Facebook :Travel @ Manager
เวลาที่ “ตระเวนกิน” นึกอยากจะออกจากบ้านไปหาอาหารอร่อยๆ กินให้อิ่มท้อง เราไม่ได้เลือกแค่ว่าร้านอาหารแห่งนั้นมีดีแค่เรื่องรสชาติของอาหารที่ถูกปาก แต่ว่าบรรยากาศร้านก็ต้องมีดีชวนนั่งเช่นกัน เหมือนที่ในมื้อนี้เราตัดสินใจขับรถออกจากบ้านมุ่งหน้าตรงมายังพุทธมณฑลสาย 7 เพื่อที่จะมาอิ่มเอมกับอาหารรสดี ท่ามกลางบรรยากาศร้านรื่นรมย์สุดชิลกันที่ร้านนี้ “Say Hay Cafe & Cuisine”
“Say Hay” เป็นร้านอาหารที่เพิ่งเปิดตัวมาได้ไม่นาน มีความน่าสนใจดึงดูดให้ต้องมาที่นี่ด้วยเพราะบรรยากาศร้าน ที่มีธรรมชาติอันร่มรื่น แวดล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ดูรื่นรมย์ ตัวร้านเป็นอาคารแบบโมเดิร์นกรุกระจกใส ดูโปร่งโล่งชวนนั่งสบายๆ ประดับประดาด้วยต้นไม้ให้ความสดชื่น แฝงไว้ด้วยความอบอุ่น มีโต๊ะนั่งให้เลือกนั่งหลายมุมตามชอบใจติดแอร์เย็นกาย
แล้วยังมีโต๊ะนั่งด้านนอกให้ได้สัมผัสกับสายลมธรรมชาติเย็นใจ อีกทั้งภายในร้านมีสระน้ำขนาดใหญ่ โดดเด่นด้วยสะพานเชือกไม้สีแดงทอดตัวไปยังอีกฝั่งให้ได้เดินเล่นชิลๆ ซึ่งภายในสระน้ำมีหงส์สวยๆ ว่ายน้ำไปมาให้ได้ชม แล้วยังสามารถให้อาหารหงส์และปลาที่อยู่ในสระน้ำได้
อีกทั้งภายในร้านยังมีสวนที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงามให้เดินเล่น เดินถ่ายรูปสวยๆ ตามมุมต่างๆ กันได้อย่างเพลิดเพลิน มีสัตว์นานาชนิดให้ชมด้วย ไม่ว่าจะเป็น นกเป็ดน้ำ ห่าน กระต่าย นกแก้วมาคอว์ และมีโรงเรือนปลูกเมลอนสายพันธุ์ญี่ปุ่น โดยทางร้านปลูกเองแบบปลอดสารพิษ ซึ่งจะมีผลเมลอนสดออกขายทุกเดือนสามารถซื้อกันได้
นั่นคือส่วนของบรรยากาศร้านที่ดึงดูดใจให้ชวนนั่งชิลเป็นอย่างมาก มาถึงเรื่องอาหารของที่นี่ก็ชวนกินไม่แพ้กัน โดยทางร้านนำเสนออาหารไทยพื้นบ้าน อาหารสไตล์ฟิวชั่นตะวันตก ที่ทางร้านคิดค้นสูตรเมนูขึ้นมาเอง เน้นเรื่องการคัดสรรวัตถุดิบที่ดี มีคุณภาพและมีความสดใหม่ รวมถึงยังมีเครื่องดื่มและเบเกอรี่โฮมเมดให้บริการด้วย
มื้อนี้เราขอแนะนำเมนูจานเด็ดที่ชวนสั่งมากินให้อิ่มท้องก็มี สลัดลูกแพร์บลูชีส (250 บาท) มีผักร็อกเก็ตสด ต้นอ่อนทานตะวัน วอลนัท บลูชีส และลูกแพร์สด ราดด้วยน้ำสลัดใสปรุงตามสูตรพิเศษของทางร้าน กินสลัดผักร็อกเก็ตและต้นอ่อนทานตะวันสดกรอบ ลูกแพร์กรอบหวาน เข้ากันดีกับน้ำสลัดรสกลมกล่อมและบลูชีสรสดี
จานต่อมาชวนกิน สปาเก็ตตี้หอยเชลล์ (250 บาท) เป็นเส้นสปาเก็ตตี้ผัดกับเนย โรยด้วยเบคอนทอดกรอบ และมีหอยเชลล์นำเข้าจากอเมริกาตัวใหญ่กริลล์ใส่มาด้วย ม้วนเส้นสปาเก็ตตี้เข้าปากเคี้ยวนุ่มปากรสชาติกลมกล่อมลิ้นหอมกลิ่นเนย กินเข้ากันดีกับหอยเชลล์ตัวใหญ่ กินแบบเต็มปากเต็มคำเนื้อแน่นสดหวาน และเคี้ยวเพลินปากกับเบคอนกรุบกรอบ
ถัดมาลองลิ้ม ปลากะพงไวท์ซอส (300 บาท) ทางร้านคัดสรรปลากะพงสดๆ นำมากริลล์แบบสเต๊ก เสิร์ฟพร้อมซอสสูตรเด็ด มันบด และผักเคียงต่างๆ ลิ้มรสปลากะพงเนื้อแน่นสดหวาน กินคู่กับซอสรสกลมกล่อมถูกลิ้นโดยใจ
แล้วชวนชิม ซี่โครงแกะซอสไวน์แดง (650 บาท) ซี่โครงแกะนำเข้าจากนิวซีแลนด์นำมากริลล์จนสุกได้ที่ เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำเกรวี่ซอสไวน์แดง มันบดและผักรวมต้ม แล่ซี่โครงแกะจิ้มน้ำเกรวี่ส่งเข้าปากเคี้ยวนุ่มหนึบหนับ ไม่ได้กลิ่นสาบแกะมากนัก ได้รสชาติซอสเกรวี่รสดีถูกปาก
ต่อด้วยเมนู ปูนิ่มทอดกระเทียมพริกไทย (300 บาท) เป็นปูนิ่มคลุกแป้งทอดกรอบ แล้วคลุกเคล้าด้วยกระเทียมพริกไทยดำทอด เสิร์ฟมาร้อนๆ ปูนิ่มกรอบนอกนุ่มใน ได้รสชาติเครื่องกระเทียมพริกไทยเข้มข้น และยังมีซอสพริกให้จิ้มเพิ่มรสชาติ
ส่งท้ายอาหารคาวด้วย แกงส้มเมลอนกุ้ง (220 บาท) เมนูนี้ต้องโทร. มาสอบถามก่อนว่ามีหรือไม่ เพราะว่าทางร้านเลือกใช้เมลอนอ่อนๆ ที่ทางร้านปลูกเอง ซึ่งจะไม่ได้มีให้กินตลอดต้องสอบถามก่อน โดยทางร้านจะโขลกเครื่องแกงส้มเอง ใส่ผักรวม ใส่กุ้ง และใส่เมลอนอ่อนลงไปต้มด้วย ชิมเมนูนี้ซดน้ำแกงส้มร้อนๆ รสเข้มข้นจัดจ้านถึงเครื่องแกงส้ม เมลอนอ่อนกินเข้ากับแกงส้มดีแท้
แนะนำอาหารคาวไปแล้ว ก็ชวนล้างปากด้วยเมนูของหวาน ทางร้านมีเค้กโฮมเมดหลายรสชาติให้เลือกกิน ที่อยากแนะนำ ให้ลิ้มรสก็มี เค้กเมลอน (125 บาท) เป็นเค้กเนื้อมูสรสเมลอน ท็อปด้วยเมลอนสดหอมหวาน เชอร์รี่ชีสเค้ก (135 บาท) เป็นชีสเค้กที่ด้านบนใส่เชอร์รี่หวานอมเปรี้ยว เค้กเสาวรส (125 บาท) ตัวเนื้อเค้กสอดไส้ด้วยซอสเสาวรส ท็อปด้วยซอสเสาวรสหอมๆ ช็อกโกบานาน่า (125 บาท) เป็นเค้กช็อกโกแลตไส้กล้วย เค้กชาไทยครีมสด (125 บาท) เนื้อเค้กเบานุ่มราดซอสชาไทยหอมเข้มข้น
อีกทั้งยังมีเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ที่ชวนดื่มอย่าง Say Hay เมลอน เฟรปเป้ (120 บาท) ทางร้านนำเมลอนสดที่ปลูกเองเอาแต่เนื้อมาปั่นใส่นมสด (สั่งแบบไม่ใส่นมก็ได้) ด้านล่างเป็นสาคูเม็ดเล็กต้มกับดอกอัญชัน ท็อปด้วยเมลอนสด ดื่มแล้วหอมหวานกลิ่นเมลอน ดูดสาคูเคี้ยวนุ่มเพลินปาก อีกหนึ่งแก้วที่ชวนดื่มคือ เมลอนโซดา (95 บาท) เป็นไซรัปเมลอนผสมกับโซดา ท็อปด้วยเมลอนสด เวลาดื่มคนให้เข้ากันดื่มแล้วหอมกลิ่นเมลอนซาบซ่าสดชื่นใจดี
นอกจากเมนูคาว-หวาน และเครื่องดื่มที่แนะนำเหล่านี้แล้ว ทางร้านก็ยังมีอาหารจานเด่นอื่นๆ ที่ชวนกินอีก อาทิ สลัดอกเป็ดซอสส้ม (290 บาท) สันในหมูซอสเห็ดคาวาโดส (390 บาท) ยำชะคราม (220 บาท) Ribeye Ps 200 g (480 บาท) และอีกสารพัดอาหารเลิศรส ที่ชวนให้สั่งมากินอย่างอิ่มท้องแบบฟินใจ เมื่อมาที่ร้าน “Say Hay Cafe & Cuisine” แห่งนี้
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“Say Hay Cafe & Cuisine” ตั้งอยู่ที่ 12/4 หมู่ 5 พุทธมณฑลสาย 7 ต.หอมเกร็ด อ.สามพราน จ.นครปฐม การเดินทางจากถนนบรมราชชนนี มุ่งหน้ามาที่พุทธมณฑลสาย 7 ฝั่งขาเข้า เลี้ยวซ้ายเข้ามา 450 เมตร จะเห็นร้านอยู่ขวามือ มีที่จอดรถด้านในร้าน เปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 21.00 น. (ครัวปิด 20.30 น.) ถ้ามากินอาหารวันเสาร์-อาทิตย์ แนะนำว่าควรโทร. มาจองโต๊ะก่อน โทร. 06-5629-6142 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : sayhaycafecuisine และ IG : sayhaycafecuisine
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
เวลาที่ “ตระเวนกิน” นึกอยากจะออกจากบ้านไปหาอาหารอร่อยๆ กินให้อิ่มท้อง เราไม่ได้เลือกแค่ว่าร้านอาหารแห่งนั้นมีดีแค่เรื่องรสชาติของอาหารที่ถูกปาก แต่ว่าบรรยากาศร้านก็ต้องมีดีชวนนั่งเช่นกัน เหมือนที่ในมื้อนี้เราตัดสินใจขับรถออกจากบ้านมุ่งหน้าตรงมายังพุทธมณฑลสาย 7 เพื่อที่จะมาอิ่มเอมกับอาหารรสดี ท่ามกลางบรรยากาศร้านรื่นรมย์สุดชิลกันที่ร้านนี้ “Say Hay Cafe & Cuisine”
“Say Hay” เป็นร้านอาหารที่เพิ่งเปิดตัวมาได้ไม่นาน มีความน่าสนใจดึงดูดให้ต้องมาที่นี่ด้วยเพราะบรรยากาศร้าน ที่มีธรรมชาติอันร่มรื่น แวดล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ดูรื่นรมย์ ตัวร้านเป็นอาคารแบบโมเดิร์นกรุกระจกใส ดูโปร่งโล่งชวนนั่งสบายๆ ประดับประดาด้วยต้นไม้ให้ความสดชื่น แฝงไว้ด้วยความอบอุ่น มีโต๊ะนั่งให้เลือกนั่งหลายมุมตามชอบใจติดแอร์เย็นกาย
แล้วยังมีโต๊ะนั่งด้านนอกให้ได้สัมผัสกับสายลมธรรมชาติเย็นใจ อีกทั้งภายในร้านมีสระน้ำขนาดใหญ่ โดดเด่นด้วยสะพานเชือกไม้สีแดงทอดตัวไปยังอีกฝั่งให้ได้เดินเล่นชิลๆ ซึ่งภายในสระน้ำมีหงส์สวยๆ ว่ายน้ำไปมาให้ได้ชม แล้วยังสามารถให้อาหารหงส์และปลาที่อยู่ในสระน้ำได้
อีกทั้งภายในร้านยังมีสวนที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงามให้เดินเล่น เดินถ่ายรูปสวยๆ ตามมุมต่างๆ กันได้อย่างเพลิดเพลิน มีสัตว์นานาชนิดให้ชมด้วย ไม่ว่าจะเป็น นกเป็ดน้ำ ห่าน กระต่าย นกแก้วมาคอว์ และมีโรงเรือนปลูกเมลอนสายพันธุ์ญี่ปุ่น โดยทางร้านปลูกเองแบบปลอดสารพิษ ซึ่งจะมีผลเมลอนสดออกขายทุกเดือนสามารถซื้อกันได้
นั่นคือส่วนของบรรยากาศร้านที่ดึงดูดใจให้ชวนนั่งชิลเป็นอย่างมาก มาถึงเรื่องอาหารของที่นี่ก็ชวนกินไม่แพ้กัน โดยทางร้านนำเสนออาหารไทยพื้นบ้าน อาหารสไตล์ฟิวชั่นตะวันตก ที่ทางร้านคิดค้นสูตรเมนูขึ้นมาเอง เน้นเรื่องการคัดสรรวัตถุดิบที่ดี มีคุณภาพและมีความสดใหม่ รวมถึงยังมีเครื่องดื่มและเบเกอรี่โฮมเมดให้บริการด้วย
มื้อนี้เราขอแนะนำเมนูจานเด็ดที่ชวนสั่งมากินให้อิ่มท้องก็มี สลัดลูกแพร์บลูชีส (250 บาท) มีผักร็อกเก็ตสด ต้นอ่อนทานตะวัน วอลนัท บลูชีส และลูกแพร์สด ราดด้วยน้ำสลัดใสปรุงตามสูตรพิเศษของทางร้าน กินสลัดผักร็อกเก็ตและต้นอ่อนทานตะวันสดกรอบ ลูกแพร์กรอบหวาน เข้ากันดีกับน้ำสลัดรสกลมกล่อมและบลูชีสรสดี
จานต่อมาชวนกิน สปาเก็ตตี้หอยเชลล์ (250 บาท) เป็นเส้นสปาเก็ตตี้ผัดกับเนย โรยด้วยเบคอนทอดกรอบ และมีหอยเชลล์นำเข้าจากอเมริกาตัวใหญ่กริลล์ใส่มาด้วย ม้วนเส้นสปาเก็ตตี้เข้าปากเคี้ยวนุ่มปากรสชาติกลมกล่อมลิ้นหอมกลิ่นเนย กินเข้ากันดีกับหอยเชลล์ตัวใหญ่ กินแบบเต็มปากเต็มคำเนื้อแน่นสดหวาน และเคี้ยวเพลินปากกับเบคอนกรุบกรอบ
ถัดมาลองลิ้ม ปลากะพงไวท์ซอส (300 บาท) ทางร้านคัดสรรปลากะพงสดๆ นำมากริลล์แบบสเต๊ก เสิร์ฟพร้อมซอสสูตรเด็ด มันบด และผักเคียงต่างๆ ลิ้มรสปลากะพงเนื้อแน่นสดหวาน กินคู่กับซอสรสกลมกล่อมถูกลิ้นโดยใจ
แล้วชวนชิม ซี่โครงแกะซอสไวน์แดง (650 บาท) ซี่โครงแกะนำเข้าจากนิวซีแลนด์นำมากริลล์จนสุกได้ที่ เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำเกรวี่ซอสไวน์แดง มันบดและผักรวมต้ม แล่ซี่โครงแกะจิ้มน้ำเกรวี่ส่งเข้าปากเคี้ยวนุ่มหนึบหนับ ไม่ได้กลิ่นสาบแกะมากนัก ได้รสชาติซอสเกรวี่รสดีถูกปาก
ต่อด้วยเมนู ปูนิ่มทอดกระเทียมพริกไทย (300 บาท) เป็นปูนิ่มคลุกแป้งทอดกรอบ แล้วคลุกเคล้าด้วยกระเทียมพริกไทยดำทอด เสิร์ฟมาร้อนๆ ปูนิ่มกรอบนอกนุ่มใน ได้รสชาติเครื่องกระเทียมพริกไทยเข้มข้น และยังมีซอสพริกให้จิ้มเพิ่มรสชาติ
ส่งท้ายอาหารคาวด้วย แกงส้มเมลอนกุ้ง (220 บาท) เมนูนี้ต้องโทร. มาสอบถามก่อนว่ามีหรือไม่ เพราะว่าทางร้านเลือกใช้เมลอนอ่อนๆ ที่ทางร้านปลูกเอง ซึ่งจะไม่ได้มีให้กินตลอดต้องสอบถามก่อน โดยทางร้านจะโขลกเครื่องแกงส้มเอง ใส่ผักรวม ใส่กุ้ง และใส่เมลอนอ่อนลงไปต้มด้วย ชิมเมนูนี้ซดน้ำแกงส้มร้อนๆ รสเข้มข้นจัดจ้านถึงเครื่องแกงส้ม เมลอนอ่อนกินเข้ากับแกงส้มดีแท้
แนะนำอาหารคาวไปแล้ว ก็ชวนล้างปากด้วยเมนูของหวาน ทางร้านมีเค้กโฮมเมดหลายรสชาติให้เลือกกิน ที่อยากแนะนำ ให้ลิ้มรสก็มี เค้กเมลอน (125 บาท) เป็นเค้กเนื้อมูสรสเมลอน ท็อปด้วยเมลอนสดหอมหวาน เชอร์รี่ชีสเค้ก (135 บาท) เป็นชีสเค้กที่ด้านบนใส่เชอร์รี่หวานอมเปรี้ยว เค้กเสาวรส (125 บาท) ตัวเนื้อเค้กสอดไส้ด้วยซอสเสาวรส ท็อปด้วยซอสเสาวรสหอมๆ ช็อกโกบานาน่า (125 บาท) เป็นเค้กช็อกโกแลตไส้กล้วย เค้กชาไทยครีมสด (125 บาท) เนื้อเค้กเบานุ่มราดซอสชาไทยหอมเข้มข้น
อีกทั้งยังมีเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ที่ชวนดื่มอย่าง Say Hay เมลอน เฟรปเป้ (120 บาท) ทางร้านนำเมลอนสดที่ปลูกเองเอาแต่เนื้อมาปั่นใส่นมสด (สั่งแบบไม่ใส่นมก็ได้) ด้านล่างเป็นสาคูเม็ดเล็กต้มกับดอกอัญชัน ท็อปด้วยเมลอนสด ดื่มแล้วหอมหวานกลิ่นเมลอน ดูดสาคูเคี้ยวนุ่มเพลินปาก อีกหนึ่งแก้วที่ชวนดื่มคือ เมลอนโซดา (95 บาท) เป็นไซรัปเมลอนผสมกับโซดา ท็อปด้วยเมลอนสด เวลาดื่มคนให้เข้ากันดื่มแล้วหอมกลิ่นเมลอนซาบซ่าสดชื่นใจดี
นอกจากเมนูคาว-หวาน และเครื่องดื่มที่แนะนำเหล่านี้แล้ว ทางร้านก็ยังมีอาหารจานเด่นอื่นๆ ที่ชวนกินอีก อาทิ สลัดอกเป็ดซอสส้ม (290 บาท) สันในหมูซอสเห็ดคาวาโดส (390 บาท) ยำชะคราม (220 บาท) Ribeye Ps 200 g (480 บาท) และอีกสารพัดอาหารเลิศรส ที่ชวนให้สั่งมากินอย่างอิ่มท้องแบบฟินใจ เมื่อมาที่ร้าน “Say Hay Cafe & Cuisine” แห่งนี้
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“Say Hay Cafe & Cuisine” ตั้งอยู่ที่ 12/4 หมู่ 5 พุทธมณฑลสาย 7 ต.หอมเกร็ด อ.สามพราน จ.นครปฐม การเดินทางจากถนนบรมราชชนนี มุ่งหน้ามาที่พุทธมณฑลสาย 7 ฝั่งขาเข้า เลี้ยวซ้ายเข้ามา 450 เมตร จะเห็นร้านอยู่ขวามือ มีที่จอดรถด้านในร้าน เปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 21.00 น. (ครัวปิด 20.30 น.) ถ้ามากินอาหารวันเสาร์-อาทิตย์ แนะนำว่าควรโทร. มาจองโต๊ะก่อน โทร. 06-5629-6142 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : sayhaycafecuisine และ IG : sayhaycafecuisine
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
