Facebook :Travel @ Manager

กำแพงเพชร เป็นจังหวัดเล็กๆ ที่มีมนต์เสน่ห์ เป็นเมืองที่เก่าแก่และมีประวัติศาสตร์ยาวนานจังหวัดหนึ่ง โดย “ตะลอนเที่ยว” มากำแพงเพชรคราวนี้ เพราะอยากชักชวนกันไปท่องเที่ยวเรียนรู้เรื่องราวของจังหวัดกำแพงเพชร ที่นอกจากจะเป็นเมืองเก่าแก่แล้ว ยังเป็นเมืองพระพุทธศาสนาที่เต็มไปด้วยวัดเก่าแก่มีคุณค่าด้วย

โดยสถานที่จะพาไปแห่งแรกก็คือ “วัดทุ่งสนุ่นรัตนาราม” ตั้งอยู่ที่ บ้านทุ่งสนุ่น อำเภอบึงสามัคคี เริ่มสร้างวัดเมื่อ พ.ศ. 2492 โดยชาวบ้านซึ่งมีเชื้อสายลาวครั่ง และลาวเวียง ได้อพยพโยกย้ายถิ่นฐานมาจับจองที่ดินเพื่อทำมาหากินที่บริเวณอำเภอนี้ ซึ่งในขณะนั้นบริเวณนี้ยังเป็นป่าดงดิบเต็มไปด้วยสัตว์ป่า อุดมสมบูรณ์ด้วยแหล่งน้ำ และมีต้นสนุ่นเกิดอยู่เต็มท้องทุ่งนา ชาวบ้านจึงเรียกขานบ้านตนเองว่าบ้านทุ่งสนุ่น
ที่บ้านทุ่งสนุ่น มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ และทัศนคติที่อาจจะเห็นต่างกันบ้าง แต่ก็ได้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนากับศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านมาเป็นตัวสื่อกลางหล่อหลอมเชื่อมความหลากหลายทางเชื้อชาติ ให้รวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน โดยจะเห็นได้จากเวลาที่วัดจัดงานประเพณีบุญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นประเพณีไทยหรือประเพณีอีสาน ต่างก็ได้รับความสนใจจากประชาชนเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเพณีบุญผะเหวด ซึ่งทางวัดได้จัดเป็นประจำทุกปี

และภายในวัดนี้มี “พระแก้วไหมทอง” เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้านละแวกนี้ โดยเป็นพระที่แกะสลักจากหินไหมทอง มีขนาดประมาณ 3 นิ้ว มีลักษณะไหมทองขึ้นเต็มองค์ ซึ่งที่เห็นในรูปนี้พระแก้วไหมทองทรงเครื่องทองคำประดับนพรัตน์และอัญมณีล้ำค่า โดยทางวัดจะเก็บไว้ในห้องนิรภัย และจะอัญเชิญมาให้ประชาชนกราบไหว้เฉพาะเทศกาลสำคัญเท่านั้น

จากนั้นไปชมอีกหนึ่งเอกลักษณ์อันโดดเด่นของกำแพงเพชร นั้นก็คือสินค้าที่ผลิตมาจากแร่ดีบุกที่ “ดีบุกกำแพงเพชร” โดยความเป็นมาเริ่มต้นมาจากเจ้าของผลิตภัณฑ์สะสมประสบการณ์การทำงานในโรงงานผลิตพิวเตอร์แวร์ในกรุงเทพฯ จนเกิดความชำนาญ และได้นำความรู้กลับมายังภูมิลำเนา เพื่อถ่ายทอดให้กับคนในครอบครัว และท้องถิ่น

จากการฝึกฝนเรื่อยมาจนเกิดความชำนาญการ และสร้างชิ้นงานปรับรูปแบบต่างๆ ให้เข้ากับยุคสมัย แต่ยังคงความสวยงามมีเอกลักษณ์ไทย ด้วยลวดลายเส้นต่างๆ ที่ยังคงเป็นเรื่องเล่าวิถีชีวิตและประเพณีไทยแบบในสมัยก่อน และได้มีการสอดแทรกชิ้นงานโดยการนำความรู้เรื่องการดุนโลหะ การปั้น การกัดกรด มาผสมผสานกันเป็นผลงานในรูปแบบที่มีเอกลักษณ์ของที่นี่ให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติได้ชื่นชมผลงานอันล้ำค่า

และเมื่อมาท่องเที่ยวในเมืองที่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ “ตะลอนเที่ยว” ก็ไม่พลาดที่จะพาไปชมโบราณสถานกำแพงเพชร ที่ “อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร” โดยในสมัยอยุธยา เมืองกำแพงเพชรได้เป็นหัวเมืองหนึ่งของกรุงศรีอยุธยาในกลุ่มของหัวเมืองเหนือ และยังคงมีบทบาทสำคัญในฐานะเมืองหน้าด่านที่ต้องคอยรับศึกจากกองทัพพม่า จากประวัติศาสตร์ความเป็นมาและตำแหน่งที่ตั้งของเมืองกำแพงเพชรที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างแคว้นสุโขทัยกับกรุงศรีอยุธยา และในขณะเดียวกันก็สามารถติดต่อกับบ้านเมืองในเขตล้านนาที่อยู่ทางเหนือได้อย่างสะดวก

ภายในอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรทั้งในเมืองและนอกเมือง จะมีโบราณสถานขนาดใหญ่น้อยเป็นจำนวนมาก เกือบทั้งหมดเป็นศาสนสถาน บริเวณกลางเมืองมีวัดพระแก้ว วัดพระธาตุเป็นศูนย์กลาง มีลักษณะเป็นวัดหลวงที่มีเฉพาะเขตพุทธาวาสไม่มีพระภิกษุจำพรรษา ทางด้านทิศเหนือของวัดพระแก้วเป็นบริเวณที่เรียกว่า สระมน (เชื่อกันว่าเป็นบริเวณวังโบราณ) และเทวสถานศาลพระอิศวร ซึ่งสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา

บริเวณนอกเมืองทางด้านทิศเหนือ มีกลุ่มโบราณสถานขนาดใหญ่น้อยประมาณ 40 แห่ง สร้างอยู่บนเนินเขาลูกรังขนาดย่อม จัดเป็นเขตอรัญญิกของเมืองกำแพงเพชร โบราณสถานสำคัญ ได้แก่ วัดพระนอน วัดพระสี่อิริยาบถ วัดสิงห์ วัดกำแพงงาม วัดช้างรอบ เป็นต้น นับเป็นงานสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์อันงดงามโดดเด่นของเมืองกำแพงเพชร โดยวัสดุหลักในการก่อสร้างนั้นจะใช้ศิลาแลงประกอบกับศิลปกรรมของสกุลช่างเมืองกำแพงเพชรควบคู่กัน

นอกจากจะเป็นเมืองที่มีเรื่องราวอันโดดเด่นในเรื่องของประวัติศาสตร์แล้ว กำแพงเพชรยังมีความงดงามของทิวทัศน์ของธรรมชาติอันงดงาม อย่างที่ “อุทยานแห่งชาติแม่วงก์” ตั้งอยู่ในเขตภาคเหนือตอนล่างภาคกลางตอนบน ครอบคลุมพื้นที่สองจังหวัดคือ อำเภอปางศิลาทอง จังหวัดกำแพงเพชร และอำเภอแม่วงก์ กิ่งอำเภอแม่เปิน จังหวัดนครสวรรค์ โดยมีลำน้ำแม่วงก์เป็นเส้นแบ่งเขตจังหวัด
ภายในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ก็ยังมีอีกหลายแหล่งท่องเที่ยวให้ได้ไปเที่ยวกัน เช่น มาชมทิวทัศน์สวยๆที่จุดชมวิวกิ่วกระทิง มาชมทัศนียภาพของผืนป่าแม่วงก์ รวมทั้งยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าได้อีกด้วย
หากใครอยากจะสัมผัสอากาศเย็นๆ คล้ายอยู่บนยอดดอย ก็ต้องมาที่ช่องเย็น โดยช่องเย็นนี้มีลักษณะเป็นช่องเขาที่มีลมพัดผ่านตลอดทั้งปี ช่องเย็นจึงเป็นจุดกางเต็นท์อีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อนกันในวันหยุด ซึ่งนอกจากจะมารับอากาศเย็นๆ แล้ว บริเวณนี้ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นที่สวยงาม อีกทั้งยังเป็นแหล่งดูนกนานาชนิด

หากใครอยากไปสัมผัสกับความสดชื่นกันแบบใกล้ชิดธรรมชาติ จะต้องไปที่ “อุทยานแห่งชาติคลองลาน” เป็นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเก็บเกี่ยวความสุขจากความบริสุทธิ์ของธรรมชาติ และมีกิจกรรมที่น่าสนใจภายในอุทยาน อย่างเช่น น้ำตกคลองลาน ที่อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 200 เมตร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ไหลลงมาจากหน้าผาสูง บริเวณด้านล่างของน้ำตกเป็นแอ่งน้ำที่สามารถเล่นน้ำได้ตลอดทั้งปี

และยังมีอีกหนึ่งความน่าสนใจของเมืองกำแพงเพชร ก็คือ “วัดพระบรมธาตุนครชุม” เป็นวัดเก่าแก่อยู่คู่เมืองกำแพงเพชรมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ที่วัดแห่งนี้ได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุจากประเทศศรีลังกา โดยพญาลิไททรงประดิษฐานไว้เมื่อปี พ.ศ.1900 ประชาชนชาวกำแพงเพชรมีความศรัทธาต่อองค์พระธาตุเป็นอย่างมาก


ภายในมีเจดีย์ทรงสูงใหญ่ สวยงามไปด้วยสถาปัตยกรรมและสีทองอร่ามทั้งองค์ มีลักษณะรูปทรงเดียวกับเจดีย์ชเวดากองในเมืองพม่า เป็นพระบรมเจดีย์ ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ จำนวน 9 องค์ เป็นพระบรมธาตุเจดีย์อยู่คู่เมืองกำแพงเพชร มาตั้งแต่สมัยเป็นเมืองนครชุม มีระยะเวลายาวนานกว่า 600 ปี และยังคงยั่งยืนสืบต่อกันมาเป็นองค์มหาเจดีย์แห่งศรัทธา จวบจนปัจจุบัน นอกจากนี้ในทุกเย็นของวันอาทิตย์จะมีการสวดพระธรรมจักร หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “ธรรมจักรซันเดย์”

ใกล้กับวัดพระบรมธาตุนครชุมจะมี “ตลาดย้อนยุคนครชุม” ตลาดย้อนยุคที่มาในคอนเซปต์ “เสน่ห์บ้านปิด ตลาดเปิด” จะเริ่มประมาณ 16.00 น. เสน่ห์ของตลาดแห่งนี้คือ บรรดาแม่ค้า พ่อค้า จะแต่งกายด้วยชุดไทยโบราณย้อนยุค มาขายอาหารที่มีทั้งของคาว ของหวาน รวมถึงเครื่องดื่มและสินค้าต่างๆ ต่อเนื่องบนถนน ที่ปิดให้เป็นถนนคนเดิน ความยาวประมาณ 300 เมตร โดยเลือกซื้อแล้วก็สามารถนำมานั่งกินในบริเวณที่ทางตลาดจัดไว้ให้ได้ด้วย โดยตลาดย้อนยุคแห่งนี้จะเปิดในทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ แรกของเดือน ใครที่มาเที่ยวในช่วงนั้นก็อย่าพลาดมาชม ชิม ชอป พร้อมสัมผัสวิถีโบราณกันสักครั้ง

การได้มาชมเมืองเก่าของจังหวัดกำแพงเพชร นอกจากจะได้ชมประวัติศาสตร์ที่มีเรื่องราวที่น่าสนใจแล้ว ยังได้สัมผัสกับธรรมชาติอันงดงาม รวมถึงวิถีชีวิตอันเรียบง่ายที่มีเสน่ห์และเป็นเอกลักษณ์ มาเติมเต็มความสุข ความประทับใจให้กับการมาเยือนอย่างมิลืมเลือน
สอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวของจังหวัดกำแพงเพชรเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุโขทัย (ดูแลสุโขทัย กำแพงเพชร) โทร. 0-5561-6228-9
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
กำแพงเพชร เป็นจังหวัดเล็กๆ ที่มีมนต์เสน่ห์ เป็นเมืองที่เก่าแก่และมีประวัติศาสตร์ยาวนานจังหวัดหนึ่ง โดย “ตะลอนเที่ยว” มากำแพงเพชรคราวนี้ เพราะอยากชักชวนกันไปท่องเที่ยวเรียนรู้เรื่องราวของจังหวัดกำแพงเพชร ที่นอกจากจะเป็นเมืองเก่าแก่แล้ว ยังเป็นเมืองพระพุทธศาสนาที่เต็มไปด้วยวัดเก่าแก่มีคุณค่าด้วย
โดยสถานที่จะพาไปแห่งแรกก็คือ “วัดทุ่งสนุ่นรัตนาราม” ตั้งอยู่ที่ บ้านทุ่งสนุ่น อำเภอบึงสามัคคี เริ่มสร้างวัดเมื่อ พ.ศ. 2492 โดยชาวบ้านซึ่งมีเชื้อสายลาวครั่ง และลาวเวียง ได้อพยพโยกย้ายถิ่นฐานมาจับจองที่ดินเพื่อทำมาหากินที่บริเวณอำเภอนี้ ซึ่งในขณะนั้นบริเวณนี้ยังเป็นป่าดงดิบเต็มไปด้วยสัตว์ป่า อุดมสมบูรณ์ด้วยแหล่งน้ำ และมีต้นสนุ่นเกิดอยู่เต็มท้องทุ่งนา ชาวบ้านจึงเรียกขานบ้านตนเองว่าบ้านทุ่งสนุ่น
ที่บ้านทุ่งสนุ่น มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ และทัศนคติที่อาจจะเห็นต่างกันบ้าง แต่ก็ได้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนากับศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านมาเป็นตัวสื่อกลางหล่อหลอมเชื่อมความหลากหลายทางเชื้อชาติ ให้รวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน โดยจะเห็นได้จากเวลาที่วัดจัดงานประเพณีบุญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นประเพณีไทยหรือประเพณีอีสาน ต่างก็ได้รับความสนใจจากประชาชนเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเพณีบุญผะเหวด ซึ่งทางวัดได้จัดเป็นประจำทุกปี
และภายในวัดนี้มี “พระแก้วไหมทอง” เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้านละแวกนี้ โดยเป็นพระที่แกะสลักจากหินไหมทอง มีขนาดประมาณ 3 นิ้ว มีลักษณะไหมทองขึ้นเต็มองค์ ซึ่งที่เห็นในรูปนี้พระแก้วไหมทองทรงเครื่องทองคำประดับนพรัตน์และอัญมณีล้ำค่า โดยทางวัดจะเก็บไว้ในห้องนิรภัย และจะอัญเชิญมาให้ประชาชนกราบไหว้เฉพาะเทศกาลสำคัญเท่านั้น
จากนั้นไปชมอีกหนึ่งเอกลักษณ์อันโดดเด่นของกำแพงเพชร นั้นก็คือสินค้าที่ผลิตมาจากแร่ดีบุกที่ “ดีบุกกำแพงเพชร” โดยความเป็นมาเริ่มต้นมาจากเจ้าของผลิตภัณฑ์สะสมประสบการณ์การทำงานในโรงงานผลิตพิวเตอร์แวร์ในกรุงเทพฯ จนเกิดความชำนาญ และได้นำความรู้กลับมายังภูมิลำเนา เพื่อถ่ายทอดให้กับคนในครอบครัว และท้องถิ่น
จากการฝึกฝนเรื่อยมาจนเกิดความชำนาญการ และสร้างชิ้นงานปรับรูปแบบต่างๆ ให้เข้ากับยุคสมัย แต่ยังคงความสวยงามมีเอกลักษณ์ไทย ด้วยลวดลายเส้นต่างๆ ที่ยังคงเป็นเรื่องเล่าวิถีชีวิตและประเพณีไทยแบบในสมัยก่อน และได้มีการสอดแทรกชิ้นงานโดยการนำความรู้เรื่องการดุนโลหะ การปั้น การกัดกรด มาผสมผสานกันเป็นผลงานในรูปแบบที่มีเอกลักษณ์ของที่นี่ให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติได้ชื่นชมผลงานอันล้ำค่า
และเมื่อมาท่องเที่ยวในเมืองที่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ “ตะลอนเที่ยว” ก็ไม่พลาดที่จะพาไปชมโบราณสถานกำแพงเพชร ที่ “อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร” โดยในสมัยอยุธยา เมืองกำแพงเพชรได้เป็นหัวเมืองหนึ่งของกรุงศรีอยุธยาในกลุ่มของหัวเมืองเหนือ และยังคงมีบทบาทสำคัญในฐานะเมืองหน้าด่านที่ต้องคอยรับศึกจากกองทัพพม่า จากประวัติศาสตร์ความเป็นมาและตำแหน่งที่ตั้งของเมืองกำแพงเพชรที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างแคว้นสุโขทัยกับกรุงศรีอยุธยา และในขณะเดียวกันก็สามารถติดต่อกับบ้านเมืองในเขตล้านนาที่อยู่ทางเหนือได้อย่างสะดวก
ภายในอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรทั้งในเมืองและนอกเมือง จะมีโบราณสถานขนาดใหญ่น้อยเป็นจำนวนมาก เกือบทั้งหมดเป็นศาสนสถาน บริเวณกลางเมืองมีวัดพระแก้ว วัดพระธาตุเป็นศูนย์กลาง มีลักษณะเป็นวัดหลวงที่มีเฉพาะเขตพุทธาวาสไม่มีพระภิกษุจำพรรษา ทางด้านทิศเหนือของวัดพระแก้วเป็นบริเวณที่เรียกว่า สระมน (เชื่อกันว่าเป็นบริเวณวังโบราณ) และเทวสถานศาลพระอิศวร ซึ่งสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา
บริเวณนอกเมืองทางด้านทิศเหนือ มีกลุ่มโบราณสถานขนาดใหญ่น้อยประมาณ 40 แห่ง สร้างอยู่บนเนินเขาลูกรังขนาดย่อม จัดเป็นเขตอรัญญิกของเมืองกำแพงเพชร โบราณสถานสำคัญ ได้แก่ วัดพระนอน วัดพระสี่อิริยาบถ วัดสิงห์ วัดกำแพงงาม วัดช้างรอบ เป็นต้น นับเป็นงานสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์อันงดงามโดดเด่นของเมืองกำแพงเพชร โดยวัสดุหลักในการก่อสร้างนั้นจะใช้ศิลาแลงประกอบกับศิลปกรรมของสกุลช่างเมืองกำแพงเพชรควบคู่กัน
นอกจากจะเป็นเมืองที่มีเรื่องราวอันโดดเด่นในเรื่องของประวัติศาสตร์แล้ว กำแพงเพชรยังมีความงดงามของทิวทัศน์ของธรรมชาติอันงดงาม อย่างที่ “อุทยานแห่งชาติแม่วงก์” ตั้งอยู่ในเขตภาคเหนือตอนล่างภาคกลางตอนบน ครอบคลุมพื้นที่สองจังหวัดคือ อำเภอปางศิลาทอง จังหวัดกำแพงเพชร และอำเภอแม่วงก์ กิ่งอำเภอแม่เปิน จังหวัดนครสวรรค์ โดยมีลำน้ำแม่วงก์เป็นเส้นแบ่งเขตจังหวัด
ภายในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ก็ยังมีอีกหลายแหล่งท่องเที่ยวให้ได้ไปเที่ยวกัน เช่น มาชมทิวทัศน์สวยๆที่จุดชมวิวกิ่วกระทิง มาชมทัศนียภาพของผืนป่าแม่วงก์ รวมทั้งยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าได้อีกด้วย
หากใครอยากจะสัมผัสอากาศเย็นๆ คล้ายอยู่บนยอดดอย ก็ต้องมาที่ช่องเย็น โดยช่องเย็นนี้มีลักษณะเป็นช่องเขาที่มีลมพัดผ่านตลอดทั้งปี ช่องเย็นจึงเป็นจุดกางเต็นท์อีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อนกันในวันหยุด ซึ่งนอกจากจะมารับอากาศเย็นๆ แล้ว บริเวณนี้ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นที่สวยงาม อีกทั้งยังเป็นแหล่งดูนกนานาชนิด
หากใครอยากไปสัมผัสกับความสดชื่นกันแบบใกล้ชิดธรรมชาติ จะต้องไปที่ “อุทยานแห่งชาติคลองลาน” เป็นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเก็บเกี่ยวความสุขจากความบริสุทธิ์ของธรรมชาติ และมีกิจกรรมที่น่าสนใจภายในอุทยาน อย่างเช่น น้ำตกคลองลาน ที่อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 200 เมตร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ไหลลงมาจากหน้าผาสูง บริเวณด้านล่างของน้ำตกเป็นแอ่งน้ำที่สามารถเล่นน้ำได้ตลอดทั้งปี
และยังมีอีกหนึ่งความน่าสนใจของเมืองกำแพงเพชร ก็คือ “วัดพระบรมธาตุนครชุม” เป็นวัดเก่าแก่อยู่คู่เมืองกำแพงเพชรมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ที่วัดแห่งนี้ได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุจากประเทศศรีลังกา โดยพญาลิไททรงประดิษฐานไว้เมื่อปี พ.ศ.1900 ประชาชนชาวกำแพงเพชรมีความศรัทธาต่อองค์พระธาตุเป็นอย่างมาก
ภายในมีเจดีย์ทรงสูงใหญ่ สวยงามไปด้วยสถาปัตยกรรมและสีทองอร่ามทั้งองค์ มีลักษณะรูปทรงเดียวกับเจดีย์ชเวดากองในเมืองพม่า เป็นพระบรมเจดีย์ ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ จำนวน 9 องค์ เป็นพระบรมธาตุเจดีย์อยู่คู่เมืองกำแพงเพชร มาตั้งแต่สมัยเป็นเมืองนครชุม มีระยะเวลายาวนานกว่า 600 ปี และยังคงยั่งยืนสืบต่อกันมาเป็นองค์มหาเจดีย์แห่งศรัทธา จวบจนปัจจุบัน นอกจากนี้ในทุกเย็นของวันอาทิตย์จะมีการสวดพระธรรมจักร หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “ธรรมจักรซันเดย์”
ใกล้กับวัดพระบรมธาตุนครชุมจะมี “ตลาดย้อนยุคนครชุม” ตลาดย้อนยุคที่มาในคอนเซปต์ “เสน่ห์บ้านปิด ตลาดเปิด” จะเริ่มประมาณ 16.00 น. เสน่ห์ของตลาดแห่งนี้คือ บรรดาแม่ค้า พ่อค้า จะแต่งกายด้วยชุดไทยโบราณย้อนยุค มาขายอาหารที่มีทั้งของคาว ของหวาน รวมถึงเครื่องดื่มและสินค้าต่างๆ ต่อเนื่องบนถนน ที่ปิดให้เป็นถนนคนเดิน ความยาวประมาณ 300 เมตร โดยเลือกซื้อแล้วก็สามารถนำมานั่งกินในบริเวณที่ทางตลาดจัดไว้ให้ได้ด้วย โดยตลาดย้อนยุคแห่งนี้จะเปิดในทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ แรกของเดือน ใครที่มาเที่ยวในช่วงนั้นก็อย่าพลาดมาชม ชิม ชอป พร้อมสัมผัสวิถีโบราณกันสักครั้ง
การได้มาชมเมืองเก่าของจังหวัดกำแพงเพชร นอกจากจะได้ชมประวัติศาสตร์ที่มีเรื่องราวที่น่าสนใจแล้ว ยังได้สัมผัสกับธรรมชาติอันงดงาม รวมถึงวิถีชีวิตอันเรียบง่ายที่มีเสน่ห์และเป็นเอกลักษณ์ มาเติมเต็มความสุข ความประทับใจให้กับการมาเยือนอย่างมิลืมเลือน
สอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวของจังหวัดกำแพงเพชรเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุโขทัย (ดูแลสุโขทัย กำแพงเพชร) โทร. 0-5561-6228-9
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager