Facebook :Travel @ Manager

ทุกภูมิภาคของประเทศไทยล้วนมีพิพิธภัณฑ์หรือแหล่งเรียนรู้ที่มีประโยชน์ซุกซ่อนอยู่ เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้ใช้ในการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม รวมถึงได้เปิดโลกจินตนาการทางความคิดได้มากขึ้น อย่างที่ “ศูนย์วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมเพื่อการศึกษาร้อยเอ็ด” จ.ร้อยเอ็ด ที่เป็นอีกหนึ่งศูนย์การเรียนรู้ในหลากหลายด้าน เพราะที่นี่มีทั้งโซนท้องฟ้าจำลอง โซนของเรื่องวิทยาศาสตร์ และอีกมากมาย รวมถึงโซน “นิทานจักรวาล” ที่เป็นนิทรรศการใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดให้เข้าชมกันไป

“ศูนย์วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมเพื่อการศึกษาร้อยเอ็ด” ตั้งอยู่ริมถนนแจ้งสนิท อ.ธวัชบุรี ตัวอาคารโดดเด่นด้วยรูปทรงแปลกตา ที่ภายในมีทั้งหมด 4 ชั้น แบ่งออกเป็นโซนต่างๆ จัดแสดงอยู่ในชั้น 2-4 โดยมีทั้งนิทรรศการถาวร เช่น นิทรรศการวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ในชั้น 2, นิทรรศการโลกล้านปี ในชั้น 3 และนิทรรศการชั่วคราวผลัดเปลี่ยนกันไป เช่น นิทรรศการส่งเสริมสุขภาพ ในชั้น 4 เป็นต้น



สำหรับนิทรรศการล่าสุดที่เพิ่งเปิดใหม่ นั่นก็คือ นิทรรศการ “นิทานจักรวาล” จัดแสดงอยู่ที่ชั้น 4 ซึ่งได้ “มิวเซียมสยาม” มาเป็นที่ปรึกษาสนับสนุนด้านทรัพยากรการบริหารและองค์ความรู้ เพื่อยกระดับพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ให้เทียบเท่ามาตรฐานสากล ด้วยหลักสูตร “ต้นแบบพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้” โดยนิทรรศการนี้จะนำเสนอเรื่องราว “ไตรภูมิจักรวาล” ตามคติชนวิทยาแบบไทย ที่เชื่อมโยงกับวัฒนธรรม ศาสนา และวิถีชีวิตประจำวันของคนไทย ด้วยเทคนิคการนำเสนอแปลกใหม่ ทันสมัย พร้อมกลไกเคลื่อนไหว และกราฟิกสีสันสวยงาม จึงเหมาะกับผู้ชมทุกเพศทุกวัย
โดยผู้เข้าชมจะได้เรียนรู้เรื่องราวไตรภูมิจักรวาลผ่าน 6 โซนจัดแสดง เริ่มที่ โซนที่หนึ่ง “ประตูสู่จักรวาล” ซึ่งเป็นเหมือนทางเดินเข้าสู่เนื้อเรื่องทั้งหมด โดยจะเป็นอุโมงค์แบล็กไลท์ที่บนผนังซ้ายและขวาจะนำเสนอภาพกราฟิกบอกเล่าเรื่องราวการทำความดี - ความชั่ว ที่สะท้อนให้เห็นว่า แท้จริงแล้ว “ไตรภูมิจักรวาล” เป็นเรื่องใกล้ตัวกว่าที่คิด

เมื่อผ่านอุโมงค์เข้ามาแล้วจะเข้าสู่โซนที่สองคือ “ดินแดนในนิทาน” ที่มีไฮไลท์เด่นอยู่ที่กลางห้องคือ “โมเดลไตรภูมิจักรวาล” ที่จำลองแดนมนุษย์, แดนบุญ (แดนสวรรค์) และแดนบาป (แดนนรก) พร้อมกลไกเคลื่อนไหว รวมถึงแสดงโมชั่นกราฟิกปรากฏการณ์ความเชื่อเรื่อง การเกิดกลางวันกลางคืนจากการเคลื่อนที่ของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์, ราหูอมจันทร์ เป็นต้น และผนังของโซนนี้ยังเสนอขนาดของจักรวาลไตรภูมิเปรียบเทียบกับมนุษย์และโลกปัจจุบันอีกด้วย

นอกจากนั้นบริเวณนี้ยังมีโมเดลจำลอง “ทวีปทั้ง 4” ตามความเชื่อของไทย ได้แก่ ดินแดนแห่งโลกมนุษย์, ดินแดนแห่งผู้มีบุญ, ดินแดนแห่งผู้รักษาศีล และดินแดนแห่งผู้มีศีล โดยจะตั้งอยู่ตามมุมห้อง

จากนั้นเข้าสู่โซนที่สาม “สุดแดนมนุษย์” โดยจะเป็นโลกคู่ขนานที่ประกอบด้วยสิ่งมีชีวิตรูปแบบอื่นๆ นอกเหนือจากมนุษย์ โดยมีตุ๊กตาจำลองอสูรกายรูปแบบต่างๆ เช่น เปรตชิ้นเนื้อ อสูรกาย หมานรก ฯลฯ ให้หยิบเอาไปเล่นและเรียนรู้

ในบริเวณใกล้กันก็จะเป็นโซนที่สี่คือ “แดนบาป” ที่จำลองอบายภูมิ หรือนรก ในพื้นที่แสงแบล็กไลท์ บอกเล่ารูปร่างหน้าตาของอสูรกาย และการรับโทษในรูปแบบต่างๆ ผ่านเทคนิคการนำเสนอด้วยจอฟลิป ซึ่งหมุนเปลี่ยนเวียนภาพอสูรกายแบบต่างๆ มานำเสนอ โดยคำนึงถึงกลุ่มผู้เข้าชมอย่างเด็กและเยาวชน จึงมีการออกแบบให้ลดทอนภาพที่มีความรุนแรง ภาพล่อแหลม ลดทอนความน่ากลัวลงเป็นตัวการ์ตูนที่น่ารักและเข้าใจได้ง่าย

ผ่านจากแดนบาปมาก็จะถึงโซนที่ห้าคือ “แดนบุญ” ซึ่งได้จำลองสวรรค์ในตีมสีสะอาดตา ให้ได้เรียนรู้สวรรค์แต่ละชั้นของจักรวาลไตรภูมิ ประเภทของเทวดา โดยมีผนังเจาะรูให้ได้เข้าไปนอนลองทำตัวเป็นเหล่าเทวดาในสวรรค์

สุดท้ายโซนที่หกคือ “สวรรค์บนดิน” โซนนี้จะสะท้อนความสัมพันธ์ที่ได้รับการประยุกต์จักรวาลไตรภูมิ เข้าสู่วัฒนธรรมและวิถีชีวิตชาวไทยในโลกที่เราอาศัยอยู่ปัจจุบัน ที่มีการแสดงออกในรูปแบบของการสร้างแบบบ้านเรือน ที่อยู่อาศัย โบราณสถาน นั่นเอง

ที่ศูนย์วิทย์ฯ แห่งนี้ยังมีอีกอาคารเรียนรู้ที่เป็นไฮไลท์นั่นก็คือ “ท้องฟ้าจำลองร้อยเอ็ด” ที่ถือว่าทันสมัยที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยจะมีการบรรยายกลุ่มดาวจักรราศีและกลุ่มดาวสำคัญต่างๆ มากมายแบบเสมือนจริง รวมถึงมีการฉายสารคดีดาราศาสตร์เกี่ยวกับการกำเนิดของโลก ส่วนด้านล่างของอาคารนี้จะเป็นนิทรรศการเกี่ยวกับชีวิตและจักรวาลให้ได้ชมกันอีกด้วย


ผู้สนใจสามารถเข้าชมนิทรรศการ “นิทานจักรวาล” ได้ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมเพื่อการศึกษาร้อยเอ็ด ถนนแจ้งสนิท อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด เปิดให้บริการทุกวันอังคาร - วันเสาร์ (หยุดวันอาทิตย์, วันจันทร์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) เวลา 09.00 - 16.00 น. สอบถามรอบการแสดงท้องฟ้าจำลองและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-4356-9340 หรือที่ www.facebook.com/101sci
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
ทุกภูมิภาคของประเทศไทยล้วนมีพิพิธภัณฑ์หรือแหล่งเรียนรู้ที่มีประโยชน์ซุกซ่อนอยู่ เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้ใช้ในการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม รวมถึงได้เปิดโลกจินตนาการทางความคิดได้มากขึ้น อย่างที่ “ศูนย์วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมเพื่อการศึกษาร้อยเอ็ด” จ.ร้อยเอ็ด ที่เป็นอีกหนึ่งศูนย์การเรียนรู้ในหลากหลายด้าน เพราะที่นี่มีทั้งโซนท้องฟ้าจำลอง โซนของเรื่องวิทยาศาสตร์ และอีกมากมาย รวมถึงโซน “นิทานจักรวาล” ที่เป็นนิทรรศการใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดให้เข้าชมกันไป
“ศูนย์วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมเพื่อการศึกษาร้อยเอ็ด” ตั้งอยู่ริมถนนแจ้งสนิท อ.ธวัชบุรี ตัวอาคารโดดเด่นด้วยรูปทรงแปลกตา ที่ภายในมีทั้งหมด 4 ชั้น แบ่งออกเป็นโซนต่างๆ จัดแสดงอยู่ในชั้น 2-4 โดยมีทั้งนิทรรศการถาวร เช่น นิทรรศการวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ในชั้น 2, นิทรรศการโลกล้านปี ในชั้น 3 และนิทรรศการชั่วคราวผลัดเปลี่ยนกันไป เช่น นิทรรศการส่งเสริมสุขภาพ ในชั้น 4 เป็นต้น
สำหรับนิทรรศการล่าสุดที่เพิ่งเปิดใหม่ นั่นก็คือ นิทรรศการ “นิทานจักรวาล” จัดแสดงอยู่ที่ชั้น 4 ซึ่งได้ “มิวเซียมสยาม” มาเป็นที่ปรึกษาสนับสนุนด้านทรัพยากรการบริหารและองค์ความรู้ เพื่อยกระดับพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ให้เทียบเท่ามาตรฐานสากล ด้วยหลักสูตร “ต้นแบบพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้” โดยนิทรรศการนี้จะนำเสนอเรื่องราว “ไตรภูมิจักรวาล” ตามคติชนวิทยาแบบไทย ที่เชื่อมโยงกับวัฒนธรรม ศาสนา และวิถีชีวิตประจำวันของคนไทย ด้วยเทคนิคการนำเสนอแปลกใหม่ ทันสมัย พร้อมกลไกเคลื่อนไหว และกราฟิกสีสันสวยงาม จึงเหมาะกับผู้ชมทุกเพศทุกวัย
โดยผู้เข้าชมจะได้เรียนรู้เรื่องราวไตรภูมิจักรวาลผ่าน 6 โซนจัดแสดง เริ่มที่ โซนที่หนึ่ง “ประตูสู่จักรวาล” ซึ่งเป็นเหมือนทางเดินเข้าสู่เนื้อเรื่องทั้งหมด โดยจะเป็นอุโมงค์แบล็กไลท์ที่บนผนังซ้ายและขวาจะนำเสนอภาพกราฟิกบอกเล่าเรื่องราวการทำความดี - ความชั่ว ที่สะท้อนให้เห็นว่า แท้จริงแล้ว “ไตรภูมิจักรวาล” เป็นเรื่องใกล้ตัวกว่าที่คิด
เมื่อผ่านอุโมงค์เข้ามาแล้วจะเข้าสู่โซนที่สองคือ “ดินแดนในนิทาน” ที่มีไฮไลท์เด่นอยู่ที่กลางห้องคือ “โมเดลไตรภูมิจักรวาล” ที่จำลองแดนมนุษย์, แดนบุญ (แดนสวรรค์) และแดนบาป (แดนนรก) พร้อมกลไกเคลื่อนไหว รวมถึงแสดงโมชั่นกราฟิกปรากฏการณ์ความเชื่อเรื่อง การเกิดกลางวันกลางคืนจากการเคลื่อนที่ของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์, ราหูอมจันทร์ เป็นต้น และผนังของโซนนี้ยังเสนอขนาดของจักรวาลไตรภูมิเปรียบเทียบกับมนุษย์และโลกปัจจุบันอีกด้วย
นอกจากนั้นบริเวณนี้ยังมีโมเดลจำลอง “ทวีปทั้ง 4” ตามความเชื่อของไทย ได้แก่ ดินแดนแห่งโลกมนุษย์, ดินแดนแห่งผู้มีบุญ, ดินแดนแห่งผู้รักษาศีล และดินแดนแห่งผู้มีศีล โดยจะตั้งอยู่ตามมุมห้อง
จากนั้นเข้าสู่โซนที่สาม “สุดแดนมนุษย์” โดยจะเป็นโลกคู่ขนานที่ประกอบด้วยสิ่งมีชีวิตรูปแบบอื่นๆ นอกเหนือจากมนุษย์ โดยมีตุ๊กตาจำลองอสูรกายรูปแบบต่างๆ เช่น เปรตชิ้นเนื้อ อสูรกาย หมานรก ฯลฯ ให้หยิบเอาไปเล่นและเรียนรู้
ในบริเวณใกล้กันก็จะเป็นโซนที่สี่คือ “แดนบาป” ที่จำลองอบายภูมิ หรือนรก ในพื้นที่แสงแบล็กไลท์ บอกเล่ารูปร่างหน้าตาของอสูรกาย และการรับโทษในรูปแบบต่างๆ ผ่านเทคนิคการนำเสนอด้วยจอฟลิป ซึ่งหมุนเปลี่ยนเวียนภาพอสูรกายแบบต่างๆ มานำเสนอ โดยคำนึงถึงกลุ่มผู้เข้าชมอย่างเด็กและเยาวชน จึงมีการออกแบบให้ลดทอนภาพที่มีความรุนแรง ภาพล่อแหลม ลดทอนความน่ากลัวลงเป็นตัวการ์ตูนที่น่ารักและเข้าใจได้ง่าย
ผ่านจากแดนบาปมาก็จะถึงโซนที่ห้าคือ “แดนบุญ” ซึ่งได้จำลองสวรรค์ในตีมสีสะอาดตา ให้ได้เรียนรู้สวรรค์แต่ละชั้นของจักรวาลไตรภูมิ ประเภทของเทวดา โดยมีผนังเจาะรูให้ได้เข้าไปนอนลองทำตัวเป็นเหล่าเทวดาในสวรรค์
สุดท้ายโซนที่หกคือ “สวรรค์บนดิน” โซนนี้จะสะท้อนความสัมพันธ์ที่ได้รับการประยุกต์จักรวาลไตรภูมิ เข้าสู่วัฒนธรรมและวิถีชีวิตชาวไทยในโลกที่เราอาศัยอยู่ปัจจุบัน ที่มีการแสดงออกในรูปแบบของการสร้างแบบบ้านเรือน ที่อยู่อาศัย โบราณสถาน นั่นเอง
ที่ศูนย์วิทย์ฯ แห่งนี้ยังมีอีกอาคารเรียนรู้ที่เป็นไฮไลท์นั่นก็คือ “ท้องฟ้าจำลองร้อยเอ็ด” ที่ถือว่าทันสมัยที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยจะมีการบรรยายกลุ่มดาวจักรราศีและกลุ่มดาวสำคัญต่างๆ มากมายแบบเสมือนจริง รวมถึงมีการฉายสารคดีดาราศาสตร์เกี่ยวกับการกำเนิดของโลก ส่วนด้านล่างของอาคารนี้จะเป็นนิทรรศการเกี่ยวกับชีวิตและจักรวาลให้ได้ชมกันอีกด้วย
ผู้สนใจสามารถเข้าชมนิทรรศการ “นิทานจักรวาล” ได้ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมเพื่อการศึกษาร้อยเอ็ด ถนนแจ้งสนิท อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด เปิดให้บริการทุกวันอังคาร - วันเสาร์ (หยุดวันอาทิตย์, วันจันทร์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) เวลา 09.00 - 16.00 น. สอบถามรอบการแสดงท้องฟ้าจำลองและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-4356-9340 หรือที่ www.facebook.com/101sci
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager