Facebook :Travel @ Manager
"สุขทุกวันที่จันทบุรี" เป็นแนวคิดที่ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) วางไว้ให้กับจันทบุรี โดยหวังให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนั้นได้รับความสุขกลับไปจากการท่องเที่ยวทุกรูปแบบ ทั้งการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ วัฒนธรรม ชุมชน รวมไปถึงความสุขจากการกินของอร่อยและช้อปสนุกในจันทบุรีอีกด้วย
และถ้าได้มาเยือนจันทบุรีวันนี้ โดยเฉพาะที่ "วัดพลับบางกะจะ" รับรองว่าจะได้สุขแน่นอน เพราะที่นี่นอกจากจะเป็นวัดสำคัญแห่งจันทบุรีที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและเกี่ยวพันกับสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชแล้ว ที่นี่ยังมี "ตลาดทุบหม้อ" ที่เต็มไปด้วยของกินท้องถิ่นแสนอร่อย ให้ชิมและช้อปกันเพลินไปเลยอีกด้วย
"วัดพลับ" ตั้งอยู่ที่บ้านบางกะจะ ต.บางกะจะ อ.เมือง จ.จันทบุรี ขับรถออกจากตัวเมืองมาราว 10 นาทีเท่านั้น วัดแห่งนี้มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย เดิมมีชื่อว่า "วัดสุวรรณติมพรุธาราม" ที่แปลว่า "วัดพลับทอง" แต่ชาวบ้านนิยมเรียกวัดพลับมาจนปัจจุบัน
ต่อมาใน พ.ศ. 2310 เมื่อกรุงศรีอยุธยาล่มสลาย สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชซึ่งตีฝ่าวงล้อมข้าศึกมาตั้งทัพที่ภาคตะวันออก พระองค์ทรงใช้สถานที่ที่วัดพลับเป็นที่พักทัพและจัดเตรียมกองทัพก่อนเข้าตีเมืองจันทบุรี ทั้งยังทรงประกอบพิธีบำรุงขวัญทหาร สร้างพระยอดธงแจกจ่าย และนำน้ำในบ่อน้ำมาทำน้ำพระพุทธมนต์ประพรมเหล่าทหารหาญ โดยกระทำพิธีปลุกเสกในอุโบสถหลังเก่า
ภายหลังเมื่อพระองค์กอบกู้กรุงศรีอยุธยากลับคืนมาและจัดการบ้านเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชพร้อมด้วยแม่ทัพนายกองได้เสด็จกลับมาบูรณะวัดพลับอีกครั้ง และได้นำพระยอดธงที่เหลือจากการแจกจ่ายทหารในครั้งนั้นเข้าบรรจุในพระเจดีย์กลางน้ำถวายเป็นพุทธบูชา
ปัจจุบันวัดพลับจึงถือเป็นวัดสำคัญทางประวัติศาสตร์เมืองจันทบุรี ที่มีโบราณสถานและโบราณวัตถุอยู่มากมาย โดยมีไฮไลท์อยู่ 9 จุดสำคัญที่เมื่อไปเยือนวัดแล้วจะต้องไม่พลาดไปชมและไปสักการะกัน ได้แก่
อนุสรณ์สมเด็จพระเจ้าตากสิน สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงวีรกรรมและเทิดทูนคุณงามความดีของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
หอไตรกลางน้ำ เป็นที่เก็บรักษาพระไตรปิฎก ตำราและหนังสือโบราณที่สำคัญ สร้างไว้ในสระน้ำก็เพื่อป้องกันปลวกแมลงเข้ามาทำลายเอกสารให้เสียหาย
เจดีย์กลางน้ำ เป็นเจดีย์ทรงกลม ก่ออิฐถือปูน ไม่ประดับกระเบื้อง ลักษณะศิลปะแบบอยุธยาตอนกลาง ภายในเคยบรรจุพระยอดธง ซึ่งเป็นพระสำคัญตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย จนปัจจุบันก็เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักเลงพระว่า พระยอดธงดีต้องพระยอดธงวัดพลับบางกะจะ
วิหารไม้ทรงจัตุรัส ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางบำเพ็ญทุกรกิริยา หรือปางทรมานกาย อีกทั้งที่ฝาผนังไม้ยังมีลายจิตรกรรมซึ่งมีความสวยงามแต่เลือนลางไปมากแล้ว
บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงใช้น้ำจากบ่อน้ำแห่งนี้สำหรับทำน้ำพระพุทธมนต์ประพรมเหล่าทหารหาญก่อนยกทัพเข้าตีเมืองจันทบุรี และได้นำไปใช้เป็นน้ำพระพุทธมนต์ในพิธีบรมราชาภิเษกพระมหากษัตริย์ในราชวงศ์จักรีอีกด้วย
พระอุโบสถ ใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีทำน้ำพระพุทธมนต์สำหรับพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระมหากษัตริย์ราชวงศ์จักรีทุกพระองค์ มีการบูรณะปฏิสังขรณ์หลายครั้ง หน้าบันเป็นรูปพญาครุฑ
พระปรางค์ สร้างเป็นแบบมณฑป มีชั้นฐานเขียง ฐานปัทม์ ฐานสิงห์ ด้านนอกมีเจดีย์ทรงลังกาสร้างอยู่รายรอบ เป็นการรวมสถาปัตยกรรมไทยต่างๆ เข้าไว้ด้วยกันอย่างสวยงาม
เรือยาวหม่อมหัวเขียว เป็นเรือยาวขนาด 30 ฝีพาย เคยใช้ฉุดลากเรือพระที่นั่งของรัชกาลที่ ๕ เมื่อครั้งล่องมาติดสันดอนของแม่น้ำจันทบูร จึงได้รับพระราชทานชื่อว่า "หม่อมหัวเขียว"
สำซ่าง หรือสำสร้าง เป็นเมรุสำหรับเผาศพเจ้านายชั้นสูง แม่ทัพนายกอง บุคคลสำคัญต่างๆ สร้างด้วยไม้เป็นรูปทรงสูง มุงด้วยกระเบื้องดินเผา ปลายยอดแหลม ด้านหน้ายังมีอาคารเป็นศาลาโถงอีกหนึ่งหลังซึ่งเป็นอาคารที่สร้างคู่กันมาแต่เดิม
นอกจากนั้นแล้ว ขอแนะนำให้มาเยือนวัดพลับในวันเสาร์-อาทิตย์ เพราะจะมีการเปิด "ตลาดทุบหม้อ" ตลาดพื้นบ้านที่เต็มไปด้วยอาหารพื้นถิ่น หากินของอร่อยแบบคนจันทบุรีได้ไม่ยาก
ตลาดทุบหม้อแห่งนี้เพิ่งเปิดตลาดมาได้ราวๆ 4 เดือนเท่านั้น เป็นตลาดเล็กๆ ภายในวัดที่เปิดขึ้นมาด้วยความตั้งใจที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวในชุมชน เปิดพื้นที่ให้คนในชุมชนได้นำเอาสินค้าท้องถิ่น ของกินพื้นบ้าน และของดีต่างๆ ในชุมชนมาวางขายให้ผู้บริโภคมาเลือกซื้อเลือกชิมโดยตรง
ที่่น่ารักก็คือการตกแต่งสถานที่ให้มีบรรยากาศแบบตลาดโบราณ ร้านค้าเรียงเป็นแนวยาวภายใต้หลังคามุงจาก มีแคร่ไม้ไผ่ให้นักท่องเที่ยวเลือกซื้อหาอาหารมานั่งกินนั่งเล่น แม่ค้าพ่อค้าเองต่างก็แต่งกายเป็นชาวบ้านในช่วงยุคปลายสมัยอยุธยา-ตอนต้นกรุงธนบุรี พูดจาลงท้ายด้วยคำว่าเจ้าคะ เจ้าขา สร้างบรรยากาศโดยอิงกับประวัติศาสตร์ที่ว่าที่นี่เคยเป็นสถานที่พักแรมของกองทัพสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเมื่อครั้งที่จะยกทัพเข้าตีเมืองจันทบุรีนั่นเอง
ภายในตลาดทุบหม้อเต็มไปด้วยร้านค้ามากมายกว่า 30 ร้านค้า มีทั้งร้านขายสินค้าพื้นเมือง สินค้าแฮนด์เมด แต่ที่โดดเด่นก็คืออาหารพื้นเมือง ขนมไทยโบราณ และของกินพื้นบ้านของจันทบุรี อาทิ "ก๋วยเตี๋ยวหมูเลียง" ก๋วยเตี๋ยวหมูที่มีความโดดเด่นตรงน้ำซุปที่ปรุงจากสมุนไพรหลากชนิด โดยเฉพาะ "เร่ว" ที่พบมากในภาคตะวันออก "ตึ๋งหนืด" ของกินเล่นทำจากแป้งทอดปรุงรสด้วยกระเทียม พริกไทย รากผักชี ผสมกับเนื้อกุ้ง เคี้ยวหนึบอร่อยดี "ก๋วยเตี๋ยวผัดน้ำกุ้ง" เด่นตรงที่ใช้น้ำต้มกระดูกผสมกับกุ้งทำเป็นน้ำซุปมาผัดกับเส้นก๋วยเตี๋ยว ผักคะน้า ถั่วงอก และแตงกวา หน้าตาคล้ายๆ ก๋วยเตี๋ยวคั่วแต่จะหอมกินอร่อย “ขนมควยลิง” ขนมท้องถิ่นของจากชุมชนริมคลองหนองบัว ทำจากแป้งข้าวเหนียวปั้นเป็นชิ้นยาวๆ นำไปต้มจนสุกก่อนจะนำมาคลุกมะพร้าวน้ำตาล แถมที่นี่ยังใส่สีสันเพิ่มเติมเข้าไปจนกลายเป็น “ขนมควยลิงเบญจรงค์” เว่อวังเข้าไปอีก
นอกจากนั้นก็ยังมีของกินอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งทอดมัน หมูชะมวง หมึกย่าง ไข่หมึกย่าง ขนมครก หอยครก ข้าวเกรียบน้ำจิ้ม ขนมไทยๆ อย่างขนมตาล ขนมใส่ไส้ ขนมฟักทอง ขนมเปียกปูน เมี่ยงคำ เส้นจันท์ผัดปู หมึกบด น้ำพริกไข่ปู หมูสะเต๊ะ ทะเลห่อใบบัว น้ำพริกต่างๆ เป็นต้น
สำหรับตลาดทุบหม้อนี้จะเปิดให้บริการทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น. เข้ามาจอดรถที่วัดพลับได้เลย ถ้ามาเมืองจันท์ครั้งต่อไป ขอแนะนำให้มาเที่ยวที่นี่กัน ชม 9 จุดของดีวัดพลับ ต่อด้วยการช้อปชิมกับอาหารพื้นบ้านนานาชนิดที่ตลาดทุบหม้อ รับรองว่ามาเมืองจันท์ครั้งนี้อิ่มอร่อยมีความสุขตามสโลแกน "สุขทุกวันที่จันทบุรี" แน่นอน
จากตัวเมืองจันทบุรีให้ใช้ถนนทางหลวงหมายเลข 3146 มุ่งไปยังตำบลบางกะจะ ผ่านบิ๊กซีจันทบุรี สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ ร.9 พอถึงแยกเทศบาลตำบลบางกะจะให้เลี้ยวขวาไปตามถนนหมายเลข 3147 ผ่านค่ายเนินวง จากนั้นจะเจอสามแยกมีป้ายบอกทางไปโรงเรียนบางกะจะ ให้เลี้ยวซ้ายตามป้าย ตรงไปอีกประมาณ 500 เมตร ก็จะเจอกับวัดพลับบางกะจะ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุก : ตลาดทุบหม้อ หรือสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยว ที่กิน ที่พัก ได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานระยอง (ดูแลพื้นที่ระยอง จันทบุรี) โทร.0 3865 5420-1
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
"สุขทุกวันที่จันทบุรี" เป็นแนวคิดที่ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) วางไว้ให้กับจันทบุรี โดยหวังให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนั้นได้รับความสุขกลับไปจากการท่องเที่ยวทุกรูปแบบ ทั้งการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ วัฒนธรรม ชุมชน รวมไปถึงความสุขจากการกินของอร่อยและช้อปสนุกในจันทบุรีอีกด้วย
และถ้าได้มาเยือนจันทบุรีวันนี้ โดยเฉพาะที่ "วัดพลับบางกะจะ" รับรองว่าจะได้สุขแน่นอน เพราะที่นี่นอกจากจะเป็นวัดสำคัญแห่งจันทบุรีที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและเกี่ยวพันกับสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชแล้ว ที่นี่ยังมี "ตลาดทุบหม้อ" ที่เต็มไปด้วยของกินท้องถิ่นแสนอร่อย ให้ชิมและช้อปกันเพลินไปเลยอีกด้วย
"วัดพลับ" ตั้งอยู่ที่บ้านบางกะจะ ต.บางกะจะ อ.เมือง จ.จันทบุรี ขับรถออกจากตัวเมืองมาราว 10 นาทีเท่านั้น วัดแห่งนี้มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย เดิมมีชื่อว่า "วัดสุวรรณติมพรุธาราม" ที่แปลว่า "วัดพลับทอง" แต่ชาวบ้านนิยมเรียกวัดพลับมาจนปัจจุบัน
ต่อมาใน พ.ศ. 2310 เมื่อกรุงศรีอยุธยาล่มสลาย สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชซึ่งตีฝ่าวงล้อมข้าศึกมาตั้งทัพที่ภาคตะวันออก พระองค์ทรงใช้สถานที่ที่วัดพลับเป็นที่พักทัพและจัดเตรียมกองทัพก่อนเข้าตีเมืองจันทบุรี ทั้งยังทรงประกอบพิธีบำรุงขวัญทหาร สร้างพระยอดธงแจกจ่าย และนำน้ำในบ่อน้ำมาทำน้ำพระพุทธมนต์ประพรมเหล่าทหารหาญ โดยกระทำพิธีปลุกเสกในอุโบสถหลังเก่า
ภายหลังเมื่อพระองค์กอบกู้กรุงศรีอยุธยากลับคืนมาและจัดการบ้านเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชพร้อมด้วยแม่ทัพนายกองได้เสด็จกลับมาบูรณะวัดพลับอีกครั้ง และได้นำพระยอดธงที่เหลือจากการแจกจ่ายทหารในครั้งนั้นเข้าบรรจุในพระเจดีย์กลางน้ำถวายเป็นพุทธบูชา
ปัจจุบันวัดพลับจึงถือเป็นวัดสำคัญทางประวัติศาสตร์เมืองจันทบุรี ที่มีโบราณสถานและโบราณวัตถุอยู่มากมาย โดยมีไฮไลท์อยู่ 9 จุดสำคัญที่เมื่อไปเยือนวัดแล้วจะต้องไม่พลาดไปชมและไปสักการะกัน ได้แก่
อนุสรณ์สมเด็จพระเจ้าตากสิน สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงวีรกรรมและเทิดทูนคุณงามความดีของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
หอไตรกลางน้ำ เป็นที่เก็บรักษาพระไตรปิฎก ตำราและหนังสือโบราณที่สำคัญ สร้างไว้ในสระน้ำก็เพื่อป้องกันปลวกแมลงเข้ามาทำลายเอกสารให้เสียหาย
เจดีย์กลางน้ำ เป็นเจดีย์ทรงกลม ก่ออิฐถือปูน ไม่ประดับกระเบื้อง ลักษณะศิลปะแบบอยุธยาตอนกลาง ภายในเคยบรรจุพระยอดธง ซึ่งเป็นพระสำคัญตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย จนปัจจุบันก็เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักเลงพระว่า พระยอดธงดีต้องพระยอดธงวัดพลับบางกะจะ
วิหารไม้ทรงจัตุรัส ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางบำเพ็ญทุกรกิริยา หรือปางทรมานกาย อีกทั้งที่ฝาผนังไม้ยังมีลายจิตรกรรมซึ่งมีความสวยงามแต่เลือนลางไปมากแล้ว
บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงใช้น้ำจากบ่อน้ำแห่งนี้สำหรับทำน้ำพระพุทธมนต์ประพรมเหล่าทหารหาญก่อนยกทัพเข้าตีเมืองจันทบุรี และได้นำไปใช้เป็นน้ำพระพุทธมนต์ในพิธีบรมราชาภิเษกพระมหากษัตริย์ในราชวงศ์จักรีอีกด้วย
พระอุโบสถ ใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีทำน้ำพระพุทธมนต์สำหรับพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระมหากษัตริย์ราชวงศ์จักรีทุกพระองค์ มีการบูรณะปฏิสังขรณ์หลายครั้ง หน้าบันเป็นรูปพญาครุฑ
พระปรางค์ สร้างเป็นแบบมณฑป มีชั้นฐานเขียง ฐานปัทม์ ฐานสิงห์ ด้านนอกมีเจดีย์ทรงลังกาสร้างอยู่รายรอบ เป็นการรวมสถาปัตยกรรมไทยต่างๆ เข้าไว้ด้วยกันอย่างสวยงาม
เรือยาวหม่อมหัวเขียว เป็นเรือยาวขนาด 30 ฝีพาย เคยใช้ฉุดลากเรือพระที่นั่งของรัชกาลที่ ๕ เมื่อครั้งล่องมาติดสันดอนของแม่น้ำจันทบูร จึงได้รับพระราชทานชื่อว่า "หม่อมหัวเขียว"
สำซ่าง หรือสำสร้าง เป็นเมรุสำหรับเผาศพเจ้านายชั้นสูง แม่ทัพนายกอง บุคคลสำคัญต่างๆ สร้างด้วยไม้เป็นรูปทรงสูง มุงด้วยกระเบื้องดินเผา ปลายยอดแหลม ด้านหน้ายังมีอาคารเป็นศาลาโถงอีกหนึ่งหลังซึ่งเป็นอาคารที่สร้างคู่กันมาแต่เดิม
นอกจากนั้นแล้ว ขอแนะนำให้มาเยือนวัดพลับในวันเสาร์-อาทิตย์ เพราะจะมีการเปิด "ตลาดทุบหม้อ" ตลาดพื้นบ้านที่เต็มไปด้วยอาหารพื้นถิ่น หากินของอร่อยแบบคนจันทบุรีได้ไม่ยาก
ตลาดทุบหม้อแห่งนี้เพิ่งเปิดตลาดมาได้ราวๆ 4 เดือนเท่านั้น เป็นตลาดเล็กๆ ภายในวัดที่เปิดขึ้นมาด้วยความตั้งใจที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวในชุมชน เปิดพื้นที่ให้คนในชุมชนได้นำเอาสินค้าท้องถิ่น ของกินพื้นบ้าน และของดีต่างๆ ในชุมชนมาวางขายให้ผู้บริโภคมาเลือกซื้อเลือกชิมโดยตรง
ที่่น่ารักก็คือการตกแต่งสถานที่ให้มีบรรยากาศแบบตลาดโบราณ ร้านค้าเรียงเป็นแนวยาวภายใต้หลังคามุงจาก มีแคร่ไม้ไผ่ให้นักท่องเที่ยวเลือกซื้อหาอาหารมานั่งกินนั่งเล่น แม่ค้าพ่อค้าเองต่างก็แต่งกายเป็นชาวบ้านในช่วงยุคปลายสมัยอยุธยา-ตอนต้นกรุงธนบุรี พูดจาลงท้ายด้วยคำว่าเจ้าคะ เจ้าขา สร้างบรรยากาศโดยอิงกับประวัติศาสตร์ที่ว่าที่นี่เคยเป็นสถานที่พักแรมของกองทัพสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเมื่อครั้งที่จะยกทัพเข้าตีเมืองจันทบุรีนั่นเอง
ภายในตลาดทุบหม้อเต็มไปด้วยร้านค้ามากมายกว่า 30 ร้านค้า มีทั้งร้านขายสินค้าพื้นเมือง สินค้าแฮนด์เมด แต่ที่โดดเด่นก็คืออาหารพื้นเมือง ขนมไทยโบราณ และของกินพื้นบ้านของจันทบุรี อาทิ "ก๋วยเตี๋ยวหมูเลียง" ก๋วยเตี๋ยวหมูที่มีความโดดเด่นตรงน้ำซุปที่ปรุงจากสมุนไพรหลากชนิด โดยเฉพาะ "เร่ว" ที่พบมากในภาคตะวันออก "ตึ๋งหนืด" ของกินเล่นทำจากแป้งทอดปรุงรสด้วยกระเทียม พริกไทย รากผักชี ผสมกับเนื้อกุ้ง เคี้ยวหนึบอร่อยดี "ก๋วยเตี๋ยวผัดน้ำกุ้ง" เด่นตรงที่ใช้น้ำต้มกระดูกผสมกับกุ้งทำเป็นน้ำซุปมาผัดกับเส้นก๋วยเตี๋ยว ผักคะน้า ถั่วงอก และแตงกวา หน้าตาคล้ายๆ ก๋วยเตี๋ยวคั่วแต่จะหอมกินอร่อย “ขนมควยลิง” ขนมท้องถิ่นของจากชุมชนริมคลองหนองบัว ทำจากแป้งข้าวเหนียวปั้นเป็นชิ้นยาวๆ นำไปต้มจนสุกก่อนจะนำมาคลุกมะพร้าวน้ำตาล แถมที่นี่ยังใส่สีสันเพิ่มเติมเข้าไปจนกลายเป็น “ขนมควยลิงเบญจรงค์” เว่อวังเข้าไปอีก
นอกจากนั้นก็ยังมีของกินอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งทอดมัน หมูชะมวง หมึกย่าง ไข่หมึกย่าง ขนมครก หอยครก ข้าวเกรียบน้ำจิ้ม ขนมไทยๆ อย่างขนมตาล ขนมใส่ไส้ ขนมฟักทอง ขนมเปียกปูน เมี่ยงคำ เส้นจันท์ผัดปู หมึกบด น้ำพริกไข่ปู หมูสะเต๊ะ ทะเลห่อใบบัว น้ำพริกต่างๆ เป็นต้น
สำหรับตลาดทุบหม้อนี้จะเปิดให้บริการทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น. เข้ามาจอดรถที่วัดพลับได้เลย ถ้ามาเมืองจันท์ครั้งต่อไป ขอแนะนำให้มาเที่ยวที่นี่กัน ชม 9 จุดของดีวัดพลับ ต่อด้วยการช้อปชิมกับอาหารพื้นบ้านนานาชนิดที่ตลาดทุบหม้อ รับรองว่ามาเมืองจันท์ครั้งนี้อิ่มอร่อยมีความสุขตามสโลแกน "สุขทุกวันที่จันทบุรี" แน่นอน
จากตัวเมืองจันทบุรีให้ใช้ถนนทางหลวงหมายเลข 3146 มุ่งไปยังตำบลบางกะจะ ผ่านบิ๊กซีจันทบุรี สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ ร.9 พอถึงแยกเทศบาลตำบลบางกะจะให้เลี้ยวขวาไปตามถนนหมายเลข 3147 ผ่านค่ายเนินวง จากนั้นจะเจอสามแยกมีป้ายบอกทางไปโรงเรียนบางกะจะ ให้เลี้ยวซ้ายตามป้าย ตรงไปอีกประมาณ 500 เมตร ก็จะเจอกับวัดพลับบางกะจะ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุก : ตลาดทุบหม้อ หรือสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยว ที่กิน ที่พัก ได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานระยอง (ดูแลพื้นที่ระยอง จันทบุรี) โทร.0 3865 5420-1
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
