ได้กินฟรีกันไปเลย โดยเลือกฟรีได้ 1 อย่างต่อคน (ได้ทุกคนทั้งโต๊ะ) จากที่มีให้เลือกคือ ไอศกรีมกะทิสด, เต้าส่วนไอศกรีมกะทิสด, รวมมิตรน้ำแข็งไส เรียกว่าถ้าใครนึกอยากกินอาหารไทย 4 ภาค และหม้อไฟสไตล์ไทยรสจัดจ้าน แนะนำเลยว่ามาที่ร้าน “Pot Ministry” ตอบโจทย์ของอิ่มอร่อยตามที่ปรารถนาได้อย่างแน่นอน
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“Pot Ministry” (พอท มินิสทรี) สาขา EmQuartier ตั้งอยู่ที่ ชั้น 8 The Helix Quartier ศูนย์การค้า The EmQuartier ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ เปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 22.00 น. โทร. 0-2003-6282 แล้วยังมีสาขาศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิร์ด ชั้น 7 โทร. 0-2252-3053 สาขาสยามพารากอน ชั้น 4 โทร. 0-2129-4398 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : POT Ministry, IG : potministry และถ้ามากินอาหารที่ร้าน Pot Ministry แล้วจ่ายด้วยบัตรเครดิต KTC รับส่วนลดเฉพาะค่าอาหาร 10% ตั้งแต่วันนี้ - 31 มี.ค. 2562
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
เมื่อในมื้อหิวๆ มื้อนี้ “ตระเวนกิน” นึกอยากจะอิ่มอร่อยกับอาหารไทยทั้ง 4 ภาค ในคราวเดียวกัน เห็นทีว่าเราคงต้องหิ้วท้องมาตอบโจทย์ความต้องการของเรากันที่ร้านนี้ “Pot Ministry” (พอท มินิสทรี) ซึ่งมีอยู่ด้วยกันถึง 3 สาขา แต่ว่าเราขอเลือกที่จะมาฝากท้องอิ่มกันที่สาขา EmQuartier ตั้งอยู่ที่ ชั้น 8 ของศูนย์การค้า The EmQuartier
ที่เราเลือกมาที่ร้าน “Pot Ministry” ก็เพราะว่ามาที่นี่เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางของอาหารไทยจากทั้ง 4 ภาค ได้แก่ ภาคกลาง ภาคอีสาน ภาคเหนือ และภาคใต้ โดยทางร้านได้เลือกนำเอาเมนูจานเด็ดสูตรดั้งเดิมของแต่ละภาคมานำเสนอ โดยให้ความสำคัญในเรื่องของการคัดสรรวัตถุดิบที่นำมาจากท้องถิ่นที่เป็นจุดเด่นของแต่ละภาค มาปรุงแต่งเป็นเมนูจานเด็ดที่ชวนลิ้มลองมากหลาย แล้วยังมีจุดเด่นอีกอย่างคือ ที่นี่นำเสนอหม้อไฟสไตล์ไทยในแบบฉบับเฉพาะของพอท มินิสทรี ที่ปรุงแต่งน้ำซุปสูตรเด็ดเฉพาะแบบสไตล์ไทยๆ ออกมาเป็นน้ำซุป 4 ภาค ที่นำเอาเอกลักษณ์จุดเด่นของเครื่องปรุงในแต่ละภาค มารังสรรค์เป็นน้ำซุป 4 รสชาติที่ไม่มีร้านไหนเหมือนให้เหล่านักกินได้ลิ้มลองกัน
อีกทั้งในส่วนของบรรยากาศร้านก็ชวนนั่งเป็นอย่างมาก ทางร้านตกแต่งบรรยากาศได้อย่างดูดีมีสไตล์ แฝงไว้ด้วยความคลาสสิกแนวไทยโมเดิร์น ชวนนั่งสบายๆ ในห้องแอร์ มีโต๊ะนั่งหลากหลายโซนให้เลือกนั่งตามชอบใจ รวมถึงยังมีโซนโต๊ะนั่งด้านนอกให้ได้รับลมธรรมชาติเย็นกาย พร้อมชมวิวเมืองในมุมสูงที่สวยงาม และที่สำคัญทุกโต๊ะนั่งจะมีเตาไฟฟ้าอย่างดีไว้ให้บริการเรียบร้อย
ในมื้อนี้เราเลือกที่จะอิ่มเอมกับทั้งอาหารไทย 4 ภาค และหม้อไฟสไตล์ไทยของที่นี่แบบครบครัน โดยขอประเดิมด้วยการสั่งหม้อไฟสไตล์ไทยมาลองลิ้ม ซึ่งมีเมนูต่างๆ ให้เลือกหลายอย่าง แล้วที่เราเลือกสั่งมากินก็คือ เซตเนื้อออสเตรเลีย (950 บาท++ ลดราคา 50% ถึง 31 ธ.ค. 2561) บอกเลยว่าใครชอบกินเนื้อไม่ควรพลาด เพราะเป็นเนื้อสตริปลอยน์นำเข้าจากออสเตรเลีย สไลด์มาเป็นชิ้นบางกำลังดีเหมาะแก่การลวกกินกับน้ำซุปร้อนๆ จะสัมผัสได้ถึงเนื้อวัวคุณภาพดีที่เคี้ยวนุ่มหนึบหนับ มีความหวานละมุนปาก แล้วในชุดยังมีลูกชิ้นเนื้ออย่างดี เอ็นแก้วเนื้อ ตับเนื้อ พร้อมเห็ดและผักสดต่างๆ ให้ลวกกิน
ส่วนน้ำซุปอย่างที่บอกว่ามีให้เลือกถึง 4 ภาค 4 รสชาติ คือ น้ำซุปภาคกลาง เป็นน้ำซุปเกาเหลาหมูตุ๋น หรือเนื้อตุ๋นที่ครบเครื่องสมุนไพร (แล้วแต่เลือกสั่ง) รสชาติน้ำซุปหอมหวานกลมกล่อมถูกปาก เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มเต้าหู้ยี้ น้ำซุปภาคอีสาน เป็นน้ำซุปแจ่วฮ้อน ที่หอมกรุ่นไปด้วยผักสมุนไพรท้องถิ่น รสชาติจัดจ้านเด็ดดวง เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มแจ่วสูตรดั้งเดิมรสแซ่บ และน้ำจิ้มสามรส น้ำซุปภาคเหนือ เป็นต้มแหนมหมูยอที่หอมกรุ่นละมุนละไมไปด้วยสมุนไพร มันฝรั่งและมันเทศ รสชาติกลมกล่อมถูกลิ้น เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มใบกะเพราสูตรเฉพาะของทางร้าน และน้ำจิ้มถั่วกระเทียมดอง น้ำซุปภาคใต้ เป็นต้มส้มแกงเหลือง ที่เด็ดด้วยการเคี่ยวน้ำสต็อกไก่กับเครื่องเทศแท้ๆ ของภาคใต้ รสชาติจัดจ้านถึงเครื่องแกงใต้ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มพริกขมิ้น และน้ำจิ้มขิงเต้าเจี้ยวรสดีถูกปาก ซึ่งน้ำซุปสามารถเลือกกินได้เพียง 2 รสชาติในหม้อเดียว (สามารถขอชิมน้ำซุปทั้ง 4 รสชาติก่อน แล้วค่อยเลือกว่าอยากได้ 2 รสชาติไหน)
ได้อร่อยและซดน้ำซุปร้อนๆ จากหม้อไฟสไตล์ไทยกันแล้ว มาชิมอาหารจานเด็ดทั้ง 4 ภาคกันบ้าง เริ่มด้วยภาคกลาง ข้าวหมูกรอบพริกเกลือ (250 บาท++) หน้าตาน่ากิน เป็นข้าวหอมมะลิสั่งมาเป็นพิเศษจากเชียงรายนำมาหุงสุกอบกับหม้อดิน แล้วมีหมูกรอบชิ้นใหญ่ที่มีความหนาถึง 5 ชั้น ปรุงตามสูตรเด็ดพิเศษ แล้วนำมาคั่วกับพริกเกลือสูตรเฉพาะ ลิ้มรสหมูกรอบเคี้ยวกรุบกรอบเต็มปากเต็มคำ ได้รสชาติพริกเกลือรสเข้มข้นโดนใจ กินคู่กับข้าวหอมมะลินุ่มลิ้น อิ่มอุ่นท้องดีจริง
เมนูภาคกลางอีกหนึ่งจานที่ชวนกิน คือ หมี่ผัดกระเฉดกุ้งสด (290 บาท++) เส้นหมี่ขาวลวก ผัดกับมันกุ้ง กระเทียม พริก และกุ้งสด ใส่ผักกะเฉดยอดอ่อนๆ และใส่น้ำปรุงรสสูตรพิเศษของทางร้าน ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากันอีกที เสิร์ฟมาร้อนๆ ชิมเส้นหมี่เหนียวนุ่มชุ่มน้ำปรุงรสกลมกล่อมถูกลิ้น ผักกะเฉดยอดอ่อนเคี้ยวกรอบ กุ้งเนื้อแน่นสดหวานได้ใจ
เมนูถัดมาเป็นของภาคเหนือ ชื่อว่า หมี่พัน (150 บาท++) เป็นเมนูเด่นของจังหวัดอุตรดิตถ์ มีข้าวแคบสีสันสดใสได้จากสีธรรมชาติอย่างใบเตย และพริกหยวกผสมกับเม็ดงาดำที่ส่งตรงมาจากอุตรดิตถ์ ห่อม้วนกับไส้ที่มีส่วนผสมของเส้นหมี่ขาวลวกปรุงรส ใส่ถั่วงอก ผักชี และแคบหมู กินเปล่าๆ โดยไม่ต้องมีน้ำจิ้มอะไรเลย จะได้รสชาติหมี่พันที่แป้งเหนียวนุ่มเข้ากันกับไส้รสชาติดีกินเพลินปาก
ต่อด้วยเมนูจากภาคใต้ แกงเนื้อปูใบชะคราม (550 บาท++) ด้านล่างเป็นใบชะครามจากชุมพรลวกสุก ชั้นต่อมาเป็นเนื้อปูก้อนส่วนกรรเชียงล้วนๆ แล้วราดด้วยซอสแกงคั่วที่ทางร้านปรุงขึ้นมาตามสูตรเด็ด ลิ้มรสแกงเนื้อปูสัมผัสได้ถึงเนื้อปูก้อนชิ้นใหญ่ที่หวานสด ชุ่มน้ำแกงคั่วรสจัดจ้านถึงพริกถึงเครื่องแกง ส่วนใบชะครามก็กินเข้ากันแบบลงตัว
จากนั้นมากินเมนู เนื้อออสเตรเลียย่างแจ่ว (550 บาท++) เมนูเด็ดจากภาคอีสาน ทางร้านคัดสรรเนื้อสตริปลอยน์นำเข้าจากออสเตรเลีย นำมาหมักกับเครื่องสมุนไพรแล้วย่างจนเนื้อสุกกำลังดี หั่นมาเป็นชิ้นพอดีคำ จิ้มชิ้นเนื้อส่งเข้าปาก เนื้อเคี้ยวนุ่มได้รสชาติความหวานของเนื้อชั้นดี และมีน้ำจิ้มแจ่วรสจัดจ้านหอมกลิ่นข้าวคั่วให้จิ้มเพิ่มรสชาติความแซ่บ
นอกเหนือจากเมนูอาหารจานเด่นที่ชวนกินแล้ว ทางร้านยังมีเมนูเครื่องดื่มที่ชวนดื่มไม่แพ้กันให้สั่งมาดื่มแบบชื่นใจ ไม่ว่าจะเป็น น้ำมะพร้าวสด (260 บาท++) ที่หอมหวานเย็นชื่นใจ เพราะเป็นมะพร้าวน้ำหอมจากบ้านแพ้ว น้ำกระเจี๊ยบน้ำผึ้ง (150 บาท++) เป็นกระเจี๊ยบต้มผสมกับน้ำผึ้ง เก๋ไก๋ด้วยก้อนน้ำแข็งกระเจี๊ยบ เทน้ำกระเจี๊ยบลงไปในน้ำแข็งดื่มแล้วหวานอมเปรี้ยวหอมน้ำผึ้งชื่นใจ และ ชาเย็นลิ้นจี่ (150 บาท++) เป็นชาผลไม้ชงรวมกับน้ำลิ้นจี่ ใส่เนื้อลิ้นจี่ ใส่น้ำแข็งดื่มแล้วหวานหอมกลิ่นลิ้นจี่สดชื่นปาก
แล้วก็ยังมีอาหารไทยอื่นๆ อีกหลายเมนูให้เลือกสั่งมากินกันแบบอิ่มท้องไม่ว่าจะเป็น APP เมือง (350 บาท++) หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ทอด (350 บาท++) ก๋วยเตี๋ยวคั่วกะปิเส้นใหญ่ (220 บาท++) ลาซานญ่าน้ำพริกอ่อง (290 บาท++) เป็นต้น อีกทั้งหากมากินอาหารที่นี่แล้ว ทางร้านจะมอบเมนูของหวานให้ได้กินฟรีกันไปเลย โดยเลือกฟรีได้ 1 อย่างต่อคน (ได้ทุกคนทั้งโต๊ะ) จากที่มีให้เลือกคือ ไอศกรีมกะทิสด, เต้าส่วนไอศกรีมกะทิสด, รวมมิตรน้ำแข็งไส เรียกว่าถ้าใครนึกอยากกินอาหารไทย 4 ภาค และหม้อไฟสไตล์ไทยรสจัดจ้าน แนะนำเลยว่ามาที่ร้าน “Pot Ministry” ตอบโจทย์ของอิ่มอร่อยตามที่ปรารถนาได้อย่างแน่นอน
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“Pot Ministry” (พอท มินิสทรี) สาขา EmQuartier ตั้งอยู่ที่ ชั้น 8 The Helix Quartier ศูนย์การค้า The EmQuartier ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ เปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 22.00 น. โทร. 0-2003-6282 แล้วยังมีสาขาศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิร์ด ชั้น 7 โทร. 0-2252-3053 สาขาสยามพารากอน ชั้น 4 โทร. 0-2129-4398 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : POT Ministry, IG : potministry และถ้ามากินอาหารที่ร้าน Pot Ministry แล้วจ่ายด้วยบัตรเครดิต KTC รับส่วนลดเฉพาะค่าอาหาร 10% ตั้งแต่วันนี้ - 31 มี.ค. 2562
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
