Facebook :Travel @ Manager

“โครงการหลวง” คือโครงการจากแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ ที่สร้างคุณอเนกอนันต์แก่ประชาชน โดยเฉพาะราษฎรในพื้นที่ห่างไกล ให้มีอาชีพที่สุจริตและมั่นคงยั่งยืนสำหรับเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้

แนวพระราชดำริของพระองค์เกี่ยวกับโครงการหลวงนั้นเกิดขึ้นจากการ “เสด็จประพาสต้น” ดังข้อความส่วนหนึ่งจากพระนิพนธ์ของหม่อมเจ้า ภีศเดช รัชนี จากหนังสือประพาสต้นบนดอยว่า “...การไปเที่ยวของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้นอาจเรียกได้ว่า เป็นการประพาสต้น เมื่อทรงแปรพระราชฐานไปเชียงใหม่ มิได้ทรงพัก แต่มักจะเสด็จฯ ดั้นด้นไปทอดพระเนตรชีวิตคนบนดอย...”
และนั่นทำให้พระองค์ทรงเห็นความทุกข์ยากของราษฎรบนดอยสูงที่ยังยากจนข้นแค้น จนก่อเกิดเป็นโครงการหลวงเพื่อช่วยเหลือราษฎรของพระองค์ และโครงการหลวงแห่งแรกก็คือ “สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง” ในอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ นั่นเอง

สืบเนื่องจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรที่หมู่บ้านผักไผ่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และได้เสด็จผ่านบริเวณดอยอ่างขาง ทรงทอดพระเนตรเห็นว่าชาวเขาส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ทำการปลูกฝิ่นแต่ยังยากจน ทั้งยังทำลายทรัพยากรป่าไม้ต้นน้ำลำธารที่เป็นแหล่งสำคัญต่อระบบนิเวศน์ ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อส่วนอื่นของประเทศได้
จึงทรงมีพระราชดำริว่าพื้นที่นี้มีภูมิอากาศหนาวเย็น มีการปลูกฝิ่นมาก ไม่มีป่าไม้อยู่เลยและสภาพพื้นที่ไม่ลาดชันนัก ประกอบกับพระองค์ทรงทราบว่าชาวเขาได้เงินจากฝิ่นเท่ากับที่ได้จากการปลูกท้อพื้นเมือง และทรงทราบว่าที่สถานีทดลองไม้ผลเมืองหนาวของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้ทดลองวิธีติดตา ต่อกิ่งกับท้อฝรั่ง จึงสละพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวน 1,500 บาท เพื่อซื้อที่ดินและไร่จากชาวเขาในบริเวณดอยอ่างขางส่วนหนึ่ง

จากนั้นจึงโปรดเกล้าฯ ตั้งโครงการหลวงขึ้นเป็นโครงการส่วนพระองค์ เมื่อ พ.ศ.2512 ใช้เป็นสถานีวิจัยและทดลองปลูกพืชเมืองหนาวชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไม้ผล ผัก ไม้ดอก เมืองหนาว เพื่อเป็นตัวอย่างแก่เกษตรกรชาวเขาในการนำพืชเหล่านี้มาเพาะปลูกเป็นอาชีพ จนเกิดเป็น “สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง” โครงการหลวงแห่งแรกมาจนปัจจุบัน
ทุกวันนี้พื้นที่ดอยอ่างขางได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง พลิกฟื้นของภูเขาหัวโล้นแห้งแล้งอันเกิดจากการปลูกฝิ่นทำไร่เลื่อนลอย ให้กลายเป็นแหล่งเพาะปลูกพืชผัก ดอกไม้ ผลไม้เมืองหนาวอันอุดมสมบูรณ์ ช่วยให้ชาวเขามีอาชีพ มีรายได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

และผลพลอยได้จากโครงการหลวงยังทำให้ดอยอ่างขางร่มรื่นไปด้วยธรรมชาติ มีทัศนียภาพอันงดงาม จนปัจจุบันดอยอ่างขางเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวอันงดงามขึ้นชื่อของเมืองไทย ที่มีผู้คนเดินทางขึ้นไปเที่ยวชมสัมผัสในความงามกันไม่ได้ขาด และถูกยกให้เป็นหนึ่งใน “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย” อันเลื่องชื่อ
ภายในสถานีเกษตรหลวงอ่างขางมีจุดเที่ยวชมที่น่าสนใจหลายจุดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ได้แก่ “สวนแปดสิบ” สวนกลางแจ้งที่ตกแต่งด้วยพันธุ์ไม้ดอกที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปตามฤดูกาล นับเป็นจุดท่องเที่ยวไฮไลท์สำคัญของดอยอ่างขาง นอกจากนั้นก็ยังมีสวนคำดอย สวนหอม สวนสมเด็จ สวนกุหลาบอังกฤษ ฯลฯ เป็นสวนกลางแจ้งให้ชมความงาม

นอกจากนั้นก็ยังมีโรงเรือนที่รวบรวมพันธุ์ผัก จัดแสดงพันธุ์ผักเมืองหนาวที่ปลูกในพื้นที่โครงการหลวง อาทิ ผักตระกูลสลัด ผักตระกูลกะหล่ำ ผักตระกูลมะเขือ ผักตระกูลถั่ว และสมุนไพรต่างประเทศทั้งโรสแมรี่ และลาเวนเดอร์
“สวนบอนไซ” เป็นอีกหนึ่งสวนจัดแสดงพันธุ์ไม้ที่น่าชม โดยมีการปลูกเลี้ยงในกระถาง ทั้งบอนไซไม้ดอก ไม้ผล และไม้โตเร็วเมืองหนาว นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดง พืชทนแล้ง พืชกินแมลง และสวนหินธรรมชาติซึ่งเป็นจุดชมวิวภายในสถานีฯ

โรงเรือนไม้ดอกก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่น่าชม ภายในโรงเรือนมีพันธุ์ไม้สวยงามให้ได้ชมตลอดปีทั้งยังมีมุมน้ำตกจำลองชุ่มฉ่ำสวยงาม มีโรงเรือนกุหลาบตัดดอก ภายในโรงเรือนจะรวบรวมกุหลาบตัดดอกเพื่อการค้า ที่มีกลิ่นหอม ก้านยาว น่ายลไปด้วยดอกกุหลาบหลากสีสันชูช่อสะพรั่ง
ส่วนพื้นที่ภายนอกสถานีฯ ก็ยังมีจุดชมวิว ชมพระอาทิตย์ขึ้น และชมทะเลหมอกอันสวยงามอีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นจุดชมวิวที่ตั้งอยู่บนเส้นทางไปหมู่บ้านนอแลซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับแสงอรุณแรก ทะเลหมอกและตะวันลับขอบฟ้าได้สวยงาม มีจุดชมวิวชายแดนไทย-พม่าที่อยู่บริเวณฐานปฏิบัติการบ้านนอแล อีกทั้งในหมู่บ้านต่างๆ ก็ยังมีแปลงปลูกพืชผักที่ทางสถานีฯ เข้าไปส่งเสริมให้ชาวบ้านปลูก ไม่ว่าจะเป็นแปลงปลูกสตรอเบอร์รี่ แปลงพืชผักเมืองหนาวนานาชนิดที่ปลูกลดหลั่นกันไปตามไหล่เขาดูสวยงามน่ายล

นอกจากนั้นก็ยังมีบ้านขอบด้ง ตั้งอยู่บริเวณสันขอบดอยอ่างขาง เป็นหมู่บ้านของชาวเขาเผ่ามูเซอ ที่นี่เป็นจุดชมวิวอันสวยงามและยังมีวิถีวัฒนธรรมของชาวมูเซออันน่าสนใจให้เที่ยวชมกันอีกด้วย ส่วนบ้านคุ้ม ตั้งอยู่หน้าสถานีฯ มีทั้งชาวไทยใหญ่ จีนยูนานอาศัยอยู่ร่วมกัน ถือเป็นศูนย์กลางความเจริญ มีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกไว้บริการนักท่องเที่ยว

ปัจจุบันโครงการหลวงอ่างขางมีการทดลองและส่งเสริมการปลูกพืชผัก ผลไม้ และไม้ดอกเมืองหนาวอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่เห็นกันอยู่ในตอนนี้มีไม้ผลเมืองหนาวนับสิบชนิด อาทิ ท้อ บ๊วย สตรอเบอร์รี่ สาลี่ พลับ กีวี เป็นต้น ผักเมืองหนาวกว่า 60 ชนิด เช่น แครอท ผักสลัดต่างๆ ฯลฯ และไม้ดอกเมืองหนาวอีกมากมาย เช่น คาร์เนชั่น กุหลาบ เบญจมาศ

นอกจากจะส่งเสริมให้ชาวไทยภูเขาปลูกพืชพันธุ์ต่างๆ แล้ว ทางสถานีฯ ยังรับซื้อผลผลิตกลับมา เพื่อนำมาจำหน่ายให้ให้แก่นักท่องเที่ยวตามฤดูกาล และยังมีการแปรรูปผลผลิตต่างๆ ให้มีมูลค่าสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้ชาวไทยภูเขามีรายได้เพิ่มมากขึ้นไปด้วย
เมื่อมีรายได้มากขึ้น คุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของชาวบ้านก็ดีขึ้น สามารถพึ่งพาตนเองได้ หมู่บ้านมีความเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนจวบจนปัจจุบัน จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ชาวไทยซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์อย่างหาที่สุดไม่ได้
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง” ตั้งอยู่ที่หมู่ 5 ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ สำหรับบ้านพัก รีสอร์ท ทั้งหมดบนดอยอ่างขาง และบ้านพักรับรองในสถานีเกษตรหลวง ตอนนี้ปิดให้บริการ แต่สามารถไปนอนกางเต็นท์ที่ลานกางเต็นท์ม่อนสนของทางอุทยานฯ ได้ อีกทั้งในส่วนของร้านค้า ร้านขายของฝาก บริเวณด้านหน้าทางเข้าสถานีเกษตรหลวงก็ปิดให้บริการเช่นเดียวกัน แต่ก็ยังมีร้านอาหารบางส่วนที่ยังเปิดให้บริการ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ทั้งหมดบนดอยอ่างขางยังเปิดให้เข้าชมได้ตามปกติ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 0-5396-9476-78
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
“โครงการหลวง” คือโครงการจากแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ ที่สร้างคุณอเนกอนันต์แก่ประชาชน โดยเฉพาะราษฎรในพื้นที่ห่างไกล ให้มีอาชีพที่สุจริตและมั่นคงยั่งยืนสำหรับเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้
แนวพระราชดำริของพระองค์เกี่ยวกับโครงการหลวงนั้นเกิดขึ้นจากการ “เสด็จประพาสต้น” ดังข้อความส่วนหนึ่งจากพระนิพนธ์ของหม่อมเจ้า ภีศเดช รัชนี จากหนังสือประพาสต้นบนดอยว่า “...การไปเที่ยวของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้นอาจเรียกได้ว่า เป็นการประพาสต้น เมื่อทรงแปรพระราชฐานไปเชียงใหม่ มิได้ทรงพัก แต่มักจะเสด็จฯ ดั้นด้นไปทอดพระเนตรชีวิตคนบนดอย...”
และนั่นทำให้พระองค์ทรงเห็นความทุกข์ยากของราษฎรบนดอยสูงที่ยังยากจนข้นแค้น จนก่อเกิดเป็นโครงการหลวงเพื่อช่วยเหลือราษฎรของพระองค์ และโครงการหลวงแห่งแรกก็คือ “สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง” ในอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ นั่นเอง
สืบเนื่องจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรที่หมู่บ้านผักไผ่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และได้เสด็จผ่านบริเวณดอยอ่างขาง ทรงทอดพระเนตรเห็นว่าชาวเขาส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ทำการปลูกฝิ่นแต่ยังยากจน ทั้งยังทำลายทรัพยากรป่าไม้ต้นน้ำลำธารที่เป็นแหล่งสำคัญต่อระบบนิเวศน์ ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อส่วนอื่นของประเทศได้
จึงทรงมีพระราชดำริว่าพื้นที่นี้มีภูมิอากาศหนาวเย็น มีการปลูกฝิ่นมาก ไม่มีป่าไม้อยู่เลยและสภาพพื้นที่ไม่ลาดชันนัก ประกอบกับพระองค์ทรงทราบว่าชาวเขาได้เงินจากฝิ่นเท่ากับที่ได้จากการปลูกท้อพื้นเมือง และทรงทราบว่าที่สถานีทดลองไม้ผลเมืองหนาวของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้ทดลองวิธีติดตา ต่อกิ่งกับท้อฝรั่ง จึงสละพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวน 1,500 บาท เพื่อซื้อที่ดินและไร่จากชาวเขาในบริเวณดอยอ่างขางส่วนหนึ่ง
จากนั้นจึงโปรดเกล้าฯ ตั้งโครงการหลวงขึ้นเป็นโครงการส่วนพระองค์ เมื่อ พ.ศ.2512 ใช้เป็นสถานีวิจัยและทดลองปลูกพืชเมืองหนาวชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไม้ผล ผัก ไม้ดอก เมืองหนาว เพื่อเป็นตัวอย่างแก่เกษตรกรชาวเขาในการนำพืชเหล่านี้มาเพาะปลูกเป็นอาชีพ จนเกิดเป็น “สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง” โครงการหลวงแห่งแรกมาจนปัจจุบัน
ทุกวันนี้พื้นที่ดอยอ่างขางได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง พลิกฟื้นของภูเขาหัวโล้นแห้งแล้งอันเกิดจากการปลูกฝิ่นทำไร่เลื่อนลอย ให้กลายเป็นแหล่งเพาะปลูกพืชผัก ดอกไม้ ผลไม้เมืองหนาวอันอุดมสมบูรณ์ ช่วยให้ชาวเขามีอาชีพ มีรายได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
และผลพลอยได้จากโครงการหลวงยังทำให้ดอยอ่างขางร่มรื่นไปด้วยธรรมชาติ มีทัศนียภาพอันงดงาม จนปัจจุบันดอยอ่างขางเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวอันงดงามขึ้นชื่อของเมืองไทย ที่มีผู้คนเดินทางขึ้นไปเที่ยวชมสัมผัสในความงามกันไม่ได้ขาด และถูกยกให้เป็นหนึ่งใน “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย” อันเลื่องชื่อ
ภายในสถานีเกษตรหลวงอ่างขางมีจุดเที่ยวชมที่น่าสนใจหลายจุดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ได้แก่ “สวนแปดสิบ” สวนกลางแจ้งที่ตกแต่งด้วยพันธุ์ไม้ดอกที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปตามฤดูกาล นับเป็นจุดท่องเที่ยวไฮไลท์สำคัญของดอยอ่างขาง นอกจากนั้นก็ยังมีสวนคำดอย สวนหอม สวนสมเด็จ สวนกุหลาบอังกฤษ ฯลฯ เป็นสวนกลางแจ้งให้ชมความงาม
นอกจากนั้นก็ยังมีโรงเรือนที่รวบรวมพันธุ์ผัก จัดแสดงพันธุ์ผักเมืองหนาวที่ปลูกในพื้นที่โครงการหลวง อาทิ ผักตระกูลสลัด ผักตระกูลกะหล่ำ ผักตระกูลมะเขือ ผักตระกูลถั่ว และสมุนไพรต่างประเทศทั้งโรสแมรี่ และลาเวนเดอร์
“สวนบอนไซ” เป็นอีกหนึ่งสวนจัดแสดงพันธุ์ไม้ที่น่าชม โดยมีการปลูกเลี้ยงในกระถาง ทั้งบอนไซไม้ดอก ไม้ผล และไม้โตเร็วเมืองหนาว นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดง พืชทนแล้ง พืชกินแมลง และสวนหินธรรมชาติซึ่งเป็นจุดชมวิวภายในสถานีฯ
โรงเรือนไม้ดอกก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่น่าชม ภายในโรงเรือนมีพันธุ์ไม้สวยงามให้ได้ชมตลอดปีทั้งยังมีมุมน้ำตกจำลองชุ่มฉ่ำสวยงาม มีโรงเรือนกุหลาบตัดดอก ภายในโรงเรือนจะรวบรวมกุหลาบตัดดอกเพื่อการค้า ที่มีกลิ่นหอม ก้านยาว น่ายลไปด้วยดอกกุหลาบหลากสีสันชูช่อสะพรั่ง
ส่วนพื้นที่ภายนอกสถานีฯ ก็ยังมีจุดชมวิว ชมพระอาทิตย์ขึ้น และชมทะเลหมอกอันสวยงามอีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นจุดชมวิวที่ตั้งอยู่บนเส้นทางไปหมู่บ้านนอแลซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับแสงอรุณแรก ทะเลหมอกและตะวันลับขอบฟ้าได้สวยงาม มีจุดชมวิวชายแดนไทย-พม่าที่อยู่บริเวณฐานปฏิบัติการบ้านนอแล อีกทั้งในหมู่บ้านต่างๆ ก็ยังมีแปลงปลูกพืชผักที่ทางสถานีฯ เข้าไปส่งเสริมให้ชาวบ้านปลูก ไม่ว่าจะเป็นแปลงปลูกสตรอเบอร์รี่ แปลงพืชผักเมืองหนาวนานาชนิดที่ปลูกลดหลั่นกันไปตามไหล่เขาดูสวยงามน่ายล
นอกจากนั้นก็ยังมีบ้านขอบด้ง ตั้งอยู่บริเวณสันขอบดอยอ่างขาง เป็นหมู่บ้านของชาวเขาเผ่ามูเซอ ที่นี่เป็นจุดชมวิวอันสวยงามและยังมีวิถีวัฒนธรรมของชาวมูเซออันน่าสนใจให้เที่ยวชมกันอีกด้วย ส่วนบ้านคุ้ม ตั้งอยู่หน้าสถานีฯ มีทั้งชาวไทยใหญ่ จีนยูนานอาศัยอยู่ร่วมกัน ถือเป็นศูนย์กลางความเจริญ มีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกไว้บริการนักท่องเที่ยว
ปัจจุบันโครงการหลวงอ่างขางมีการทดลองและส่งเสริมการปลูกพืชผัก ผลไม้ และไม้ดอกเมืองหนาวอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่เห็นกันอยู่ในตอนนี้มีไม้ผลเมืองหนาวนับสิบชนิด อาทิ ท้อ บ๊วย สตรอเบอร์รี่ สาลี่ พลับ กีวี เป็นต้น ผักเมืองหนาวกว่า 60 ชนิด เช่น แครอท ผักสลัดต่างๆ ฯลฯ และไม้ดอกเมืองหนาวอีกมากมาย เช่น คาร์เนชั่น กุหลาบ เบญจมาศ
นอกจากจะส่งเสริมให้ชาวไทยภูเขาปลูกพืชพันธุ์ต่างๆ แล้ว ทางสถานีฯ ยังรับซื้อผลผลิตกลับมา เพื่อนำมาจำหน่ายให้ให้แก่นักท่องเที่ยวตามฤดูกาล และยังมีการแปรรูปผลผลิตต่างๆ ให้มีมูลค่าสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้ชาวไทยภูเขามีรายได้เพิ่มมากขึ้นไปด้วย
เมื่อมีรายได้มากขึ้น คุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของชาวบ้านก็ดีขึ้น สามารถพึ่งพาตนเองได้ หมู่บ้านมีความเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนจวบจนปัจจุบัน จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ชาวไทยซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์อย่างหาที่สุดไม่ได้
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง” ตั้งอยู่ที่หมู่ 5 ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ สำหรับบ้านพัก รีสอร์ท ทั้งหมดบนดอยอ่างขาง และบ้านพักรับรองในสถานีเกษตรหลวง ตอนนี้ปิดให้บริการ แต่สามารถไปนอนกางเต็นท์ที่ลานกางเต็นท์ม่อนสนของทางอุทยานฯ ได้ อีกทั้งในส่วนของร้านค้า ร้านขายของฝาก บริเวณด้านหน้าทางเข้าสถานีเกษตรหลวงก็ปิดให้บริการเช่นเดียวกัน แต่ก็ยังมีร้านอาหารบางส่วนที่ยังเปิดให้บริการ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ทั้งหมดบนดอยอ่างขางยังเปิดให้เข้าชมได้ตามปกติ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 0-5396-9476-78
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager