Facebook :Travel @ Manager

ในช่วงสุดสัปดาห์หากใครยังไม่มีแผนเดินทางไปท่องเที่ยวที่ไหน ฉันก็อยากจะชวนมาล่องเรือชมความงามของสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา มาไหว้พระทำบุญ ชมโบราณสถาน สัมผัสวิถีชีวิตไทย-มอญ กันที่ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี
“สามโคก” เป็นหนึ่งอำเภอในจังหวัดปทุมธานี มีความเก่าแก่ตั้งแต่ครั้งสมัยอยุธยาเป็นราชธานี เดิมมีชื่อว่า “เมืองสามโคก” เพราะมีโคกโบราณตั้งอยู่ในพื้นที่บริเวณนี้ทั้งหมด 3 แห่งด้วยกัน ในสมัยนั้นมีชาวมอญได้อพยพมาตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนบริเวณนี้ ต่อมาครอบครัวชาวมอญขยายตัวเจริญรุ่งเรืองจนเป็นชุมชนขึ้น ปัจจุบันอำเภอสามโคกมีวัดวาอารามเก่าแก่ที่ยังคงศิลปะสมัยอยุธยาและมอญให้ชมอยู่หลายแห่ง

หากใครสนใจที่จะมาไหว้พระที่ อ.สามโคก สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดปทุมธานีได้จัดเส้นทางท่องเที่ยววิถีวัฒนธรรมไทย-มอญ โดยให้บริการล่องเรือไหว้พระในทุกวันศุกร์-อาทิตย์ ตั้งแต่วันนี้ - 19 ส.ค. 61 มีเรือให้บริการวันละ 2 ลำ แบ่งเป็นรอบเช้าและรอบบ่าย ครั้งนี้ฉันขอพาไปท่องเที่ยวในเส้นทางแรกกันก่อน โดยนักท่องเที่ยวจะต้องมาลงทะเบียนกันตั้งแต่เช้า ณ บริเวณวัดบางเตยนอก เพราะเรือเส้นทางล่องเรือรอบเช้าจะออกเวลา 09.00 น. โดยให้บริการฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย

ก่อนที่เรือจะล่องออกจากท่า ฉันขอพามารู้จักกับ “วัดบางเตยนอก” กันก่อน เป็นวัดที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา สร้างในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ครั้งชาวมอญอพยพมาพึ่งพระบรมโพธิสมภารสยาม มีพระพุทธรูปองค์โต หลวงพ่อโตประทานพร พระนอน และเจดีย์มอญ อยู่หน้าวัดริมแม่น้ำ


จากนั้นไปยัง “วัดสิงห์” เป็นวัดคู่เมืองสามโคกมาอย่างช้านาน สร้างขึ้นในสมัยอยุธยา ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นวัดเก่าแก่ซึ่งยังปรากฏเจดีย์ โบสถ์ วิหารเก่า ภายในมีวิหารโถง (ศาลาดิน) เป็นอาคารทรงไทยจั่วลูกฟักหน้าพรม มีมาลัยโดยรอบ มุงด้วยกระเบื้องเชิงชายทำเป็นบันแถลงรูปสามเหลี่ยมปลายเรียวโค้งรูปเทพพนมสลับกับรูปดอกบัวอ่อนช้อยสวยงาม

ด้านในศาลาดินมีเสาทั้งระเบียงเรียบ รายรอบเป็นจำนวนมาก พื้นปูด้วยกระเบื้องดินเผาขัดมัน ด้านข้างทั้งสองก่ออิฐยกแนวเป็นอาสนะสงฆ์ เสาของอาคารเป็นเสาไม้กลมทาด้วยสีแดงเป็นอาคารเก่าแก่สมัยอยุธยา และมีซุ้มเรือนแก้วด้านหลังพระพุทธรูปและมีพระพุทธรูปหลวงพ่อโต หลวงพ่อเพชรลักษณะงดงามโดดเด่นอยู่กลางวิหาร

หลังจากนั้นล่องเรือรับลมชมสายน้ำที่ไหลจนไปถึงที่ “วัดถั่วทอง” จากการบอกเล่าวัดแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่และมีความเป็นมาอย่างยาวนาน โดยสร้างขึ้นในสมัยอยุธยา เดิมชื่อว่า “วัดถั่วทองราษฎรประชุมพล” เพราะมีภูมิทัศน์ที่เหมาะกับการค้าขายและเปลี่ยนสินค้า บริเวณด้านหน้าโบสถ์มีซุ้มเสมาเกี้ยวอย่างจีน ด้านในมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์หลวงพ่อโต ที่ชาวบ้านให้ความเคารพและศรัทธา


และอีกหนึ่งวัดที่มีความสำคัญก็คือ “วัดไผ่ล้อม” เป็นวัดโบราณที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงสุโขทัย ตั้งอยู่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา ในเขตอำเภอสามโคก สิ่งสำคัญที่อยู่ภายในวัดคือหลวงพ่อโต พระประธานที่ตั้งอยู่ในโบสถ์ มีอายุกว่า 600 ปี และวัดนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ เพราะที่วัดแห่งนี้เป็นแหล่งดูนกปากห่าง จนได้รับการประกาศเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอยู่ที่วัดไผ่ล้อม

ภายในวัดไผ่ล้อมอุดมสมบูรณ์ด้วยต้นไม้หนาแน่น และเป็นที่อาศัยของนกปากห่างมากว่า 100 ปีแล้ว ซึ่งนกปากห่างนั้นเป็นนกในวงศ์นกกระสา มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดีย ศรีลังกา พม่า ไทย ลาว เขมร และเวียดนาม มีลักษณะเฉพาะที่จะงอยปากซึ่งปิดไม่สนิท มีร่องโค้งตรงกลางปาก โดยอพยพมาที่ประเทศไทยเพื่อผสมพันธุ์ สร้างรังและวางไข่ช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมิถุนายนของทุกปี

ส่วนวัดสุดท้ายของการล่องเรือในครั้งนี้คือที่ “วัดศาลาแดงเหนือ” เป็นวัดโบราณสมัยอยุธยา ชาวมอญอพยพมาบูรณะก่อตั้งเป็นวัดขึ้น มีโบราณสถานที่สำคัญ เจดีย์มอญ มีฐานเป็นทรงสีเหลี่ยม มีเจดีย์ประจำทิศทั้งสี่ กำแพงแก้วลานทักษิณา เป็นเจดีย์ทรงจอมแห ฐานบัวคว่ำ ประกอบไปด้วยบัวลูกแก้ว องค์ระฆังรัดประคตปล้องไฉน ปรียอด ศาลาการเปรียญ หอสวดมนต์ หอไตร

นอกจากนั้นภายในวัดศาลาแดงเหนือยังมีพิพิธภัณฑ์เรือ เป็นที่เก็บรวบรวมเรือที่ใช้ในอดีต มีเรือเพรียวหรือเรือสำปั้นวัด ชื่อ “พญาหงสา” เรือฝรั่งที่เรียกว่า “โบ๊ท” (Boat) ไทยเรียกว่า เรือบด มีหลายลำ และเรือมาตรเก๋ง เป็นเรือที่ขุนนางมอญถวายให้วัด และยังมีเรือแกระแชงมอญ ที่ใช้บรรทุกสินค้าไปขายตามแม่น้ำลำคลองอีกด้วย

ในช่วงวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ หากใครกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวฉบับสายบุญ ก็ลองมาล่องเรือท่องเที่ยวไหว้พระ ชมวิถีวัฒนธรรมไทย-มอญ กันได้ที่อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ซึ่งจะให้บริการฟรีจนถึงวันอาทิตย์ที่ 19 ส.ค. 61 นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดปทุมธานี โทร. 08-4064-0033
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
ในช่วงสุดสัปดาห์หากใครยังไม่มีแผนเดินทางไปท่องเที่ยวที่ไหน ฉันก็อยากจะชวนมาล่องเรือชมความงามของสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา มาไหว้พระทำบุญ ชมโบราณสถาน สัมผัสวิถีชีวิตไทย-มอญ กันที่ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี
“สามโคก” เป็นหนึ่งอำเภอในจังหวัดปทุมธานี มีความเก่าแก่ตั้งแต่ครั้งสมัยอยุธยาเป็นราชธานี เดิมมีชื่อว่า “เมืองสามโคก” เพราะมีโคกโบราณตั้งอยู่ในพื้นที่บริเวณนี้ทั้งหมด 3 แห่งด้วยกัน ในสมัยนั้นมีชาวมอญได้อพยพมาตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนบริเวณนี้ ต่อมาครอบครัวชาวมอญขยายตัวเจริญรุ่งเรืองจนเป็นชุมชนขึ้น ปัจจุบันอำเภอสามโคกมีวัดวาอารามเก่าแก่ที่ยังคงศิลปะสมัยอยุธยาและมอญให้ชมอยู่หลายแห่ง
หากใครสนใจที่จะมาไหว้พระที่ อ.สามโคก สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดปทุมธานีได้จัดเส้นทางท่องเที่ยววิถีวัฒนธรรมไทย-มอญ โดยให้บริการล่องเรือไหว้พระในทุกวันศุกร์-อาทิตย์ ตั้งแต่วันนี้ - 19 ส.ค. 61 มีเรือให้บริการวันละ 2 ลำ แบ่งเป็นรอบเช้าและรอบบ่าย ครั้งนี้ฉันขอพาไปท่องเที่ยวในเส้นทางแรกกันก่อน โดยนักท่องเที่ยวจะต้องมาลงทะเบียนกันตั้งแต่เช้า ณ บริเวณวัดบางเตยนอก เพราะเรือเส้นทางล่องเรือรอบเช้าจะออกเวลา 09.00 น. โดยให้บริการฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย
ก่อนที่เรือจะล่องออกจากท่า ฉันขอพามารู้จักกับ “วัดบางเตยนอก” กันก่อน เป็นวัดที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา สร้างในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ครั้งชาวมอญอพยพมาพึ่งพระบรมโพธิสมภารสยาม มีพระพุทธรูปองค์โต หลวงพ่อโตประทานพร พระนอน และเจดีย์มอญ อยู่หน้าวัดริมแม่น้ำ
จากนั้นไปยัง “วัดสิงห์” เป็นวัดคู่เมืองสามโคกมาอย่างช้านาน สร้างขึ้นในสมัยอยุธยา ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นวัดเก่าแก่ซึ่งยังปรากฏเจดีย์ โบสถ์ วิหารเก่า ภายในมีวิหารโถง (ศาลาดิน) เป็นอาคารทรงไทยจั่วลูกฟักหน้าพรม มีมาลัยโดยรอบ มุงด้วยกระเบื้องเชิงชายทำเป็นบันแถลงรูปสามเหลี่ยมปลายเรียวโค้งรูปเทพพนมสลับกับรูปดอกบัวอ่อนช้อยสวยงาม
ด้านในศาลาดินมีเสาทั้งระเบียงเรียบ รายรอบเป็นจำนวนมาก พื้นปูด้วยกระเบื้องดินเผาขัดมัน ด้านข้างทั้งสองก่ออิฐยกแนวเป็นอาสนะสงฆ์ เสาของอาคารเป็นเสาไม้กลมทาด้วยสีแดงเป็นอาคารเก่าแก่สมัยอยุธยา และมีซุ้มเรือนแก้วด้านหลังพระพุทธรูปและมีพระพุทธรูปหลวงพ่อโต หลวงพ่อเพชรลักษณะงดงามโดดเด่นอยู่กลางวิหาร
หลังจากนั้นล่องเรือรับลมชมสายน้ำที่ไหลจนไปถึงที่ “วัดถั่วทอง” จากการบอกเล่าวัดแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่และมีความเป็นมาอย่างยาวนาน โดยสร้างขึ้นในสมัยอยุธยา เดิมชื่อว่า “วัดถั่วทองราษฎรประชุมพล” เพราะมีภูมิทัศน์ที่เหมาะกับการค้าขายและเปลี่ยนสินค้า บริเวณด้านหน้าโบสถ์มีซุ้มเสมาเกี้ยวอย่างจีน ด้านในมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์หลวงพ่อโต ที่ชาวบ้านให้ความเคารพและศรัทธา
และอีกหนึ่งวัดที่มีความสำคัญก็คือ “วัดไผ่ล้อม” เป็นวัดโบราณที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงสุโขทัย ตั้งอยู่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา ในเขตอำเภอสามโคก สิ่งสำคัญที่อยู่ภายในวัดคือหลวงพ่อโต พระประธานที่ตั้งอยู่ในโบสถ์ มีอายุกว่า 600 ปี และวัดนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ เพราะที่วัดแห่งนี้เป็นแหล่งดูนกปากห่าง จนได้รับการประกาศเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอยู่ที่วัดไผ่ล้อม
ภายในวัดไผ่ล้อมอุดมสมบูรณ์ด้วยต้นไม้หนาแน่น และเป็นที่อาศัยของนกปากห่างมากว่า 100 ปีแล้ว ซึ่งนกปากห่างนั้นเป็นนกในวงศ์นกกระสา มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดีย ศรีลังกา พม่า ไทย ลาว เขมร และเวียดนาม มีลักษณะเฉพาะที่จะงอยปากซึ่งปิดไม่สนิท มีร่องโค้งตรงกลางปาก โดยอพยพมาที่ประเทศไทยเพื่อผสมพันธุ์ สร้างรังและวางไข่ช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมิถุนายนของทุกปี
ส่วนวัดสุดท้ายของการล่องเรือในครั้งนี้คือที่ “วัดศาลาแดงเหนือ” เป็นวัดโบราณสมัยอยุธยา ชาวมอญอพยพมาบูรณะก่อตั้งเป็นวัดขึ้น มีโบราณสถานที่สำคัญ เจดีย์มอญ มีฐานเป็นทรงสีเหลี่ยม มีเจดีย์ประจำทิศทั้งสี่ กำแพงแก้วลานทักษิณา เป็นเจดีย์ทรงจอมแห ฐานบัวคว่ำ ประกอบไปด้วยบัวลูกแก้ว องค์ระฆังรัดประคตปล้องไฉน ปรียอด ศาลาการเปรียญ หอสวดมนต์ หอไตร
นอกจากนั้นภายในวัดศาลาแดงเหนือยังมีพิพิธภัณฑ์เรือ เป็นที่เก็บรวบรวมเรือที่ใช้ในอดีต มีเรือเพรียวหรือเรือสำปั้นวัด ชื่อ “พญาหงสา” เรือฝรั่งที่เรียกว่า “โบ๊ท” (Boat) ไทยเรียกว่า เรือบด มีหลายลำ และเรือมาตรเก๋ง เป็นเรือที่ขุนนางมอญถวายให้วัด และยังมีเรือแกระแชงมอญ ที่ใช้บรรทุกสินค้าไปขายตามแม่น้ำลำคลองอีกด้วย
ในช่วงวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ หากใครกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวฉบับสายบุญ ก็ลองมาล่องเรือท่องเที่ยวไหว้พระ ชมวิถีวัฒนธรรมไทย-มอญ กันได้ที่อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ซึ่งจะให้บริการฟรีจนถึงวันอาทิตย์ที่ 19 ส.ค. 61 นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดปทุมธานี โทร. 08-4064-0033
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager