Facebook :Travel @ Manager
“อาหารไทย” เป็นอาหารประจำชาติไทยของเราที่มีเสน่ห์ ไม่ว่าจะด้วยรสชาติที่ครบรสความอร่อย อีกทั้งหน้าตาอาหารไทยก็มีความสวยงามชวนให้ลิ้มลอง เรียกว่าไม่ว่าจะคนไทย หรือชาวต่างชาติชาติไหน หากได้ลองลิ้มอาหารไทยเป็นต้องติดใจในรสชาติของอาหารไทยอันเลิศรสด้วยกันทั้งนั้น
มื้อนี้ “ตระเวนกิน” เลยขอเอาใจเหล่านักกินที่พิสมัยในรสชาติของอาหารไทย ด้วยการพามาอิ่มเอมกับอาหารไทยรสชาติดีกันที่ร้านนี้ “บ้านขนิษฐา สุขุมวิท53” เป็นร้านอาหารไทยที่ชวนให้มานั่งกินข้าวเป็นยิ่งนัก ด้วยบรรยากาศของร้านที่มีความสวยงาม เป็นการนำเอาบ้านเก่าที่มีอายุเกือบ 100 ปี สไตล์โคโลเนียล มาปรับปรุงตกแต่งใหม่ให้มีบรรยากาศแบบไทยร่วมสมัยอันสวยงาม
ภายในบ้านหลังงาม มีการจัดสรรโต๊ะนั่งให้เลือกนั่งด้วยกัน 2 ชั้น ชั้นล่างจัดโต๊ะนั่งที่ชวนนั่งสบายๆ ในห้องแอร์เย็นกาย มีห้องส่วนตัว 1 ห้อง และมีห้องเก็บไวน์ที่มีไวน์จากทั่วโลกให้บริการ ส่วนชั้นสองมีห้องส่วนตัวให้บริการอยู่ 2 ห้อง และมีส่วนของโต๊ะนั่งด้านนอกให้ได้นั่งกินข้าวรับสายลมธรรมชาติเย็นใจ
ในส่วนของอาหารที่นี่นำเสนออาหารไทยพื้นบ้าน เป็นสูตรเด็ดของบ้านขนิษฐาที่คิดค้นสูตรขึ้นมาโดยเฉพาะ เน้นเรื่องการคัดสรรวัตถุดิบเกรดพรีเมียม ที่เปี่ยมไปด้วยความสด สะอาด และใส่ใจเรื่องสุขภาพของลูกค้า โดยอาหารของที่นี่ปรุงโดยไม่มีการใส่ผงชูรส และผักต่างๆ ที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหาร เป็นผักออร์แกนิกที่ทางร้านปลูกเอง เมนูอาหารไทยของที่นี่มีให้เลือกลิ้มลองกว่า 100 เมนู และยังมีเมนูใหม่ๆ หมุนเวียนมาอยู่เสมอ ให้เหล่านักกินอาหารไทยได้อร่อยกับอาหารไทยอันหลากหลายแบบไม่จำเจ
อาหารไทยจานเด็ดของที่นี่มีให้เลือกกินมากมาย มื้อนี้เราเลยให้ทางร้านนำเสนอเมนูจานเด็ดที่เมื่อถ้ามาถึงร้านแล้วควรสั่งมาชิมกันให้ได้ก็มี ข้าวตังหน้าตั้ง (220 บาท++) เป็นข้าวตังที่ทางร้านทำเอง โดยใช้ข้าวกล้องมาทำแล้วทอดกรอบ เสิร์ฟมาพร้อมกับหน้าตั้งที่ใส่หมูกับกุ้งปรุงตามสูตรเด็ดพิเศษของทางร้าน กินข้าวตั้งหน้าตั้งเคี้ยวกรุบกรอบได้รสชาติเข้มข้นถูกปากดีแท้
ถัดมาชวนชิม ยำส้มโอ (280 บาท++) ทางร้านคัดสรรส้มโออย่างดีมีคุณภาพ นำมายำกับเครื่องยำที่มีส่วนผสมของมะพร้าวคั่ว ถั่วลิสงคั่ว ซึ่งทางร้านคั่วเองแบบสดใหม่ ใส่น้ำพริกเผาด้วย และใส่กุ้งแชบ๊วยกับเนื้อไก่ฉีก ลิ้มรสยำส้มโอถูกลิ้นดีจริง ส้มโอหวานอมเปรี้ยวเข้ากับน้ำยำรสชาติกลมกล่อม ลงตัวเข้ากับเครื่องต่างๆ ที่ใส่มา
ต่อด้วยเมนู น้ำพริกลงเรือปลาดุกฟูหมูหวาน (320 บาท++) หน้าตาชวนกิน ในชุดประกอบไปด้วยน้ำพริกลงเรือที่ทางร้านตำเองตามสูตรพิเศษเฉพาะ ใส่ไข่แดงเค็ม และลูกโดด (พริกขี้หนูสวนเม็ดเล็ก) ชิมน้ำพริกลงเรือรสจัดจ้านถึงพริกถึงเครื่อง กินเคียงกับผักต้ม ผักสดต่างๆ พร้อมกับมีปลาดุกฟูทอดกรอบ และหมูหวานรสชาติดีกินแนมลงตัวเข้ากัน
ถ้าใครชอบกินกุ้งแนะนำเลยว่าไม่ควรพลาด กุ้งอยุธยาเผา (1,100 บาท++/ตัว) ทางร้านคัดสรรกุ้งแม่น้ำอยุธยาขนาดน้ำหนัก 3 ตัวต่อ 1 กิโลกรัม เรียกว่ากุ้งขนาดใหญ่กำลังดี นำมาเผาด้วยเตาถ่านตามสูตรโบราณ ได้กุ้งเผาส่งกลิ่นหอมๆ มีมันกุ้งเยิ้มๆ กินแล้วมันปากมาก ส่วนเนื้อกุ้งเด้งนุ่มหวานถูกปาก กินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บเด็ดโดนใจมาก
อีกหนึ่งเมนูกุ้งจานเด็ดที่ชวนกิน คือ ฉู่ฉี่กุ้งนาง (640 บาท++) เป็นกุ้งแม่น้ำขนาดใหญ่นำมาคลุกแป้งนิดหน่อยแล้วทอด และราดด้วยซอสฉู่ฉี่สูตรเด็ดของทางร้าน กินแล้วถูกปากตรงที่กุ้งตัวโตเนื้อแน่น ชุ่มรสชาติซอสฉู่ฉี่รสเข้มข้นถึงเครื่องพริกแกงดีจริง
แล้วมาชิมเมนู แกงคั่วเนื้อปูใบชะคราม (340 บาท++) แกงคั่วนี้ทางร้านโขลกเครื่องแกงเอง ใส่กะทิ ใส่ใบชะคราม และเนื้อปูส่วนกรรเชียงที่คัดมาอย่างดีมาแบบชิ้นใหญ่ๆ เสิร์ฟมาให้กินคู่กับเส้นหมี่ขาวลวก ลิ้มรสแล้วขอยกนิ้วให้ในรสชาติความเข้มข้นของแกงคั่วปูรสชาติดี เนื้อปูชิ้นใหญ่กินแบบเต็มปากเต็มคำ กินเข้ากันกับเส้นหมี่ขาวนุ่มๆ
ส่งท้ายล้างปากด้วยของหวานเมนูเด่น ขนมโค (120 บาท++) ที่หากินได้ยาก หน้าตาคล้ายขนมบัวลอย แต่ว่าตัวแป้งจะมีไส้มะพร้าวอยู่ข้างใน ลองลิ้มขนมโคเคี้ยวแป้งนุ่มหนึบ ได้รสชาติไส้มะพร้าวหวานๆ ซดน้ำกะทิหอมมัน
สำหรับเมนูอาหารไทยของที่นี่อย่างที่ได้บอกไว้แล้วว่ามีเป็น 100 เมนู ฉะนั้นจึงยังมีอีกหลายเมนูจานเด็ดที่ชวนให้สั่งมากินกัน อาทิ พะแนงเป็ดลิ้นจี่ (340 บาท++) แกงฮังเลโรตี (320 บาท++) พะโล้ไข่เค็ม (280 บาท++) ปูนิ่มผัดผงกะหรี่ (640 บาท++) กุ้งอยุธยาผัดทรงเครื่อง (1,100 บาท++) ฯลฯ ซึ่งถ้าหากใครชื่นชอบกินอาหารไทยพื้นบ้านรสชาติดี ที่มีคุณภาพ แนะนำว่าให้ชวนกันมาที่ร้าน “บ้านขนิษฐา สุขุมวิท53”
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“บ้านขนิษฐา สุขุมวิท53” ตั้งอยู่ที่ 31 ซอยสุขุมวิท 53 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองคัน เขตวัฒนา กรุงเทพฯ เปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 23.00 น. (ออเดอร์อาหารสุดท้ายเวลา 22.30 น.) ทางร้านรับจัดงานเลี้ยงด้วย ถ้ามากินแนะนำว่าควรโทร. มาจองโต๊ะก่อน โทร. 0-2259-8530-32, 08-4929-4123, 08-8249-8191 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.baan-khanitha.com และ www.facebook.com/baankhanithabkk หากมากินอาหารที่ร้านบ้านขนิษฐา ทั้ง 4 สาขา (สาขาสุขุมวิท 23, สุขุมวิท 53, สาทร และสาขาริมน้ำ (เอเชียทีค) แล้วจ่ายด้วยบัตรเครดิต KTC รับส่วนลด 10% เฉพาะค่าอาหาร และถ้าแจ้งกับทางร้านว่าอ่านมาจาก เว็บไซด์ผู้จัดการ จะได้รับขนมโค 1 ถ้วย / ใบเสร็จ ตั้งแต่วันนี้ - 30 กันยายน 2561
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
“อาหารไทย” เป็นอาหารประจำชาติไทยของเราที่มีเสน่ห์ ไม่ว่าจะด้วยรสชาติที่ครบรสความอร่อย อีกทั้งหน้าตาอาหารไทยก็มีความสวยงามชวนให้ลิ้มลอง เรียกว่าไม่ว่าจะคนไทย หรือชาวต่างชาติชาติไหน หากได้ลองลิ้มอาหารไทยเป็นต้องติดใจในรสชาติของอาหารไทยอันเลิศรสด้วยกันทั้งนั้น
มื้อนี้ “ตระเวนกิน” เลยขอเอาใจเหล่านักกินที่พิสมัยในรสชาติของอาหารไทย ด้วยการพามาอิ่มเอมกับอาหารไทยรสชาติดีกันที่ร้านนี้ “บ้านขนิษฐา สุขุมวิท53” เป็นร้านอาหารไทยที่ชวนให้มานั่งกินข้าวเป็นยิ่งนัก ด้วยบรรยากาศของร้านที่มีความสวยงาม เป็นการนำเอาบ้านเก่าที่มีอายุเกือบ 100 ปี สไตล์โคโลเนียล มาปรับปรุงตกแต่งใหม่ให้มีบรรยากาศแบบไทยร่วมสมัยอันสวยงาม
ภายในบ้านหลังงาม มีการจัดสรรโต๊ะนั่งให้เลือกนั่งด้วยกัน 2 ชั้น ชั้นล่างจัดโต๊ะนั่งที่ชวนนั่งสบายๆ ในห้องแอร์เย็นกาย มีห้องส่วนตัว 1 ห้อง และมีห้องเก็บไวน์ที่มีไวน์จากทั่วโลกให้บริการ ส่วนชั้นสองมีห้องส่วนตัวให้บริการอยู่ 2 ห้อง และมีส่วนของโต๊ะนั่งด้านนอกให้ได้นั่งกินข้าวรับสายลมธรรมชาติเย็นใจ
ในส่วนของอาหารที่นี่นำเสนออาหารไทยพื้นบ้าน เป็นสูตรเด็ดของบ้านขนิษฐาที่คิดค้นสูตรขึ้นมาโดยเฉพาะ เน้นเรื่องการคัดสรรวัตถุดิบเกรดพรีเมียม ที่เปี่ยมไปด้วยความสด สะอาด และใส่ใจเรื่องสุขภาพของลูกค้า โดยอาหารของที่นี่ปรุงโดยไม่มีการใส่ผงชูรส และผักต่างๆ ที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหาร เป็นผักออร์แกนิกที่ทางร้านปลูกเอง เมนูอาหารไทยของที่นี่มีให้เลือกลิ้มลองกว่า 100 เมนู และยังมีเมนูใหม่ๆ หมุนเวียนมาอยู่เสมอ ให้เหล่านักกินอาหารไทยได้อร่อยกับอาหารไทยอันหลากหลายแบบไม่จำเจ
อาหารไทยจานเด็ดของที่นี่มีให้เลือกกินมากมาย มื้อนี้เราเลยให้ทางร้านนำเสนอเมนูจานเด็ดที่เมื่อถ้ามาถึงร้านแล้วควรสั่งมาชิมกันให้ได้ก็มี ข้าวตังหน้าตั้ง (220 บาท++) เป็นข้าวตังที่ทางร้านทำเอง โดยใช้ข้าวกล้องมาทำแล้วทอดกรอบ เสิร์ฟมาพร้อมกับหน้าตั้งที่ใส่หมูกับกุ้งปรุงตามสูตรเด็ดพิเศษของทางร้าน กินข้าวตั้งหน้าตั้งเคี้ยวกรุบกรอบได้รสชาติเข้มข้นถูกปากดีแท้
ถัดมาชวนชิม ยำส้มโอ (280 บาท++) ทางร้านคัดสรรส้มโออย่างดีมีคุณภาพ นำมายำกับเครื่องยำที่มีส่วนผสมของมะพร้าวคั่ว ถั่วลิสงคั่ว ซึ่งทางร้านคั่วเองแบบสดใหม่ ใส่น้ำพริกเผาด้วย และใส่กุ้งแชบ๊วยกับเนื้อไก่ฉีก ลิ้มรสยำส้มโอถูกลิ้นดีจริง ส้มโอหวานอมเปรี้ยวเข้ากับน้ำยำรสชาติกลมกล่อม ลงตัวเข้ากับเครื่องต่างๆ ที่ใส่มา
ต่อด้วยเมนู น้ำพริกลงเรือปลาดุกฟูหมูหวาน (320 บาท++) หน้าตาชวนกิน ในชุดประกอบไปด้วยน้ำพริกลงเรือที่ทางร้านตำเองตามสูตรพิเศษเฉพาะ ใส่ไข่แดงเค็ม และลูกโดด (พริกขี้หนูสวนเม็ดเล็ก) ชิมน้ำพริกลงเรือรสจัดจ้านถึงพริกถึงเครื่อง กินเคียงกับผักต้ม ผักสดต่างๆ พร้อมกับมีปลาดุกฟูทอดกรอบ และหมูหวานรสชาติดีกินแนมลงตัวเข้ากัน
ถ้าใครชอบกินกุ้งแนะนำเลยว่าไม่ควรพลาด กุ้งอยุธยาเผา (1,100 บาท++/ตัว) ทางร้านคัดสรรกุ้งแม่น้ำอยุธยาขนาดน้ำหนัก 3 ตัวต่อ 1 กิโลกรัม เรียกว่ากุ้งขนาดใหญ่กำลังดี นำมาเผาด้วยเตาถ่านตามสูตรโบราณ ได้กุ้งเผาส่งกลิ่นหอมๆ มีมันกุ้งเยิ้มๆ กินแล้วมันปากมาก ส่วนเนื้อกุ้งเด้งนุ่มหวานถูกปาก กินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บเด็ดโดนใจมาก
อีกหนึ่งเมนูกุ้งจานเด็ดที่ชวนกิน คือ ฉู่ฉี่กุ้งนาง (640 บาท++) เป็นกุ้งแม่น้ำขนาดใหญ่นำมาคลุกแป้งนิดหน่อยแล้วทอด และราดด้วยซอสฉู่ฉี่สูตรเด็ดของทางร้าน กินแล้วถูกปากตรงที่กุ้งตัวโตเนื้อแน่น ชุ่มรสชาติซอสฉู่ฉี่รสเข้มข้นถึงเครื่องพริกแกงดีจริง
แล้วมาชิมเมนู แกงคั่วเนื้อปูใบชะคราม (340 บาท++) แกงคั่วนี้ทางร้านโขลกเครื่องแกงเอง ใส่กะทิ ใส่ใบชะคราม และเนื้อปูส่วนกรรเชียงที่คัดมาอย่างดีมาแบบชิ้นใหญ่ๆ เสิร์ฟมาให้กินคู่กับเส้นหมี่ขาวลวก ลิ้มรสแล้วขอยกนิ้วให้ในรสชาติความเข้มข้นของแกงคั่วปูรสชาติดี เนื้อปูชิ้นใหญ่กินแบบเต็มปากเต็มคำ กินเข้ากันกับเส้นหมี่ขาวนุ่มๆ
ส่งท้ายล้างปากด้วยของหวานเมนูเด่น ขนมโค (120 บาท++) ที่หากินได้ยาก หน้าตาคล้ายขนมบัวลอย แต่ว่าตัวแป้งจะมีไส้มะพร้าวอยู่ข้างใน ลองลิ้มขนมโคเคี้ยวแป้งนุ่มหนึบ ได้รสชาติไส้มะพร้าวหวานๆ ซดน้ำกะทิหอมมัน
สำหรับเมนูอาหารไทยของที่นี่อย่างที่ได้บอกไว้แล้วว่ามีเป็น 100 เมนู ฉะนั้นจึงยังมีอีกหลายเมนูจานเด็ดที่ชวนให้สั่งมากินกัน อาทิ พะแนงเป็ดลิ้นจี่ (340 บาท++) แกงฮังเลโรตี (320 บาท++) พะโล้ไข่เค็ม (280 บาท++) ปูนิ่มผัดผงกะหรี่ (640 บาท++) กุ้งอยุธยาผัดทรงเครื่อง (1,100 บาท++) ฯลฯ ซึ่งถ้าหากใครชื่นชอบกินอาหารไทยพื้นบ้านรสชาติดี ที่มีคุณภาพ แนะนำว่าให้ชวนกันมาที่ร้าน “บ้านขนิษฐา สุขุมวิท53”
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“บ้านขนิษฐา สุขุมวิท53” ตั้งอยู่ที่ 31 ซอยสุขุมวิท 53 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองคัน เขตวัฒนา กรุงเทพฯ เปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 23.00 น. (ออเดอร์อาหารสุดท้ายเวลา 22.30 น.) ทางร้านรับจัดงานเลี้ยงด้วย ถ้ามากินแนะนำว่าควรโทร. มาจองโต๊ะก่อน โทร. 0-2259-8530-32, 08-4929-4123, 08-8249-8191 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.baan-khanitha.com และ www.facebook.com/baankhanithabkk หากมากินอาหารที่ร้านบ้านขนิษฐา ทั้ง 4 สาขา (สาขาสุขุมวิท 23, สุขุมวิท 53, สาทร และสาขาริมน้ำ (เอเชียทีค) แล้วจ่ายด้วยบัตรเครดิต KTC รับส่วนลด 10% เฉพาะค่าอาหาร และถ้าแจ้งกับทางร้านว่าอ่านมาจาก เว็บไซด์ผู้จัดการ จะได้รับขนมโค 1 ถ้วย / ใบเสร็จ ตั้งแต่วันนี้ - 30 กันยายน 2561
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager