Facebook :Travel @ Manager
ด้วยความน่ารักของ “เท็ดดี้แบร์” (Teddy Bear) หรือว่า ตุ๊กตาหมีน้อยขนปุย นุ่มๆ ที่น่ารักน่าเอ็นดู เห็นแล้วก็ชวนอยากจะเข้าไปกอด ไปเล่นให้สุขใจ ซึ่งหากว่าใครเป็นสาวกคนรักน้องหมีที่แสนน่ารัก ขอบอกเลยว่าให้ตาม “ตระเวนกิน” มาได้เลย
เพราะว่ามื้อนี้เราจะขอพาเหล่าคนรักน้องหมี ได้มาอิ่มท้องอย่างสำราญกาย และฟินใจกับเหล่าน้องหมีที่น่ารักมากมายกันที่ร้านอาหารแห่งนี้ ที่มีชื่อว่า “คาเฟ่บ้านหมี” ซึ่งที่นี่เรียกว่าเป็นสวรรค์ของคนรักหมีก็ว่าได้ เพียงแค่เมื่อมาถึงร้านก็จะได้สัมผัสบรรยากาศร้านที่ถูกตกแต่งอย่างมีสไตล์
ภายในร้านไม่ว่าจะมองทางไหนก็จะเห็นเหล่าน้องหมีตัวเล็กตัวใหญ่หลากหลายรูปแบบอยู่ทั่วร้าน ตุ๊กตาหมีล้วนแล้วแต่มีความน่ารักสดใส ทำให้บรรยากาศร้านดูน่ารักอบอุ่น ชวนให้นั่งกินข้าวอย่างมีความสุขสำราญใจ ท่ามกลางเหล่าน้องหมีน่ารักมากมาย แถมยังชวนกอดน้องหมีได้แบบสบายใจ ตุ๊กตาหมีแต่ละตัวดูสะอาดสะอ้าน เพราะว่าทางร้านมีการดูแลทำความสะอาดเหล่าตุ๊กตาหมีอยู่เสมอ
สำหรับโต๊ะนั่งภายในร้านถูกจัดสรรพื้นที่โต๊ะนั่งออกเป็นหลายโซนให้เลือกนั่งตามชอบใจ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นโซนไหน โต๊ะนั่งแต่ละโต๊ะจะมีน้องหมีน่ารักๆ นั่งอยู่ประจำโต๊ะ ให้สาวกคนรักหมีได้นั่งกินข้าวกับน้องหมีอย่างมีความสุข โดยมีโซนโต๊ะนั่งสนามหญ้าเทียม ที่ชวนนั่งรับลมเย็นๆ มีโซนโต๊ะนั่งที่นำตู้คอนเทนเนอร์มาดัดแปลงเป็นห้องแอร์ชวนนั่งเย็นสบาย แล้วก็ยังมีอีกฟากฝั่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กัน ทางร้านจัดสรรโซนโต๊ะนั่งมีทั้งห้องแอร์ขนาดใหญ่ และโซนโต๊ะนั่งด้านนอกรับลมธรรมชาติเย็นใจ ซึ่งตรงโซนนี้จะมีดนตรีสดมาเล่นเพลงขับกล่อมให้ฟังแบบเพลิดเพลินทุกวันศุกร์-วันอาทิตย์ เวลา 19.00 – 21.00 น.
นั่นแค่บรรยากาศที่ทำเอาคนรักหมีฟินใจกันไปแล้ว มาถึงเรื่องอาหารก็ต้องบอกว่ามีดีไม่แพ้บรรยากาศ โดยทางร้านนำเสนออาหารสไตล์ฟิวชั่นแบบนานาชาติ เป็นเมนูที่ทางร้านคิดสร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยสูตรเด็ดเฉพาะ และปรุงแต่งแบบโฮมเมด เน้นคัดสรรแต่วัตถุดิบที่มีคุณภาพ มีความสดใหม่ เพื่อนำมาปรุงเป็นเมนูอาหารจานเด็ดมากหลายให้เลือกอิ่มอร่อยถึง 100 เมนู รวมถึงยังมีเครื่องดื่มและเบเกอรี่โฮมเมดหลากหลายสไตล์ ที่ล้วนแล้วแต่ชวนกินทั้งนั้น
มื้อนี้เราขอแนะนำเมนูเด่นทั้งอาหาร ขนม และเครื่องดื่มมากินแบบอิ่มจัดเต็มกันไปเลย โดยขอเริ่มจากเมนูของคาวกันก่อน จานแรกชวนชิม สปาเก็ตตี้ขี้เมาเบคอน (150 บาท) ทางร้านนำเส้นสปาเก็ตตี้มาผัดกับเครื่องขี้เมาสมุนไพรไทยแบบครบเครื่อง และใส่เบคอนทอดกรอบ ม้วนเส้นสปาเก็ตตี้ส่งเข้าปากเคี้ยวนุ่มละมุนลิ้น ได้รสชาติเครื่องขี้เมาครบรสเผ็ดจัดจ้าน กินเข้ากันดีกับเบคอนทอดหอมๆ เคี้ยวกรอบนุ่มเพลินปาก
เมนูต่อมาลิ้มลอง ข้าวไข่ข้นต้มยำกุ้ง (150 บาท) หน้าตาน่ากิน เป็นข้าวหอมมะลินุ่มๆ แล้วโปะด้วยไข่ข้น ราดด้วยน้ำต้มยำกุ้งเข้มข้น กินแล้วถูกปากไข่ข้นนุ่มเนียนเข้ากับข้าวเม็ดนุ่ม ผสานรสชาติเข้ากันดีกับต้มยำรสกลมกล่อมไม่เผ็ดมาก
ถัดมาชวนชิมเมนู หมูปลาร้า (259 บาท) จัดเสิร์ฟมาแบบครบเซต ประกอบไปด้วยหมูสันคอที่หมักด้วยเครื่องปรุงสูตรเด็ดเฉพาะของทางร้าน แล้วย่างด้วยเตาถ่านหอมๆ มาพร้อมกับน้ำพริกปลาร้าที่ทางร้านตำเอง ลิ้มรสหมูเนื้อนุ่มได้รสชาติเครื่องหมักรสเข้มข้น กินคู่กับน้ำพริกปลาร้ารสเยี่ยม และมีข้าวเหนียวกับผักสดให้กินด้วยกัน เล่นเอาอิ่มท้องไม่ใช่น้อย
ทะเลเกยตื้น (250 บาท) เป็นอีกเมนูของคาวที่ไม่ควรพลาด ทางร้านจัดเสิร์ฟมาแบบหม้อไฟร้อนๆ มีสารพัดซีฟู้ดหลายอย่างทั้งหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ กุ้ง หมึก ปูม้า ปลากะพง แล้วก็มีน้ำราดที่ปรุงแบบน้ำจิ้มซีฟู้ดเข้มข้นราดมาบนซีฟู้ด ด้านล่างรองด้วยกะหล่ำปลี เวลากินจุดไฟร้อนๆ จะได้ลิ้มรสชาติของทะเลต่างๆ ที่ล้วนแล้วแต่มีความสดหวาน ชุ่มน้ำราดรสแซ่บเด็ดถูกปากโดนใจ
กินเมนูของคาวไปแล้ว หันมากินเมนูของหวานกันต่อ นำเสนอ เครปเย็นดับเบิ้ลสตรอเบอร์รี่ (189 บาท) ทางร้านทำแป้งเครปเย็นเองแบบสดใหม่ แล้วก็ใส่วิปครีมที่ตีเองเช่นกัน สอดไส้ด้วยสตรอเบอร์รี่สด ราดด้วยซอสช็อกโกแลต ลิ้มรสแป้งเครปนุ่มนิ่มละมุนลิ้นเข้ากับวิปครีมไม่หวานมาก ฉ่ำปากกับสตรอเบอร์รี่หวานนิดเปรี้ยวหน่อย กินเข้ากันดีกับซอสช็อกโกแลตเข้มข้น
แล้วถ้าใครชอบกินบิงซูแนะนำให้สั่ง บิงซูเซต (259 บาท) จัดเสิร์ฟมาแบบอลังการ ในเซตมีบิงซูถ้วยใหญ่เป็นเกล็ดน้ำแข็งผสมนมที่ทางร้านทำเอง แล้วก็ใส่คอนเฟลก สตรอเบอร์รี่สด ทอปด้วยวิปครีม มาพร้อมเครื่องเคียงสารพัดอย่างให้กินคู่กับบิงซู ไม่ว่าจะเป็นกล้วยหอม แคนตาลูบ แตงโม เมล่อน บราวนี่ โอโจ้ โอริโอ้ มาร์ชเมลโลว์ แล้วก็ยังมีนมข้น ซอสช็อกโกแลต ซอสสตรอเบอร์รี่ มาให้ราดเพิ่มรสชาติ ลิ้มรสบิงซูหวานเย็นชื่นใจกินฟินกันไป
ส่วนเครื่องดื่มที่ชวนดื่มก็มี สตรอเบอร์รี่มิลค์กี้ (120 บาท) เป็นสตรอเบอร์รี่ปั่นผสมกับนมสด ใส่ซอสสตรอเบอร์รี่ และทอปด้วยวิปครีม ดื่มแล้วหอมหวานสตรอเบอร์รี่เข้มข้นชื่นใจดีจริง
เมล่อนปั่น (95 บาท) แก้วนี้ก็ชวนดื่มไม่แพ้กัน ทางร้านใช้เมล่อนสดปั่นผสมกับเมล่อนไซรัป ใส่น้ำแข็งปั่นละเอียด เสิร์ฟมาเย็นๆ ดื่มแล้วชื่นใจหอมหวานกลิ่นเมล่อนดีแท้
แนะนำเมนูคาว-หวาน และเครื่องดื่มมาก็หลายอย่างแล้ว แต่อย่างที่บอกว่าที่ร้านนี้มีอาหารให้เลือกกินมากมาย จึงยังมีเมนูจานเด่นอื่นๆ ที่ชวนลองลิ้มอีกเพียบ อาทิ ตำปลาร้ากุ้งสด (120 บาท) ปลากะพงทอดตะไคร้ (390 บาท) หอยเชลล์อบชีส (220 บาท) พิซซ่าซีฟู้ด (159 บาท) ฯลฯ
เอาเป็นว่าหากใครเป็นสาวกคนรักน้องหมี แล้วอยากจะมานั่งกินข้าวกับน้องหมีที่น่ารัก ในบรรยากาศร้านชวนนั่งสบายๆ และอิ่มเอมกับอาหารคาว-หวานเลิศรสหลากหลาย ก็พากันมาที่ร้าน “คาเฟ่บ้านหมี” จะได้สัมผัสกับความอิ่มแสนฟินใจ
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“คาเฟ่บ้านหมี” ตั้งอยู่ที่ 991-991/1 ถนนสวนผัก แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ การเดินทางจากถนนบรมราชชนนี (ปิ่นเกล้า) ให้วิ่งตรงไปเรื่อยๆ จนถึงทางเข้าถนนพุทธมณฑลสาย 2 ให้วิ่งเข้าช่องทางที่ 2 แล้ววนขึ้นสะพาน ลงสะพานมาแล้วกลับรถ ตรงมาประมาณ 200 เมตร จะเห็นทางเข้าถนนสวนผักทางซ้ายมือ ให้เลี้ยวเข้าถนนสวนผักนี้มานิดเดียว ก็จะเห็นร้าน “คาเฟ่บ้านหมี” อยู่ทางขวามือ มีที่จอดรถภายในร้าน เปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 23.00 น. ทางร้านรับจัดงานเลี้ยงด้วย โทร. 0-2072-1314, 08-3979-0099 ยังมีสาขาเดอะคริสตรัล ราชพฤกษ์ โทร. 0-2102-5688 และสาขาพระราม 5 โทร. 09-1732-8263 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/CafeBanmee
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
ด้วยความน่ารักของ “เท็ดดี้แบร์” (Teddy Bear) หรือว่า ตุ๊กตาหมีน้อยขนปุย นุ่มๆ ที่น่ารักน่าเอ็นดู เห็นแล้วก็ชวนอยากจะเข้าไปกอด ไปเล่นให้สุขใจ ซึ่งหากว่าใครเป็นสาวกคนรักน้องหมีที่แสนน่ารัก ขอบอกเลยว่าให้ตาม “ตระเวนกิน” มาได้เลย
เพราะว่ามื้อนี้เราจะขอพาเหล่าคนรักน้องหมี ได้มาอิ่มท้องอย่างสำราญกาย และฟินใจกับเหล่าน้องหมีที่น่ารักมากมายกันที่ร้านอาหารแห่งนี้ ที่มีชื่อว่า “คาเฟ่บ้านหมี” ซึ่งที่นี่เรียกว่าเป็นสวรรค์ของคนรักหมีก็ว่าได้ เพียงแค่เมื่อมาถึงร้านก็จะได้สัมผัสบรรยากาศร้านที่ถูกตกแต่งอย่างมีสไตล์
ภายในร้านไม่ว่าจะมองทางไหนก็จะเห็นเหล่าน้องหมีตัวเล็กตัวใหญ่หลากหลายรูปแบบอยู่ทั่วร้าน ตุ๊กตาหมีล้วนแล้วแต่มีความน่ารักสดใส ทำให้บรรยากาศร้านดูน่ารักอบอุ่น ชวนให้นั่งกินข้าวอย่างมีความสุขสำราญใจ ท่ามกลางเหล่าน้องหมีน่ารักมากมาย แถมยังชวนกอดน้องหมีได้แบบสบายใจ ตุ๊กตาหมีแต่ละตัวดูสะอาดสะอ้าน เพราะว่าทางร้านมีการดูแลทำความสะอาดเหล่าตุ๊กตาหมีอยู่เสมอ
สำหรับโต๊ะนั่งภายในร้านถูกจัดสรรพื้นที่โต๊ะนั่งออกเป็นหลายโซนให้เลือกนั่งตามชอบใจ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นโซนไหน โต๊ะนั่งแต่ละโต๊ะจะมีน้องหมีน่ารักๆ นั่งอยู่ประจำโต๊ะ ให้สาวกคนรักหมีได้นั่งกินข้าวกับน้องหมีอย่างมีความสุข โดยมีโซนโต๊ะนั่งสนามหญ้าเทียม ที่ชวนนั่งรับลมเย็นๆ มีโซนโต๊ะนั่งที่นำตู้คอนเทนเนอร์มาดัดแปลงเป็นห้องแอร์ชวนนั่งเย็นสบาย แล้วก็ยังมีอีกฟากฝั่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กัน ทางร้านจัดสรรโซนโต๊ะนั่งมีทั้งห้องแอร์ขนาดใหญ่ และโซนโต๊ะนั่งด้านนอกรับลมธรรมชาติเย็นใจ ซึ่งตรงโซนนี้จะมีดนตรีสดมาเล่นเพลงขับกล่อมให้ฟังแบบเพลิดเพลินทุกวันศุกร์-วันอาทิตย์ เวลา 19.00 – 21.00 น.
นั่นแค่บรรยากาศที่ทำเอาคนรักหมีฟินใจกันไปแล้ว มาถึงเรื่องอาหารก็ต้องบอกว่ามีดีไม่แพ้บรรยากาศ โดยทางร้านนำเสนออาหารสไตล์ฟิวชั่นแบบนานาชาติ เป็นเมนูที่ทางร้านคิดสร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยสูตรเด็ดเฉพาะ และปรุงแต่งแบบโฮมเมด เน้นคัดสรรแต่วัตถุดิบที่มีคุณภาพ มีความสดใหม่ เพื่อนำมาปรุงเป็นเมนูอาหารจานเด็ดมากหลายให้เลือกอิ่มอร่อยถึง 100 เมนู รวมถึงยังมีเครื่องดื่มและเบเกอรี่โฮมเมดหลากหลายสไตล์ ที่ล้วนแล้วแต่ชวนกินทั้งนั้น
มื้อนี้เราขอแนะนำเมนูเด่นทั้งอาหาร ขนม และเครื่องดื่มมากินแบบอิ่มจัดเต็มกันไปเลย โดยขอเริ่มจากเมนูของคาวกันก่อน จานแรกชวนชิม สปาเก็ตตี้ขี้เมาเบคอน (150 บาท) ทางร้านนำเส้นสปาเก็ตตี้มาผัดกับเครื่องขี้เมาสมุนไพรไทยแบบครบเครื่อง และใส่เบคอนทอดกรอบ ม้วนเส้นสปาเก็ตตี้ส่งเข้าปากเคี้ยวนุ่มละมุนลิ้น ได้รสชาติเครื่องขี้เมาครบรสเผ็ดจัดจ้าน กินเข้ากันดีกับเบคอนทอดหอมๆ เคี้ยวกรอบนุ่มเพลินปาก
เมนูต่อมาลิ้มลอง ข้าวไข่ข้นต้มยำกุ้ง (150 บาท) หน้าตาน่ากิน เป็นข้าวหอมมะลินุ่มๆ แล้วโปะด้วยไข่ข้น ราดด้วยน้ำต้มยำกุ้งเข้มข้น กินแล้วถูกปากไข่ข้นนุ่มเนียนเข้ากับข้าวเม็ดนุ่ม ผสานรสชาติเข้ากันดีกับต้มยำรสกลมกล่อมไม่เผ็ดมาก
ถัดมาชวนชิมเมนู หมูปลาร้า (259 บาท) จัดเสิร์ฟมาแบบครบเซต ประกอบไปด้วยหมูสันคอที่หมักด้วยเครื่องปรุงสูตรเด็ดเฉพาะของทางร้าน แล้วย่างด้วยเตาถ่านหอมๆ มาพร้อมกับน้ำพริกปลาร้าที่ทางร้านตำเอง ลิ้มรสหมูเนื้อนุ่มได้รสชาติเครื่องหมักรสเข้มข้น กินคู่กับน้ำพริกปลาร้ารสเยี่ยม และมีข้าวเหนียวกับผักสดให้กินด้วยกัน เล่นเอาอิ่มท้องไม่ใช่น้อย
ทะเลเกยตื้น (250 บาท) เป็นอีกเมนูของคาวที่ไม่ควรพลาด ทางร้านจัดเสิร์ฟมาแบบหม้อไฟร้อนๆ มีสารพัดซีฟู้ดหลายอย่างทั้งหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ กุ้ง หมึก ปูม้า ปลากะพง แล้วก็มีน้ำราดที่ปรุงแบบน้ำจิ้มซีฟู้ดเข้มข้นราดมาบนซีฟู้ด ด้านล่างรองด้วยกะหล่ำปลี เวลากินจุดไฟร้อนๆ จะได้ลิ้มรสชาติของทะเลต่างๆ ที่ล้วนแล้วแต่มีความสดหวาน ชุ่มน้ำราดรสแซ่บเด็ดถูกปากโดนใจ
กินเมนูของคาวไปแล้ว หันมากินเมนูของหวานกันต่อ นำเสนอ เครปเย็นดับเบิ้ลสตรอเบอร์รี่ (189 บาท) ทางร้านทำแป้งเครปเย็นเองแบบสดใหม่ แล้วก็ใส่วิปครีมที่ตีเองเช่นกัน สอดไส้ด้วยสตรอเบอร์รี่สด ราดด้วยซอสช็อกโกแลต ลิ้มรสแป้งเครปนุ่มนิ่มละมุนลิ้นเข้ากับวิปครีมไม่หวานมาก ฉ่ำปากกับสตรอเบอร์รี่หวานนิดเปรี้ยวหน่อย กินเข้ากันดีกับซอสช็อกโกแลตเข้มข้น
แล้วถ้าใครชอบกินบิงซูแนะนำให้สั่ง บิงซูเซต (259 บาท) จัดเสิร์ฟมาแบบอลังการ ในเซตมีบิงซูถ้วยใหญ่เป็นเกล็ดน้ำแข็งผสมนมที่ทางร้านทำเอง แล้วก็ใส่คอนเฟลก สตรอเบอร์รี่สด ทอปด้วยวิปครีม มาพร้อมเครื่องเคียงสารพัดอย่างให้กินคู่กับบิงซู ไม่ว่าจะเป็นกล้วยหอม แคนตาลูบ แตงโม เมล่อน บราวนี่ โอโจ้ โอริโอ้ มาร์ชเมลโลว์ แล้วก็ยังมีนมข้น ซอสช็อกโกแลต ซอสสตรอเบอร์รี่ มาให้ราดเพิ่มรสชาติ ลิ้มรสบิงซูหวานเย็นชื่นใจกินฟินกันไป
ส่วนเครื่องดื่มที่ชวนดื่มก็มี สตรอเบอร์รี่มิลค์กี้ (120 บาท) เป็นสตรอเบอร์รี่ปั่นผสมกับนมสด ใส่ซอสสตรอเบอร์รี่ และทอปด้วยวิปครีม ดื่มแล้วหอมหวานสตรอเบอร์รี่เข้มข้นชื่นใจดีจริง
เมล่อนปั่น (95 บาท) แก้วนี้ก็ชวนดื่มไม่แพ้กัน ทางร้านใช้เมล่อนสดปั่นผสมกับเมล่อนไซรัป ใส่น้ำแข็งปั่นละเอียด เสิร์ฟมาเย็นๆ ดื่มแล้วชื่นใจหอมหวานกลิ่นเมล่อนดีแท้
แนะนำเมนูคาว-หวาน และเครื่องดื่มมาก็หลายอย่างแล้ว แต่อย่างที่บอกว่าที่ร้านนี้มีอาหารให้เลือกกินมากมาย จึงยังมีเมนูจานเด่นอื่นๆ ที่ชวนลองลิ้มอีกเพียบ อาทิ ตำปลาร้ากุ้งสด (120 บาท) ปลากะพงทอดตะไคร้ (390 บาท) หอยเชลล์อบชีส (220 บาท) พิซซ่าซีฟู้ด (159 บาท) ฯลฯ
เอาเป็นว่าหากใครเป็นสาวกคนรักน้องหมี แล้วอยากจะมานั่งกินข้าวกับน้องหมีที่น่ารัก ในบรรยากาศร้านชวนนั่งสบายๆ และอิ่มเอมกับอาหารคาว-หวานเลิศรสหลากหลาย ก็พากันมาที่ร้าน “คาเฟ่บ้านหมี” จะได้สัมผัสกับความอิ่มแสนฟินใจ
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“คาเฟ่บ้านหมี” ตั้งอยู่ที่ 991-991/1 ถนนสวนผัก แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ การเดินทางจากถนนบรมราชชนนี (ปิ่นเกล้า) ให้วิ่งตรงไปเรื่อยๆ จนถึงทางเข้าถนนพุทธมณฑลสาย 2 ให้วิ่งเข้าช่องทางที่ 2 แล้ววนขึ้นสะพาน ลงสะพานมาแล้วกลับรถ ตรงมาประมาณ 200 เมตร จะเห็นทางเข้าถนนสวนผักทางซ้ายมือ ให้เลี้ยวเข้าถนนสวนผักนี้มานิดเดียว ก็จะเห็นร้าน “คาเฟ่บ้านหมี” อยู่ทางขวามือ มีที่จอดรถภายในร้าน เปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 23.00 น. ทางร้านรับจัดงานเลี้ยงด้วย โทร. 0-2072-1314, 08-3979-0099 ยังมีสาขาเดอะคริสตรัล ราชพฤกษ์ โทร. 0-2102-5688 และสาขาพระราม 5 โทร. 09-1732-8263 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/CafeBanmee
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
