xs
xsm
sm
md
lg

เที่ยวเมืองรองนะ “ระนอง-ชุมพร” ตะลอนทัวร์ 2 ทะเลงาม จาก“เกาะพยาม”ถึงแหล่งทำ“บาม”หนึ่งเดียวในโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เกาะง่ามใหญ่-น้อย แหล่งดำน้ำตื้นอันสวยงามของจังหวัดชุมพร ประตูสู่ภาคใต้
ภาคใต้ของประเทศไทย มี 2 ท้องทะเลแสนงามขนาบข้างใน 2 ฟากฝั่งด้ามขวานทอง

ฝั่งตะวันออกคือท้องทะเล“อ่าวไทย” ส่วนฝั่งตะวันตกคือทะเล“อันดามัน” ซึ่งล้วนต่างก็มีความงามที่แตกต่างให้เราได้สัมผัสในมนต์เสน่ห์ของทะเลทั้งสองกัน

สำหรับผู้ที่เดินทางไปท่องเที่ยวแดนใต้นั้น “ชุมพร”ถือเป็นเมืองตั้งต้นของการเที่ยวทะเลภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย อีกทั้งยังเป็นจังหวัดแรกของแดนสะตอ ทำให้ชุมพรได้ชื่อว่าเป็น“ประตูสู่ภาคใต้
ยามเย็นที่ปากน้ำระนอง จังหวัดประตูสู่อันดามัน
ขณะที่“ระนอง” จังหวัดที่อยู่ติดกับชุมพรในอีกฟากฝั่งทะเลนั้น ถือเป็นเมืองด่านแรกของการเดินทางสู่ท้องทะเลอันดามัน ระนองจึงได้ชื่อว่าเป็น“ประตูสู่อันดามัน

ทั้งชุมพร-ระนอง ถือเป็น 2 เมืองรองชายฝั่งทะเลแห่งภาคใต้ตอนบน ที่มากไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวและสิ่งน่าสนใจหลากหลาย ชวนให้เราออกเดินทางล่องใต้ไปสัมผัสกับมนต์เสน่ห์ของ“ระนอง-ชุมพร” ในเส้นทาง“จากอันดามันสู่อ่าวไทย”อันสวยงามและชวนประทับใจมิรู้ลืม

เกาะพยาม เพชรน้ำงามแห่งทะเลระนอง

สำหรับทริปนี้เราเริ่มเที่ยวทางฝั่งทะเลอันดามัน จ.ระนอง กันก่อน ก่อนจะไล่ตีย้อนขึ้นมาทางฝั่งอ่าวไทยใน จ.ชุมพร โดยสถานที่แรกนั้นเราเดินทางออกทะเลอันดามัน มุ่งหน้าสู่ “เกาะพยาม” ที่ตั้งอยู่ที่ ต.เกาะพยาม อ.เมือง จ.ระนอง
เกาะพยาม เพชรน้ำงามแห่งทะเลระนอง
เกาะพยาม ได้ชื่อว่าเป็น“เพชรน้ำงามแห่งทะเลระนอง”เป็นเกาะใหญ่อันดับสองของจังหวัดระนอง(รองจากเกาะช้าง) ที่วันนี้กำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากขึ้นเรื่อย ๆ

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่เป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวบนเกาะพยามนั้นก็คือ บรรดาชายหาดและอ่าวต่าง ๆ ที่มีให้เที่ยวชมกันรอบตัวเกาะ ไม่ว่าจะเป็น อ่าวแม่หม้าย หาดทรายขาว หาดทรายแดง อ่าวกวางปีบ แหลมหรั่ง อ่าวไม้ไผ่ และ 3 จุดไฮไลท์ไม่ควรพลาด ได้แก่

-“อ่าวมุก” ที่มีแนวหาดทรายยาว มีบรรยากาศสงบเป็นส่วนตัว มีป่าชายเลนสมบูรณ์สวยงาม และเป็นที่ตั้งของรีสอร์ทหรูชื่อดัง ซึ่งนักท่องเที่ยวหลายคนนิยมเรียกพื้นที่บริเวณป่าชายเลนและรีสอร์ทหรูแห่งนี้ว่า “มัลดีฟส์เมืองไทย
อ่าวใหญ่
-“อ่าวใหญ่” เป็นแนวเวิ้งโค้งอ่าวยาวราว 4 กม. ยามน้ำลดจะมองเห็นหาดทรายอันกว้าง ใหญ่ ยาว ค่อยๆลาดเทลงสู่ทะเล มีทรายที่ละเอียดแน่น เดินสบายเท้า วันนี้บริเวณอ่าวใหญ่มีความคึกคักครึกครื้นไม่น้อย เพราะที่นี่เป็นแหล่งรวมของเหล่าแบ็คแพ็คเกอร์ มีบาร์เบียร์ ร้านอาหาร เก้าอี้ชายหาด นวด และที่พักราคาประหยัดให้เลือกเป็นจำนวนมาก

-“อ่าวเขาควาย” มีลักษณะเป็นอ่าวโค้งยาวประมาณ 2 กม. มุมทั้ง 2 โค้งโง้งเข้ามาดูคล้ายกับเขาควาย ยามน้ำลงจะเห็นหาดทรายเป็นแนวทอดยาวกว้างไกล บริเวณอ่าวเขาควายในช่วงปลายมี “เขาทะลุ” หรือ “หินทะลุ” ที่มีลักษณะเป็นภูเขาหินลูกเล็ก ๆ ถูกน้ำกัดเซาะเป็นช่องโพรง เราสามารถเดินมุดลอดผ่านไป-มาได้
หินทะลุ อ่าวเขาควาย
นอกจากจะมีหาดทรายและอ่าวสวยงามแล้ว บนเกาะพยายามยังมีสิ่งน่าสนใจอื่น ๆ ให้สัมผัสเที่ยวชมกันอีก อาทิ “วัดเกาะพยาม”ที่มีโบสถ์กลางทะเลเป็นอีกหนึ่งสิ่งน่าสนใจ, ธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์สามารถพบเห็น“นกเงือก”(นกแก๊ก)มาปรากฏโฉมให้ชมกันอยู่บ่อยครั้ง,ภาพวิถีชีวิตของชาวเกาะพยามที่มีทั้งการทำประมง สวนยาง และทำสวนมะม่วงหิมพานต์(กาหยู) ที่เป็นอาชีพเก่าแก่ดั้งเดิมของที่นี่

ไม่เพียงเท่านั้น วันนี้บนเกาะพยามยังมีที่พักหลากหลายให้เลือกพัก ทั้งบังกะโล เกสต์เฮาส์ ราคาประหยัด และรีสอร์ทหรูที่พักระดับไฮเอนด์ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเลือกมาเที่ยวเกาะพยามแบบวันเดย์ทริปไปเช้า-เย็นกลับ หรือเลือกพักค้างบนเกาะ เพื่อซึมซับกับบรรยากาศคืบก็ทะเลศอกก็ทะเลบนเกาะแห่งนี้
บางมุมบนเกาะพยาม ที่มาของฉายามัลดีฟส์เมืองไทย
หงาว พราวเสน่ห์

หลังพักผ่อน พักค้าง บนเกาะพยาม 1 วัน 1 คืน ให้บรรยากาศแห่งท้องทะเลเติมเต็มพลังให้กับชีวิต ในช่วงสายของวันรุ่งขึ้นเราก็ออกเดินทางกลับเข้าฝั่งอีกครั้ง เพื่อเที่ยวชมสิ่งน่าสนใจต่าง ๆ ในเมืองรองนะ ระนองกันต่อ

เมื่อเดินทางมาถึงยังฝั่งแผ่นดินเมืองระนอง เรามุ่งไปที่“ภูเขาหญ้า”ภูเขาลูกเล็ก ๆ เตี้ย ๆ ที่ถูกยกให้เป็นอันซีนไทยแลนด์ เนื่องจากมีบนเขาแทบจะไม่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้น มีแต่ต้นหญ้าขึ้นเต็มไปทั่วบริเวณ
น้ำตกหงาว
ต่อจากนั้นเราไปเที่ยวชม “น้ำตกหงาว” สัมผัสกับความชุ่มฉ่ำสวยงามของน้ำตกหงาวที่ไหลแผ่สยายลงมาจากเขาสูงชันท่ามกลางสภาพแวดล้อมของแมกไม้อันร่มรื่นเขียวครึ้ม

จุดต่อไปเป็น “ศูนย์วิจัยป่าชายเลนระนอง” หรือ“ป่าชายเลนหงาว”อันอุดมสมบูรณ์ ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพเป็นอย่างยิ่ง จนยูเนสโกยกให้เป็น “พื้นที่สงวนชีวมณฑล ระนอง” ใน พ.ศ. 2540 (เป็นพื้นที่สงวนชีวมณฑลประเภทป่าชายเลนแห่งแรกของโลก)
ป่าชายเลนหงาว
ป่าชายเลนหงาว มีสวนรุกขชาติป่าชายเลนเป็นไฮไลท์สำคัญ มีการสร้างสะพานทางเดินศึกษาธรรมชาติทอดตัวยาวไปในผืนป่าชายเลนอันอุดมสมบูรณ์ มากไปด้วยพืชพันธุ์ไม้และสรรพสัตว์นานาชนิด

สำหรับอีกจุดหนึ่งที่ไม่ควรพลาดในตำบลหงาวก็คือ“วัดบ้านหงาว”ที่มีอุโบสถลอยฟ้าตั้งอยู่บนเนินเขาอันสวยงาม ภายในประดิษฐาน“พระติปุกะพุทธมหาศากยมุนีศรีรณังค์”หรือ“หลวงพ่อดีบุก” หนึ่งเดียวในเมืองไทย ถือเป็นสิ่งสิริมงคลสำคัญก่อนที่เราจะมุ่งหน้าไปสัมผัสกับบรรยากาศของ“ระนอง เมืองสุขภาพดี๊ดี”กันต่อไป

ระนองออนเซ็น

ระนองเป็นจังหวัดที่มี“น้ำแร่”เป็นของดีขึ้นชื่อ เมืองนี้มีบ่อน้ำแร่ตามธรรมชาติอยู่หลายบ่อด้วยกัน สำหรับ 2 บ่อไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดก็คือ “บ่อน้ำร้อนพรรั้ง”ที่ตั้งอยู่ที่ บ้านพรรั้ง ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง(ในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว)
บ่อน้ำร้อนพรรั้ง
บ่อน้ำร้อนพรรั้ง ตั้งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติอันร่มรื่น แวดล้อมไปด้วยแมกไม้เขียวขจี บ่อน้ำร้อนที่นี่ มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 55 องศาเซลเซียส มีทั้งส่วนของบ่อน้ำแร่ร้อนที่สร้างขึ้นเพื่อให้แช่ตัวในแบบบ่อแช่รวมและบ่อส่วนตัว

นอกจากนี้ในบริเวณแหล่งท่องเที่ยวบ่อน้ำร้อนพรรั้งยังมีลำธารน้ำตามธรรมชาติให้ลงไปเล่นน้ำ และแช่ตัวในธารน้ำเย็นสลับกับการแช่ตัวในบ่อน้ำร้อน รวมถึงมี“สปาปลาบำบัด”ตามธรรมชาติ ในลำธารน้ำให้เราได้แช่เท้าให้เหล่าปลา(พลวง)ตัวน้อยๆมาตอดเท้าเพื่อสุขภาพกันอีกด้วย
บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน(บ่อพ่อ)
จากบ่อน้ำร้อนพรรั้ง เราเดินทางไปเที่ยวสุขภาพดี๊ดีกันต่อที่ “บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน” ที่ตั้งอยู่ที่สวนสาธารณะรักษะวารินในตัวเมืองระนอง

บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน มีอุณหภูมิเฉลี่ย 65 องศาเซลเซียส ประกอบด้วย บ่อพ่อ บ่อแม่ และบ่อลูก ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน โดยมีบ่อพ่อที่ใหญ่สุดมีน้ำร้อนที่สุดเป็นไฮไลท์
บ่อน้ำแร่ในส่วนที่เสียค่าบริการ
ทุกๆวันจะมีชาวระนองและนักท่องเที่ยวเดินทางมาแช่ตัว แช่เท้า ที่สวนสาธารณะรักษะวารินกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งที่นี่มีทั้งบ่อน้ำแร่ที่เปิดให้บริการแช่ฟรี กับบ่อน้ำแร่ที่เก็บเงินค่าบริการในพื้นที่ที่สวยงามและค่อนข้างเป็นส่วนตัว

ใครที่มาเยือนระนองจึงไม่ควรพลาดการแช่น้ำแร่เพื่อผ่อนคลาย บำบัดสุขภาพ ในบรรยากาศ “ระนองออนเซ็น”อันสุดฟินที่ดีต่อสุขภาพกายและสุขภาพใจไม่น้อย

กระบุรี ของดีมากหลาย

จากตัวเมืองระนอง เราเดินทางสู่“อำเภอกระบุรี”ที่อยู่เหนือสุดของระนอง ซึ่งนอกจากจะเป็นด่านแรกของประตูสู่อันดามันแล้ว ยังเป็นที่ตั้งของ “คอคอดกระ”ส่วนแคบที่สุดของแหลมมลายู(แคบประมาณ 50 กม.) หนึ่งในจุดยุทธศาสตร์สำคัญของอาเซียนและเป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวอันโดดเด่นของจังหวัดระนอง
พุทธสุวรรณเจดีย์
นอกจากนี้ อ.กระบุรียังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอื่น ๆ ให้ผู้สนใจแวะเที่ยวชมอีก อาทิ “ศิลาจารึกสลักพระปรมาภิไธย จปร.”(หินสลัก จปร.), “ถ้ำพระขยางค์”, “น้ำตกบกกราย”, กิจกรรม“ล่องแพ แลวิถีไทย-เมียนมาร์” ท่องลำน้ำกระบุรี ของชาวชุมชนบ้านปากจั่น

และ“พุทธสุวรรณเจดีย์” ที่ตั้งอยู่ที่“วัดสุวรรณคีรี” ซึ่งเป็นเจดีย์ที่จำลองแบบจากพระมหาเจดีย์ชเวดากองที่เมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมาร์(พม่า) ซึ่งทางวัดสามารถสร้างออกมาได้อย่างสวยงามและเหมือนต้นฉบับมากที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย
ซาลาเปาทับหลี
ส่วนใครที่เป็นสายกินหากผ่านที่ทางกระบุรีก็ไม่ควรพลาด “ซาลาเปาทับหลี” ของกินชื่อดังของจังหวัดระนองที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศ ซึ่งชาวบ้านทับหลี (ต.มะมุ อ.กระบุรี) ได้ถ่ายทอดภูมิปัญญาจากรุ่นสู่รุ่นสืบต่อกันมากว่า 60 ปี

ซาลาเปาทับหลี มีจุดเด่นที่แป้งเหนียว นุ่ม อร่อย และแป้งไม่หนา ส่วนไส้นั้น ต้นฉบับคือไส้หมูสับ แต่ว่าปัจจุบันมีไส้หลากหลายให้เลือกอร่อย

ใครผ่านไปแถวบ้านทับหลีก็จะพบเห็นร้านซาลาเปาและแผงซาลาเปาวางขายอยู่ทั่วไป สนใจ ถูกใจร้านไหนก็สามารถเลือกซื้อกันได้ตามอัธยาศัย เพราะรสชาตินั้นชวนกินใกล้เคียงกัน

สวัสดีชุมพร เมืองหาดทรายสวยสี่ร้อยลี้
ชุมพร เมืองรองที่มีแนวหาดทรายยาวอันสวยงาม(ในภาพคือหาดทรายรี)
จาก อ.กระบุรี เดินทางต่อไปจะมีทางเลี้ยวซ้ายไปออกยังแยกปฐมพรสู่จังหวัดชุมพร เมืองประตูสู่ภาคใต้ซึ่งเป็นการข้ามจังหวัดมาเที่ยวในอีกฟากฝั่งทะเล เพื่อสัมผัสในมนต์เสน่ห์ของอ่าวไทยและสิ่งน่าสนใจอันหลากหลายของจังหวัดชุมพรแห่งนี้

ชุมพรเป็นเมืองต้องห้าม...พลาดภายใต้สโลแกน “หาดทรายสวยสี่ร้อยลี้” ที่มีแนวชายหาดยาวสวยงามไล่เรียงจากเหนือสุด ตั้งแต่ อ.ปะทิว ไปจรดใต้สุดของจังหวัด ที่ อ.ละแม
หาดทุ่งวัวแล่น
สำหรับหาดทรายชายที่ถือเป็นไฮไลท์ไม่ควรพลาดของชุมพรนั้น เราขอเริ่มกันที่ “หาดทุ่งวัวแล่น” (ต.สะพลี อ.ปะทิว) หาดที่ได้ชื่อว่าเป็นหาดทรายที่สวยงามที่สุดในจังหวัดชุมพรกับแนวหาดทรายยาวขาวละเอียด น้ำทะเลสวยใส อีกทั้งยังมีแนวทิวมะพร้าวหลากหลายรูปทรงทอดตัวเติมเต็มองค์ประกอบในความงาม

ส่วน“หาดทรายรี”(ต.หาดทรายรี อ.เมือง)ที่อยู่ทางใต้ลงมาถือเป็นอีกหนึ่งหาดชื่อดังของชุมพร หาดทรายรีนอกจากจะมีแนวชายหาดที่สวยงามโค้งยาวแล้ว ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของ“ศาลกรมหลวงชุมพร” สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองชุมพร
ศาลกรมหลวงชุมพร หาดทรายรี
ศาลกรมหลวงชุมพร ประดิษฐานรูปเคารพของ “พลเรือเอกพระบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์” หรือ “กรมหลวงชุมพรฯ” หรือ“เสด็จเตี่ย” พระบิดาแห่งกองทัพเรือไทย อันเป็นที่เคารพสักการะของประชาชนทั่วไป ซึ่งแต่ละวันจะมีผู้คนที่เดินทางมากราบไหว้ ขอพร บนบานศาลกล่าว และมาแก้บนเสด็จเตี่ยกันไม่ได้ขาด

ตื่นตาฝ่ามือพระพุทธเจ้า ดำน้ำเกาะง่ามน้อย-ใหญ่

จากความงามของหาดทรายสี่ร้อยลี้บนชายฝั่ง เราเปลี่ยนบรรยากาศออกทะเลอ่าวไทย ไปเที่ยวชมความงามของท้องทะเลชุมพรทั้งโลกเหนือท้องน้ำและโลกใต้ทะเลกันบ้าง
เกาะทะลุ รูปหัวใจ
ทะเลชุมพร มีเกาะน้อย-ใหญ่ อยู่มากกว่า 40 เกาะ หลาย ๆ เกาะเป็นแหล่งดำน้ำขึ้นชื่อ นำโดย “เกาะง่ามใหญ่-ง่ามน้อย” ที่ถือเป็นจุดดำน้ำตื้นชั้นดี ซึ่งนับเป็นหนึ่งในไฮไลท์สำคัญของเราในทริปนี้

โดยหลังเดินทางด้วยเรือน้ำเที่ยวผ่านปากน้ำชุมพร มาออกอ่าวไทยในท้องทะเลชุมพร เรือนำเที่ยวก็แล่นแวะชมสิ่งน่าสนใจต่าง ๆ กลางทะเล ไม่ว่าจะเป็น เกาะแรด เกาะหลักแรด และเกาะทะลุ ที่มีโพรงเป็นช่องทะลุกลางเกาะ หากมองถูกมุมจะดูคล้ายหัวใจ จนหลายคนนิยมเรียกว่า “เกาะทะลุหัวใจ

ต่อจากนั้นเราไปชมไฮไลท์กันที่ เกาะง่ามใหญ่-ง่ามน้อย สองเกาะง่ามที่อยู่ใกล้ ๆ กัน
ฝ่ามือพระพุทธเจ้า
เกาะง่ามใหญ่-ง่ามน้อย เป็นเกาะสัมปทานรังนก ไม่เปิดให้คนทั่วไปขึ้นบนเกาะ แต่อนุญาตให้ไปดำน้ำดูปะการังในบริเวณรอบ ๆ เกาะ และนั่งเรือเที่ยวชมรอบ ๆ เกาะได้

สำหรับเกาะง่ามใหญ่ที่มีลักษณะเป็นผาหินสูงชัน มีด้านหนึ่งดูคล้ายฝ่ามือขนาดใหญ่ จนได้ชื่อว่าเป็น“ฝ่ามือพระพุทธเจ้า” ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความมหัศจรรย์ที่เกิดจากธรรมชาติสรรค์สร้าง
โลกใต้ทะเลชุมพรเป็นอีกหนึ่งจุดดำน้ำที่เต็มไปด้วยความงดงาม
จากความมหัศจรรย์เหนือน้ำมาดูความมหัศจรรย์ของโลกใต้ทะเลชุมพรกันบ้าง ทั้งเกาะง่ามใหญ่-ง่ามน้อย วันนี้ยังคงมีแนวปะการังที่สวยงามอุดมสมบูรณ์ ที่สำคัญคือที่นี่เป็นแหล่งดอกไม้ทะเลขนาดใหญ่ มีมากมายหลายแปลงดูสวยงามละลานตาเต็มไปหมด ยามที่เหล่าดอกไม้ทะเลเหล่านี้พลิ้วไหวโยกตัวไปตามกระแสน้ำ มันดูคล้ายการเต้นระบำที่เกิดจากการสร้างสรรค์ของธรรมชาติอันน่าทึ่งไม่น้อย
แปลงดอกไม้ทะเล เกาะง่ามใหญ่ที่มีให้ดำน้ำชมกันอย่างละลานตา
นอกจากนี้ในแปลงดอกไม้ทะเลหลาย ๆ ดง ยังมีปลาการ์ตูนที่ส่วนใหญ่เป็นปลาการ์ตูนอินเดียนแดง(ฝั่งอ่าวไทยไม่มีปลาการ์ตูนส้ม-ขาว หรือปลาการ์ตูนนีโม่เหมือนฝั่งอันดามัน) แหวกว่ายผลุบ ๆโผล่ ๆ สร้างสีสันให้การดำน้ำที่เกาะง่ามใหญ่-ง่ามน้อย ดูน่าประทับใจกระไรปานนั้น

เสน่ห์ชุมชน เสน่ห์ชุมพร

หากใครคิดจะ Go Local สัมผัสมนต์เสน่ห์วิถีชุมชน ชุมพรเป็นหนึ่งในจังหวัดที่ตอบโจทย์ดังกล่าวได้เป็นอย่างดี เพราะเมืองนี้มีแหล่งท่องเที่ยวชุมชนอันทรงเสน่ห์หลากหลายให้สัมผัสกันอย่างลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็น
ล่องแพพะโต๊ะ
-ชุมชนพะโต๊ะ(อ.พะโต๊ะ) : ล่องแพพะโต๊ะ ชมวิวทิวทัศน์ธรรมชาติอันร่วมรื่นสวยงามใน 2 ข้างทาง กินอาหารพื้นบ้าน นำโดยเมนูเด่นของท้องถิ่นอย่าง ไข่กระบอก ข้าวห่อใบคลัง(ใบไม้ในท้องถิ่น) แกงหยวกกล้วยป่า ไข่เจียวใบตอง เป็นต้น

-ชุมชนบ้านท้องตมใหญ่(อ.สวี) : สัมผัสวิถีชาวประมงพื้นบ้าน นอนโฮมสเตย์ริมทะเล กินอาหารทะเลสดใหม่ เรียนรู้การอนุรักษ์ม้าน้ำ และการอนุรักษ์ด้วยการบวชทะเลหนึ่งเดียวในไทย

-ชุมชนเกาะพิทักษ์(อ.หลังสวน) : สัมผัสวิถีหมู่บ้านชาวประมง พักค้างแบบโฮมสเตย์บนเกาะในบรรยากาศสุดฟิน กินซีฟู้ดสด ๆ จากแหล่ง ท่ามกลางสีสันแห่งท้องทะเล
หลาดใต้เคี่ยม
-หลาดใต้เคี่ยม(อ.ละแม) : ตลาดนัดชุมชนใต้ต้นเคี่ยมในบรรยากาศบ้าน ๆ สินค้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าพื้นบ้านจากชาวบ้านในพื้นที่ นอกจากจะขายกันในราคาไม่แพงแล้ว ยังเน้นเรื่องของการอนุรักษ์ใส่ใจในสิ่งแวดล้อม นับเป็นตลาดนัดที่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ

-ชุมชนอ่าวทุ่งมหา(อ.ปะทิว) : สัมผัสการทำประมงพื้นบ้าน กินปูห้อยขา และเรียนรู้การทำขนมไข่แมงดาที่มีที่นี่แห่งเดียว

และ“ชุมชนบ้านอ่าวคราม” อ.สวี ที่เป็นจุดหมายของเราในทริปนี้ โดยเราเลือกพักกันที่ “แดนโดมโฮมสเตย์” ที่พักแบบบ้าน ๆ ราคา(คืน)หลักร้อย แต่มีบรรยากาศดีมาก ๆ คืบก็ทะเลศอกก็ทะเล มีวิวทิวทัศน์สวยงาม มีอาหารทะเลสดใหม่จากแหล่งให้กิน นับว่าคุ้มคาเกินราคายิ่งนัก

ทำบามหนึ่งเดียวในโลก
แดนโดมโฮมสเตย์
สำหรับผู้มาเที่ยว(พักค้าง)ที่แดนโดมโฮมสเตย์ จะได้สัมผัสกับกิจกรรม “ล่องเรือเที่ยวอ่าวคราม” พาไปสัมผัสกับวิถีชาวประมงพื้นบ้าน ชมทิวทัศน์ของเทือกเขาหินปูน เกาะและหินรูปร่างแปลกตาต่างๆ อาทิ เกาะแมว เกาะหนู เกาะกุลา หินช้างสมเด็จพระนเรศวร หินรูปหมาจู เป็นต้น ชมค้างแว่นริมทะเล และถ้าโชคดีจะพบโลมาตัวเป็น ๆ มาแหวกว่ายอวดโฉม

นอกจากนี้ที่ชุมชนบ้านอ่าวครามยังมีอีกหนึ่งกิจกรรมไฮไลท์คือ สัมผัสวิถี การทำ“บาม” หรือ “บามหมึก” หนึ่งเดียวของเมืองไทย และว่ากันว่าน่าจะมีเพียงแห่งเดียวในโลกที่อ่าวครามแห่งนี้
การทำบามหนึ่งเดียวในไทยที่คาดว่ามีหนึ่งเดียวในโลกที่บ้านอ่าวคราม
บาม เป็นหนึ่งในภูมิปัญญาการจับสัตว์ทะเลของชาวบ้านอ่าวครามแบบพอเพียง ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

การทำบามจะใช้ไม้(ต้น)หมากยาวประมาณ 10 เมตร 4 ต้น มาปักเป็นเสาในทะเลริมชายฝั่ง 4 เสา รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างประมาณ 6-10 เมตร ด้านบนเสาประมาณ 3 เมตรเหนือน้ำพาดไม้ไผ่เอาไว้ แล้วผูกเชือกยึดอวนหรือข่ายขนาดตาไม่ถี่มากไว้เหนือผิวดิน โดยเป็นการผูกแบบพิเศษให้สามารถใช้รอกหมุนยกอวนขึ้น-ลงได้ กลางบามมีพาดไม้ไผ่เป็นคานไว้สำหรับผูกเชือกวางตะเกียง

ด้านหนึ่งของบามมีการปักเสาไม้ไผ่เป็น 3 เส้า(3 เสา) มีรอกสำหรับหมุนยกอวนขึ้น-ลง มีคานมั่นคงแข็งแรงให้ปีนขึ้นไปหมุนรอก
ติดไฟล่อปลาที่บาม
เมื่อสร้างบามเสร็จแล้ว ในช่วงโพล้เพล้ของทุกวันชาวบ้านจะนำตะเกียงแก๊ส(ตะเกียงจุดด้วยหัวแก๊สบนถังแก๊สหุงต้มทั่วไป) ไปผูกเชือกที่คานกลาง ให้ตะเกียงลอยอยู่เหนือน้ำเล็กน้อย แต่แสงสว่างส่องถึงพื้นน้ำ เพื่อให้หมึก กุ้ง ปู ปลา อื่นๆ มาว่ายเล่นไฟ แล้วทิ้งแสงไฟจากตะเกียงแก๊ส รอเวลายกบาม โดยคืนหนึ่งจะทำการยกบามประมาณ 2-5 ครั้ง/คืน ขึ้นอยู่กับสภาพน้ำ ข้างขึ้น ข้างแรม ที่ต้องอาศัยประสบการณ์ของชาวประมงแต่ละคน

สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาพักค้างโฮมสเตย์ที่บ้านอ่าวคราม สามารถออกเรือไปร่วมยกบามได้ เพื่อสัมผัสกับประสบการณ์จริงอย่างลึกซึ้ง ทั้งการไปหมุนรอกยกข่ายขึ้น การใช้ตะแกรงช้อนสัตว์น้ำที่จับได้ในบาม ซึ่งหลัก ๆ แล้วก็เป็นหมึกที่ถือเป็นสัตว์เศรษฐกิจของที่นี่ ร่วมด้วยกุ้ง ปู ปลา ตามแต่จะจับได้ในแต่ละคืน
ผู้เข้าพักร่วมช้อนหมึกจากการยกบาม
หลังเราออกเรือไปชมการทำบาม และร่วมยกบาม ได้สัตว์ทะเลกลัยมามากหลาย โดยเฉพาะหมึก ในค่ำคืนนั้นเรานำหมึกสด ๆ ส่วนหนึ่งที่จับได้จากการยกบาม มาย่างกินกันแบบสดใหม่ ส่งกลิ่นหอมเตะจมูก เนื้อหวาน กรอบ กินกับน้ำจิ้มซีฟูดรสเด็ดที่ทางแม่ครัวจัดทำไว้ให้ แซบเหลือหลายดีแท้

นี่ถือเป็นมื้อพิเศษอันแสนอร่อยก่อนเข้านอนในค่ำคืนสุดท้ายของทริป เที่ยวเมืองรองนะ “ระนอง-ชุมพร” ตะลอนทัวร์ 2 ฝั่งทะเลงาม จากอันดามันถึงอ่าวไทย ซึ่งนอกจากจะเป็นทริปอันแสนเพลิดเพลินน่าประทับใจแล้ว ยังเป็นทริปที่ทำให้เราหลงรักเมืองรองมากยิ่งขึ้น
หมึกสดใหม่ย่างไฟจิ้มน้ำจิ้มรสเด็ด หวานกรอบ อร่อยนัก
ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดของสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร และการเดินทางในเส้นทาง ระนอง ชุมพร ได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานชุมพร(พื้นที่รับผิดชอบชุมพร ระนอง) โทร. 0-7750-2775-6, 0-7750-1831
....................................................................................................

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager


กำลังโหลดความคิดเห็น