xs
xsm
sm
md
lg

"กาฬสินธุ์ถิ่นอาร์ต" ประกาศความเป็นเมืองศิลป์ให้โลกรู้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

Facebook : Travel @ Manager
ไดโนเสาร์นอนเปลชิลๆ ภาพวาดสตรีทอาร์ทในกาฬสินธุ์
กาฬสินธุ์” เป็นจังหวัดเล็กๆ ในภาคอีสานที่แม้ไม่ได้เป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอย่างขอนแก่น หรืออุดรธานี แต่กาฬสินธุ์มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องการเป็นแหล่งค้นพบซากไดโนเสาร์กินพืชที่สมบูรณ์ที่สุดในเมืองไทยและไดโนเสาร์ชนิดอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก และต่อมาก็การก่อตั้ง “พิพิธภัณฑ์สิรินธร” ซึ่งถือเป็นพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ที่สมบูรณ์ที่สุดในอาเซียน

ไม่เพียงเท่านั้น กาฬสินธุ์ยังมีของดีที่ยังไม่เป็นที่รู้จักอีกมาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เล็งเห็นของดีที่ซ่อนอยู่ จึงได้ดึงเอาของเด็ดของดีของกาฬสินธุ์มารวมไว้ให้คนได้ชมภายในงานเทศกาล “ดีโน่ศิลป์ ถิ่นอาร์ต @ ตลาดโรงสี” ที่ได้จัดไปเมื่อวันที่ 4-5 สิงหาคมที่ผ่านมา ณ ตลาดโรงสี อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์
บรรยากาศงานเทศกาลดีโน่ศิลป์ ถิ่นอาร์ต @ตลาดโรงสี
ตลาดโรงสี แหล่งนัดพบของคนกาฬสินธุ์
ในงานดังกล่าวเป็นการจัดกิจกรรมที่รวบรวมงานศิลปะในรูปแบบต่างๆ ของกาฬสินธุ์มาจัดแสดงไว้ในงานเดียว โดยผสมผสานศิลปะท้องถิ่น ศิลปะด้านอาหาร ศิลปะในการดำเนินชีวิต ศิลปะทางการเกษตร และศิลปะสากลไว้ด้วยกัน เพื่อให้เกิดการเคลื่อนไหวของคนในท้องถิ่นในการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับจังหวัดกาฬสินธุ์ รวมทั้งช่วยสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ด้วยงานศิลปะให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง

แม้กิจกรรม “ดีโน่ศิลป์ ถิ่นอาร์ต @ ตลาดโรงสี” จะจบลงไปแล้ว แต่กลิ่นอายของศิลปะยังคงอวลอยู่ในกาฬสินธุ์ และยังเป็นการจุดประกายให้คนได้รู้ว่า กาฬสินธุ์นั้นเป็นเมืองแห่งศิลปะได้เหมือนกัน
เดเอล ฮอร์แกน หรือบิ๊กเดล กับผลงานที่กำลังวาด
สตรีทอาร์ทกาฬสินธุ์

หนึ่งในกิจกรรมที่จัดขึ้นในงานเทศกาล “ดีโน่ศิลป์ ถิ่นอาร์ต @ ตลาดโรงสี” และยังคงอยู่เป็นแลนด์มาร์คกลางเมืองกาฬสินธุ์ก็คือภาพกราฟิตี้ฝีมือของเดเอล ฮอร์แกน หรือบิ๊กเดล (BigDel) ศิลปินกราฟิตี้ที่มีชื่อเสียงของเมืองไทย ที่ได้สร้างสรรค์ผลงานสตรีทอาร์ทมายาวนานกว่า 18 ปี

ในครั้งนี้บิ๊กเดลมาเยือนกาฬสินธุ์และได้ฝากผีมือไว้บนกำแพงบ้านในย่านเมืองเก่าของกาฬสินธุ์ไว้ 3 จุดด้วยกัน จุดแรกอยู่ที่ "หลักเมืองภาพยนตร์" โรงหนังเก่าบนถนนโสมพะมิตร ตรงจุดนี้มี 3 ภาพด้วยกันที่ออกแบบให้เชื่อมโยงกับความเป็นโรงหนังด้วยการพ่นรูปไดโนเสาร์กำลังขายตั๋วหนังและขายป๊อบคอร์นให้คนที่มาชม และมีภาพใบปิดหนังย้อนยุคให้นึกถึงสมัยที่การชมภาพยนตร์กำลังรุ่งเรือง
หลักเมืองภาพยนตร์ที่มีภาพกราฟิตี้
จุดที่ 2 อยู่ไม่ไกลกัน เป็นภาพของสาวกาฬสินธุ์ในชุดผ้าไหมแพรวาเกล้ามวยผมสูงกำลังยิ้มหวานพร้อมมีดอกไม้และผีเสื้อล้อมรอบ ภาพนี้อยู่บนกำแพงตึกบริเวณมุมถนนโสมพะมิตรตัดกับถนนธนะผล
เซลฟี่กันหน่อย
ส่วนจุดที่ 3 เดินไปอีกไม่ไกล อยู่บนกำแพงบ้านตรงข้ามกับโรงงานไส้กรอกปลา หัวมุมถนนผ้าขาวตัดกับถนนธนะผล ตรงนี้เป็นภาพไดโนเสาร์ตัวโตกำลังนอนเล่นบนเปลอย่างสบายใจ ทำเอาเด็กหลายๆ คนเมื่อเห็นเข้าก็อยากจะมาถ่ายรูปกับไดโนเสาร์กันใหญ่

ภาพวาดกราฟฟิตี้บนกำแพงทั้ง 3 จุดนี้ สามารถเดินเท้าเพื่อชมและถ่ายรูปให้ครบได้อย่างง่ายดาย และนอกจากได้ภาพสวยๆ อัพขึ้นโซเชียลแล้ว ก็ยังจะได้ชมบรรยากาศบ้านเรือนรอบข้าง และได้พูดคุยทักทายกับคนในชุมชน
สาวภูไทในชุดผ้าไหมแพรวา
บิ๊กเดลกล่าวว่า "ผมว่ากราฟิตี้เป็นศิลปะที่เข้าถึงคนได้ง่าย เราพ่นงานอยู่ข้างทาง คนที่ผ่านไปผ่านมาก็จะมาคุยกับเราง่ายกว่าจิตรกรถือพู่กันที่เขาจะไม่ค่อยกล้าเข้ามาคุย แต่การถือกระป๋องสีสเปรย์มันดูเข้าถึงได้ง่าย ตอนนี้รู้จักแทบทุกบ้านแล้ว มีคนเอาของมาให้ ชวนไปกินข้าว รู้จักชื่อผมด้วย"

"กราฟิตี้ทำให้ผมได้ไปแทบจะทั่วประเทศไทยแล้ว และทำให้ได้พูดคุยกับคนมากมาย อย่างที่มาพ่นงานที่กาฬสินธุ์ ผมได้คุยกับคนไม่ต่ำกว่า 50 คน ที่เข้ามาทักทาย หรืออย่างน้อยๆ เวลาไปพ่นงานตามข้างทาง เวลาที่รถติดๆ แล้วคนขับรถผ่าน ถ้าเขาหันมามองแล้วมีรอยยิ้มเล็กๆ มุมปากก็คุ้มแล้วนะ ไม่ต้องคิดเปลี่ยนโลกเปลี่ยนชีวิต แค่เขาลืมช่วงรถติดไปได้ซักสองวิก็คุ้มแล้ว" บิ๊กเดล กล่าว
แม่คำสอน สระทอง ศิลปินแห่งชาติด้านหัตถศิลป์ ปี 2559
งดงามงานหัตถศิลป์ผ้าไหมแพรวา

อีกหนึ่งของดีเมืองกาฬสินธุ์ต้องยกให้ “ผ้าแพรวา” ผ้าทออันเป็นเอกลักษณ์ของชาวภูไทซึ่งบางส่วนตั้งรกรากอยู่ที่กาฬสินธุ์

ผ้าแพรวาแต่เดิมเป็นผ้าทอที่แต่ละบ้านทอขึ้นเองเพื่อใช้สำหรับคลุมไหล่หรือห่มสไบเฉียงที่เรียกว่า “ผ้าเบี่ยง” ใช้แต่งกายไปเทศกาลงานบุญประเพณีหรืองานสำคัญต่างๆ

แม่คำสอน สระทอง ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (ประณีตศิลป์-ทอผ้า) ปี 2559 แห่งบ้านโพน อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ เล่าว่า เมื่อปี 2520 ในหลวงรัชกาลที่ ๙ กับสมเด็จพระนางเจ้าฯ เสด็จออกเยี่ยมราษฎรที่อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ สมเด็จฯ ทรงทอดพระเนตรเห็นชาวภูไทบ้านโพนแต่งตัวโดยใช้ผ้าแพรวาห่มตามแบบสไบเฉียง จึงทรงสนพระทัยและโปรดฯ ให้มีการสนับสนุนการทอผ้าไหมแพรวา อีกทั้งมีพระราชดำริให้ขยายหน้าผ้าให้กว้างขึ้นเพื่อที่จะนำไปใช้เป็นผ้าผืนสำหรับตัดเสื้อผ้าได้ จากที่ทอเพื่อใช้เองต่อมาจึงกลายเป็นทอเพื่อขาย และผ้าไหมแพรวากาฬสินธุ์ก็กลายเป็นที่รู้จักของคนไทยและชาวต่างชาติ ก็ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์นั่นเอง
ผ้าแพรวาลวดลายสวยงาม
“ในช่วงแรกพระองค์ท่านทรงสนับสนุนทั้งเงินมาซื้อฟืม พระราชทานเส้นไหม ทรงสนับสนุนให้คนไปเรียนย้อมสีเส้นไหมที่สวนจิตรลดา พระราชทานเงินสนับสนุนการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม จนทุกวันนี้ก็ยังทรงพระราชทานเส้นไหมให้กับสมาชิกกลุ่มทอผ้าทุกปี เราก็ใช้เส้นไหมทอถวายพระองค์ชุดหนึ่ง พระองค์พระราชทานค่าทอให้ด้วย ไหมส่วนที่เหลือก็นำไปทอผ้าขายได้อีก” แม่คำสอนกล่าว

ทุกวันนี้แม่คำสอนยังคงสืบสานการทอผ้าไหมแพรวาให้คงอยู่สืบไป นับเป็นอีกหนึ่งงานหัตถศิลป์อันล้ำค่าของคนกาฬสินธุ์
ภัฎ พลชัย ศิลปินและประติมากรมือทอง (บน) เจษฎา คงสมมาศ ศิลปินที่มีชื่อเสียงเชื้อสายกาฬสินธุ์ (ล่าง)
ศิลปินสายเลือดกาฬสินธุ์

อีกหนึ่งสิ่งที่ตอกย้ำความเป็นเมืองศิลปะของกาฬสินธุ์ก็คือ ที่นี่เป็นบ้านเกิดของศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับประเทศอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น “ภัฎ พลชัย” ประติมากรที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในระดับประเทศ ผลงานของภัฏเน้นการสร้างงานปั้นทั้งแบบลอยตัวและนูนต่ำ มีผลงานที่สร้างชื่อหลายชิ้นด้วยกัน อาทิ กามสุขัลลิกานุโยค ซึ่งได้รับรางวัลประกาศนียบัตรเกียรตินิยม อันดับ 1 เหรียญทอง (ประติมากรรม) จากการแสดงศิลปกรรมแห่งชาติครั้งที่ 54 พ.ศ.2551 เป็นต้น

นอกจากนั้น ภัฏ ยังมีผลงานที่นำมาจัดแสดงในงานเทศกาลดีโน่ศิลป์ฯ ที่ผ่านมาอีกด้วย คือผลงาน “ทรงผนวช” เป็นรูปปั้นของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ ขณะทรงผนวช ปั้นหล่อด้วยไฟเบอร์กลาส เป็นการถ่ายทอดความรู้สึกและความทรงจำเกี่ยวกับ “ในหลวง” ผู้ทรงประทับอยู่ในใจไทยทุกดวงแม้จะเสด็จสวรรคตแล้วก็ตาม

“เจษฎา คงสมมาศ” ศิลปินวาดภาพผู้ประสบความสำเร็จเป็นที่ยอมรับจากผู้เสพงานศิลป์ทั้งในและต่างประเทศ เมื่อกลับมาอยู่บ้านเกิดที่จังหวัดกาฬสินธุ์ก็มีความตั้งใจที่จะสนับสนุนนักศึกษาศิลปะในภาคอีสาน ด้วยการมอบทุนสนับสนุน ทำหนังสือรวมผลงานนักศึกษาศิลปะในภาคอีสานทั้ง 13 สถาบัน 18 โครงการศิลปะนิพนธ์ คัดเลือกผลงานที่ดีที่สุดเอามาจัดแสดงที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และยังสะสมผลงานศิลปะของนักศึกษาอีกด้วย

"ตอนนี้กำลังรวบรวมงานศิลปะของเพื่อนศิลปินทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องและของนักศึกษาที่มีผลงานน่าสนใจ และนำมาจัดแสดงไว้ในแกเลอรี่เปิดให้คนเข้าชมโดยไม่มีการขายผลงาน โดยอยากให้คนกาฬสินธุ์ได้มีพื้นที่ดูงานศิลปะ เพราะที่นี่ยังไม่มีพื้นที่แบบนี้ และอยากจะสร้างนักสะสมเพื่อสนับสนุนศิลปินต่อไปอีกด้วย" เจษฎา กล่าว
สิริรัตน์ฏา น้อยวิชัย (ซ้าย) สุรเดช วัฒนาประดิษฐชัย (ขวา)
"สิริรัตน์ฎา น้อยวิชัย" ศิลปินสาวเลือดกาฬสินธุ์ ที่สร้างสรรค์ผลงานอันดูแล้วสบายตาสบายใจ เน้นเป็นเรื่องราวของหญิงสาวพื้นบ้านในวัฒนธรรมอีสาน ทั้งนางรำและนางในวรรณคดีอีสาน

"เอกลักษณ์ภาพวาดของเราคือความเป็นอีสาน เพราะเราเป็นคนอีสาน จะใส่จิตวิญญาณความเป็นตัวตนของเราลงไปในชิ้นงาน จะชอบสีเยอะๆ สีสันสดใส งานส่วนใหญ่ได้อิทธิพลมาจากงานของอาจารย์จักรพันธุ์เพราะเราชอบงานของท่าน และคนที่สะสมงานของเราก็บอกว่ามันมีเอกลักษณ์ที่ชอบคือความเป็นอีสาน"

และ "สุรเดช วัฒนาประดิษฐชัย" เจ้าของโรงเรียนสอนศิลปะเด็กและศิลปินถิ่นกาฬสินธุ์ที่มีผลงานรางวัลจากการประกวดในเวทีใหญ่ๆ หลายรายการ และล่าสุดผลงาน "เด็กหญิง" ที่ได้รางวัลยอดเยี่ยมอันดับ 1 จากการประกวดผลงานจิตรกรรมร่วมสมัยพานาโซนิค ครั้งที่ 18 เมื่อปี 2559

สุรเดชยังมีมุมมองกับการเปิดกาฬสินธุ์ให้เป็นเมืองศิลปะว่า หากจะให้กาฬสินธุ์เป็นเมืองอาร์ตจริงๆ จะต้องพึ่งชุมชน เปิดให้คนในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์ให้มากที่สุด เพื่อจะได้ไม่เป็นกระแสเพียงชั่ววูบ

สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับที่เที่ยว ทีกิน ที่พักใน จ.กาฬสินธุ์ได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานขอนแก่น (ดูแลพื้นที่ขอนแก่น กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม) โทร.0 4322 7714-5

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager



กำลังโหลดความคิดเห็น