ถือเป็นอีกหนึ่งอันซีนปัตตานี สำหรับ“ผาพญางู” ที่มีลักษณะเป็นหน้าผารูปร่างประหลาดแปลกตา ดูคล้ายหัวงูขนาดยักษ์ยื่นโผล่ออกมาจากหน้าผา ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่เชื่อว่าเป็นพญางูใจดีที่จะคอยคุ้มครองปกปักรักษาชาวบ้านและนักท่องเที่ยว ให้รอดพ้นจากภยันอันตรายทั้งปวง
ผาพญางูหรือหินพญางู ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาว ต.ทรายขาว อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี
ผาพญางู เป็นก้อนหินผาขนาดใหญ่ มีความสูงราวตึก 3-4 ชั้น มีรูปลักษณะคล้ายกับหัวงูขนาดยักษ์ โผล่พ้นออกมาจากหน้าผา
อย่างไรก็ดี แม้ก้อนหินผาพญางูจะดูคล้ายหัวอสรพิษยักษ์น่าเกรงขาม แต่ชาวบ้านในพื้นที่ละแวกนั้น มีความเชื่อกันว่านี่คือพญางูใจดีที่จะคอยคุ้มครองปกปักรักษาชาวบ้านและนักท่องเที่ยว ให้แคล้วคลาดพ้นภัยจากภยันอันตรายทั้งปวง
ผาพญางูตั้งอยู่ริมทางบริเวณทางขึ้นจุดชมวิวเขารังเกียบ ซึ่งเป็นทางถนนดินคดเคี้ยวสูงชัน(ต้องใช้รถโฟร์วีล หรือรถจี๊บสมรรถนะสูงของชาวบ้านในพื้นที่)จากผาพญางูเมื่อขึ้นไปอีกไม่ไกลจะพบกับจุดชมวิวเขารังเกียบ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของ พระพุทธมหามุนินทโลกนาถ
“พระพุทธมหามุนินทโลกนาถ” มีความหมาย พระพุทธเจ้าทรงเป็นจอมผู้รู้ที่ยิ่งใหญ่ ทรงเป็นที่พึ่งของชาวโลก ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2553 เป็นพระพุทธรูปปางยมกปาฏิหาริย์ ซึ่งท่านอาจารย์ทิม และพระครูปลัดนอง สมัยนั้น ปรึกษากับเจ้าคุณโศภนธรรมคุณ วัดนาประดู่ และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัดปัตตานี จึงเห็นพ้องต้องกันจัดสร้างพระพุทธรูปปางยมกปาฏิหาริย์กำหนดวางศิลาฤกษ์ โดยมีสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และสมเด็จพระพี่นางเธอเจ้าพระกัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งทั้งสองพระองค์ได้เสด็จมาเพื่อประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2514 และสร้างเสร็จเมื่อต้นปีพ.ศ. 2553
พระพุทธมหามุนินทโลกนาถ สูง 29.80 เมตร ประดิษฐานบนเทือกเขาสันกาลาคีรี (เขารังเกียบหรือจุดชมวิวเขาหินช้าง อุทยานแหงชาติน้ำตกทรายขาว ) เมื่อมองขึ้นไปจากเบื้องล่างจะเห็นองค์พระพุทธรูปสีเหลืองทองตั้งเด่นอยู่บนยอดเขาดูสวยงามอร่ามตา
ขณะที่บริเวณลานฐานองค์พระพุทธรูปเป็นจุดชมวิวชั้นดี ที่ฝั่งด้านหน้าองค์พระพุทธรูปเมื่อมองลงไปจะเห็นวิวทิวทัศน์ของ อ.โคกโพธิ์ ไล่ยาวไปจนถึงบริเวณอ่าวปัตตานี ส่วนที่บริเวณด้านหลัง(ข้างๆ)องค์พระพุทธรูปเมื่อมองลงไปจะเห็นวิวทิวทัศน์ของ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ได้อย่างชัดเจน
ส่วนถัดลงมาจากลานองค์พระพุทธมหามุนินทโลกนาถทางด้านล่างเล็กน้อยจะเป็น “ศาลทวดเขารังเกียบ” อีกหนึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านในพื้นที่ให้ความเคารพนับถือ
สำหรับ “อุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาว” เป็นอุทยานแห่งชาติที่ครอบคลุมพื้นที่รอยต่อ 3 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ทั้ง จ.ปัตตานี ยะลา และ จ.สงขลา มีพื้นที่ประมาณ 68,750 ไร่ และสภาพพื้นที่เป็นป่าดิบชื้น จึงอุดมไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด ก่อให้เกิดน้ำตกที่สวยงาม อย่าง“น้ำตกทรายขาว”
น้ำตกทรายขาว เดิมชาวบ้านเรียกว่าน้ำตกตะโกน เป็นน้ำตกที่กระโจนลงจากหน้าผาสูงประมาณ 40 เมตร ก่อนหลากไหลลงไปตามลำธาร ลดหลั่นกันไปเป็นชั้นๆ ทำให้เกิดเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ ดูสวยงาม และเป็นที่เล่นน้ำคลายร้อนของนักท่องเที่ยว ซึ่งในแต่ละชั้นของน้ำตกจะมีชื่อเรียกขานแตกต่างกันไป อย่างเช่น วังสระหัวนาค วังหินดาน วังร่มไทร เป็นต้น
สำหรับผาพญางู พระพุทธมหามุนินทโลกนาถ น้ำตกทรายขาว นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในอุทยานฯน้ำตกทรายขาวแล้ว ยังเป็นจุดของท่องเที่ยวไฮไลท์ที่ถูกบรรจุไว้ในกิจกรรมท่องเที่ยวของ “ชุมชนบ้านทรายขาว” ที่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์กับการพานักท่องเที่ยวนักรถจี๊ปโบราณในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2, สงครามเอเชียมหาบูรพา ออกพาทัวร์ตามสถานที่น่าสนใจต่างๆภายในบริเวณชุมชนบ้านทรายขาว อาทิ อุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาว(ที่มีสิ่งน่าสนใจตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น). วัดทรายขาว, มัสยิดนัจมุดดีน, สวนผลไม้(ตามฤดูกาล), พักค้างแบบโฮมสเตย์, กินอาหารพื้นบ้าน, ช้อปผ้าทอลายจวนปัตตานีอันสวยงาม ซึ่งผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 08-9737-9556, 08-1097-7025(ติดตามอ่านเรื่องนั่งรถจี๊ปโบราณเที่ยวชุมชนบ้านทรายขาวได้ใน MGR Travel เร็วๆนี้)
..............................................................................................
การเดินทางสู่ “อุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาว” จากตัวเมืองปัตตานี สามารถเดินทางมาโดยใช้เส้นทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 409 ปัตตานี-ยะลา ถึงสามแยกนาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ระยะทางประมาณ 28 กิโลเมตร จากนั้นเดินทางต่อโดยใช้เส้นทางสายนาประดู่-ทรายขาว เข้าสู่อุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาว ระยะทางอีก 7 กิโลเมตร ก็จะถึงที่หมายในที่สุด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ อุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาว โทร. 0-7346-7485
และสามารถสอบถามข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดปัตตานีเชื่อมโยงอุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาว ที่พัก ร้านอาหาร และการเดินทางได้ที่ ททท.สำนักงานนราธิวาส(รับผิดชอบพื้นที่ นราธิวาส,ปัตตานี, ยะลา) โทร.0 7352 2411 , 0 7354 2345
....................................................................................................
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager