Facebook :Travel @ Manager
“ส้มตำกับไวน์” ใครคิดว่าจะเข้ากันได้?? จนกระทั่งเมื่อ “ตระเวนกิน” ได้พาตัวเองมาที่ร้านอาหารแห่งนี้ที่มีชื่อว่า “ส้มตำ แอนด์ ชาร์ดอนเน่ย์” (Som Tam & Chardonnay) เป็นร้านอาหารเปิดใหม่ตั้งอยู่ที่ชั้น 11 Eight Thonglor โรงแรมอคีรา ทองหล่อ กรุงเทพฯ ซึ่งที่นี่มีคอนเซ็ปต์ร้านที่ว่า ส้มตำกับไวน์ชาร์ดอนเน่ย์สามารถกินดื่มเข้ากันได้แบบลงตัว แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เมื่อเราได้ลองลิ้มด้วยตัวเอง
ร้าน “Som Tam & Chardonnay” มีบรรยากาศร้านที่ชวนนั่ง มีโต๊ะนั่งให้เลือกนั่งหลากหลาย ท่ามกลางการตกแต่งแบบโมเดิร์น แฝงไว้ด้วยความอบอุ่นเป็นกันเอง ชวนนั่งแบบสบายๆ มีครัวเปิดโชว์การทำอาหารของเชฟ อย่างส้มตำเชฟจะตำให้เห็นกันเลย และยังมีโต๊ะนั่งด้านนอกให้นั่งรับลมธรรมชาติ
อาหารของที่นี่นำเสนออาหารไทยสไตล์ฟิวชั่น ที่เชฟคิดค้นสร้างสรรค์ขึ้นมาเป็นพิเศษโดยเฉพาะ ซึ่งยังคงรสชาติจัดจ้านอันเป็นเอกลักษณ์ของอาหารไทยไว้เป็นอย่างดี แล้วก็มีอาหารฝรั่งหลากหลาย อีกทั้งยังมีเมนูพิเศษตามเทศกาล และเมนูใหม่ๆ หมุนเวียนมาอยู่เสมอ ที่เน้นเรื่องการคัดสรรวัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพ มีความสดสะอาด โดยอาหารแต่ละเมนูเชฟจะทำการแพริ่งไวน์ที่ดื่มเข้ากับเมนูต่างๆ ไว้อย่างลงตัวเข้ากัน หรืออยากจะสั่งไวน์ขาว ไวน์แดง ซึ่งทางร้านได้คัดสรรไวน์อย่างดีมาจากหลายหลายที่ ให้ได้เลือกดื่มกินคู่กับเมนูต่างๆ ได้ตามชอบใจ โดยไวน์ของที่นี่สามารถสั่งได้ทั้งแบบแก้ว และแบบขวด
เมนูที่ชวนกินของที่นี่มีมากหลาย แน่นอนว่าเมนูแรกที่ไม่ควรพลาดก็คือ ส้มตำไทย (220 บาท++) เชฟเลือกใช้มะละกอสดที่ใหม่กรอบนำมาสับ แล้วตำกับเครื่องส้มตำไทยแบบครบเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นกุ้งแห้งอย่างดี มะเขือเทศสด ถั่วลิสงที่คั่วเองแบบใหม่ๆ ปรุงรสด้วยน้ำมะนาวสดๆ น้ำมะขามเปียก และน้ำปลาอย่างดี เป็นส้มตำไทยที่กินแล้วมะละกอเคี้ยวกรอบกรุบ ชุ่มน้ำส้มตำรสกลมกล่อมถูกปาก สั่งมากินคู่กับไวน์ขาวลงตัวเข้ากันดีแท้
กินส้มตำแล้วแนะนำว่าควรสั่ง ไก่ย่างออร์แกนิก (240 บาท++) มากินด้วย โดยเชฟคัดสรรไก่รุ่น และเป็นไก่ออร์แกนิกด้วยน้ำหนักประมาณ 7 ขีด นำมาหมักกับเครื่องสมุนไพรไทยต่างๆ ตามสูตรเด็ดนาน 1 ชม. แล้วนำเข้าตู้แช่เย็น ไว้ก่อน จะนำไก่มาอบให้สุก สับเสิร์ฟมาเป็นชิ้นๆ กับน้ำจิ้มแจ่วสูตรพิเศษที่เชฟคั่วข้าวคั่วเองหอมๆ และทำพริกป่นเอง กินไก่เนื้อนุ่มได้รสชาติเครื่องหมักสมุนไพรไทยที่ซึมลึกถึงหนังและเนื้อไก่ถูกลิ้นดีจริง แถมยิ่งจิ่มกินกับน้ำจิ้มแจ่วรสแซ่บเด็ดสะระตี่
แล้วมาลองลิ้ม ผัดไทยกุ้งสด (350 บาท++) หน้าตาชวนชิม เป็นเส้นจันท์ผัดคลุกเคล้ากับน้ำปรุงสูตรพิเศษที่เชฟปรุงเคี่ยวนานกว่า 1 ชม. ผัดกับเครื่องผัดไทยครบเครื่องใส่เต้าหู้เหลือง ไชโป๊ หอมแดง แล้วเอาไข่มาห่อกับเส้นอีกที และมีกุ้งแม่น้ำทอดที่คลุกกับซอสปรุงรสพิเศษใส่มาด้วยในจาน พร้อมกับมีมะนาว ถั่วลิสง พริกป่น ให้ปรุงรสเพิ่มตามใจชอบ และผักเคียงอย่างถั่วงอกกับใบกุยช่าย ลิ้มรสผัดไทยเส้นจันท์เหนียวนุ่มชุ่มรสชาติน้ำซอสรสเข้มข้นถูกปาก กินเข้ากันดีกับไข่นุ่มๆ และกุ้งเนื้อเด้งหวานสด
ต่อด้วยชวนสั่งเมนู ต้มซี่โครงหมูใบชะมวง (260 บาท++) มาซดน้ำซุปร้อนๆ ซี่โครงหมูอ่อนต้มกับสมุนไพรไทยอย่างข่า ตะไคร้ หอมแดง ต้มตุ๋นนาน 2 ชม. จนเปื่อยนุ่ม แล้วนำมาต้มใส่ใบชะมวง ใส่พริกขี้หนูสด ปรุงรส ได้ซดน้ำซุปร้อนๆ เปรี้ยวแซ่บเผ็ด ซี่โครงหมูเคี้ยวนุ่มเปื่อยนิ่มถูกปากโดนใจ
เมนูถัดมานำเสนอ ปลาทูน่าย่างเสิร์ฟกับสลัดแตงโม (350 บาท++) เป็นปลาเยลโลฟินทูน่าแบบสด เชฟนำมาหมักกับน้ำมัน กระเทียม พริกไทย เกลือ แล้วนำไปเซียร์ เสิร์ฟพร้อมสลัดแตงโมแดงสดฉ่ำ ใส่ลูกเกดและปลาป่นด้วย และมีซอสเลมอนใส่มาด้วย ลิ้มรสทูน่าเนื้อนุ่มหวานสดกินเข้ากันดีกับแตงโมหวานฉ่ำ และซอสเลมอนกินแล้วสดชื่นปาก
หากใครชอบกินเนื้อวัวแนะนำเมนูนี้ ริบอายสเต๊กเสิร์ฟกับซอสพริกไทย (680 บาท++) เนื้อริบอายนำเข้าจากออสเตรเลียโรยเกลือ พริกไทย น้ำมันมะกอก แล้วนำมากริลล์ (สามารถเลือกระดับความสุกของเนื้อได้) เสิร์ฟพร้อมซอสเกรวี่พริกไทยสูตรเด็ดของเชฟ แล้วมีมะเขือเทศย่างใส่พาเมซานชีส กับมันฝรั่งทอดทั้งเปลือกคลุกกับสมุนไพรฝรั่งและพาเมซานชีส มาให้กินแกล้มกับเนื้อสเต๊กที่เคี้ยวนุ่มหนึบหนับปาก จิ้มกินคู่กับซอสเกรวี่พริกไทยรสเข้มข้นถึงเครื่องพริกไทยดีจริง
จากนั้นมาล้างปากด้วยเมนูของหวาน ข้าวเหนียวมะม่วง (190 บาท++) เชฟมูนข้าวเหนียวเอง โรยหน้าด้วยถั่วทอง มาพร้อมกับมะม่วงน้ำดอกไม้สด และน้ำกะทิเคี่ยวกับเกลือ ชิมข้าวเหนียวเป็นเม็ดเคี้ยวนุ่มละมุนลิ้น กินกับมะม่วงน้ำดอกไม้ออกหวานนำอมเปรี้ยวนิดๆ ชื่นใจกับของหวาน
แต่ว่าในรายการอาหารที่ชวนกินของที่นี่ยังมีอีกหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็น หอยเชลล์ฮอกไกโดย่าง (450 บาท++) ปลากะพงย่างเสิร์ฟกับสลัดคีนัว (450 บาท++) แกงฮังเลโรตี (350 บาท++) เนื้ออกเป็ดย่างเสิร์ฟกับผักและเส้นเฟตตูชินี่ (460 บาท++) และเมนูอื่นๆ อีก ที่ชวนสั่งมาให้กินดื่มคู่กับไวน์แบบลงตัว ซึ่งถ้าใครไม่เชื่อว่าส้มตำ และอาหารไทยจะกินเข้ากันได้กับไวน์ ก็อยากแนะนำให้มาพิสูจน์ให้รู้กับปากตัวเองกันได้ที่ร้าน “Som Tam & Chardonnay” แห่งนี้
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“Som Tam & Chardonnay” (ส้มตำ แอนด์ ชาร์ดอนเน่ย์) ตั้งอยู่ที่ ชั้น 11 Eight Thonglor โรงแรมอคีรา ทองหล่อ กรุงเทพฯ 88/333 ซอยสุขุมวิท55 (ทองหล่อ) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ เปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 23.00 น. ถ้ามากินอาหารวันศุกร์-อาทิตย์ แนะนำว่าควรโทร. มาจองโต๊ะล่วงหน้าก่อน โทร. 0-2090-9052 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.theakyra.com/bangkok/thonglor/dining/som-tam-chardonnay-restaurant
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
“ส้มตำกับไวน์” ใครคิดว่าจะเข้ากันได้?? จนกระทั่งเมื่อ “ตระเวนกิน” ได้พาตัวเองมาที่ร้านอาหารแห่งนี้ที่มีชื่อว่า “ส้มตำ แอนด์ ชาร์ดอนเน่ย์” (Som Tam & Chardonnay) เป็นร้านอาหารเปิดใหม่ตั้งอยู่ที่ชั้น 11 Eight Thonglor โรงแรมอคีรา ทองหล่อ กรุงเทพฯ ซึ่งที่นี่มีคอนเซ็ปต์ร้านที่ว่า ส้มตำกับไวน์ชาร์ดอนเน่ย์สามารถกินดื่มเข้ากันได้แบบลงตัว แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เมื่อเราได้ลองลิ้มด้วยตัวเอง
ร้าน “Som Tam & Chardonnay” มีบรรยากาศร้านที่ชวนนั่ง มีโต๊ะนั่งให้เลือกนั่งหลากหลาย ท่ามกลางการตกแต่งแบบโมเดิร์น แฝงไว้ด้วยความอบอุ่นเป็นกันเอง ชวนนั่งแบบสบายๆ มีครัวเปิดโชว์การทำอาหารของเชฟ อย่างส้มตำเชฟจะตำให้เห็นกันเลย และยังมีโต๊ะนั่งด้านนอกให้นั่งรับลมธรรมชาติ
อาหารของที่นี่นำเสนออาหารไทยสไตล์ฟิวชั่น ที่เชฟคิดค้นสร้างสรรค์ขึ้นมาเป็นพิเศษโดยเฉพาะ ซึ่งยังคงรสชาติจัดจ้านอันเป็นเอกลักษณ์ของอาหารไทยไว้เป็นอย่างดี แล้วก็มีอาหารฝรั่งหลากหลาย อีกทั้งยังมีเมนูพิเศษตามเทศกาล และเมนูใหม่ๆ หมุนเวียนมาอยู่เสมอ ที่เน้นเรื่องการคัดสรรวัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพ มีความสดสะอาด โดยอาหารแต่ละเมนูเชฟจะทำการแพริ่งไวน์ที่ดื่มเข้ากับเมนูต่างๆ ไว้อย่างลงตัวเข้ากัน หรืออยากจะสั่งไวน์ขาว ไวน์แดง ซึ่งทางร้านได้คัดสรรไวน์อย่างดีมาจากหลายหลายที่ ให้ได้เลือกดื่มกินคู่กับเมนูต่างๆ ได้ตามชอบใจ โดยไวน์ของที่นี่สามารถสั่งได้ทั้งแบบแก้ว และแบบขวด
เมนูที่ชวนกินของที่นี่มีมากหลาย แน่นอนว่าเมนูแรกที่ไม่ควรพลาดก็คือ ส้มตำไทย (220 บาท++) เชฟเลือกใช้มะละกอสดที่ใหม่กรอบนำมาสับ แล้วตำกับเครื่องส้มตำไทยแบบครบเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นกุ้งแห้งอย่างดี มะเขือเทศสด ถั่วลิสงที่คั่วเองแบบใหม่ๆ ปรุงรสด้วยน้ำมะนาวสดๆ น้ำมะขามเปียก และน้ำปลาอย่างดี เป็นส้มตำไทยที่กินแล้วมะละกอเคี้ยวกรอบกรุบ ชุ่มน้ำส้มตำรสกลมกล่อมถูกปาก สั่งมากินคู่กับไวน์ขาวลงตัวเข้ากันดีแท้
กินส้มตำแล้วแนะนำว่าควรสั่ง ไก่ย่างออร์แกนิก (240 บาท++) มากินด้วย โดยเชฟคัดสรรไก่รุ่น และเป็นไก่ออร์แกนิกด้วยน้ำหนักประมาณ 7 ขีด นำมาหมักกับเครื่องสมุนไพรไทยต่างๆ ตามสูตรเด็ดนาน 1 ชม. แล้วนำเข้าตู้แช่เย็น ไว้ก่อน จะนำไก่มาอบให้สุก สับเสิร์ฟมาเป็นชิ้นๆ กับน้ำจิ้มแจ่วสูตรพิเศษที่เชฟคั่วข้าวคั่วเองหอมๆ และทำพริกป่นเอง กินไก่เนื้อนุ่มได้รสชาติเครื่องหมักสมุนไพรไทยที่ซึมลึกถึงหนังและเนื้อไก่ถูกลิ้นดีจริง แถมยิ่งจิ่มกินกับน้ำจิ้มแจ่วรสแซ่บเด็ดสะระตี่
แล้วมาลองลิ้ม ผัดไทยกุ้งสด (350 บาท++) หน้าตาชวนชิม เป็นเส้นจันท์ผัดคลุกเคล้ากับน้ำปรุงสูตรพิเศษที่เชฟปรุงเคี่ยวนานกว่า 1 ชม. ผัดกับเครื่องผัดไทยครบเครื่องใส่เต้าหู้เหลือง ไชโป๊ หอมแดง แล้วเอาไข่มาห่อกับเส้นอีกที และมีกุ้งแม่น้ำทอดที่คลุกกับซอสปรุงรสพิเศษใส่มาด้วยในจาน พร้อมกับมีมะนาว ถั่วลิสง พริกป่น ให้ปรุงรสเพิ่มตามใจชอบ และผักเคียงอย่างถั่วงอกกับใบกุยช่าย ลิ้มรสผัดไทยเส้นจันท์เหนียวนุ่มชุ่มรสชาติน้ำซอสรสเข้มข้นถูกปาก กินเข้ากันดีกับไข่นุ่มๆ และกุ้งเนื้อเด้งหวานสด
ต่อด้วยชวนสั่งเมนู ต้มซี่โครงหมูใบชะมวง (260 บาท++) มาซดน้ำซุปร้อนๆ ซี่โครงหมูอ่อนต้มกับสมุนไพรไทยอย่างข่า ตะไคร้ หอมแดง ต้มตุ๋นนาน 2 ชม. จนเปื่อยนุ่ม แล้วนำมาต้มใส่ใบชะมวง ใส่พริกขี้หนูสด ปรุงรส ได้ซดน้ำซุปร้อนๆ เปรี้ยวแซ่บเผ็ด ซี่โครงหมูเคี้ยวนุ่มเปื่อยนิ่มถูกปากโดนใจ
เมนูถัดมานำเสนอ ปลาทูน่าย่างเสิร์ฟกับสลัดแตงโม (350 บาท++) เป็นปลาเยลโลฟินทูน่าแบบสด เชฟนำมาหมักกับน้ำมัน กระเทียม พริกไทย เกลือ แล้วนำไปเซียร์ เสิร์ฟพร้อมสลัดแตงโมแดงสดฉ่ำ ใส่ลูกเกดและปลาป่นด้วย และมีซอสเลมอนใส่มาด้วย ลิ้มรสทูน่าเนื้อนุ่มหวานสดกินเข้ากันดีกับแตงโมหวานฉ่ำ และซอสเลมอนกินแล้วสดชื่นปาก
หากใครชอบกินเนื้อวัวแนะนำเมนูนี้ ริบอายสเต๊กเสิร์ฟกับซอสพริกไทย (680 บาท++) เนื้อริบอายนำเข้าจากออสเตรเลียโรยเกลือ พริกไทย น้ำมันมะกอก แล้วนำมากริลล์ (สามารถเลือกระดับความสุกของเนื้อได้) เสิร์ฟพร้อมซอสเกรวี่พริกไทยสูตรเด็ดของเชฟ แล้วมีมะเขือเทศย่างใส่พาเมซานชีส กับมันฝรั่งทอดทั้งเปลือกคลุกกับสมุนไพรฝรั่งและพาเมซานชีส มาให้กินแกล้มกับเนื้อสเต๊กที่เคี้ยวนุ่มหนึบหนับปาก จิ้มกินคู่กับซอสเกรวี่พริกไทยรสเข้มข้นถึงเครื่องพริกไทยดีจริง
จากนั้นมาล้างปากด้วยเมนูของหวาน ข้าวเหนียวมะม่วง (190 บาท++) เชฟมูนข้าวเหนียวเอง โรยหน้าด้วยถั่วทอง มาพร้อมกับมะม่วงน้ำดอกไม้สด และน้ำกะทิเคี่ยวกับเกลือ ชิมข้าวเหนียวเป็นเม็ดเคี้ยวนุ่มละมุนลิ้น กินกับมะม่วงน้ำดอกไม้ออกหวานนำอมเปรี้ยวนิดๆ ชื่นใจกับของหวาน
แต่ว่าในรายการอาหารที่ชวนกินของที่นี่ยังมีอีกหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็น หอยเชลล์ฮอกไกโดย่าง (450 บาท++) ปลากะพงย่างเสิร์ฟกับสลัดคีนัว (450 บาท++) แกงฮังเลโรตี (350 บาท++) เนื้ออกเป็ดย่างเสิร์ฟกับผักและเส้นเฟตตูชินี่ (460 บาท++) และเมนูอื่นๆ อีก ที่ชวนสั่งมาให้กินดื่มคู่กับไวน์แบบลงตัว ซึ่งถ้าใครไม่เชื่อว่าส้มตำ และอาหารไทยจะกินเข้ากันได้กับไวน์ ก็อยากแนะนำให้มาพิสูจน์ให้รู้กับปากตัวเองกันได้ที่ร้าน “Som Tam & Chardonnay” แห่งนี้
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“Som Tam & Chardonnay” (ส้มตำ แอนด์ ชาร์ดอนเน่ย์) ตั้งอยู่ที่ ชั้น 11 Eight Thonglor โรงแรมอคีรา ทองหล่อ กรุงเทพฯ 88/333 ซอยสุขุมวิท55 (ทองหล่อ) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ เปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 23.00 น. ถ้ามากินอาหารวันศุกร์-อาทิตย์ แนะนำว่าควรโทร. มาจองโต๊ะล่วงหน้าก่อน โทร. 0-2090-9052 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.theakyra.com/bangkok/thonglor/dining/som-tam-chardonnay-restaurant
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
