Facebook :Travel @ Manager
ใครที่ชอบกินทาร์ตไข่ คงจะเคยได้ยินชื่อร้าน “Kanom” กันมาบ้าง เพราะว่าร้านนี้เขามีทาร์ตไข่อร่อยๆ ขายมานานแล้ว ซึ่งนอกจากทาร์ตไข่ ก็ยังมีขนมอร่อยๆ อีกหลายอย่างที่ชวนกิน และต้องบอกเลยว่าร้านนี้มีดีมากกว่าขนมอร่อย เพราะยังมีอาหารจานเด็ดให้เลือกชิมอีกหลายจาน
ร้าน “Kanom” ที่เรามาลองชิมกันในมื้อนี้ เป็นสาขาลา วิลล่า มาร์เก็ต ในย่านอารีย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่สาขาที่มีทั้งของคาว-หวาน และเครื่องดื่ม ให้มานั่งดื่มด่ำความอร่อยกันได้ที่ร้านแบบสบายๆ
ถ้าหากเดินเข้ามาที่ร้านในตอนนี้ จะรู้สึกได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย จากร้าน Kanom ดั้งเดิมที่เปิดตัวมาตั้งแต่ ค.ศ.1999 ก็ถูกปรับเปลี่ยนให้มีความทันสมัยมากขึ้น เน้นบรรยากาศภายในร้านที่เหมือนกับการมานั่งกินข้าวที่บ้านเพื่อน ได้ลิ้มรสชาติความอร่อยของเมนูเด็ดที่คล้ายกับรสมือแม่ทำเองที่บ้าน พร้อมกับมีของอร่อยซื้อกลับบ้านไปเป็นของขวัญได้ด้วย
สำหรับเรื่องเมนูอร่อยของที่ร้าน พวกทาร์ตและเบเกอรี่อื่นๆ ของทางร้าน ก็เลือกใช้วัตถุดิบเกรดพรีเมียม ไม่มีสารเคมี ไม่ว่าจะเป็นแป้ง เนย ครีม ก็เป็นสูตรพิเศษลับเฉพาะของทางร้าน ส่วนอาหารก็มีให้เลือกหลากหลายกว่า 80 เมนู เป็นรสชาติเข้มข้นแบบที่คนไทยชอบ มีเครื่องดื่มหลากหลาย และกาแฟสดสไตล์อิตาเลียน โดยแต่ละเมนูนั้นจะปรุงสดใหม่ทุกวัน มีการควบคุมมาตรฐานจากครัวกลาง
มาถึงที่ร้านแล้ว แน่นอนว่าห้ามพลาด “ทาร์ตไข่” เมนูเด็ดเจ้าแรกของประเทศไทย ซึ่งที่นี่ก็มีให้เลือกทั้ง ทาร์ตไข่แดง (ชิ้นใหญ่ชิ้นละ 60 บาท) และ ทาร์ตไข่ขาว (ชิ้นใหญ่ชิ้นละ 60 บาท) โดยต้นตำรับของทาร์ตไข่นั้นนำมาจากมาเก๊า แต่ก็นำมาปรับรสชาติให้กลมกล่อมมากขึ้น ชิมแล้วรสไม่หวานมากเกินไป แป้งทาร์ตกรอบๆ เคี้ยวเพลิน
ซึ่งนอกจากจะมีทาร์ตไข่แบบออริจินัลแล้ว ที่นี่ก็ยังมีทาร์ตไข่ตามฤดูกาลให้ลองชิมกันด้วย อย่างช่วงนี้จนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม ก็จะมี ทาร์ตบลูเบอร์รี่ (ชิ้นละ 80 บาท/2 ชิ้น 150 บาท) โดยทางร้านร่วมมือกับเชฟมิชลินสตาร์ จอร์จ เมนเดส คิดค้นทาร์ตไข่บลูเบอร์รี่สูตรพิเศษ ทำจากบลูเบอร์รี่สดและมะนาวสด รสชาติไม่หวานเกินไป ตัดรสความเปรี้ยวจากบลูเบอร์รี่และมะนาว และยังได้กลิ่นหอมๆ ของมะนาว
อีกเมนูที่ถือว่าเป็นซิกเนเจอร์ของร้านก็คือ ปาท่องโก๋ 6 ดิป (150 บาท) ปาท่องโก๋สูตรพิเศษ ทอดกันใหม่ๆ เสิร์ฟมาร้อนๆ ตัวใหญ่ กรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟพร้อมกับดิป 6 ชนิด ได้แก่ ชาไทย กาแฟ ใบเตย ไข่ขาว ไข่แดง และรสดั้งเดิม แต่ละอย่างรสชาติเข้มข้น ไม่หวานจัดจนเกินไป และถ้ามานั่งกินที่ร้านก็สามารถเติมดิปได้ไม่อั้นด้วย
ชิมขนมกันไปแล้ว หันมาลองอาหารอร่อยๆ ของที่ร้านกันบ้าง เริ่มจาก โจ๊กฮ่องกง+ไข่ (190 บาท) ซึ่งแม้ว่าจะเป็นโจ๊ก แต่ก็มีเสิร์ฟให้ชิมกันได้ทั้งวัน โจ๊กชามนี้เป็นสูตรฮ่องกงแท้ๆ ใส่หมูสับหมักปรุงรสอย่างดี เนื้อนุ่มอร่อย ใส่ต้นหอมและขิงซอย เสิร์ฟพร้อมกับไข่ออนเซน และปาท่องโก๋ตัวยาวสไตล์ฮ่องกงทอดกันใหม่ๆ
ทางด้านอาหารไทยก็อร่อยเข้มข้นไม่แพ้กัน อย่างเช่น ข้าวแกงเหลืองปลาแซลมอน (230 บาท) ที่มาเป็นเซ็ต ทั้งข้าวสวยร้อนๆ มาพร้อมไข่เค็ม ปลาสลิดแดดเดียวทอดกรอบ หมูฝอย และผักสดหลากชนิด ส่วนแกงเหลืองก็มีให้เลือกใส่ทั้งมะละกอและหน่อไม้ดอง ที่เลือกชิมวันนี้เป็นหน่อไม้ดองที่ล้างสะอาดอย่างดี หน่อไม้อ่อนๆ รสเปรี้ยวกำลังดี กับแกงส้มรสจัดจ้าน ใส่ปลาแซลมอนเนื้อแน่น
อาหารใต้อีกจานที่ชวนกิน ข้าวกระดูกอ่อนคั่วกลิ้ง (190 บาท) ที่ใช้ส่วนกระดูกอ่อนมาเคี่ยวกับพริกแกงคั่วกลิ้ง ทำเป็นแบบน้ำขลุกขลิก คั่วกลิ้งรสเข้มข้นจัดจ้าน หอมเครื่องแกงสูตรเฉพาะของร้าน กระดูกอ่อนนุ่มเปื่อยเคี้ยวกรุบ มาพร้อมข้าวสวยร้อนๆ ไข่เค็ม และผักแกล้ม
อีกจานอยากชวนให้ลองชิม ข้าวผัดหนำเลี๊ยบหมูสับ (190 บาท) ใช้ข้าวสวยมาผัดกับหนำเลี๊ยบ เสิร์ฟพร้อมหมูสับปรุงรส หอมแดง พริกซอย มะนาว เม็ดมะม่วงหิมพานต์ และซุปร้อนๆ ให้ซดคล่องคอ
หรือถ้าอยากกินอาหารตะวันตก ที่นี่ก็มีให้เลือกหลายจานเช่น สปาเก็ตตี้ครีมซอสขาวแซลมอน (210 บาท) เส้นสปาเก็ตตี้ลวกมาพอสุก ทำซอสครีมขาวรสกลมกล่อมหอมมัน มาพร้อมกับสโมคแซลมอนที่ออกรสเค็มนิดๆ
อิ่มแล้วมาลองเครื่องดื่มเย็นชื่นใจ Himalayan Pink Salted Caramel Frappe (120 บาท) ที่ใช้ซอสคาราเมลที่เป็นสูตรของทางร้าน ใส่เกลือหิมาลายันเพิ่มรสเค็มนิดๆ ชิมแล้วได้รสหวานหอมอร่อยเย็นชื่นใจ และ Green Tea Macadamia Frappe (155 บาท) เป็นชาเขียวเข้มข้นนำมาปั่นละเอียด ด้านบนมีวิปครีม และทอปด้วยแมคคาเดเมียให้อร่อยเต็มคำ
เมนูอร่อยของที่ร้านยังมีอีกหลายอย่าง อาทิ พายไส้กรอก (60 บาท) พายกรอบอัลมอนด์ (80 บาท) ข้าวซอยเนื้อ (290 บาท) เส้นหมี่ผัดผักกระเฉดกุ้ง (210 บาท) เป็นต้น แล้วก็ยังมีเครื่องดื่มสมุนไพรเพื่อสุขภาพ หวานน้อย เสิร์ฟแบบไม่ใส่น้ำแข็ง (สามารถสั่งแบบใส่น้ำแข็งและเพิ่มไซรัปได้)
มานั่งชิมของอร่อยจนอิ่มท้องกันที่ร้านแล้ว อย่าลืมซื้อขนมติดไม้ติดมือกลับไปบ้านเป็นของขวัญอร่อยๆ กันได้อีกด้วย
* * * * * * * * * * * * * * * * *
ร้าน “Kanom” สาขาลา วิลล่า มาร์เก็ต ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 ลา วิลล่า อารีย์ ถนนพหลโยธิน เขตพญาไท กทม. การเดินทางใช้รถถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีอารีย์ ทางออก 4 จะเห็นร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 1 ร้านเปิดทุกวัน วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 07.00-20.30 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.00-19.00 น. โทร. 0-2613-0542 ทางร้านมีบริการเดลิเวอรี่ นอกจากนี้ยังมีอีก 3 สาขา ที่ให้บริหารอาหารคาว-หวานและเครื่องดื่ม ได้แก่ สาขาเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ สาขาสุขุมวิท 49 และ สาขาปัญญา วิลเลจ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.facebook.com/Kanomfanpage
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
ใครที่ชอบกินทาร์ตไข่ คงจะเคยได้ยินชื่อร้าน “Kanom” กันมาบ้าง เพราะว่าร้านนี้เขามีทาร์ตไข่อร่อยๆ ขายมานานแล้ว ซึ่งนอกจากทาร์ตไข่ ก็ยังมีขนมอร่อยๆ อีกหลายอย่างที่ชวนกิน และต้องบอกเลยว่าร้านนี้มีดีมากกว่าขนมอร่อย เพราะยังมีอาหารจานเด็ดให้เลือกชิมอีกหลายจาน
ร้าน “Kanom” ที่เรามาลองชิมกันในมื้อนี้ เป็นสาขาลา วิลล่า มาร์เก็ต ในย่านอารีย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่สาขาที่มีทั้งของคาว-หวาน และเครื่องดื่ม ให้มานั่งดื่มด่ำความอร่อยกันได้ที่ร้านแบบสบายๆ
ถ้าหากเดินเข้ามาที่ร้านในตอนนี้ จะรู้สึกได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย จากร้าน Kanom ดั้งเดิมที่เปิดตัวมาตั้งแต่ ค.ศ.1999 ก็ถูกปรับเปลี่ยนให้มีความทันสมัยมากขึ้น เน้นบรรยากาศภายในร้านที่เหมือนกับการมานั่งกินข้าวที่บ้านเพื่อน ได้ลิ้มรสชาติความอร่อยของเมนูเด็ดที่คล้ายกับรสมือแม่ทำเองที่บ้าน พร้อมกับมีของอร่อยซื้อกลับบ้านไปเป็นของขวัญได้ด้วย
สำหรับเรื่องเมนูอร่อยของที่ร้าน พวกทาร์ตและเบเกอรี่อื่นๆ ของทางร้าน ก็เลือกใช้วัตถุดิบเกรดพรีเมียม ไม่มีสารเคมี ไม่ว่าจะเป็นแป้ง เนย ครีม ก็เป็นสูตรพิเศษลับเฉพาะของทางร้าน ส่วนอาหารก็มีให้เลือกหลากหลายกว่า 80 เมนู เป็นรสชาติเข้มข้นแบบที่คนไทยชอบ มีเครื่องดื่มหลากหลาย และกาแฟสดสไตล์อิตาเลียน โดยแต่ละเมนูนั้นจะปรุงสดใหม่ทุกวัน มีการควบคุมมาตรฐานจากครัวกลาง
มาถึงที่ร้านแล้ว แน่นอนว่าห้ามพลาด “ทาร์ตไข่” เมนูเด็ดเจ้าแรกของประเทศไทย ซึ่งที่นี่ก็มีให้เลือกทั้ง ทาร์ตไข่แดง (ชิ้นใหญ่ชิ้นละ 60 บาท) และ ทาร์ตไข่ขาว (ชิ้นใหญ่ชิ้นละ 60 บาท) โดยต้นตำรับของทาร์ตไข่นั้นนำมาจากมาเก๊า แต่ก็นำมาปรับรสชาติให้กลมกล่อมมากขึ้น ชิมแล้วรสไม่หวานมากเกินไป แป้งทาร์ตกรอบๆ เคี้ยวเพลิน
ซึ่งนอกจากจะมีทาร์ตไข่แบบออริจินัลแล้ว ที่นี่ก็ยังมีทาร์ตไข่ตามฤดูกาลให้ลองชิมกันด้วย อย่างช่วงนี้จนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม ก็จะมี ทาร์ตบลูเบอร์รี่ (ชิ้นละ 80 บาท/2 ชิ้น 150 บาท) โดยทางร้านร่วมมือกับเชฟมิชลินสตาร์ จอร์จ เมนเดส คิดค้นทาร์ตไข่บลูเบอร์รี่สูตรพิเศษ ทำจากบลูเบอร์รี่สดและมะนาวสด รสชาติไม่หวานเกินไป ตัดรสความเปรี้ยวจากบลูเบอร์รี่และมะนาว และยังได้กลิ่นหอมๆ ของมะนาว
อีกเมนูที่ถือว่าเป็นซิกเนเจอร์ของร้านก็คือ ปาท่องโก๋ 6 ดิป (150 บาท) ปาท่องโก๋สูตรพิเศษ ทอดกันใหม่ๆ เสิร์ฟมาร้อนๆ ตัวใหญ่ กรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟพร้อมกับดิป 6 ชนิด ได้แก่ ชาไทย กาแฟ ใบเตย ไข่ขาว ไข่แดง และรสดั้งเดิม แต่ละอย่างรสชาติเข้มข้น ไม่หวานจัดจนเกินไป และถ้ามานั่งกินที่ร้านก็สามารถเติมดิปได้ไม่อั้นด้วย
ชิมขนมกันไปแล้ว หันมาลองอาหารอร่อยๆ ของที่ร้านกันบ้าง เริ่มจาก โจ๊กฮ่องกง+ไข่ (190 บาท) ซึ่งแม้ว่าจะเป็นโจ๊ก แต่ก็มีเสิร์ฟให้ชิมกันได้ทั้งวัน โจ๊กชามนี้เป็นสูตรฮ่องกงแท้ๆ ใส่หมูสับหมักปรุงรสอย่างดี เนื้อนุ่มอร่อย ใส่ต้นหอมและขิงซอย เสิร์ฟพร้อมกับไข่ออนเซน และปาท่องโก๋ตัวยาวสไตล์ฮ่องกงทอดกันใหม่ๆ
ทางด้านอาหารไทยก็อร่อยเข้มข้นไม่แพ้กัน อย่างเช่น ข้าวแกงเหลืองปลาแซลมอน (230 บาท) ที่มาเป็นเซ็ต ทั้งข้าวสวยร้อนๆ มาพร้อมไข่เค็ม ปลาสลิดแดดเดียวทอดกรอบ หมูฝอย และผักสดหลากชนิด ส่วนแกงเหลืองก็มีให้เลือกใส่ทั้งมะละกอและหน่อไม้ดอง ที่เลือกชิมวันนี้เป็นหน่อไม้ดองที่ล้างสะอาดอย่างดี หน่อไม้อ่อนๆ รสเปรี้ยวกำลังดี กับแกงส้มรสจัดจ้าน ใส่ปลาแซลมอนเนื้อแน่น
อาหารใต้อีกจานที่ชวนกิน ข้าวกระดูกอ่อนคั่วกลิ้ง (190 บาท) ที่ใช้ส่วนกระดูกอ่อนมาเคี่ยวกับพริกแกงคั่วกลิ้ง ทำเป็นแบบน้ำขลุกขลิก คั่วกลิ้งรสเข้มข้นจัดจ้าน หอมเครื่องแกงสูตรเฉพาะของร้าน กระดูกอ่อนนุ่มเปื่อยเคี้ยวกรุบ มาพร้อมข้าวสวยร้อนๆ ไข่เค็ม และผักแกล้ม
อีกจานอยากชวนให้ลองชิม ข้าวผัดหนำเลี๊ยบหมูสับ (190 บาท) ใช้ข้าวสวยมาผัดกับหนำเลี๊ยบ เสิร์ฟพร้อมหมูสับปรุงรส หอมแดง พริกซอย มะนาว เม็ดมะม่วงหิมพานต์ และซุปร้อนๆ ให้ซดคล่องคอ
หรือถ้าอยากกินอาหารตะวันตก ที่นี่ก็มีให้เลือกหลายจานเช่น สปาเก็ตตี้ครีมซอสขาวแซลมอน (210 บาท) เส้นสปาเก็ตตี้ลวกมาพอสุก ทำซอสครีมขาวรสกลมกล่อมหอมมัน มาพร้อมกับสโมคแซลมอนที่ออกรสเค็มนิดๆ
อิ่มแล้วมาลองเครื่องดื่มเย็นชื่นใจ Himalayan Pink Salted Caramel Frappe (120 บาท) ที่ใช้ซอสคาราเมลที่เป็นสูตรของทางร้าน ใส่เกลือหิมาลายันเพิ่มรสเค็มนิดๆ ชิมแล้วได้รสหวานหอมอร่อยเย็นชื่นใจ และ Green Tea Macadamia Frappe (155 บาท) เป็นชาเขียวเข้มข้นนำมาปั่นละเอียด ด้านบนมีวิปครีม และทอปด้วยแมคคาเดเมียให้อร่อยเต็มคำ
เมนูอร่อยของที่ร้านยังมีอีกหลายอย่าง อาทิ พายไส้กรอก (60 บาท) พายกรอบอัลมอนด์ (80 บาท) ข้าวซอยเนื้อ (290 บาท) เส้นหมี่ผัดผักกระเฉดกุ้ง (210 บาท) เป็นต้น แล้วก็ยังมีเครื่องดื่มสมุนไพรเพื่อสุขภาพ หวานน้อย เสิร์ฟแบบไม่ใส่น้ำแข็ง (สามารถสั่งแบบใส่น้ำแข็งและเพิ่มไซรัปได้)
มานั่งชิมของอร่อยจนอิ่มท้องกันที่ร้านแล้ว อย่าลืมซื้อขนมติดไม้ติดมือกลับไปบ้านเป็นของขวัญอร่อยๆ กันได้อีกด้วย
* * * * * * * * * * * * * * * * *
ร้าน “Kanom” สาขาลา วิลล่า มาร์เก็ต ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 ลา วิลล่า อารีย์ ถนนพหลโยธิน เขตพญาไท กทม. การเดินทางใช้รถถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีอารีย์ ทางออก 4 จะเห็นร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 1 ร้านเปิดทุกวัน วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 07.00-20.30 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.00-19.00 น. โทร. 0-2613-0542 ทางร้านมีบริการเดลิเวอรี่ นอกจากนี้ยังมีอีก 3 สาขา ที่ให้บริหารอาหารคาว-หวานและเครื่องดื่ม ได้แก่ สาขาเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ สาขาสุขุมวิท 49 และ สาขาปัญญา วิลเลจ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.facebook.com/Kanomfanpage
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager