Facebook :Travel @ Manager


เมื่อถึงช่วงเวลาหิวๆ แต่ยังไม่มีเวลามากพอที่จะไปหาร้านอาหารเพื่อนั่งกินมื้ออร่อย ถึงอย่างไรเราก็ต้องหาของกินมารองท้องเสียหน่อย ด้วยการเลือกเมนูง่ายๆ กินสะดวก แต่ก็ต้องอร่อยถูกปากเช่นกัน
อย่างมื้อนี้ที่ “ผ่านมาแวะกิน” เลือกของอร่อยจากร้าน “ปังเปา” (Bang Bao) ที่มีคอนเซ็ปต์คือ เป็นมื้อสะดวกที่มีคุณภาพ กินอร่อยง่ายๆ ในเวลาเร่งด่วน โดยมีเมนูเด็ดชวนกินคือ ซาลาเปาหลากหลายไส้ทั้งคาวหวาน ที่เริ่มต้นมาจากแนวคิดในเรื่องไส้ซาลาเปาและคอนเซ็ปต์ของร้านจาก คุณประมณ ฉัตรเจริญชัยกุล ผสมผสานกับสูตรแป้งซาลาเปาแบบดั้งเดิมของ คุณพงศ์ปณต หาญพิพัฒน์พงศา จนกลายมาเป็นร้านปังเปาแบบที่เห็นนี้

สำหรับซาลาเปาของที่ร้านนี้ จะเน้นวัตถุดิบแบบพรีเมียม ผ่านกระบวนการทำซาลาเปาด้วยมือ และนึ่งสดๆ ใหม่ๆ โดยมีให้เลือกคือขนาดกลางและขนาดใหญ่ สามารถซื้อแบบนึ่งใหม่ๆ กินกันแบบร้อนๆ หรือจะซื้อกลับบ้านไปแช่ตู้เย็นก็จะอยู่ได้ประมาณ 3 วัน ส่วนถ้าซื้อแบบแช่แข็งไปเก็บที่บ้านจะอยู่ได้ประมาณ 1 เดือน
ตัวแป้งซาลาเปาของที่นี่จะเป็นสูตรเหนียวนุ่มแบบโบราณดั้งเดิม เพิ่มความน่าสนใจที่สีสันและไส้ด้านในที่หลากหลาย แบ่งเป็นไส้คาว 4 ไส้ และ ไส้หวาน 4 ไส้



ซาลาเปาไส้คาว ประกอบด้วย ซาลาเปาไส้ผักโขมแฮมชีส (59/79 บาท) เป็นซาลาเปาสีดำ ตัวไส้ทำจากชีสนำเข้าคุณภาพดี นำมาผสมกับแฮมเยอรมัน เบคอน และผักโขม รสชาติไส้จะออกหอมๆ มันๆ คล้ายกับกินผักโขมอบชีส ซาลาเปาไส้ปูผัดผงกะหรี่ (69/99 บาท) เป็นซาลาเปาสีขาว ไส้ด้านในทำจากเนื้อปูก้อนส่วนกรรเชียงปู นำมาผัดกับผงกะหรี่ตามสไตล์จีน รสชาติกลมกล่อม ผอมผงกะหรี่ ได้รสชาติเนื้อปูเน้นๆ
ซาลาเปาไส้หมูบาร์บีคิว (49 บาท) ที่ตัวไส้ใช้สันคอหมูมาปรุงรสแบบบาร์บีคิวสไตล์ฮ่องกง รสชาติเข้มข้นกลมกล่อม กินเข้าคู่กับแป้งซาลาเปามัทฉะ และ ซาลาเปาไส้ไก่แกงกะหรี่ญี่ปุ่น (49-69 บาท) ใช้เนื้อไก่ผสมกับเครื่องปรุงกว่า 40 ชนิด ตามสูตรแกงกะหรี่ญี่ปุ่นแบบต้นตำหรับ ใส่มาในแป้งซาลาเปามัทฉะ ชิมแล้วหอมกลิ่นแกงกะหรี่


ส่วนซาลาเปาไส้หวานมีดังนี้ ซาลาเปาไส้ทุเรียน (59/79 บาท) ตัวไส้ทำจากทุเรียนหมอนทองแท้ๆ กินคู่กับแป้งซาลาเปาชาโคล ชิมแล้วหอมกลิ่นทุเรียนจริงๆ รสชาติหอมหวานมันอร่อย ซาลาเปาไส้มันม่วง (45 บาท) ไส้นี้ทำจากมันม่วงแท้ๆ นำมากวนให้ได้รสชาติหอมหวานกำลังดี เคี้ยวแล้วมัน อร่อยเพลิน ซาลาเปาไส้กล้วยช็อกโกแลตอัลมอนด์ (59 บาท) ครีมด้านในเป็นเนื้อกล้วยหอม ตัดกับช็อกโกแลตนูเทลล่าคลุกกับอัลมอนด์ ชิมไส้แล้วหวานๆ หอมๆ อร่อยฟิน และอีกไส้ก็คือ ซาลาเปาไส้ชาเขียว (49 บาท) เป็นการผสมผสานระหว่างไส้ชาเขียวมัทฉะรสชาติเข้มข้น หวานไม่มาก และมีความขมจากชาเขียวนิดๆ ตัดกับแป้งซาลาเปาสตรอว์เบอร์รี่กลิ่นหอมๆ

นอกจากซาลาเปาแล้ว ที่ร้านก็ยังมี หมั่นโถว (1 ชิ้น 20 บาท/ 3ชิ้น 50 บาท) ให้เลือก 4 แบบ คือ หมั่นโถวตาล (สีเหลือง) ที่ผสมเนื้อตาลแท้ๆ ให้กลิ่นหอม สีสวย คล้ายๆ กับการกินขนมตาล หมั่นโถวชาโคล (สีดำ) ใส่ผงชาโคลจากไม้ไผ่ที่ผ่านกรรมวิธีด้วยเทคโนโลยีจากญี่ปุ่น หมั่นโถวมัทฉะ (สีเขียว) ในผงมัทฉะจากญี่ปุ่น ให้สีเขียว กลิ่น และรสชาติชาเขียวแบบต้นตำรับ และ หมั่นโถวอัญชัน (สีฟ้า) ได้สีฟ้าสวยๆ จากดอกอัญชัน
แล้วก็ยังมีของกินเล่นอย่าง ฟรายส์รากบัว (59 บาท) ที่ใช้รากบัวสมุนไพรนำเข้าไซส์ใหญ่ นำมาสไลด์แล้วทอดกรอบด้วยวิธีพิเศษ ทำให้กรอบนอก นุ่มใน ไม่อมน้ำมัน

อิ่มจากซาลาเปาแล้ว ก็ยังมีเครื่องดื่มเย็นๆ ชื่นใจให้เลือกชิมด้วย เริ่มจาก ชาเมลอนไต้หวัน (59 บาท) เป็นน้ำฟักเขียวไต้หวัน ที่เป็นน้ำสมุนไพรขึ้นชื่อ นิยมดื่มเพื่อปรับอุณหภูมิร่างกาย นำมาเสิร์ฟพร้อมมกับเจลลี่เมลอนญี่ปุ่น เพิ่มความหอมอร่อย นมถั่วอัลมอนด์ (50 บาท/ เพิ่มเจลลี่ +20 บาท) เป็นเครื่องดื่มเย็นเพื่อสุขภาพ ผสมผสานธัญพืชกับอัลมอนด์ดื่มแล้วหอมหวานมัน แล้วก็ยังเลือกใส่เจลลี่เพิ่มความอร่อยได้ด้วย
ชาบาดาล (69 บาท) เป็นชามะลิอ่อนๆ ในน้ำรากบัวเข้มข้น ดื่มแล้วหอมหวานอร่อยสดชื่น ชาใต้ดิน (99 บาท) ผสมผสานระหว่างชาไทยรสเข้มข้นกับชาอื่นๆ ที่คัดสรรมาอย่างดี แล้วก็ยังผสมกับครีมมิ้นท์กลิ่นหอมอ่อนๆ โรยด้านบนด้วยดินช็อกโกแลต
เมนูอร่อยๆ ที่ร้าน “ปังเปา” มีให้เลือกหลากหลาย กับรสชาติความอร่อยยุคใหม่ของเปาแบบโบราณ สามารถเลือกซื้อกลับบ้านแบบใส่กล่องธรรมดา หรือจะเป็นกล่องแบบ GRAB-N-GO Set ที่มีทั้งซาลาเปาและเครื่องดื่ม เดินถือกินก็สะดวก หรือจะเป็นมื้อเบรกที่มีคุณภาพระหว่างนั่งประชุมก็ได้

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ร้าน “ปังเปา” ตั้งอยู่ที่ Centerpoint of Siam Square ชั้น 1 (ตรงข้าม A&W สยามสแควร์) เขตปทุมวัน กทม. เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00-20.00 น. โทร.09-7123-3452 Facebook : BangBaozi และ Line : @1bangbao
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
เมื่อถึงช่วงเวลาหิวๆ แต่ยังไม่มีเวลามากพอที่จะไปหาร้านอาหารเพื่อนั่งกินมื้ออร่อย ถึงอย่างไรเราก็ต้องหาของกินมารองท้องเสียหน่อย ด้วยการเลือกเมนูง่ายๆ กินสะดวก แต่ก็ต้องอร่อยถูกปากเช่นกัน
อย่างมื้อนี้ที่ “ผ่านมาแวะกิน” เลือกของอร่อยจากร้าน “ปังเปา” (Bang Bao) ที่มีคอนเซ็ปต์คือ เป็นมื้อสะดวกที่มีคุณภาพ กินอร่อยง่ายๆ ในเวลาเร่งด่วน โดยมีเมนูเด็ดชวนกินคือ ซาลาเปาหลากหลายไส้ทั้งคาวหวาน ที่เริ่มต้นมาจากแนวคิดในเรื่องไส้ซาลาเปาและคอนเซ็ปต์ของร้านจาก คุณประมณ ฉัตรเจริญชัยกุล ผสมผสานกับสูตรแป้งซาลาเปาแบบดั้งเดิมของ คุณพงศ์ปณต หาญพิพัฒน์พงศา จนกลายมาเป็นร้านปังเปาแบบที่เห็นนี้
สำหรับซาลาเปาของที่ร้านนี้ จะเน้นวัตถุดิบแบบพรีเมียม ผ่านกระบวนการทำซาลาเปาด้วยมือ และนึ่งสดๆ ใหม่ๆ โดยมีให้เลือกคือขนาดกลางและขนาดใหญ่ สามารถซื้อแบบนึ่งใหม่ๆ กินกันแบบร้อนๆ หรือจะซื้อกลับบ้านไปแช่ตู้เย็นก็จะอยู่ได้ประมาณ 3 วัน ส่วนถ้าซื้อแบบแช่แข็งไปเก็บที่บ้านจะอยู่ได้ประมาณ 1 เดือน
ตัวแป้งซาลาเปาของที่นี่จะเป็นสูตรเหนียวนุ่มแบบโบราณดั้งเดิม เพิ่มความน่าสนใจที่สีสันและไส้ด้านในที่หลากหลาย แบ่งเป็นไส้คาว 4 ไส้ และ ไส้หวาน 4 ไส้
ซาลาเปาไส้คาว ประกอบด้วย ซาลาเปาไส้ผักโขมแฮมชีส (59/79 บาท) เป็นซาลาเปาสีดำ ตัวไส้ทำจากชีสนำเข้าคุณภาพดี นำมาผสมกับแฮมเยอรมัน เบคอน และผักโขม รสชาติไส้จะออกหอมๆ มันๆ คล้ายกับกินผักโขมอบชีส ซาลาเปาไส้ปูผัดผงกะหรี่ (69/99 บาท) เป็นซาลาเปาสีขาว ไส้ด้านในทำจากเนื้อปูก้อนส่วนกรรเชียงปู นำมาผัดกับผงกะหรี่ตามสไตล์จีน รสชาติกลมกล่อม ผอมผงกะหรี่ ได้รสชาติเนื้อปูเน้นๆ
ซาลาเปาไส้หมูบาร์บีคิว (49 บาท) ที่ตัวไส้ใช้สันคอหมูมาปรุงรสแบบบาร์บีคิวสไตล์ฮ่องกง รสชาติเข้มข้นกลมกล่อม กินเข้าคู่กับแป้งซาลาเปามัทฉะ และ ซาลาเปาไส้ไก่แกงกะหรี่ญี่ปุ่น (49-69 บาท) ใช้เนื้อไก่ผสมกับเครื่องปรุงกว่า 40 ชนิด ตามสูตรแกงกะหรี่ญี่ปุ่นแบบต้นตำหรับ ใส่มาในแป้งซาลาเปามัทฉะ ชิมแล้วหอมกลิ่นแกงกะหรี่
ส่วนซาลาเปาไส้หวานมีดังนี้ ซาลาเปาไส้ทุเรียน (59/79 บาท) ตัวไส้ทำจากทุเรียนหมอนทองแท้ๆ กินคู่กับแป้งซาลาเปาชาโคล ชิมแล้วหอมกลิ่นทุเรียนจริงๆ รสชาติหอมหวานมันอร่อย ซาลาเปาไส้มันม่วง (45 บาท) ไส้นี้ทำจากมันม่วงแท้ๆ นำมากวนให้ได้รสชาติหอมหวานกำลังดี เคี้ยวแล้วมัน อร่อยเพลิน ซาลาเปาไส้กล้วยช็อกโกแลตอัลมอนด์ (59 บาท) ครีมด้านในเป็นเนื้อกล้วยหอม ตัดกับช็อกโกแลตนูเทลล่าคลุกกับอัลมอนด์ ชิมไส้แล้วหวานๆ หอมๆ อร่อยฟิน และอีกไส้ก็คือ ซาลาเปาไส้ชาเขียว (49 บาท) เป็นการผสมผสานระหว่างไส้ชาเขียวมัทฉะรสชาติเข้มข้น หวานไม่มาก และมีความขมจากชาเขียวนิดๆ ตัดกับแป้งซาลาเปาสตรอว์เบอร์รี่กลิ่นหอมๆ
นอกจากซาลาเปาแล้ว ที่ร้านก็ยังมี หมั่นโถว (1 ชิ้น 20 บาท/ 3ชิ้น 50 บาท) ให้เลือก 4 แบบ คือ หมั่นโถวตาล (สีเหลือง) ที่ผสมเนื้อตาลแท้ๆ ให้กลิ่นหอม สีสวย คล้ายๆ กับการกินขนมตาล หมั่นโถวชาโคล (สีดำ) ใส่ผงชาโคลจากไม้ไผ่ที่ผ่านกรรมวิธีด้วยเทคโนโลยีจากญี่ปุ่น หมั่นโถวมัทฉะ (สีเขียว) ในผงมัทฉะจากญี่ปุ่น ให้สีเขียว กลิ่น และรสชาติชาเขียวแบบต้นตำรับ และ หมั่นโถวอัญชัน (สีฟ้า) ได้สีฟ้าสวยๆ จากดอกอัญชัน
แล้วก็ยังมีของกินเล่นอย่าง ฟรายส์รากบัว (59 บาท) ที่ใช้รากบัวสมุนไพรนำเข้าไซส์ใหญ่ นำมาสไลด์แล้วทอดกรอบด้วยวิธีพิเศษ ทำให้กรอบนอก นุ่มใน ไม่อมน้ำมัน
อิ่มจากซาลาเปาแล้ว ก็ยังมีเครื่องดื่มเย็นๆ ชื่นใจให้เลือกชิมด้วย เริ่มจาก ชาเมลอนไต้หวัน (59 บาท) เป็นน้ำฟักเขียวไต้หวัน ที่เป็นน้ำสมุนไพรขึ้นชื่อ นิยมดื่มเพื่อปรับอุณหภูมิร่างกาย นำมาเสิร์ฟพร้อมมกับเจลลี่เมลอนญี่ปุ่น เพิ่มความหอมอร่อย นมถั่วอัลมอนด์ (50 บาท/ เพิ่มเจลลี่ +20 บาท) เป็นเครื่องดื่มเย็นเพื่อสุขภาพ ผสมผสานธัญพืชกับอัลมอนด์ดื่มแล้วหอมหวานมัน แล้วก็ยังเลือกใส่เจลลี่เพิ่มความอร่อยได้ด้วย
ชาบาดาล (69 บาท) เป็นชามะลิอ่อนๆ ในน้ำรากบัวเข้มข้น ดื่มแล้วหอมหวานอร่อยสดชื่น ชาใต้ดิน (99 บาท) ผสมผสานระหว่างชาไทยรสเข้มข้นกับชาอื่นๆ ที่คัดสรรมาอย่างดี แล้วก็ยังผสมกับครีมมิ้นท์กลิ่นหอมอ่อนๆ โรยด้านบนด้วยดินช็อกโกแลต
เมนูอร่อยๆ ที่ร้าน “ปังเปา” มีให้เลือกหลากหลาย กับรสชาติความอร่อยยุคใหม่ของเปาแบบโบราณ สามารถเลือกซื้อกลับบ้านแบบใส่กล่องธรรมดา หรือจะเป็นกล่องแบบ GRAB-N-GO Set ที่มีทั้งซาลาเปาและเครื่องดื่ม เดินถือกินก็สะดวก หรือจะเป็นมื้อเบรกที่มีคุณภาพระหว่างนั่งประชุมก็ได้
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ร้าน “ปังเปา” ตั้งอยู่ที่ Centerpoint of Siam Square ชั้น 1 (ตรงข้าม A&W สยามสแควร์) เขตปทุมวัน กทม. เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00-20.00 น. โทร.09-7123-3452 Facebook : BangBaozi และ Line : @1bangbao
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager