xs
xsm
sm
md
lg

ตะลอน “10 วัดเมืองเก่าเชียงแสน” สัมผัสความสวยงามยุคล้านนา อิ่มบุญ-สวยตรึงตามิรู้ลืม

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

Facebook :Travel @ Manager
เจดีย์ประธานที่วัดพระธาตุเจดีย์หลวง
จังหวัดเชียงรายเป็นจังหวัดทางตอนเหนือสุดของประเทศไทยที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านถึง 2 ประเทศ คือ พม่า และลาว หรือที่เรียกว่า สามเหลี่ยมทองคำ ในเขตอำเภอเชียงแสน ซึ่งนอกจากการล่องเรือชมทัศนียภาพของสามเหลี่ยมทองคำจากกลางลำน้ำโขงแล้ว การมาเที่ยวชม “เมืองโบราณเชียงแสน” ก็น่าสนใจไม่น้อยเช่นกัน
วิวสามเหลี่ยมทองคำ (ถ่ายจากจุดชมวิววัดพระธาตุปูเข้า)
“เมืองโบราณเชียงแสน” ถือเป็นเมืองโบราณที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของล้านนา เป็นที่ตั้งของวัดและซากโบราณสถานมากมาย ทั้งวัดร้างและไม่ร้างกว่า 76 วัด ซึ่งเราอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างในชื่อของ "อาณาจักรโยนกนาคพันธุ์" หรือ "เวียงปรึกษา" หรือที่คุ้นชินกันที่สุดอีกชื่อก็คือ "เมืองหิรัญนครเงินยางเชียงแสน"

ที่นี่เคยมีกษัตริย์ปกครองสืบต่อกันมาถึง 24 พระองค์จนถึงช่วงสมัยของพระยามังรายที่ได้ย้ายศูนย์กลางของเมืองมาที่เวียงเชียงราย ก่อนที่ภายหลังจะมีการสร้างบ้านแปงเมืองเชียงใหม่ขึ้นมา ให้กลายเป็นศูนย์กลางอาณาจักรล้านนา ดังปรากฏมาจนทุกวันนี้ ครั้งนี้ “ตะลอนเที่ยว” จึงจะขอพาสายบุญมาเดินสายไหว้ 10 พระธาตุคู่เมืองเชียงแสนกัน
พระธาตุผาเงา
วัดพระธาตุผาเงา
“วัดพระธาตุผาเงา” ถือเป็นวัดเก่าแก่ที่สำคัญของ จ.เชียงราย ได้ชื่อมาจากพระธาตุผาเงาที่อยู่ในบริเวณวัดซึ่งตั้งอยู่บนยอดหินก้อนใหญ่ คำว่า "ผาเงา" ก็คือ เงาของก้อนผาหรือก้อนหินที่มีลักษณะเป็นรูปสูงใหญ่คล้ายรูปทรงพระเจดีย์และให้ร่มเงาที่ดีมาก ชาวบ้านจึงเรียกกันว่า "พระธาตุผาเงา" พระธาตุองค์นี้เชื่อกันว่าสร้างมาตั้งแต่ ระหว่าง ปี พ.ศ. 494-512 โดยขุนผาพัง เจ้าผู้ครองนครโยนก องค์ที่ 23
หลวงพ่อผาเงา
สิ่งสำคัญในวัดนอกจากพระธาตุผาเงาแล้วยังมีสถานที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง เช่น พระเจดีย์เจ็ดยอด พระเจดีย์จอมจัน พระวิหาร สถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหลวงพ่อผาเงา พระธาตุพุทธนิมิต และซุ้มประตูพระธาตุผาเงาที่มีลวดลายลักษณะสวยงามมาก
วัดพระธาตุเจดีย์หลวง
วัดพระธาตุเจดีย์หลวง
มาต่อกันที่ “วัดพระธาตุเจดีย์หลวง” ซึ่งเป็นเจดีย์ที่มีขนาดใหญ่โตที่สุดของเมืองเชียงแสน สร้างโดยพระเจ้าแสนภู ใช้สำหรับเป็นที่ฟประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุกระดูกหน้าอก เจดีย์ประธานเป็นทรงระฆังกลมฐานสูงแปดเหลี่ยมแบบล้านนา ถือได้ว่าเป็นวัดที่สำคัญแห่งหนึ่งของเชียงแสน
หลวงพ่อเชียงแสน สิงห์ ๑
ติดกับเจดีย์ประธานจะเป็นวิหารของวัด โดยส่วนของหลังคาได้มีการสร้างใหม่ขึ้นมาใหม่เพื่อคลุมโบราณสถาน และพระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ในวิหารเอาไว้ นั่นก็คือ “หลวงพ่อเชียงแสน สิงห์ ๑” พระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่สีทองเหลืองอร่ามน่าเลื่อมใส
วัดป่าสัก
วัดป่าสัก
จากนั้นออกเดินทางต่อไปที่ "วัดป่าสัก" วัดร้างที่มีองค์เจดีย์อันงดงามและค่อนข้างสมบูรณ์ ลักษณะเป็นทรงมณฑปยอดระฆัง ฐานกว้าง 8 เมตร สูง 12.5 เมตร ตกแต่งลวดลายปูนปั้นวิจิตรด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมได้รับอิทธิพลมาจากหริภุญชัย รูปแบบฐานคล้ายกับองค์เจดีย์กู่กุด จ.ลำพูน มีศิลปกรรมผสมผสานทั้ง พุกาม ขอม สุโขทัย ลวดลายปูนปั้นที่อยู่เหนือกาลเวลาเนิ่นนานหลายร้อยปีแลดูงดงาม ถือเป็นเจดีย์ที่มีความสวยงามมากที่สุดองค์หนึ่งในศิลปะล้านนาและศิลปะไทย
พระธาตุองค์พี่
วัดพระธาตุสองพี่น้อง
ไม่ไกลกันนักก็จะถึง “วัดพระธาตุสองพี่น้อง” ที่เรียกเช่นนั้นคงเนื่องมาจากที่มีเจดีย์ทรงปราสาทสององค์อยู่คู่กัน เรือนธาตุมีซุ้มจระนำสี่ด้านประดับลายปูนปั้นบนฐานปัทม์ มีชั้นมาลัยเถาแปดเหลี่ยม เจดีย์ทั้งสี่มุมด้านบนเป็นระฆังทรงกลม ตามเรื่องเล่าบอกว่าเจดีย์องค์นี้อาจเป็นเจดีย์ที่บรรจุอัฐิของพญาคำฟูและพระยาแสนภู จึงได้กลายเป็นพระธาตุสองพี่น้องหรือเจดีย์สองพี่น้องนั่นเอง
พระธาตุองค์น้อง
วัดธาตุเขียว
วัดธาตุเขียว
และแล้วเราก็เดินทางมาถึงวัดที่ห้านั่นก็คือ “วัดธาตุเขียว” ตัวเจดีย์เป็นทรงระฆังกลม ตั้งอยู่ด้านหลังวิหารซึ่งหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ฐานชุกชีประดับบนวิหารมีลวดลายปูนปั้น เดิมมีพระพุทธรูปปูนปั้นประดิษฐานอยู่ แต่ชำรุดหักพังหมดแล้ว สันนิษฐานจากรูปแบบสถาปัตยกรรมได้ว่าน่าจะสร้างเมื่อประมาณพุทธศตวรรษที่ 22
พระวิหารที่วัดพระธาตุปูเข้า
วัดพระธาตุดอยปูเข้า
จากนั้นแวะมาชมวิวบนดอยเชียงเมี่ยงที่สามารถชมวิวทิวทัศน์งดงามของสามเหลี่ยมทองคำ อีกทั้งยังสามารถแวะที่ “วัดพระธาตุดอยปูเข้า” หรือ “วัดพระธาตุภูเข้า” ซึ่งปัจจุบันเหลือให้เห็นเพียงซากปรักหักพังเท่านั้น และมีพระวิหารที่ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปหลายองค์ รวมทั้งพระเจ้าเชียงแสนองค์ใหม่ที่สร้างขึ้นภายหลัง ส่วนพระพุทธรูปพระเจ้าเชียงแสนองค์เก่าที่อยู่คู่วัดแห่งนี้มาตั้งแต่อดีต ประดิษฐานอยู่นอกพระวิหาร ซึ่งปัจจุบันเหลือเพียงพระวรกายบางส่วนให้ได้กราบสักการะบูชาเท่านั้น
วัดพระธาตุปูเข้า
พระธาตุจอมกิตติ
วัดพระธาตุจอมกิตติ
ออกเดินทางต่อไปยัง “วัดพระธาตุจอมกิตติ” ที่ตั้งอยู่บนดอยน้อย เป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองแสนมาช้านาน นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในพระธาตุสำคัญในเส้นทางไหว้พระธาตุ 9 จอมอันศักดิ์สิทธิ์ของเชียงรายอีกด้วย ลักษณะของโครงสร้างเจดีย์ยังคงแสดงถึงรูปแบบของเจดีย์ในยุคทองของล้านนา แต่รูปทรงจะมีขนาดสูงและเพรียวขึ้น
พระธาตุจอมแจ้ง
วัดพระธาตุจอมแจ้ง
ในบริเวณเดียวกันกับวัดพระธาตุจอมกิตติจะเป็นที่ตั้งของ “วัดพระธาตุจอมแจ้ง” ที่เกิดในสมัยที่เจ้าสุวรรณคำล้าน มาบูรณะพระธาตุจอมกิตติแล้วก็ได้สร้างวัดพระธาตุจอมแจ้งขึ้นมาในปี พ.ศ.2030 โดยปัจจุบันเหลือเพียงพระเจดีย์อยู่องค์เดียว อยู่ด้านหลังอุโบสถของวัดพระธาตุจอมกิตติ
พระธาตุจอมหมอก
วัดจอมหมอก
ออกเดินทางต่อมาอีกไม่นานจะถึง “วัดจอมหมอก” ซึ่งเป็นวัดร้างตั้งอยู่บนเนินทางทิศตะวันตกนอกกำแพงเมืองเชียงแสน มีบันไดทางขึ้นหลักทางหน้าวัด เมื่อขึ้นไปด้านบนแล้วจะรู้สึกร่มเย็นมาก วัดแห่งนี้มีลักษณะการก่อสร้างในยุคของล้านนา มีเจดีย์เป็นสิ่งก่อสร้างหลักและมีวิหารติดกัน
ทางขึ้นพระธาตุจอมสวรรค์
วัดจอมสวรรค์
จากวัดจอมหมอกจะมีทางเดินเชื่อมไปถึง “วัดจอมสวรรค์” ซึ่งเป็นวัดร้างที่ตั้งอยู่บนเนินเขาภายนอกกำแพงเมืองเชียงแสนและมีบันไดทางขึ้นหลักทางหน้าวัดเช่นกัน “ตะลอนเที่ยว” แนะนำว่าควรเดินทางด้วยรถยนต์ดีกว่า เพราะทางเดินเชื่อมที่ว่านี้ถูกปกคลุมด้วยตะไคร้และมีแอ่งโคลนบางช่วงด้วย จะทำให้เสียเวลาและเดินทางไม่สะดวก
พระธาตุองค์ที่ 1
เมื่อขึ้นมาแล้วจะพบกับพระธาตุหลักๆ 3 องค์ ซึ่งจากข้อมูลที่ “ตะลอนเที่ยว” พบมา พระธาตุทั้ง 3 นี้จะเรียกว่าพระธาตุศรี 3 เมือง (3 ราศี) สร้างโดยกษัตริย์ 3 พี่น้อง โดยพระธาตุองค์ที่ 1 (พระธาตุราศียามเช้า) สร้างโดยเจ้าคำแก่น เจ้าพี่ใหญ่ ปกครองเมืองโยก ส่วนด้านตรงข้ามกันจะเป็นพระธาตุองค์ที่ 2 (พระธาตุราศียามกลางวัน) ที่สร้างโดยเจ้าเงินหยวก เจ้าพี่รอง ปกครองเมืองเชียงใหม่ และระหว่างองค์พระธาตุองค์ที่ 1 และองค์ที่ 2 จะเป็นพระธาตุองค์ที่ 3 (พระธาตุราศียามเย็น) สร้างโดยเจ้าแก้วฟ้า น้องเล็ก ผู้ปกครองเมืองพะเยา
พระธาตุองค์ที่ 2
พระธาตุองค์ที่ 3
และนี่คือ “10 วัดเมืองเชียงแสน” ที่ “ตะลอนเที่ยว” ได้นำมาฝากไว้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่มาเที่ยวที่เมืองเชียงแสน ซึ่งการมาเที่ยวชมเมืองเก่าเช่นนี้นั้น สามารถมาเที่ยวได้ทุกวัน ทุกวัย เรียกว่าได้ทั้งความรู้และอิ่มบุญ อิ่มใจกันถ้วนหน้าแน่นอน
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager


กำลังโหลดความคิดเห็น