โดย : ปิ่น บุตรี (pinn109@hotmail.com)

ตูม!!!
นี่ไม่ใช่เสียงระเบิด
แต่เป็นเสียงสายน้ำ แตกกระจายดังลั่น หลังผมกระโดดดิ่งลอยละลิ่วจากหน้าผาลงปะทะกับลำธารน้ำใสในเบื้องล่าง
งานนี้มันไม่เจ็บ ไม่จุก แต่จำ!!!
กับทริปผจญภัยตะลุยป่าฝ่าลำธาร(River Trekking)ใน“ไต้หวัน” ที่แม้จะมีเส้นทางเดินสั้นๆแค่ 1.5 กม.(ไป-กลับ 3 กม.)

แต่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมท่องเที่ยวที่แตกต่างในไต้หวัน(จากที่ผมเคยสัมผัสมา) ซึ่งแม้ทริปนี้จะต้องใช้พลังอย่างสูง แต่ในระหว่างทางนั้นก็มากไปด้วยสีสันความมันเร้าใจ ทำให้นี่เป็นอีกหนึ่งทริปผจญภัยในไต้หวันที่น่าจดจำไม่น้อยเลย
เจียวซี่
การมาไต้หวันของผมในครั้งนี้(4 วัน 3 คืน) เป็นทริปพิเศษที่ทางบริษัท “Octo Cycling” พาคณะนักท่องเที่ยวกลุ่มเล็กๆจากเมืองไทย ไปสัมผัสกับไต้หวันในมุมมองใหม่ผ่านกิจกรรมท่องเที่ยว-ผจญ ขึ้นเขา เดินป่า ฝ่าสายน้ำ พร้อมพาไปสัมผัสกับแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจ
ใครที่ชอบรูปแบบการทัวร์แอดเวนเจอร์ที่ปลอดภัย ไม่โหดมาก แถมพักหรูอยู่สบาย กินอาหารอร่อยแบบจัดเต็ม นี่ถือเป็นอีกหนึ่งทัวร์สัมผัสไต้หวันที่น่าสนใจไม่น้อย

สำหรับกิจกรรมวันแรก เป็นการขึ้นเขาเบาๆ 3 เขา(3 ลูก) ในเขตนิวไทเป (New Taipei-เขตไทเปใหม่) ซึ่งเป็นเขตปกครองใหม่ในไต้หวัน มีพื้นที่ล้อมรอบเมืองหลวงไทเป(Taipei) คล้าย ๆ กับเขตปริมณฑลของบ้านเรา
โดยไฮไลท์สำคัญของวันแรกนี้ คือการเดินแบบสบาย ๆ ไปชมความสวยงามของ“หินช้าง”(Elephant Rock) หรือ “หินงวงช้าง”(Elephant Nose Rock) ในเขตตำบล“รุ่ยฟัง”หรือ"เร่ยฟัง"(Ruifang) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในมหัศจรรย์แห่งไต้หวันกับปรากฏการณ์ธรรมชาติทางธรณีอันน่าทึ่ง สร้างสรรค์ให้เนินหินผาริมมหาสมุทรแปซิฟิคมีรูปร่างหน้าตาดูคล้ายกับช้างกำลังจุ่มงวงดูดน้ำในทะเล ที่มองหากมองถูกจุด ถูกมุมมอง ดูยังไงมันก็เหมือนช้างแบบไม่ต้องใช้จินตนาการให้มากมาย

หลังพิชิต 3 ขุนเขาในวันแรกเสร็จ คณะเราเดินทางออกจากเขตนิวไทเป มุ่งหน้าไปพักค้างกันที่เมือง“เจียวซี่”(Jiaoxi) เมืองเล็ก ๆ น่ารัก ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของน้ำพุร้อน ซึ่งทางเมืองนี้เขาจัดทำบ่อน้ำร้อนไว้ให้แช่เท้ากันฟรี ๆ ที่ใจกลางเมือง
เจียวซี่เป็นอีกหนึ่งเมืองพักน่าสนใจในเขต(จังหวัด)“อี่หลาน”(Yilan) หลังกินอาหารค่ำแล้ว ผมไปลองแช่น้ำพุร้อนผ่อนคลาย ก่อนจะกลับเข้าโรงแรมเพื่อพักผ่อนเอาแรงให้เต็มที่ เพื่อเก็บแรงไว้ตะลุยกันต่อกับเส้นทาง“River Trekking” อันสุดมัน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมไฮไลท์ของทริปนี้
หนานเอา

เช้าวันที่สอง หลังกินอาหารเช้าตุนพลังกันเป็นที่เรียบร้อย คณะเราออกเดินทางมุ่งหน้าสู่เมือง“หนานเอา”(Nanao) เขตอี่หลาน หมู่บ้านที่แวดล้อมไปด้วยขุนเขา ป่าไม้อันร่มรื่น
เมืองหนานเอา มีน้ำตก“จินเยี่ย” (Jinyue)อันสวยงามเป็นหนึ่งในไฮไลท์สำคัญ พร้อมทั้งมีเส้นทาง “River Trekking” เดินป่าฝ่าสายน้ำไปพิชิตตัวน้ำตกจินเยี่ย ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ได้รับความนิยมของชาวไต้หวัน และเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติผู้รักการผจญภัย(แต่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวชาวไทย)

หลังใช้เวลาประมาณ 1 ชม. จากที่พักในเมืองเจียวซี่ เดินทางมาถึงเมืองหนานเอา คุณ“เท็ดดี้”(Teddy) ไกด์ชาวไต้หวันผู้ช่ำชองกับการทำทัวร์แอดเวนเจอร์ กับ คุณ“จอห์นสัน”(MR.Johnson)คนขับรถผู้เปี่ยมไปด้วยอัธยาศัยไมตรี ผู้มีฝีมือการชงกาแฟเป็นเลิศ ก็พาพวกเราไปรู้จักกับทีมสตาฟฟ์เดินป่าท้องถิ่น ที่จะนำทีมพวกเราออกตะลุย(เดินป่าเต็มวัน)ผจญภัยสมบุกสมบันไปด้วยกัน
อย่างไรก็ดีก่อนออกเดินป่าฝ่าสายน้ำ พวกเราต้องมาฟังบรีฟ พร้อมเปลี่ยนเสื้อผ้า มาใส่ชุดเวทสูท สวมรองเท้าสำหรับลุยฝ่าลำธาร สวมเสื้อชูชีพ หมวกกันน็อก และอุปกรณ์ป้องกันตัวต่าง ๆ

เนื่องจากทางทีมทัวร์แอดเวนเจอร์ชุดนี้ เขาเข้มงวดมากในเรื่องของระบบเซฟตี้และความปลอดภัยต่าง ๆ ของนักท่องเที่ยว ซึ่งผมว่ามันเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะไอ้เจ้าชุด หมวก รองเท้า ชูชีพ นี่มันช่วยเราได้มากโข ทั้งช่วยป้องกันการกระแทก กระทบ ขีดข่วน รวมถึงช่วยให้เราไม่รู้สึกหนาวยามที่ลงไปแช่ในน้ำเย็น ๆ แต่มันช่วยให้เราเย็นสบาย ทำให้การเดินป่าไม่เหนื่อยและมีอรรถรสมากยิ่งขึ้น
River Trekking
เมื่อคนพร้อม ชุดพร้อม พวกเราก็เลียนแบบเพลง “วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า”(ของแม็กซ์ เจนมานะ) เดินตามทางสบาย ๆ อันร่มรื่นไปสู่ลำธารลู่ผี(Lupi) จุดเริ่มต้นของกิจกรรม River Trekking

ที่ลำธารลู่ผีทางทีมสตาฟฟ์พาเราลงไปเดินแช่ในน้ำสร้างความคุ้นเคย พร้อมทั้งปรับอุณหภูมิร่างกายไปในตัว ต่อจากนั้นก็นำเดินทวนกระแสน้ำเลาะลำธารสูงขึ้นไป เพื่อถ่ายรูปคู่กับน้ำตกเล็ก ๆ ที่เท็ดดี้บอกว่าเป็นน้ำตกไม่มีชื่อ(ส่วนผมเรียกว่าน้ำตกนิรนามหรือน้ำตกไร้ชื่อ) เพราะคนที่นี่เขาไม่นับธารน้ำแก่งสูง ๆ แบบนี้เป็นน้ำตก

ต่อจากนั้นปีนเขาขึ้นไปยืนกันริมหน้าผาที่สูงราว ๆ 6 เมตร ซึ่งทางทีมสตาฟฟ์บอกนี่คือไฮไลท์ของกิจกรรมวันนี้ เพราะพวกเราทุกคนจะต้องกระโดดหน้าผา ณ จุดนี้ลงสู่ลำธารน้ำใสในเบื้องล่าง
จากนั้นทางทีมสตาฟฟ์ก็ไม่พูดพล่ามทำเพลง สาธิตวิธีการกระโดดที่ปลอดภัย แล้วกระโดด ตูม!!! ลงไป เพื่อไปรอดูแลความปลอดภัยของพวกเราที่ด้านล่าง ส่วนด้านบนก็มีคนคอยดูแลพวกเราอยู่เหมือนกัน

เมื่อผู้กล้าหาญคนแรกกระโดดลงไป คิวต่อไปก็มาถึงผม ที่เมื่อมองจากมุมบนนี้ลงไปมันเสียวเอาเรื่องทีเดียว ทำให้ต้องรวบรวมสมาธิกันพักหนึ่ง ก่อนจะค่อยๆกระโดดลอยละลิ่วลงไป
ตูม!!!
นี่ไม่ใช่เสียงระเบิด
แต่เป็นเสียงสายน้ำ แตกกระจายดังลั่น หลังผมกระโดดดิ่งลอยละลิ่วจากหน้าผาลงปะทะกับลำธารน้ำใสในเบื้องล่าง
งานนี้มันไม่เจ็บ ไม่จุก แต่จำ!!!
เพราะมันไม่บ่อยครั้งนักที่ผมจะเลือกมาผจญภัยในรูปแบบที่โลดโผนเช่นนี้

หลังกินน้ำไป 2-3 อึก ขณะที่กระโดดลงสู่ลำธาร ไอ้บรรยากาศความน่าตื่นเต้นหวาดเสียวใจตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ เมื่อช่วงที่ยืนอยู่บนหน้าผา มันก็เปลี่ยนมาเป็นความสนุกเพลิดเพลินจากการได้แหวกว่ายในลำธารน้ำใส พร้อมเอาใจ(ลุ้น)ช่วยเพื่อน ๆ คนอื่น ๆ ที่ทยอยกระโดดน้ำตาม ๆ ลงกันมา
ครับ งานนี้ทุกคนปลอดภัย แถมยังสนุกสะใจกันอีกต่างหาก
ต่อจากนั้นพวกงเราก็เดินตะลุยทวนลำน้ำเดินลัดเลาะปีนป่ายขึ้นที่สูง มุ่งหน้าสู่เป้าหมายคือน้ำตกจินเยี่ยกันต่อไป
สุดฟิน จินเยี่ย

ช่วงท้ายก่อนถึงตัวน้ำตกจินเยี่ย ทางทีมสตาฟฟ์พาพวดเราไปสนุกตื่นเต้นอีกครั้งกับการมุดตะลุยอุโมงค์น้ำ ที่เป็นแก่งหินเล็ก ๆ น้ำไหลเชี่ยวกราก มีโพรงหินทะลุลอด 2 ฟากฝั่ง เป็นดังอุโมงค์น้ำเล็ก ๆ ให้พวกเราได้ค่อย ๆ มุดฝ่าสายน้ำเชี่ยวจากฝั่งด้านล่างขึ้นไปสู่ฝั่งด้านบน
อันที่จริงบริเวณนี้มันก็มีทางเดินสบาย ๆ ให้พวกเราได้เดินข้ามฝ่าไป แต่ทางสตาฟฟ์เขาบอกว่ามันไม่ตื่นเต้นเร้าใจ ไม่เหมือนกับการมุดลอดช่องอุโมงค์น้ำเชี่ยวนี้ ที่มันก็“มันสะใจ” สมใจพระเดชพระคุณผู้รักความท้าทายกันจริง ๆ ด้วย

จากนั้นอีกไม่นานพวกเราก็มาถึงยังตัว“น้ำตกจินเยี่ย” (Jinyue Waterfall) น้ำตกขนาดกลางที่ตั้งตระหง่านโดดเด่นอยู่ท่ามกลางขุนเขาแมกไม้อันร่มรื่นเขียวขจี
น้ำตกจินเยี่ยมีความสูงประมาณ 25 เมตร เป็นน้ำตกที่ไหลเป็นสายยาวทิ้งดิ่งลงจากโตรกผาลงมาสูงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่างที่มีความสวยใส ยามฟ้าแดดเป็นใจจะสะท้อนแสงเป็นสีเขียวมรกตดูสวยงามไม่น้อย

ลำธารน้ำตกจินเยี่ยเป็นธารไล่ระดับจากตื้นไปหาลึก สามารถลงไปแหวกว่ายเล่นน้ำได้อย่างเพลิดเพลิน ซึ่งนอกจากชาวคณะเราจะมาเก็บภาพความประทับใจพร้อมลงแหวกว่ายเล่นน้ำกันแล้ว ทางทีมสตาฟฟ์ยังจับเซตภาพถ่ายรูปด้วยการจับมือลอยตัวเป็นวงกลมหน้าน้ำตก ที่สวยงามกิ๊บเก๋ไม่เบา
ต่อจากนั้นก็ได้เวลาอาหารเที่ยง เป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จต้มใส่ผัก หมู และเครื่องปรุงอื่น ๆ ตามสูตรชาวไต้หวัน (เน้นเป็นเมนูกินง่าย ๆ ทำง่าย ๆ เพราะสะดวกต่อการนำใส่เป้กันน้ำเข้าไป แล้วก็สะดวกต่อการนำกลับออกมา ซึ่งทางทีมสตาฟฟ์เขาจะไม่ให้มีขยะหลงเหลืออยู่ในป่า)

หลังนั่งเอาตัวแช่น้ำ กินบะหมี่ พร้อมดื่มด่ำกับสายน้ำตกจินเยี่ยในบรรยากาศกลางป่าไพรร่มรื่นอย่างสุดฟินแล้ว ต่อจากนั้นในช่วงบ่ายก็ได้เวลากลับ ด้วยการเดินลงตามธารน้ำไปในเส้นทางเดิม (น้ำตกจินเยี่ย อยู่ห่างจากจุดตั้งต้นออกเดินประมาณ 1.5 กม. ไป-กลับ 3 กม.)
สำหรับในช่วงขากลับ เราไม่ต้องกระโดดหน้าผาลงน้ำเหมือนในช่วงขามา เพราะทางสตาฟฟ์พาไปเดินในเส้นทางปกติ(กระโดดน้ำเป็นเส้นทางพิเศษสำหรับกลุ่มน้ำท่องเที่ยวผู้ชอบความท้าทาย)

แต่ในช่วงขากลับนี้ พวกเราก็มีอีกหนึ่งกิจกรรมไฮไลท์ให้ทำ นั่นก็คือ การสไลเดอร์ไหลไปตามลำธารน้ำตกที่มีให้ได้สนุกกันในหลายจุด
โดยเฉพาะในช่วงท้าย ณ บริเวณน้ำตกไร้ชื่อที่พวกเราแวะถ่ายรูปหมู่กันในช่วงขามานั้น มีอีกหนึ่งภารกิจสำคัญให้พวกเราทำกันปิดท้าย นั่นก็คือการสไลเดอร์ลงไปลำธารน้ำตกที่มีความสูงประมาณ 5 เมตร ซึ่งนี่มันไม่ใช่การสไลเดอร์แบบในสวนน้ำ หากแต่เป็นการสไลเดอร์ผ่านน้ำตกที่มีระดับความชันสูง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความสนุกเร้าใจส่งท้าย ก่อนที่พวกเราจะมาโยนหมวกปิดท้ายทริปผจญภัยอันสนุกมันสะใจกันในบริเวณลำธารที่จุดตั้งต้นลุยน้ำออกเดิน เป็นดังประกาศนียบัตรการันตีความกล้าหาญของแต่ละคน ที่สามารถฟันฝ่าอุปสรรคความยากลำบากสมบุกสมบัน ไปพิชิตในเป้าหมายได้ตามที่ต้องการ

ที่สำคัญมันคือการพิชิตใจตัวเองของแต่ละคน ซึ่งความยากลำบากเหนือสิ่งอื่นใดก็คือการพิชิตใจของตัวเองนั่นแล
และนี่ถือเป็นการสัมผัสไต้หวันในวันที่แตกต่าง ผ่านบรรยากาศการผจญภัยเดินป่าฝ่าสายน้ำ ที่นอกจากจะสนุก ตื่นเต้น และมันสะใจแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งทริปแห่งความประทับใจที่น่าจดจำไม่น้อยเลย...(อ่านต่อ ตอนต่อไป)

....................................................................................................
กิจกรรม River Trekking เดินป่าฝ่าสายน้ำสู่น้ำตกจินเยี่ย (เดินป่า 1 วัน ประมาณ 5-6 ชม. ระยะทางไป-กลับ 3 กม.) เป็นหนึ่งในไฮไลท์ของทริปผจญภัยในไต้หวัน พาไปขึ้นเขา เดินป่า สัมผัสมุมมองที่แตกต่างในไต้หวัน(4 วัน 3 คืน) ซึ่งจัดโดย “Octo Cycling” บริษัทที่จัดการท่องเที่ยวกลางแจ้ง ทั้งการผจญภัยเดินป่า-ขึ้นเขา และการปั่นจักรยานท่องโลกกว้าง ทั้งใน กทม. ในเมืองไทย อาเซียน ไต้หวัน ญี่ปุ่น เอเชีย และยุโรป เป็นต้น ซึ่งผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-2181-2088 หรือที่ www. Octocycling.com หรือ www.facebook.com/octocycling
....................................................................................................
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
ตูม!!!
นี่ไม่ใช่เสียงระเบิด
แต่เป็นเสียงสายน้ำ แตกกระจายดังลั่น หลังผมกระโดดดิ่งลอยละลิ่วจากหน้าผาลงปะทะกับลำธารน้ำใสในเบื้องล่าง
งานนี้มันไม่เจ็บ ไม่จุก แต่จำ!!!
กับทริปผจญภัยตะลุยป่าฝ่าลำธาร(River Trekking)ใน“ไต้หวัน” ที่แม้จะมีเส้นทางเดินสั้นๆแค่ 1.5 กม.(ไป-กลับ 3 กม.)
แต่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมท่องเที่ยวที่แตกต่างในไต้หวัน(จากที่ผมเคยสัมผัสมา) ซึ่งแม้ทริปนี้จะต้องใช้พลังอย่างสูง แต่ในระหว่างทางนั้นก็มากไปด้วยสีสันความมันเร้าใจ ทำให้นี่เป็นอีกหนึ่งทริปผจญภัยในไต้หวันที่น่าจดจำไม่น้อยเลย
เจียวซี่
การมาไต้หวันของผมในครั้งนี้(4 วัน 3 คืน) เป็นทริปพิเศษที่ทางบริษัท “Octo Cycling” พาคณะนักท่องเที่ยวกลุ่มเล็กๆจากเมืองไทย ไปสัมผัสกับไต้หวันในมุมมองใหม่ผ่านกิจกรรมท่องเที่ยว-ผจญ ขึ้นเขา เดินป่า ฝ่าสายน้ำ พร้อมพาไปสัมผัสกับแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจ
ใครที่ชอบรูปแบบการทัวร์แอดเวนเจอร์ที่ปลอดภัย ไม่โหดมาก แถมพักหรูอยู่สบาย กินอาหารอร่อยแบบจัดเต็ม นี่ถือเป็นอีกหนึ่งทัวร์สัมผัสไต้หวันที่น่าสนใจไม่น้อย
สำหรับกิจกรรมวันแรก เป็นการขึ้นเขาเบาๆ 3 เขา(3 ลูก) ในเขตนิวไทเป (New Taipei-เขตไทเปใหม่) ซึ่งเป็นเขตปกครองใหม่ในไต้หวัน มีพื้นที่ล้อมรอบเมืองหลวงไทเป(Taipei) คล้าย ๆ กับเขตปริมณฑลของบ้านเรา
โดยไฮไลท์สำคัญของวันแรกนี้ คือการเดินแบบสบาย ๆ ไปชมความสวยงามของ“หินช้าง”(Elephant Rock) หรือ “หินงวงช้าง”(Elephant Nose Rock) ในเขตตำบล“รุ่ยฟัง”หรือ"เร่ยฟัง"(Ruifang) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในมหัศจรรย์แห่งไต้หวันกับปรากฏการณ์ธรรมชาติทางธรณีอันน่าทึ่ง สร้างสรรค์ให้เนินหินผาริมมหาสมุทรแปซิฟิคมีรูปร่างหน้าตาดูคล้ายกับช้างกำลังจุ่มงวงดูดน้ำในทะเล ที่มองหากมองถูกจุด ถูกมุมมอง ดูยังไงมันก็เหมือนช้างแบบไม่ต้องใช้จินตนาการให้มากมาย
หลังพิชิต 3 ขุนเขาในวันแรกเสร็จ คณะเราเดินทางออกจากเขตนิวไทเป มุ่งหน้าไปพักค้างกันที่เมือง“เจียวซี่”(Jiaoxi) เมืองเล็ก ๆ น่ารัก ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของน้ำพุร้อน ซึ่งทางเมืองนี้เขาจัดทำบ่อน้ำร้อนไว้ให้แช่เท้ากันฟรี ๆ ที่ใจกลางเมือง
เจียวซี่เป็นอีกหนึ่งเมืองพักน่าสนใจในเขต(จังหวัด)“อี่หลาน”(Yilan) หลังกินอาหารค่ำแล้ว ผมไปลองแช่น้ำพุร้อนผ่อนคลาย ก่อนจะกลับเข้าโรงแรมเพื่อพักผ่อนเอาแรงให้เต็มที่ เพื่อเก็บแรงไว้ตะลุยกันต่อกับเส้นทาง“River Trekking” อันสุดมัน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมไฮไลท์ของทริปนี้
หนานเอา
เช้าวันที่สอง หลังกินอาหารเช้าตุนพลังกันเป็นที่เรียบร้อย คณะเราออกเดินทางมุ่งหน้าสู่เมือง“หนานเอา”(Nanao) เขตอี่หลาน หมู่บ้านที่แวดล้อมไปด้วยขุนเขา ป่าไม้อันร่มรื่น
เมืองหนานเอา มีน้ำตก“จินเยี่ย” (Jinyue)อันสวยงามเป็นหนึ่งในไฮไลท์สำคัญ พร้อมทั้งมีเส้นทาง “River Trekking” เดินป่าฝ่าสายน้ำไปพิชิตตัวน้ำตกจินเยี่ย ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ได้รับความนิยมของชาวไต้หวัน และเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติผู้รักการผจญภัย(แต่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวชาวไทย)
หลังใช้เวลาประมาณ 1 ชม. จากที่พักในเมืองเจียวซี่ เดินทางมาถึงเมืองหนานเอา คุณ“เท็ดดี้”(Teddy) ไกด์ชาวไต้หวันผู้ช่ำชองกับการทำทัวร์แอดเวนเจอร์ กับ คุณ“จอห์นสัน”(MR.Johnson)คนขับรถผู้เปี่ยมไปด้วยอัธยาศัยไมตรี ผู้มีฝีมือการชงกาแฟเป็นเลิศ ก็พาพวกเราไปรู้จักกับทีมสตาฟฟ์เดินป่าท้องถิ่น ที่จะนำทีมพวกเราออกตะลุย(เดินป่าเต็มวัน)ผจญภัยสมบุกสมบันไปด้วยกัน
อย่างไรก็ดีก่อนออกเดินป่าฝ่าสายน้ำ พวกเราต้องมาฟังบรีฟ พร้อมเปลี่ยนเสื้อผ้า มาใส่ชุดเวทสูท สวมรองเท้าสำหรับลุยฝ่าลำธาร สวมเสื้อชูชีพ หมวกกันน็อก และอุปกรณ์ป้องกันตัวต่าง ๆ
เนื่องจากทางทีมทัวร์แอดเวนเจอร์ชุดนี้ เขาเข้มงวดมากในเรื่องของระบบเซฟตี้และความปลอดภัยต่าง ๆ ของนักท่องเที่ยว ซึ่งผมว่ามันเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะไอ้เจ้าชุด หมวก รองเท้า ชูชีพ นี่มันช่วยเราได้มากโข ทั้งช่วยป้องกันการกระแทก กระทบ ขีดข่วน รวมถึงช่วยให้เราไม่รู้สึกหนาวยามที่ลงไปแช่ในน้ำเย็น ๆ แต่มันช่วยให้เราเย็นสบาย ทำให้การเดินป่าไม่เหนื่อยและมีอรรถรสมากยิ่งขึ้น
River Trekking
เมื่อคนพร้อม ชุดพร้อม พวกเราก็เลียนแบบเพลง “วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า”(ของแม็กซ์ เจนมานะ) เดินตามทางสบาย ๆ อันร่มรื่นไปสู่ลำธารลู่ผี(Lupi) จุดเริ่มต้นของกิจกรรม River Trekking
ที่ลำธารลู่ผีทางทีมสตาฟฟ์พาเราลงไปเดินแช่ในน้ำสร้างความคุ้นเคย พร้อมทั้งปรับอุณหภูมิร่างกายไปในตัว ต่อจากนั้นก็นำเดินทวนกระแสน้ำเลาะลำธารสูงขึ้นไป เพื่อถ่ายรูปคู่กับน้ำตกเล็ก ๆ ที่เท็ดดี้บอกว่าเป็นน้ำตกไม่มีชื่อ(ส่วนผมเรียกว่าน้ำตกนิรนามหรือน้ำตกไร้ชื่อ) เพราะคนที่นี่เขาไม่นับธารน้ำแก่งสูง ๆ แบบนี้เป็นน้ำตก
ต่อจากนั้นปีนเขาขึ้นไปยืนกันริมหน้าผาที่สูงราว ๆ 6 เมตร ซึ่งทางทีมสตาฟฟ์บอกนี่คือไฮไลท์ของกิจกรรมวันนี้ เพราะพวกเราทุกคนจะต้องกระโดดหน้าผา ณ จุดนี้ลงสู่ลำธารน้ำใสในเบื้องล่าง
จากนั้นทางทีมสตาฟฟ์ก็ไม่พูดพล่ามทำเพลง สาธิตวิธีการกระโดดที่ปลอดภัย แล้วกระโดด ตูม!!! ลงไป เพื่อไปรอดูแลความปลอดภัยของพวกเราที่ด้านล่าง ส่วนด้านบนก็มีคนคอยดูแลพวกเราอยู่เหมือนกัน
เมื่อผู้กล้าหาญคนแรกกระโดดลงไป คิวต่อไปก็มาถึงผม ที่เมื่อมองจากมุมบนนี้ลงไปมันเสียวเอาเรื่องทีเดียว ทำให้ต้องรวบรวมสมาธิกันพักหนึ่ง ก่อนจะค่อยๆกระโดดลอยละลิ่วลงไป
ตูม!!!
นี่ไม่ใช่เสียงระเบิด
แต่เป็นเสียงสายน้ำ แตกกระจายดังลั่น หลังผมกระโดดดิ่งลอยละลิ่วจากหน้าผาลงปะทะกับลำธารน้ำใสในเบื้องล่าง
งานนี้มันไม่เจ็บ ไม่จุก แต่จำ!!!
เพราะมันไม่บ่อยครั้งนักที่ผมจะเลือกมาผจญภัยในรูปแบบที่โลดโผนเช่นนี้
หลังกินน้ำไป 2-3 อึก ขณะที่กระโดดลงสู่ลำธาร ไอ้บรรยากาศความน่าตื่นเต้นหวาดเสียวใจตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ เมื่อช่วงที่ยืนอยู่บนหน้าผา มันก็เปลี่ยนมาเป็นความสนุกเพลิดเพลินจากการได้แหวกว่ายในลำธารน้ำใส พร้อมเอาใจ(ลุ้น)ช่วยเพื่อน ๆ คนอื่น ๆ ที่ทยอยกระโดดน้ำตาม ๆ ลงกันมา
ครับ งานนี้ทุกคนปลอดภัย แถมยังสนุกสะใจกันอีกต่างหาก
ต่อจากนั้นพวกงเราก็เดินตะลุยทวนลำน้ำเดินลัดเลาะปีนป่ายขึ้นที่สูง มุ่งหน้าสู่เป้าหมายคือน้ำตกจินเยี่ยกันต่อไป
สุดฟิน จินเยี่ย
ช่วงท้ายก่อนถึงตัวน้ำตกจินเยี่ย ทางทีมสตาฟฟ์พาพวดเราไปสนุกตื่นเต้นอีกครั้งกับการมุดตะลุยอุโมงค์น้ำ ที่เป็นแก่งหินเล็ก ๆ น้ำไหลเชี่ยวกราก มีโพรงหินทะลุลอด 2 ฟากฝั่ง เป็นดังอุโมงค์น้ำเล็ก ๆ ให้พวกเราได้ค่อย ๆ มุดฝ่าสายน้ำเชี่ยวจากฝั่งด้านล่างขึ้นไปสู่ฝั่งด้านบน
อันที่จริงบริเวณนี้มันก็มีทางเดินสบาย ๆ ให้พวกเราได้เดินข้ามฝ่าไป แต่ทางสตาฟฟ์เขาบอกว่ามันไม่ตื่นเต้นเร้าใจ ไม่เหมือนกับการมุดลอดช่องอุโมงค์น้ำเชี่ยวนี้ ที่มันก็“มันสะใจ” สมใจพระเดชพระคุณผู้รักความท้าทายกันจริง ๆ ด้วย
จากนั้นอีกไม่นานพวกเราก็มาถึงยังตัว“น้ำตกจินเยี่ย” (Jinyue Waterfall) น้ำตกขนาดกลางที่ตั้งตระหง่านโดดเด่นอยู่ท่ามกลางขุนเขาแมกไม้อันร่มรื่นเขียวขจี
น้ำตกจินเยี่ยมีความสูงประมาณ 25 เมตร เป็นน้ำตกที่ไหลเป็นสายยาวทิ้งดิ่งลงจากโตรกผาลงมาสูงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่างที่มีความสวยใส ยามฟ้าแดดเป็นใจจะสะท้อนแสงเป็นสีเขียวมรกตดูสวยงามไม่น้อย
ลำธารน้ำตกจินเยี่ยเป็นธารไล่ระดับจากตื้นไปหาลึก สามารถลงไปแหวกว่ายเล่นน้ำได้อย่างเพลิดเพลิน ซึ่งนอกจากชาวคณะเราจะมาเก็บภาพความประทับใจพร้อมลงแหวกว่ายเล่นน้ำกันแล้ว ทางทีมสตาฟฟ์ยังจับเซตภาพถ่ายรูปด้วยการจับมือลอยตัวเป็นวงกลมหน้าน้ำตก ที่สวยงามกิ๊บเก๋ไม่เบา
ต่อจากนั้นก็ได้เวลาอาหารเที่ยง เป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จต้มใส่ผัก หมู และเครื่องปรุงอื่น ๆ ตามสูตรชาวไต้หวัน (เน้นเป็นเมนูกินง่าย ๆ ทำง่าย ๆ เพราะสะดวกต่อการนำใส่เป้กันน้ำเข้าไป แล้วก็สะดวกต่อการนำกลับออกมา ซึ่งทางทีมสตาฟฟ์เขาจะไม่ให้มีขยะหลงเหลืออยู่ในป่า)
หลังนั่งเอาตัวแช่น้ำ กินบะหมี่ พร้อมดื่มด่ำกับสายน้ำตกจินเยี่ยในบรรยากาศกลางป่าไพรร่มรื่นอย่างสุดฟินแล้ว ต่อจากนั้นในช่วงบ่ายก็ได้เวลากลับ ด้วยการเดินลงตามธารน้ำไปในเส้นทางเดิม (น้ำตกจินเยี่ย อยู่ห่างจากจุดตั้งต้นออกเดินประมาณ 1.5 กม. ไป-กลับ 3 กม.)
สำหรับในช่วงขากลับ เราไม่ต้องกระโดดหน้าผาลงน้ำเหมือนในช่วงขามา เพราะทางสตาฟฟ์พาไปเดินในเส้นทางปกติ(กระโดดน้ำเป็นเส้นทางพิเศษสำหรับกลุ่มน้ำท่องเที่ยวผู้ชอบความท้าทาย)
แต่ในช่วงขากลับนี้ พวกเราก็มีอีกหนึ่งกิจกรรมไฮไลท์ให้ทำ นั่นก็คือ การสไลเดอร์ไหลไปตามลำธารน้ำตกที่มีให้ได้สนุกกันในหลายจุด
โดยเฉพาะในช่วงท้าย ณ บริเวณน้ำตกไร้ชื่อที่พวกเราแวะถ่ายรูปหมู่กันในช่วงขามานั้น มีอีกหนึ่งภารกิจสำคัญให้พวกเราทำกันปิดท้าย นั่นก็คือการสไลเดอร์ลงไปลำธารน้ำตกที่มีความสูงประมาณ 5 เมตร ซึ่งนี่มันไม่ใช่การสไลเดอร์แบบในสวนน้ำ หากแต่เป็นการสไลเดอร์ผ่านน้ำตกที่มีระดับความชันสูง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความสนุกเร้าใจส่งท้าย ก่อนที่พวกเราจะมาโยนหมวกปิดท้ายทริปผจญภัยอันสนุกมันสะใจกันในบริเวณลำธารที่จุดตั้งต้นลุยน้ำออกเดิน เป็นดังประกาศนียบัตรการันตีความกล้าหาญของแต่ละคน ที่สามารถฟันฝ่าอุปสรรคความยากลำบากสมบุกสมบัน ไปพิชิตในเป้าหมายได้ตามที่ต้องการ
ที่สำคัญมันคือการพิชิตใจตัวเองของแต่ละคน ซึ่งความยากลำบากเหนือสิ่งอื่นใดก็คือการพิชิตใจของตัวเองนั่นแล
และนี่ถือเป็นการสัมผัสไต้หวันในวันที่แตกต่าง ผ่านบรรยากาศการผจญภัยเดินป่าฝ่าสายน้ำ ที่นอกจากจะสนุก ตื่นเต้น และมันสะใจแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งทริปแห่งความประทับใจที่น่าจดจำไม่น้อยเลย...(อ่านต่อ ตอนต่อไป)
....................................................................................................
กิจกรรม River Trekking เดินป่าฝ่าสายน้ำสู่น้ำตกจินเยี่ย (เดินป่า 1 วัน ประมาณ 5-6 ชม. ระยะทางไป-กลับ 3 กม.) เป็นหนึ่งในไฮไลท์ของทริปผจญภัยในไต้หวัน พาไปขึ้นเขา เดินป่า สัมผัสมุมมองที่แตกต่างในไต้หวัน(4 วัน 3 คืน) ซึ่งจัดโดย “Octo Cycling” บริษัทที่จัดการท่องเที่ยวกลางแจ้ง ทั้งการผจญภัยเดินป่า-ขึ้นเขา และการปั่นจักรยานท่องโลกกว้าง ทั้งใน กทม. ในเมืองไทย อาเซียน ไต้หวัน ญี่ปุ่น เอเชีย และยุโรป เป็นต้น ซึ่งผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-2181-2088 หรือที่ www. Octocycling.com หรือ www.facebook.com/octocycling
....................................................................................................
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager