xs
xsm
sm
md
lg

เปิดโลกกว้างตะลุย “อิชิกะวะ” มากเสน่ห์แหล่งท่องเที่ยว มาเยือนแล้วรักประทับใจ (1)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

Facebook :Travel @ Manager
บ้านเก่าสไตล์ญี่ปุ่นในหมู่บ้านงานศิลปหัตถกรรม ยุโนะคุนิ โนะ โมะริ
นักท่องเที่ยวชาวไทยส่วนใหญ่เมื่อให้นึกว่าอยากจะไปเที่ยวที่ไหนของประเทศญี่ปุ่น เชื่อว่าผู้คนส่วนใหญ่ต่างคิดถึงแต่จังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยมอย่าง โตเกียว เกียวโต โอซาก้า ฮอกไกโด เป็นต้น ซึ่ง “ตะลอนเที่ยว” อยากจะบอกว่าที่ญี่ปุ่นไม่ได้มีแค่จังหวัดท่องเที่ยวชื่อดังฮอตฮิตติดลมบนตามที่นึกถึงกันแค่นั้น เพราะว่าญี่ปุ่นยังมีจังหวัดท่องเที่ยวที่อื่นที่น่าสนใจชวนให้ไปเปิดโลกกว้างใบใหม่กัน

อย่างที่ในทริปนี้เมื่อ “ตะลอนเที่ยว” มีโอกาสได้รับคำชวนจากคุณตุ้ย รุ่งนภา คำพญา กรรมการผู้จัดการบริษัท “บริษัท เวิลด์โปร แทรเวิล จำกัด” ชักชวนให้ไปร่วมทริปเส้นทางท่องเที่ยว "จังหวัดอิชิกะวะ" (Ishikawa) โดยได้ร่วมมือร่วมใจกับทาง Ishikawa Prefectural Government Office จัดทริปพิเศษนี้ขึ้นมา เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวมากเสน่ห์ของจังหวัดอิชิกะวะให้นักท่องเที่ยวชาวไทยได้รู้จักมากยิ่งขึ้น เมื่อได้รับโอกาสให้ไปเปิดโลกกว้างใบใหม่ คนชอบเที่ยวอย่างเรามีหรือที่จะปฏิเสธ เรารีบตกปากรับคำชวนนั้นทันที
พิพิธภัณฑ์จัดแสดงงานศิลปหัตถกรรม
สำหรับจังหวัดอิชิกะวะนั้นตั้งอยู่บริเวณภาคกลางของประเทศญี่ปุ่น ในภูมิภาคโฮะคุริคุ ตัวจังหวัดมีลักษณะยาวและแคบ ทอดตัวยาวจากทิศเหนือจรดทิศใต้ รายล้อมไปด้วยพื้นที่ชายฝั่งทะเล ภูเขาและธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ แล้วก็ยังมีพื้นที่ราบทำเกษตรกรรม จึงทำให้ที่นี่มีทัศนียภาพที่หลากหลาย แบ่งออกเป็น 3 พื้นที่หลัก ได้แก่ โนะโตะ, คานาซาวะ และคะกะ
งานหัตกรรมต่างๆ ที่ห่อหุ้มด้วยทองคำเปลว
เมื่อถึงวันนัดหมายพวกเราคณะทัวร์ชาวไทย พร้อมใจเหินฟ้าจากเมืองไทยโดยสายการบินไทย บินมาลงยังสนามบินชูบุเซ็นแทรร์ (นาโกย่า) แล้วพวกเราก็เปิดฉากตะลุยทัวร์จังหวัดอิชิกะวะกันทันที โดยจุดมุ่งหมายแรกมาเที่ยวกันที่ “หมู่บ้านงานศิลปหัตถกรรม ยุโนะคุนิ โนะ โมะริ" (Traditional Handicrafts Village Yunokuni no Mori) ตั้งอยู่ที่เมืองโคมัตสึเป็นหมู่บ้านหัตถกรรมเก่าแก่ที่มีชื่อเสียง มาเที่ยวที่นี่เราจะได้รู้จักและสัมผัสกับงานศิลปหัตถกรรมประเภทต่างๆ ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดอิชิกะวะ โดยมีพิพิธภัณฑ์เล็กๆ จัดแสดงบอกเล่าเรื่องราวงานศิลปหัตถกรรมของที่มีมาตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน ภายในหมู่บ้านเราสามารถเดินเที่ยวกันแบบสบายๆ ภายใต้บรรยากาศอันร่มรื่น
บ้านทำเครื่องแก้วมีสินค้าให้เลือกซื้อมากมาย
ในหมู่บ้านจะมีบ้านเก่าสไตล์ญี่ปุ่นที่สวยงามหลายหลังตั้งกระจัดกระจายกันอยู่ และภายในบ้านแต่ละหลังจะมีการจัดแสดงงานศิลปหัตถกรรมประเภทต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ชมขั้นตอนการสร้างสรรค์ผลงาน และสามารถร่วมทำกิจกรรมต่างๆ ได้ด้วย โดยมีงานศิลปหัตถกรรมที่น่าสนใจมากมาย อาทิ การทำเครื่องเคลือบจากทองคำเปลว การทำเครื่องแก้ว การย้อมผ้าไหมยุเซ็น เป็นต้น แล้วก็มีสินค้าที่ระลึกให้เลือกซื้อมากหลาย โดยเฉพาะมีผลิตภัณฑ์ที่ทำจากทองคำเปลวนั้นชวนซื้อมากๆ
บรรยากาศความร่มรื่นภายในวัดนาทะเดระ
พวกเราได้เดินเที่ยว เดินชอปสินค้าภายในหมู่บ้านยุโนะคุนิ โนะ โมะริ กันพอหอมปากหอมคอ ที่เที่ยวจุดต่อไปในเมืองโคมัตสึก็คือ “วัดนาทะเดระ” (Natadera Temple) เป็นวัดเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 1,300 ปี เมื่อย่างก้าวเข้าสู่ภายในวัดก็ได้สัมผัสกับอาณาบริเวณพื้นที่ของวัดที่กว้างขวางมาก และแวดล้อมไปด้วยแมกไม้น้อยใหญ่ มีธรรมชาติของป่าไม้ช่างรื่นรมย์ ทำให้เกิดความรู้สึกสงบและสดชื่นใจ
เจ้าแม่กวนอิมประดิษฐานอยู่ภายในวัดนาทะเดระ
ภายในวัดมีอาคารหลายหลังที่ถูกออกแบบอย่างงดงาม มีสวนน้ำที่ร่มรื่น มีเจดีย์เก่าแก่ มีบันไดหินริมหน้าผาให้เดิน เรียกว่าภายในวัดแห่งนี้มีของดีซ่อนกายอยู่หลายจุด อย่างจุดที่ห้ามพลาดเข้าไปชมด้วยประการทั้งปวงก็คือ อุโบสถหลังงามที่เมื่อเดินเข้าไปด้านใน จะได้สักการะเจ้าแม่กวนอิมที่แกะสลักจากไม้สนหอมฮิโนกิ มีความสูงถึง 7.8 เมตร มี 11 หน้า 1,000 มือ มีความงดงามตระการตาเป็นยิ่งนัก
สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ถ้ำแห่งพระครรภ์
แล้วอีกหนึ่งจุดไฮไลต์ที่ต้องไปให้ได้ก็คือ ศาลเจ้าเก่าแก่หลังงามที่ตั้งตระหง่านอยู่ด้านใน ซึ่งเป็นที่ตั้งของถ้ำแห่งพระครรภ์ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ได้กราบขอพร ซึ่งถ้ำแห่งนี้มีความเชื่อว่าหากเราได้เดินลอดเข้าไปในถ้ำแล้วเดินออกมา ก็เหมือนกับว่าได้ขจัดเอากิเลสต่าง ๆ ที่ไม่ดีออกไปจากชีวิต เหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้งพร้อมกับความบริสุทธิ์ แล้วก็จะประสบกับแต่สิ่งที่ดีงามที่เป็นมงคลมาสู่ชีวิต
สะพานอะยาโทริ สวยงามด้วยโครงสร้างเหล็กสีชมพู
พวกเราได้เดินชมสิ่งที่น่าสนใจภายในวัดและได้ทำบุญกันจนอิ่มเอิมใจแล้ว ล้อรถก็หมุนออกเดินกันต่อพาพวกเรามุ่งหน้ามายัง “ยามานากะ ออนเซ็น” (Yamanaka Onsen) ที่นี่เป็นเมืองตากอากาศเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในหุบเขาคาคุเซนเค ที่นี่มีธรรมชาติอันสงบงาม เรามุ่งหน้ามาที่นี่กันก็เพื่อมาชมสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นที่แอบซ่อนกายอยู่ นั่นก็คือ “สะพานอายะโทริ” (Ayatori Bridge) ที่เมื่อมาถึงก็ต้องขอร้องว้าว!! กับภาพของสะพานสีชมพู ที่มีรูปลักษณ์ดูแปลกตา โครงสร้างของสะพานเป็นเหล็กดูทันสมัย มีความคดเคี้ยวอ่อนช้อยสลับซับซ้อนดูงดงามจับตา ตัวสะพานทอดกายยาวพาดผ่านลำน้ำใหญ่ สร้างได้กลมกลืนสอดคล้องกับทัศนียภาพรอบด้านแบบลงตัว
นักท่องเที่ยวถ่ายรูปเพลิดเพลินบนสะพานอะยาโทริ
เมื่อได้เดินทอดน่องไปบนสะพานได้เห็นวิวของแม่น้ำและป่าเขาลำเนาไพรดช่างสดชื่นใจ ซึ่งสะพานแห่งนี้หากมองจากมองด้านบนลงมาจะเห็นสะพานแห่งนี้เป็นรูปตัวS โดยได้รับการออกแบบจากฮิโรชิ เทชิกาฮาระ ผู้กำกับภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งของญี่ปุ่น ที่ออกแบบสะพานแห่งนี้ด้วยเหล็กเชื่อมโยงไปมาซับซ้อนเหมือนกับการถักเชือกเป็นรูปร่างต่างๆ ด้วยสองมือ (Cat’s Cradle) และนอกจากสะพานอายะโทรินี้แล้ว บริเวณใกล้กันยังมีอีก 2 สะพาน คือ สะพานโคโรงิ เป็นสะพานไม้สนฮิโนกิแบบดั้งเดิม และสะพานคุโรทานิ เป็นสะพานหินสถาปัตยกรรมสมัยยุคไทโช
อิ่มอร่อยกับอาหารทะเลปิ้งย่างที่ตลาดปลาโนะโตะ โชคุไซ อิชิบะ
ออกเที่ยวมาหลายแห่งแล้ว เรี่ยวแรงเริ่มหมด พวกเราได้แวะพักเติมพลังด้วยการมาอิ่มหนำกับอาหารกันที่นี่ “โนะโตะ โชคุไซ อิชิบะ” (Noto ShokusaI Ichiba) ที่นี่เป็นตลาดปลา เปิดมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1991 เป็นอาคารขนาดใหญ่โตกว้างขวาง มี 2 ชั้น เมื่อเข้ามาด้านในอาคารแล้วพวกเรารีบตรงดิ่งไปยังร้านอาหารด้านใน ที่บริการอาหารทะเลสดๆ หลากหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น กุ้ง หอย ปู ปลา ให้ได้ปิ้งย่างกินกันแบบอิ่มอร่อยกันอย่างเต็มที่ ซึ่งบอกเลยว่าอาหารทะเลของที่นี่สดจริง อร่อยจัง
ตลาดปลาโนะโตะ โชคุไซ อิชิบะ มีอาหารทะเลให้เลือกซื้อ
พอท้องอิ่มแล้วก็ออกเดินชมตลาดปลากันสักหน่อย มีร้านค้าหลายร้านที่ล้วนแล้วแต่นำอาหารทะเลสดๆ มาวางขายมากมาย รวมถึงยังมีร้านค้าขายขนม ขายของฝากของที่ระลึกให้ได้ เลือกซื้อติดไม้ติดมือกัน
นักท่องเที่ยวชาวไทยกับชาวบ้านที่หมู่บ้านชุนรันโนะซาโตะ
หลังจากอิ่มท้องกับอาหารทะเลสดๆ แล้ว จุดหมายปลายทางต่อไปที่พวกเราไปเยือนคือ “หมู่บ้านชุนรันโนะซาโตะ” (Shunran no Sato) พวกเรามุ่งหน้ามาที่นี่ไม่ได้แค่มาเที่ยวชมไม่กี่ชั่วโมงแล้วกลับกัน แต่ทริปนี้พวกเราเลือกที่จะมาสัมผัสกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรชาวญี่ปุ่นกัน ซึ่งหมู่บ้านชุนรันแห่งนี้ยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคนให้มานอนค้างแรมแบบโฮมสเตย์อันอบอุ่นกับชาวบ้านญี่ปุ่นที่น่ารัก

ส่วนที่มาที่ไปว่าเหตุใดหมู่บ้านชุนรันแห่งนี้จึงเปิดหมู่บ้านต้อนรับรับนักท่องเที่ยวให้มานอนค้างแรมนั้น เกิดมาจากการที่เมื่อสภาพสังคมในปัจจุบันของญี่ปุ่นเปลี่ยนไปทำให้หมู่บ้านนี้มีแต่ผู้สูงอายุ ที่อยู่กันแบบเรียบง่าย เกิดความเงียบเหงาที่ต้องอยู่กันเอง เพราะลูกหลานเข้าไปทำงาน ไปเรียนในเมืองใหญ่กันหมด ทำให้แม้แต่โรงเรียนประถมของหมู่บ้านก็ต้องปิดตัวลงเพราะไม่มีเด็กเล็กเข้ามาเรียน ทำให้คุณลุงอดีตครูใหญ่โรงเรียนลุกขึ้นมารวบรวมคุณลุงคุณป้าในหมู่บ้าน พร้อมใจกันเปิดบ้านรับคนจากภายนอกให้เข้ามาใช้ชีวิตร่วมกันในช่วงระยะเวลาสั้นๆ เพื่อให้ความมีชีวิตชีวากลับคืนมาสู่หมู่บ้านอีกครั้ง จึงทำให้เกิดเป็นโครงการโฮมสเตย์ขึ้นมา
บ้านโฮมสเตย์ของคุณป้านาโอโกะ เอโดะ
โดยมีบ้านที่เข้าร่วมโครงการอยู่ 47 หลัง บ้านละแต่ละหลังสามารถรับนักท่องเที่ยวได้หลังละ 2-4 คน ซึ่งการเข้าพักของนักท่องเที่ยวนอกจากจะเกิดรายได้ให้แก่ชาวบ้านแล้ว ยังส่งผลให้ชาวบ้านอย่างคุณลุง คุณป้า ที่ทำอาชีพเป็นชาวนา ชาวประมงได้กลับมามีความสุข มีชีวิตชีวาอีกครั้ง ที่ได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเข้าพักที่บ้านของตัวเอง ได้พูดคุย ได้ทำกับข้าวให้กิน ได้พานักท่องเที่ยวทำกิจกรรมต่างๆ ภายในหมู่บ้านกันอย่างสนุกสนาน

ทันทีที่เมื่อรถของพวกเรามาถึงหมู่บ้านชุนรัน ภาพที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าคือบรรยากาศของหมู่บ้านชนบทที่น่าอยู่มาก มี ทัศนียภาพของธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ มีขุนเขา ทุ่งนา และท้องทะเล ทำให้เรารู้สึกสดชื่นใจดีจริงแล้ว แต่ก็ยังไม่เทียบเท่ากับคุณลุงคุณป้าและชาวบ้านที่น่ารักมายืนยิ้มรอคอยต้อนรับพวกเราอยู่ ช่างเป็นภาพที่ทำให้พวกเราประทับใจเป็นเท่าทวีคูณ
อร่อยกับอาหารท้องถิ่นในบ้านพัก
พวกเรามาเป็นทัวร์คณะใหญ่ ทำให้ต้องแยกย้ายกันไปพักตามบ้านต่างๆ ของคุณลุงคุณป้าแต่ละคนที่ถูกจัดไว้ให้แล้ว “ตะลอนเที่ยว” ได้เข้าพักบ้านของคุณป้านาโอโกะ เอโดะ บ้านคุณป้าหลังใหญ่ หน้าบ้านมีวิวทะเล หลังบ้านติดภูเขา บ้านพักน่าอยู่มาก เป็นบ้านสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม พื้นบ้านปูด้วยเสื่อทาทามิ โถงใหญ่กลางบ้านมีเตาอิโรริ เป็นเตาถ่านแบบดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่นที่จะมีไว้กลางบ้าน ก่อกองไฟไว้สร้างความอบอุ่นให้แก่ภายในบ้านได้เป็นอย่างดี มีห้องน้ำแสนสะอาดให้บริการ

ส่วนเรื่องอาหารการกินไม่ต้องเป็นกังวล เพราะชาวบ้านจะสรรหาอาหารอย่างดี ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่หาได้จากภายในท้องถิ่นอย่างข้าวจากนาที่ปลูกเอง ผักที่ปลูกแบบปลอดสารพิษ อาหารทะเลจากท้องทะเลสดๆ มาปรุงแต่งเป็นเมนูอาหารญี่ปุ่นท้องถิ่นเลิศรสหลากหลายให้พวกเราได้ลองลิ้มและกินกันจนอิ่มแน่นท้อง ส่วนเรื่องที่หลับที่นอนก็มีห้องนอนที่ตระเตรียมไว้อย่างดี ซึ่งคุณป้านาโอโกะได้จัดเตรียมฟุตง คือที่นอนแบบญี่ปุ่นที่ใช้ปูกับพื้นนอน ให้พวกเราได้สัมผัสกับการนอนแบบคนญี่ปุ่นขนานแท้ ขอบอกว่าที่นอนนุ่มหลับอุ่นสบายมาก
สัมผัสการใช้ชีวิตในบ้านพักของคนญี่ปุ่น
แล้วแม้ว่าคุณป้านาโอโกะจะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่ภาษาไม่ใช่อุปสรรคในการผูกมิตรกับพวกเราเลย พวกเราใช้ภาษากายและภาษามือสื่อสารกัน รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง แต่ก็สามารถสื่อสารกันจนสำเร็จแบบสนุกสนาน เรียกเสียงฮาและรอยยิ้มตลอดเวลา (แต่ว่าบ้านพักโอมสเตย์บางหลัง ก็มีคนญี่ปุ่นที่พูดภาษาอังกฤษได้ด้วย)

การเข้าพักโฮมสเตย์ที่นี่ยังมีกิจกรรมให้ได้ร่วมทำกับเจ้าของบ้านด้วย แต่อาจจะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับว่าเจ้าของบ้านแต่ละหลังได้ตระเตรียมกิจกรรมอะไรไว้ อาทิ การทำอาหารร่วมกับเจ้าของบ้าน ไปเก็บผัก รีดนมแพะ พาเดินเที่ยวชมหมู่บ้าน เป็นต้น ซึ่งบอกได้จากใจเลยว่าการได้เข้าพักที่หมู่บ้านชุนรันแห่งนี้ทำให้พวกเราได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ ได้พบเจอมิตรภาพใหม่อันดีงามจากคุณลุงคุณป้าที่น่ารักมาก ดูแลแขกที่มาเยือนราวกับคนในครอบครัว หยิบยื่นรอยยิ้ม น้ำใจและมิตรไมตรีจากใจจริงมอบให้แก่พวกเราได้จดจำไปอีกนานแสนนาน (เส้นทางท่องเที่ยวในจังหวัดอิชิกะวะยังไม่จบ ติดตามต่อในตอนต่อไป ว่าพวกเราจะไปเที่ยวที่ไหนกัน)
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

บริษัท เวิลด์โปรแทรเวิล จำกัด (World Pro Travel Co.,LTD.) เป็นบริษัททัวร์ที่มีการจัดทำเส้นทางท่องเที่ยวอันหลากหลายมีความแปลกใหม่ ให้ผู้ที่รักและชื่นชอบการท่องเที่ยวได้เปิดโลกกว้าง ออกไปสัมผัสกับสถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกอันงดงาม ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-2026-3372, line id : wpoutbound หรือดูรายละเอียดได้ที่ www.worldprotravel.com/tour-program, www.facebook.com/WorldProTravel หรือสอบถามข้อมูลได้ที่ E-mail : outbound@worldprotravel.com และดูข้อมูลการท่องเที่ยวจังหวัดอิชิกะวะได้ที่ http://www.hot-ishikawa.jp/thai
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
กำลังโหลดความคิดเห็น