Facebook :Travel @ Manager
มาเที่ยวถึงเกาะปีนัง ประเทศมาเลเซีย แน่นอนว่าเราจะต้องเสาะหาของอร่อยประจำถิ่นมาลิ้มลองกัน และเนื่องด้วยที่เกาะปีนังนั้นมีผู้คนหลากหลายเชื้อชาติที่มาอาศัยอยู่ จึงทำให้มีเมนูอาหารหลากหลายให้เลือกชิมกันแบบเต็มอิ่ม
แต่สำหรับใครที่อยากลิ้มลองอาหารแบบสตรีทฟู้ด โดยเฉพาะแบบที่คนท้องถิ่นมาเลือกซื้อกัน ก็ต้องตรงมาที่ “Chulia Street” ตั้งอยู่ในเขตจอร์จทาวน์ (เมืองหลวงของเกาะปีนัง) ใกล้ๆ กับย่านลิตเติ้ลอินเดีย ซึ่งที่นี่เป็นย่านสตรีทฟู้ดชื่อดังของปีนัง ที่เรียกว่า “Chulia Street Night Hawker Stalls”
Chulia Street ถือว่าเป็นถนนสายที่เก่าแก่ที่สุดอีกสายหนึ่งในจอร์จทาวน์ สร้างขึ้นภายหลังการก่อตั้งจอร์จทาวน์ไม่นานนัก เนื่องจากถนนสายนี้ก็ยังอยู่ในเขตที่เป็นมรดกโลก จึงทำให้สองข้างทางยังคงอนุรักษ์บ้านเรือนและอาคารเก่าแก่ที่มีเสน่ห์เอาไว้
ในย่านนี้มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ โรงแรม และเกสต์เฮ้าส์ เป็นย่านที่นักท่องเที่ยวสามารถมาพักที่นี่ แล้วก็ออกเดินเที่ยวสำรวจจุดต่างๆ ในจอร์จทาวน์ได้อย่างสะดวก มีสตรีทอาร์ตให้ชมในมุมต่างๆ ช่วงกลางวันอาจจะไม่คึกคักมาก แต่ในช่วงค่ำๆ จะมีชาวปีนังและนักท่องเที่ยวเดินทางมาลองชิมอาหารสตรีทฟู้ดที่บริเวณนี้
สำหรับร้านอาหารสตรีทฟู้ดที่เปิดขายในช่วงเย็น-ค่ำ ก็มีให้เลือกเป็นสิบๆ ร้าน โดยแต่ละร้านก็จะมีเมนูเด็ดที่แตกต่างกันไป ใครอยากลองชิมเมนูไหนก็ซื้อใส่จาน แล้วถือมานั่งที่โต๊ะที่ยังว่างอยู่ได้เลย
ใครมาที่นี่แล้วยังไม่รู้ว่าจะลองชิมเมนูไหนดี เราก็มี 5 เมนูเด็ดชวนชิมมาให้เลือกกัน
“char kway teow” หน้าตาเหมือนเส้นก๋วยเตี๋ยวผัด ทางร้านจะใช้เส้นใหญ่ (แต่ตัดให้มีขนาดเล็กกว่าที่บ้านเรา) นำมาผัดใส่พริก ปรุงรสด้วยซีอิ๊ว ใส่กุ้ง ถั่วงอก หอยแครง ใส่ไข่ (มีให้เลือกระหว่างไข่เป็ดและไข่ไก่) ผัดออกมาร้อนๆ รสชาติจะออกจืดๆ แต่กลมกล่อม หอมกลิ่นกระทะ มีรสเผ็ดนิดเดียว
“wanton mee” เป็นเส้นบะหมี่เหลืองเส้นเล็กๆ จะออกแข็งๆ หน่อย ไม่ได้เหนียวนุ่มเหมือนบะหมี่ที่บ้านเรา ลวกมาแล้วปรุงด้วยน้ำซอส เค็มๆ หวานๆ ใส่ผักกวางตุ้ง เกี๊ยวหมู และหมูแดง บะหมี่รสชาติอ่อนๆ กินได้เรื่อยๆ แต่ทีเด็ดคือ ที่นี่จะมีพริกดองในน้ำส้มเสิร์ฟมาคู่กัน พริกดองนี้รสชาติไม่เผ็ด แต่ละออกเปรี้ยวนิดๆ กินคู่กับบะหมี่แล้วเข้ากันมากๆ
“wonton soup” กินบะหมี่แห้งแล้วก็ต้องสั่งเกี๊ยวน้ำมาชิมด้วย มีให้เลือกคือเกี๊ยวหมูและเกี๊ยวกุ้ง ชิ้นขนาดพอดีคำ ใส่มาในน้ำซุปรสกลมกล่อม และมีผักกวางตุ้งลวกใส่มาด้วย
“curry mee” มีเส้นให้เลือกคือเส้นหมี่ขาวกับเส้นหมี่ฮกเกี้ยนสีเหลืองๆ เส้นกลม (หรือจะเลือกสองเส้นผสมกันเลยก็ได้) ตัวน้ำแกงเป็นแกงกะหรี่ แต่ไม่ได้ใส่เครื่องเทศเยอะมากนัก กลิ่นหอมๆ ชวนชิม รสชาติคล้ายๆ ข้าวซอย แต่เค้าจะใส่ลูกชิ้นปลา ใส่เต้าหู้ และหอยแครงลงมาในน้ำแกงด้วย
“น้ำผลไม้ปั่น” ที่นี่เป็นน้ำผลไม้แท้ๆ ปั่นสดๆ ใส่น้ำแข็ง และไม่ได้ใส่น้ำเชื่อมเพิ่ม ทำให้ได้รสชาติจากผลไม้แท้ๆ และมีผลไม้ให้เลือกหลากหลายชนิด เช่น สับปะรด ส้ม เลมอน กล้วย มะเฟือง มะละกอ มะม่วง ฯลฯ จะเลือกสั่งชนิดเดียวหรือผสมกันก็ได้ ถ้านั่งกินที่โต๊ะก็สั่งแบบใส่แก้ว หรือจะสั่งใส่ถุงก็ได้ตามชอบ
นอกจาก 5 เมนูนี้แล้วก็ยังมีอาหารจานอร่อยของปีนังให้เลือกชิมอีกหลายจาน ใครมาเที่ยวปีนังก็อย่าลืมแวะมาที่ “Chulia Street” แห่งนี้ จะได้อร่อยกับเมนูอาหารท้องถิ่นกันจนอิ่มหนำ
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
มาเที่ยวถึงเกาะปีนัง ประเทศมาเลเซีย แน่นอนว่าเราจะต้องเสาะหาของอร่อยประจำถิ่นมาลิ้มลองกัน และเนื่องด้วยที่เกาะปีนังนั้นมีผู้คนหลากหลายเชื้อชาติที่มาอาศัยอยู่ จึงทำให้มีเมนูอาหารหลากหลายให้เลือกชิมกันแบบเต็มอิ่ม
แต่สำหรับใครที่อยากลิ้มลองอาหารแบบสตรีทฟู้ด โดยเฉพาะแบบที่คนท้องถิ่นมาเลือกซื้อกัน ก็ต้องตรงมาที่ “Chulia Street” ตั้งอยู่ในเขตจอร์จทาวน์ (เมืองหลวงของเกาะปีนัง) ใกล้ๆ กับย่านลิตเติ้ลอินเดีย ซึ่งที่นี่เป็นย่านสตรีทฟู้ดชื่อดังของปีนัง ที่เรียกว่า “Chulia Street Night Hawker Stalls”
Chulia Street ถือว่าเป็นถนนสายที่เก่าแก่ที่สุดอีกสายหนึ่งในจอร์จทาวน์ สร้างขึ้นภายหลังการก่อตั้งจอร์จทาวน์ไม่นานนัก เนื่องจากถนนสายนี้ก็ยังอยู่ในเขตที่เป็นมรดกโลก จึงทำให้สองข้างทางยังคงอนุรักษ์บ้านเรือนและอาคารเก่าแก่ที่มีเสน่ห์เอาไว้
ในย่านนี้มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ โรงแรม และเกสต์เฮ้าส์ เป็นย่านที่นักท่องเที่ยวสามารถมาพักที่นี่ แล้วก็ออกเดินเที่ยวสำรวจจุดต่างๆ ในจอร์จทาวน์ได้อย่างสะดวก มีสตรีทอาร์ตให้ชมในมุมต่างๆ ช่วงกลางวันอาจจะไม่คึกคักมาก แต่ในช่วงค่ำๆ จะมีชาวปีนังและนักท่องเที่ยวเดินทางมาลองชิมอาหารสตรีทฟู้ดที่บริเวณนี้
สำหรับร้านอาหารสตรีทฟู้ดที่เปิดขายในช่วงเย็น-ค่ำ ก็มีให้เลือกเป็นสิบๆ ร้าน โดยแต่ละร้านก็จะมีเมนูเด็ดที่แตกต่างกันไป ใครอยากลองชิมเมนูไหนก็ซื้อใส่จาน แล้วถือมานั่งที่โต๊ะที่ยังว่างอยู่ได้เลย
ใครมาที่นี่แล้วยังไม่รู้ว่าจะลองชิมเมนูไหนดี เราก็มี 5 เมนูเด็ดชวนชิมมาให้เลือกกัน
“char kway teow” หน้าตาเหมือนเส้นก๋วยเตี๋ยวผัด ทางร้านจะใช้เส้นใหญ่ (แต่ตัดให้มีขนาดเล็กกว่าที่บ้านเรา) นำมาผัดใส่พริก ปรุงรสด้วยซีอิ๊ว ใส่กุ้ง ถั่วงอก หอยแครง ใส่ไข่ (มีให้เลือกระหว่างไข่เป็ดและไข่ไก่) ผัดออกมาร้อนๆ รสชาติจะออกจืดๆ แต่กลมกล่อม หอมกลิ่นกระทะ มีรสเผ็ดนิดเดียว
“wanton mee” เป็นเส้นบะหมี่เหลืองเส้นเล็กๆ จะออกแข็งๆ หน่อย ไม่ได้เหนียวนุ่มเหมือนบะหมี่ที่บ้านเรา ลวกมาแล้วปรุงด้วยน้ำซอส เค็มๆ หวานๆ ใส่ผักกวางตุ้ง เกี๊ยวหมู และหมูแดง บะหมี่รสชาติอ่อนๆ กินได้เรื่อยๆ แต่ทีเด็ดคือ ที่นี่จะมีพริกดองในน้ำส้มเสิร์ฟมาคู่กัน พริกดองนี้รสชาติไม่เผ็ด แต่ละออกเปรี้ยวนิดๆ กินคู่กับบะหมี่แล้วเข้ากันมากๆ
“wonton soup” กินบะหมี่แห้งแล้วก็ต้องสั่งเกี๊ยวน้ำมาชิมด้วย มีให้เลือกคือเกี๊ยวหมูและเกี๊ยวกุ้ง ชิ้นขนาดพอดีคำ ใส่มาในน้ำซุปรสกลมกล่อม และมีผักกวางตุ้งลวกใส่มาด้วย
“curry mee” มีเส้นให้เลือกคือเส้นหมี่ขาวกับเส้นหมี่ฮกเกี้ยนสีเหลืองๆ เส้นกลม (หรือจะเลือกสองเส้นผสมกันเลยก็ได้) ตัวน้ำแกงเป็นแกงกะหรี่ แต่ไม่ได้ใส่เครื่องเทศเยอะมากนัก กลิ่นหอมๆ ชวนชิม รสชาติคล้ายๆ ข้าวซอย แต่เค้าจะใส่ลูกชิ้นปลา ใส่เต้าหู้ และหอยแครงลงมาในน้ำแกงด้วย
“น้ำผลไม้ปั่น” ที่นี่เป็นน้ำผลไม้แท้ๆ ปั่นสดๆ ใส่น้ำแข็ง และไม่ได้ใส่น้ำเชื่อมเพิ่ม ทำให้ได้รสชาติจากผลไม้แท้ๆ และมีผลไม้ให้เลือกหลากหลายชนิด เช่น สับปะรด ส้ม เลมอน กล้วย มะเฟือง มะละกอ มะม่วง ฯลฯ จะเลือกสั่งชนิดเดียวหรือผสมกันก็ได้ ถ้านั่งกินที่โต๊ะก็สั่งแบบใส่แก้ว หรือจะสั่งใส่ถุงก็ได้ตามชอบ
นอกจาก 5 เมนูนี้แล้วก็ยังมีอาหารจานอร่อยของปีนังให้เลือกชิมอีกหลายจาน ใครมาเที่ยวปีนังก็อย่าลืมแวะมาที่ “Chulia Street” แห่งนี้ จะได้อร่อยกับเมนูอาหารท้องถิ่นกันจนอิ่มหนำ
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
