Facebook :Travel @ Manager
![แหวนกลนามสกุล งานทำมือสุดคลาสสิกจากบ้านแหวนกล เมืองจันท์](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/561000009157506.JPEG)
"แหวน" คือเครื่องประดับของหญิงและชายที่ทุกคนรู้จักกันดีอยู่แล้ว
แต่หากพูดถึง "แหวนกล" เชื่อว่ามีคนไม่น้อยที่ไม่รู้จัก ไม่เคยได้ยิน
แล้ว "แหวนกล" คืออะไร...
“แหวนกล” มีที่มาจากประเทศแถบตะวันออกกลางหรืออาหรับ ซึ่งเรียกแหวนเหล่านี้ว่า Puzzle Ring หรือ Turkish Wedding Ring เป็นแหวนที่ประกอบด้วยแหวนหลายวงเกาะเกี่ยวกันไว้ หากใครประกอบไม่เป็นหรือไม่รู้วิธี ก็ไม่สามารถทำให้เป็นวงเพื่อสวมใส่ได้ แหวนกลจึงได้ชื่อว่าเป็น "เครื่องประดับแห่งปัญญา" ไม่เพียงสวยงามอย่างเดียว แต่ต้องใช้สมองและสองมือประกอบขึ้นมาให้ได้ คล้ายกับการเล่นรูบิคอย่างไรอย่างนั้น
![ชูเกียรติ เนียมทอง หรือช่างหรีด](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/561000009157501.JPEG)
ในเมืองไทยเองก็มีช่างทำแหวนกลเช่นกัน โดยมีเฉพาะในจังหวัดจันทบุรีเท่านั้น เพราะวิชาช่างนี้จะสืบทอดให้เฉพาะคนในครอบครัวหรือเครือญาติ แต่ก่อนมักเรียกว่า “แหวนปู แหวนปลา” เพราะแหวนกลของเมืองจันท์จะมีจุดเด่นแตกต่างจากที่อื่นที่มักจะทำหน้าแหวนเป็นรูปสัตว์ต่างๆ เช่น ปู ปลา หรือรูปนักษัตรต่างๆ ขณะที่ของประเทศอื่นมักทำเป็นลวดลายเรียบๆ
แหวนกลเข้ามาที่จังหวัดจันทบุรีได้อย่างไรนั้น... ในเว็บไซต์สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดจันทบุรี ระบุไว้ว่า นายหยี เจียระไน ชาวบ้านบางกะจะ เป็นผู้คิดประดิษฐ์แหวนปูเป็นคนแรก โดยนายหยีเคยยึดอาชีพเป็นช่างทองที่กรุงเทพฯ ได้เห็นแหวนกลของฝรั่งที่ทำเป็นห่วงวงคล้องไขว้กันไปมา แม้จะแยกออกได้ก็ยังติดกันเป็นพวง และสามารถประกอบเข้าใหม่ได้ ต่อมาเมื่อกลับสู่บ้านเกิดที่จันทบุรีจึงได้นำประสบการณ์และฝีมือทำทองที่ตนมีอยู่เดิมมาคิดประดิษฐ์เป็นแหวนปู ซึ่งเป็นแหวนกลอย่างแหวนฝรั่ง
![สภาพแหวนกลเมื่อคลายออกมา](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/561000009157502.JPEG)
ต่อมามีผู้มาสืบทอดวิชาจากนายหยี คือนายสายัณห์ ภูมิภักดิ์ ซึ่งเรียนวิชาช่างทองจากปู่ที่ชื่อนายพิณ ภูมิภักดิ์ นายสายัณห์ได้คิดรูปแบบแหวนกลเพิ่มขึ้นได้อีกหลายอย่าง เช่น แหวนปลา ซึ่งก็มีหลายประเภทด้วยกัน ทั้งปลากระบอก ปลาเก๋า ปลากุเลา ปลากะพง ไปจนถึงพญานาค
ในวันนี้ที่ได้มาเยือน “จันทบุรี” อันเป็นแหล่งทำแหวนกลดั้งเดิมในเมืองไทย เป็นโอกาสดีที่เราได้มาพูดคุยกับช่างทำแหวนกลแห่งเมืองจันท์ “ชูเกียรติ เนียมทอง” หรือ "ช่างหรีด" ที่สืบทอดวิชาช่างทำแหวนกลมาโดยตรงจากนายสายัณห์ ภูมิภักดิ์ ซึ่งเกี่ยวดองเป็นญาติกัน
“พื้นเพผมเป็นคนสุพรรณบุรี แต่ตอนที่เรียนอยู่ชั้น ม.1 พอปิดเทอมก็ได้มาเที่ยวบ้านญาติที่จันทบุรี ได้มาเห็นลุงทำทองทำแหวน ลุงก็ชักชวนมาทางเตี่ยว่าอยากจะชวนผมมาทำงาน ก็เลยตัดสินใจมาทำตามใจเตี่ย ก่อนจะเปิดเทอมก็ย้ายจากสุพรรณฯ มาอยู่จันท์ มาเพื่อเรียนรู้การทำทองและทำแหวนกล และอยู่ยาวมาถึงปัจจุบัน เกือบจะ 30 ปีแล้ว” ชูเกียรติเล่า และอธิบายถึงแหวนกลว่า
![แหวนกลรูปสัตว์ ทั้งเต่า กุ้ง และรูปดอกไม้](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/561000009157503.JPEG)
“ลักษณะของแหวนกลจะมีก้าน (วง) ประกอบกันตั้งแต่ 2 ก้านขึ้นไป แต่ที่คนนิยมก็คือ 4 ก้าน หรือ 8 ก้าน และที่เคยทำมากที่สุดก็คือ 12 ก้าน ทำเป็นแหวนนามสกุลผมเอง การประกอบแหวนก็เหมือนกับเป็นการสานชิ้นงาน มันจะมีวิธีไขว้ของมัน คล้ายๆ กับรูบิก เมื่อประกอบเสร็จก็จะมีรูปสัตว์หรือรูปอื่นๆ อยู่ที่หน้าแหวน ถ้าคนไม่รู้วิธีก็จะไม่สามารถประกอบเป็นวงได้ ตรงนี้คือเสน่ห์ของแหวนกล”
“ถ้าลูกค้ามาสั่งทำแหวนผมก็จะสอนวิธีประกอบให้ แต่ส่วนมากออกไปหน้าปากซอยก็ลืมวิธีแล้ว หลายคนที่ซื้อไปแล้วจึงต้องกลับมาหาเพราะจำวิธีประกอบไม่ได้ ผมเลยพูดเล่นกับลูกค้าบ่อยๆ ว่าถ้าอยากมาเที่ยวเมืองจันท์เมื่อไหร่ก็ให้แกะแหวน เดี๋ยวก็ได้กลับมา” ชูเกียรติเล่าพร้อมหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
![แหวนกลรูปเต่าตัวน้อยประดับด้วยอัญมณี](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/561000009157504.JPEG)
แหวนกลที่ทำขึ้นในรุ่นก่อนๆ มักจะทำเป็นรูปสัตว์ เช่น แหวนปู แหวนปลา แหวนนักษัตร และพัฒนามาให้หลากหลายมากขึ้น ทั้งเต่า กุ้ง แมงป่อง สิงโต กระต่าย และแม้กระทั่งหมีริลัคคุมะ! ฯลฯ อีกทั้งช่างจะมีลูกเล่นเล็กๆ น้อยๆ เช่นทำให้เต่ากระดิกหัวและหางได้ ลูกตาปูดิ้นได้ หัวริลัคคุมะส่ายได้ โดยที่บ้านแหวนกลจะใช้วัสดุทำแหวนสองอย่างคือทองและเงิน พร้อมทั้งเพิ่มความล้ำค่าและความงามด้วยการประดับพลอยจันท์และอัญมณีต่างๆ ให้สมชื่อเมืองแห่งอัญมณี
แต่ชูเกียรติไม่หยุดพัฒนางานออกแบบไว้เพียงเท่านั้น เขามองว่าถ้าไม่ทำเช่นนั้นงานมันจะนิ่งและตายไป โดยกล่าวว่า “ผมทำงานมา 30 กว่าปี มองว่างานมันต้องพัฒนารูปแบบไปเรื่อยๆ เพราะถ้าไม่พัฒนามันจะตายในที่สุด และมันไม่มีทางเลือกให้ลูกค้า เราจึงต้องคิดฉีกแนวออกมาจากงานเดิมๆ โดยที่เราไม่ได้ทิ้งรูปฟอร์มจากงานดั้งเดิมที่เป็นเอกลักษณ์ของเรา”
![แหวนกลรูปดอกไม้งามเลอค่า](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/561000009157505.JPEG)
การพัฒนาขั้นต่อมาของชูเกียรติก็คือการทำ “แหวนกลชื่อและนามสกุล” ที่เรียกได้ว่าเป็นคนแรกและคนเดียวในเมืองไทยที่ทำแหวนกลลักษณะนี้
“มีช่วงหนึ่งที่งานน้อยลง เราจึงมีเวลาที่จะนั่งคิดออกแบบทำงานใหม่ๆ และอยากจะหนีจากเงาของคุณลุงสายัณห์ อยากมีลายเซ็นของตัวเอง อยากมีผลงานที่ต่างไปจากของเดิมแบบชนิดที่ว่าก็อปปี้ได้ยาก เราเบื่องานก็อปปี้ในตลาดที่เขาจะแกะแบบแล้วใช้วิธีหล่อบล็อกขึ้น บางทีมีคนเอาแหวนมาให้ซ่อมก็จะรู้เลยว่านี่คือของก็อปปี้ แต่ถ้าเป็นงานของที่บ้าน ไม่ว่าจะเก่าขนาดไหนก็จะรู้และบอกได้ทันที มันเหมือนเป็นลายมือของเรา ยังไงเราก็จำลายมือของเราได้”
![แหวนกลสามารถทำหน้าแหวนได้หลากหลายรูปแบบ](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/561000009157507.JPEG)
“สำหรับแหวนชื่อที่พัฒนาขึ้นส่วนมากจะทำเป็น 8 ก้าน ตอนแรกคิดว่าจะทำภาษาอังกฤษอย่างเดียว เพราะภาษาไทยมันจะซับซ้อนกว่ามาก แต่พอลองทำภาษาไทยปรากฏว่าทำได้ ซึ่งก็เป็นเรื่องดีมากเพราะเท่ากับเราขยายงานของเราไปได้อีก เราสามารถทำชื่อนามสกุลของลูกค้าได้ตามต้องการ โดยต้องมาคุยกันว่าอยากได้แบบไหน ภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ เอาตัวอักษรตัวไหนเด่น ตัวไหนรอง อยากให้จุดไหนเป็นจุดโฟกัสของชิ้นงาน แบบไหนจะสวยกว่ากัน ผมจะเสก็ตช์แบบคร่าวๆ ว่าโอเคหรือไม่ แล้วจึงเริ่มจากทำบอดี้ของแหวนก่อน แล้วก็ค่อยมาคิดว่าชิ้นส่วนตัวอักษรแต่ละชิ้นจะอยู่ตรงไหนบ้าง เพราะมันไม่ได้เป็นชิ้นเดียวแปะเข้าไปที่หน้าแหวน แต่ตัวอักษรจะกระจายอยู่ตามก้านต่างๆ ดังนั้นต้องดูตามความเหมาะสมที่มันจะแข็งแรงและมีความพอดี”
แม้จะออกแบบตามความชอบของลูกค้า แต่ความเป็นศิลปินของชูเกียรติยังมีอยู่เต็มเปี่ยม เพราะจะมองและออกแบบให้ชิ้นงานออกมาสวยงามและเหมาะสมกับผู้สวมใส่เป็นหลัก
“ส่วนมากจะคิดภาพตอนชิ้นงานสำเร็จไว้เลยว่าถ้าเอาตัวอักษรนี้ขึ้นนำหน้าแล้วจะสวยหรือไม่สวย ผมจะไม่ตามใจลูกค้ามากเพราะที่สำคัญคือเมื่อทำงานเสร็จออกมาแล้วมันต้องสวยก่อนเป็นอันดับแรก ถ้าทำตามใจลูกค้าอย่างเดียวงานมันจะไม่ออกมาอย่างที่มันควรจะเป็น คือไม่ได้ส่งเสริมภาพลักษณ์ของชิ้นงาน ลูกค้ากับช่างบางทีมีมุมมองต่างกัน บางคนอาจอยากใส่นู่นใส่นี่ อยากมีพลอยเยอะๆ แต่บางทีมันไม่ได้ส่งชิ้นงานให้ดูดี”
![ช่างหรีดขณะทำงาน](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/561000009157508.JPEG)
“ถ้ามีคนเอาแบบมาแล้วให้ผมทำตาม แบบนั้นผมไม่รับ เพราะอยากให้เป็นงานที่เราคิดร่วมกันกับลูกค้ามากกว่า และมันจะเป็นชิ้นงานเฉพาะของเขาเอง และเวลามีลูกค้ามาสั่งทำ เราไม่ใช่แค่ทำตามที่เขาบอก แต่เราต้องคิดด้วยว่าเวลาเขาเอาไปใช้ มันต้องใช้จริงได้ทุกชิ้น ไม่ใช่ทำนู่นนี่จนดูโอเวอร์แต่ใช้ในชีวิตประจำวันไม่ได้ก็ไม่มีประโยชน์ และงานเราก็จะถูกเก็บอยู่แค่ในกล่องในเก๊ะ เอามาใช้ได้แค่เวลาไปออกงานเท่านั้น ผลงานของเราก็จะไม่ได้อวด แต่ถ้าเขาได้ใช้ทุกวันๆ งานของเราจะได้อวดทุกวัน คนจะได้เห็นงานเราทุกวัน”
ในอนาคตชูเกียรติยังมีสิ่งที่อยากทำอีกหลายอย่าง อย่างแหวนฉลุลายก็เป็นงานที่ชอบ และยังอยากทำเครื่องประดับอื่นเช่นกำไลกล ส่วนแหวน 12 ก้านก็อยากจะต่อยอดทำสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองจันท์ต่อไป
เรียกได้ว่าแหวนของบ้านแหวนกลเป็นงานทำมือสุดคลาสสิกที่นอกจากจะมีมูลค่าแล้วยังมีคุณค่าต่อจิตใจ เป็นงานชิ้นเดียวที่ออกแบบมาเฉพาะผู้สวมใส่ เป็นของดีเมืองจันท์ที่หากใครชอบงานเครื่องประดับแฮนด์เมดแล้วละก็ขอแนะนำให้รีบหามาไว้ครอบครองสักวงสองวง
สอบถามรายละเอียดและการสั่งทำแหวนได้ที่ เพจเฟซบุค : บ้านแหวนกล เมืองจันท์ หรือโทร. 08 1791 3278 และนักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับที่เที่ยว ที่กิน ที่พักในจังหวัดจันทบุรีได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานระยอง (ดูแลระยอง, จันทบุรี) โทร. 0 3865 5420-1
![แหวนกลชื่อ (ภาพจากเพจเฟซบุค บ้านแหวนกล เมืองจันท์)](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/561000009157509.JPEG)
![แหวนฉลุลายงามอ่อนช้อย (ภาพจากเพจเฟซบุค บ้านแหวนกล เมืองจันท์)](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/561000009157510.JPEG)
![อีกหนึ่งงานฉลุลายแหวน (ภาพจากเพจเฟซบุค บ้านแหวนกล เมืองจันท์)](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/561000009157511.JPEG)
![งดงามล้ำค่าน่าเป็นเจ้าของ (ภาพจากเพจเฟซบุค บ้านแหวนกล เมืองจันท์)](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/561000009157512.JPEG)
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
"แหวน" คือเครื่องประดับของหญิงและชายที่ทุกคนรู้จักกันดีอยู่แล้ว
แต่หากพูดถึง "แหวนกล" เชื่อว่ามีคนไม่น้อยที่ไม่รู้จัก ไม่เคยได้ยิน
แล้ว "แหวนกล" คืออะไร...
“แหวนกล” มีที่มาจากประเทศแถบตะวันออกกลางหรืออาหรับ ซึ่งเรียกแหวนเหล่านี้ว่า Puzzle Ring หรือ Turkish Wedding Ring เป็นแหวนที่ประกอบด้วยแหวนหลายวงเกาะเกี่ยวกันไว้ หากใครประกอบไม่เป็นหรือไม่รู้วิธี ก็ไม่สามารถทำให้เป็นวงเพื่อสวมใส่ได้ แหวนกลจึงได้ชื่อว่าเป็น "เครื่องประดับแห่งปัญญา" ไม่เพียงสวยงามอย่างเดียว แต่ต้องใช้สมองและสองมือประกอบขึ้นมาให้ได้ คล้ายกับการเล่นรูบิคอย่างไรอย่างนั้น
ในเมืองไทยเองก็มีช่างทำแหวนกลเช่นกัน โดยมีเฉพาะในจังหวัดจันทบุรีเท่านั้น เพราะวิชาช่างนี้จะสืบทอดให้เฉพาะคนในครอบครัวหรือเครือญาติ แต่ก่อนมักเรียกว่า “แหวนปู แหวนปลา” เพราะแหวนกลของเมืองจันท์จะมีจุดเด่นแตกต่างจากที่อื่นที่มักจะทำหน้าแหวนเป็นรูปสัตว์ต่างๆ เช่น ปู ปลา หรือรูปนักษัตรต่างๆ ขณะที่ของประเทศอื่นมักทำเป็นลวดลายเรียบๆ
แหวนกลเข้ามาที่จังหวัดจันทบุรีได้อย่างไรนั้น... ในเว็บไซต์สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดจันทบุรี ระบุไว้ว่า นายหยี เจียระไน ชาวบ้านบางกะจะ เป็นผู้คิดประดิษฐ์แหวนปูเป็นคนแรก โดยนายหยีเคยยึดอาชีพเป็นช่างทองที่กรุงเทพฯ ได้เห็นแหวนกลของฝรั่งที่ทำเป็นห่วงวงคล้องไขว้กันไปมา แม้จะแยกออกได้ก็ยังติดกันเป็นพวง และสามารถประกอบเข้าใหม่ได้ ต่อมาเมื่อกลับสู่บ้านเกิดที่จันทบุรีจึงได้นำประสบการณ์และฝีมือทำทองที่ตนมีอยู่เดิมมาคิดประดิษฐ์เป็นแหวนปู ซึ่งเป็นแหวนกลอย่างแหวนฝรั่ง
ต่อมามีผู้มาสืบทอดวิชาจากนายหยี คือนายสายัณห์ ภูมิภักดิ์ ซึ่งเรียนวิชาช่างทองจากปู่ที่ชื่อนายพิณ ภูมิภักดิ์ นายสายัณห์ได้คิดรูปแบบแหวนกลเพิ่มขึ้นได้อีกหลายอย่าง เช่น แหวนปลา ซึ่งก็มีหลายประเภทด้วยกัน ทั้งปลากระบอก ปลาเก๋า ปลากุเลา ปลากะพง ไปจนถึงพญานาค
ในวันนี้ที่ได้มาเยือน “จันทบุรี” อันเป็นแหล่งทำแหวนกลดั้งเดิมในเมืองไทย เป็นโอกาสดีที่เราได้มาพูดคุยกับช่างทำแหวนกลแห่งเมืองจันท์ “ชูเกียรติ เนียมทอง” หรือ "ช่างหรีด" ที่สืบทอดวิชาช่างทำแหวนกลมาโดยตรงจากนายสายัณห์ ภูมิภักดิ์ ซึ่งเกี่ยวดองเป็นญาติกัน
“พื้นเพผมเป็นคนสุพรรณบุรี แต่ตอนที่เรียนอยู่ชั้น ม.1 พอปิดเทอมก็ได้มาเที่ยวบ้านญาติที่จันทบุรี ได้มาเห็นลุงทำทองทำแหวน ลุงก็ชักชวนมาทางเตี่ยว่าอยากจะชวนผมมาทำงาน ก็เลยตัดสินใจมาทำตามใจเตี่ย ก่อนจะเปิดเทอมก็ย้ายจากสุพรรณฯ มาอยู่จันท์ มาเพื่อเรียนรู้การทำทองและทำแหวนกล และอยู่ยาวมาถึงปัจจุบัน เกือบจะ 30 ปีแล้ว” ชูเกียรติเล่า และอธิบายถึงแหวนกลว่า
“ลักษณะของแหวนกลจะมีก้าน (วง) ประกอบกันตั้งแต่ 2 ก้านขึ้นไป แต่ที่คนนิยมก็คือ 4 ก้าน หรือ 8 ก้าน และที่เคยทำมากที่สุดก็คือ 12 ก้าน ทำเป็นแหวนนามสกุลผมเอง การประกอบแหวนก็เหมือนกับเป็นการสานชิ้นงาน มันจะมีวิธีไขว้ของมัน คล้ายๆ กับรูบิก เมื่อประกอบเสร็จก็จะมีรูปสัตว์หรือรูปอื่นๆ อยู่ที่หน้าแหวน ถ้าคนไม่รู้วิธีก็จะไม่สามารถประกอบเป็นวงได้ ตรงนี้คือเสน่ห์ของแหวนกล”
“ถ้าลูกค้ามาสั่งทำแหวนผมก็จะสอนวิธีประกอบให้ แต่ส่วนมากออกไปหน้าปากซอยก็ลืมวิธีแล้ว หลายคนที่ซื้อไปแล้วจึงต้องกลับมาหาเพราะจำวิธีประกอบไม่ได้ ผมเลยพูดเล่นกับลูกค้าบ่อยๆ ว่าถ้าอยากมาเที่ยวเมืองจันท์เมื่อไหร่ก็ให้แกะแหวน เดี๋ยวก็ได้กลับมา” ชูเกียรติเล่าพร้อมหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
แหวนกลที่ทำขึ้นในรุ่นก่อนๆ มักจะทำเป็นรูปสัตว์ เช่น แหวนปู แหวนปลา แหวนนักษัตร และพัฒนามาให้หลากหลายมากขึ้น ทั้งเต่า กุ้ง แมงป่อง สิงโต กระต่าย และแม้กระทั่งหมีริลัคคุมะ! ฯลฯ อีกทั้งช่างจะมีลูกเล่นเล็กๆ น้อยๆ เช่นทำให้เต่ากระดิกหัวและหางได้ ลูกตาปูดิ้นได้ หัวริลัคคุมะส่ายได้ โดยที่บ้านแหวนกลจะใช้วัสดุทำแหวนสองอย่างคือทองและเงิน พร้อมทั้งเพิ่มความล้ำค่าและความงามด้วยการประดับพลอยจันท์และอัญมณีต่างๆ ให้สมชื่อเมืองแห่งอัญมณี
แต่ชูเกียรติไม่หยุดพัฒนางานออกแบบไว้เพียงเท่านั้น เขามองว่าถ้าไม่ทำเช่นนั้นงานมันจะนิ่งและตายไป โดยกล่าวว่า “ผมทำงานมา 30 กว่าปี มองว่างานมันต้องพัฒนารูปแบบไปเรื่อยๆ เพราะถ้าไม่พัฒนามันจะตายในที่สุด และมันไม่มีทางเลือกให้ลูกค้า เราจึงต้องคิดฉีกแนวออกมาจากงานเดิมๆ โดยที่เราไม่ได้ทิ้งรูปฟอร์มจากงานดั้งเดิมที่เป็นเอกลักษณ์ของเรา”
การพัฒนาขั้นต่อมาของชูเกียรติก็คือการทำ “แหวนกลชื่อและนามสกุล” ที่เรียกได้ว่าเป็นคนแรกและคนเดียวในเมืองไทยที่ทำแหวนกลลักษณะนี้
“มีช่วงหนึ่งที่งานน้อยลง เราจึงมีเวลาที่จะนั่งคิดออกแบบทำงานใหม่ๆ และอยากจะหนีจากเงาของคุณลุงสายัณห์ อยากมีลายเซ็นของตัวเอง อยากมีผลงานที่ต่างไปจากของเดิมแบบชนิดที่ว่าก็อปปี้ได้ยาก เราเบื่องานก็อปปี้ในตลาดที่เขาจะแกะแบบแล้วใช้วิธีหล่อบล็อกขึ้น บางทีมีคนเอาแหวนมาให้ซ่อมก็จะรู้เลยว่านี่คือของก็อปปี้ แต่ถ้าเป็นงานของที่บ้าน ไม่ว่าจะเก่าขนาดไหนก็จะรู้และบอกได้ทันที มันเหมือนเป็นลายมือของเรา ยังไงเราก็จำลายมือของเราได้”
“สำหรับแหวนชื่อที่พัฒนาขึ้นส่วนมากจะทำเป็น 8 ก้าน ตอนแรกคิดว่าจะทำภาษาอังกฤษอย่างเดียว เพราะภาษาไทยมันจะซับซ้อนกว่ามาก แต่พอลองทำภาษาไทยปรากฏว่าทำได้ ซึ่งก็เป็นเรื่องดีมากเพราะเท่ากับเราขยายงานของเราไปได้อีก เราสามารถทำชื่อนามสกุลของลูกค้าได้ตามต้องการ โดยต้องมาคุยกันว่าอยากได้แบบไหน ภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ เอาตัวอักษรตัวไหนเด่น ตัวไหนรอง อยากให้จุดไหนเป็นจุดโฟกัสของชิ้นงาน แบบไหนจะสวยกว่ากัน ผมจะเสก็ตช์แบบคร่าวๆ ว่าโอเคหรือไม่ แล้วจึงเริ่มจากทำบอดี้ของแหวนก่อน แล้วก็ค่อยมาคิดว่าชิ้นส่วนตัวอักษรแต่ละชิ้นจะอยู่ตรงไหนบ้าง เพราะมันไม่ได้เป็นชิ้นเดียวแปะเข้าไปที่หน้าแหวน แต่ตัวอักษรจะกระจายอยู่ตามก้านต่างๆ ดังนั้นต้องดูตามความเหมาะสมที่มันจะแข็งแรงและมีความพอดี”
แม้จะออกแบบตามความชอบของลูกค้า แต่ความเป็นศิลปินของชูเกียรติยังมีอยู่เต็มเปี่ยม เพราะจะมองและออกแบบให้ชิ้นงานออกมาสวยงามและเหมาะสมกับผู้สวมใส่เป็นหลัก
“ส่วนมากจะคิดภาพตอนชิ้นงานสำเร็จไว้เลยว่าถ้าเอาตัวอักษรนี้ขึ้นนำหน้าแล้วจะสวยหรือไม่สวย ผมจะไม่ตามใจลูกค้ามากเพราะที่สำคัญคือเมื่อทำงานเสร็จออกมาแล้วมันต้องสวยก่อนเป็นอันดับแรก ถ้าทำตามใจลูกค้าอย่างเดียวงานมันจะไม่ออกมาอย่างที่มันควรจะเป็น คือไม่ได้ส่งเสริมภาพลักษณ์ของชิ้นงาน ลูกค้ากับช่างบางทีมีมุมมองต่างกัน บางคนอาจอยากใส่นู่นใส่นี่ อยากมีพลอยเยอะๆ แต่บางทีมันไม่ได้ส่งชิ้นงานให้ดูดี”
“ถ้ามีคนเอาแบบมาแล้วให้ผมทำตาม แบบนั้นผมไม่รับ เพราะอยากให้เป็นงานที่เราคิดร่วมกันกับลูกค้ามากกว่า และมันจะเป็นชิ้นงานเฉพาะของเขาเอง และเวลามีลูกค้ามาสั่งทำ เราไม่ใช่แค่ทำตามที่เขาบอก แต่เราต้องคิดด้วยว่าเวลาเขาเอาไปใช้ มันต้องใช้จริงได้ทุกชิ้น ไม่ใช่ทำนู่นนี่จนดูโอเวอร์แต่ใช้ในชีวิตประจำวันไม่ได้ก็ไม่มีประโยชน์ และงานเราก็จะถูกเก็บอยู่แค่ในกล่องในเก๊ะ เอามาใช้ได้แค่เวลาไปออกงานเท่านั้น ผลงานของเราก็จะไม่ได้อวด แต่ถ้าเขาได้ใช้ทุกวันๆ งานของเราจะได้อวดทุกวัน คนจะได้เห็นงานเราทุกวัน”
ในอนาคตชูเกียรติยังมีสิ่งที่อยากทำอีกหลายอย่าง อย่างแหวนฉลุลายก็เป็นงานที่ชอบ และยังอยากทำเครื่องประดับอื่นเช่นกำไลกล ส่วนแหวน 12 ก้านก็อยากจะต่อยอดทำสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองจันท์ต่อไป
เรียกได้ว่าแหวนของบ้านแหวนกลเป็นงานทำมือสุดคลาสสิกที่นอกจากจะมีมูลค่าแล้วยังมีคุณค่าต่อจิตใจ เป็นงานชิ้นเดียวที่ออกแบบมาเฉพาะผู้สวมใส่ เป็นของดีเมืองจันท์ที่หากใครชอบงานเครื่องประดับแฮนด์เมดแล้วละก็ขอแนะนำให้รีบหามาไว้ครอบครองสักวงสองวง
สอบถามรายละเอียดและการสั่งทำแหวนได้ที่ เพจเฟซบุค : บ้านแหวนกล เมืองจันท์ หรือโทร. 08 1791 3278 และนักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับที่เที่ยว ที่กิน ที่พักในจังหวัดจันทบุรีได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานระยอง (ดูแลระยอง, จันทบุรี) โทร. 0 3865 5420-1
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager