xs
xsm
sm
md
lg

เช็คอินที่เที่ยว “14 จุดสุดประทับใจ เที่ยวในเมืองเพชรบูรณ์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

Facebook :Travel @ Manager
“พระพุทธมหาธรรมราชาเฉลิมพระเกียรติ ฯ” ณ พุทธอุทยานเพชรบุระ
หากให้นึกถึงแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่เป็นอันดับต้นๆ ก็คือ เขาค้อ ภูทับเบิก วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ฯลฯ แต่ถ้าให้นึกถึงที่เที่ยวในตัวอำเภอเมืองเพชรบูรณ์นั้นหลายๆ คนอาจจะนึกไม่ออก ซึ่งอันที่จริงแล้ว ในตัวเมืองเพชรบูรณ์นั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย

“ศูนย์บริการท่องเที่ยวเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์” จึงได้จัดทำเส้นทางท่องเที่ยว “14 จุดสุดประทับใจ เที่ยวในเมืองเพชรบูรณ์” ให้ได้แวะไปเยี่ยมชมกัน ดังนี้

“พุทธอุทยานเพชรบุระ” เป็นที่ประดิษฐาน “พระพุทธมหาธรรมราชาเฉลิมพระเกียรติ ฯ” ซึ่งสร้างจำลองมาจากพระพุทธมหาธรรมราชา พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองเพชรบูรณ์ที่ประดิษฐานอยู่ ณ วัดไตรภูมิ เป็นมหาพุทธานุสรณ์ที่ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างกลายเป็นจุดศูนย์รวมจิตใจของคนเพชรบูรณ์ นอกจากนั้นยังเป็นการสร้างเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเจริญพระชนมายุ 84 พรรษา อีกด้วย นอกจากนี้ บริเวณโดยรอบยังจัดทำเป็นสวนสำหรับพักผ่อน มีศาลากลางน้ำให้นั่งรับลมเย็นๆ
ภายในหอโบราณคดีเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย
จำลองเมืองเพชรบูรณ์ในวันวาน
หนึ่งในประเพณีของชาวเพชรบูรณ์
“หอโบราณคดีเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย” เป็นศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์หลังเก่า แล้วปรับปรุงมาให้เป็นหอโบราณคดีที่จัดแสดงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีของเพชรบูรณ์ มีตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ สมัยสุโขทัย อยุธยา และรัตนโกสินทร์ แล้วก็ยังมีการจัดแสดงด้านวัฒนธรรมและชาติพันธุ์ต่างๆ ที่อยู่ในเพชรบูรณ์ด้วย

อีกห้องที่สำคัญคือ “ห้องครัวเพชรบูรณ์” ที่รวบรวมเมนูท้องถิ่น และเมนูรับแขกบ้านแขกเมืองของชาวเพชรบูรณ์ อาทิ ไก่ย่างวิเชียรบุรี อองปูปิ้ง ขนมเส้นหล่มเก่า เป็นต้น นอกจากนั้น ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของศูนย์บริการการท่องเที่ยวของเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ อีกด้วย
ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง
เสาหลักเมืองเพชรบูรณ์
“ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง” มีลักษณะเป็นศาลาทรงไทยตรีมุข เป็นที่ตั้งเสาหลักเมืองแห่งเดียวในประเทศไทยที่ทำด้วยหิน ซึ่งในการบูรณะศาลหลักเมืองเมื่อปีพ.ศ.2548 ได้พบว่าเสาหลักเมืองนั้นเป็นศิลาจารึกอักษรขอมเขียนเป็นภาษาสันสกฤตเล่าเรื่องเกี่ยวกับศาสนาพราหมณ์ 1 ด้านและศาสนาพุทธ 3 ด้าน ตัวเสาหลักเมืองเป็นแท่งเสาหินทรายสีเทามีลักษณะปลายป้านโค้งมน สันนิฐานว่า น่าจะอัญเชิญมาจากเมืองศรีเทพและมาประดิษฐานที่วัดมหาธาตุก่อน แล้วจึงอัญเชิญมาตั้งเป็นเสาหลักเมืองเมื่อ พ.ศ.2443 จากการลอกลายอักษรและอ่านโดยกรมศิลปากรพบว่าศิลาจารึกนี้ มีอายุตั้งแต่พุทธศตวรรษที่16 จึงนับว่าเป็นเสาหลักเมืองที่ทรงคุณค่าและเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทยอายุนับพันปี ซึ่งชาวเพชรบูรณ์ให้ความศรัทธา เคารพสักการะและเชื่อถือว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มากที่สุด

“หอวัฒนธรรมนครบาลเพชรบูรณ์” เป็นการปรับปรุงศาลาประชาคมจังหวัดเพชรบูรณ์เดิม โดยเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ เป็นอาคารขนาดใหญ่เพื่อเป็นสถานที่รวบรวม จัดแสดง และถ่ายทอดเรื่องราวทางศิลปวัฒนธรรมภูมิปัญญาท้องถิ่นของเพชรบูรณ์ นอกจากนั้นยังเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้และคิดค้นองค์ความรู้ใหม่เพื่อการพัฒนาด้านวัฒนธรรม เพื่อช่วยเสริมสร้างให้ประชาชนเรียนรู้วัฒนธรรมและมีสำนึกรักท้องถิ่นของตนเอง เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกด้วย
ประติมากรรมมะขามหวาน
“ประติมากรรมมะขามหวาน” สร้างขึ้นเพื่อเป็นจุดสัญลักษณ์ "เพชรบูรณ์ เมืองมะขามหวาน” เป็นจุดถ่ายรูปของนักท่องเที่ยวเมื่อได้เดินทางมาถึงเพชรบูรณ์แล้ว ประติมากรรมมะขามหวาน เป็นมะขามพันธุ์หมื่นจง ที่มีลักษณะฝักโค้งและผอม เพราะมะขามหวานหมื่นจงเป็นมะขามหวานพันธุ์แรกที่ปลูกในเพชรบูรณ์ ต้นเก่าแก่ดั้งเดิมอยู่ที่อำเภอหล่มเก่า มะขามหวานที่นิยมปลูกกันมากในจังหวัดเพชรบูรณ์นอกจากพันธุ์หมื่นจงแล้ว ยังมีพันธุ์สีทอง ประกายทอง น้ำผึ้ง ศรีชมพูอินทผลัม ฯลฯ ด้านหลังประติมากรรมยังมีป้ายข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับมะขามหวานให้ผู้ที่สนใจได้อ่านและศึกษาอีกด้วย
หอเกียรติยศเพชรบุระ
รวบรวมบุคคลสำคัญของเมืองเพชรบูรณ์
“หอเกียรติยศเพชรบุระ” เดิมเป็นที่ตั้งของจวนผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ ได้ปรับปรุงเป็นสวนสาธารณะกลางเมือง ชื่อว่า "สวนสาธารณเพชบุระ” ซึ่งเป็นชื่อดั้งเดิมของเพชรบูรณ์ ภายในสวนมีลานเอนกประสงค์ขนาดใหญ่และเวทีสำหรับจัดงานต่างๆ มีลานออกกำลังกาย ศูนย์ออกกำลังกาย ประติมากรรมเมืองอยู่สบาย ส่วนตัวอาคารจวนผู้ว่าฯ เก่า ได้จัดทำเป็นหอประวัติศาสตร์รวบรวมประวัติบุคคลสำคัญ เหตุการณ์สำคัญ ภาพในอดีตของเพชรบูรณ์ห้องสมุดข้อมูลเพชรบูรณ์ เป็นที่จัดแสดงโบราณวัตถุต่าง ๆ ที่ได้ขุดค้นพบในเพชรบูรณ์รวมทั้งของที่ประชาชนทั่วไปได้บริจาคมาร่วมจัดแสดงด้วย
1 ใน 6 อาชีพดั้งเดิมของชาวเพชรบูรณ์ ที่หอภูมิปัญญาและวิถีชาวบ้านเพชรบูรณ์
“หอภูมิปัญญาและวิถีชาวบ้านเพชรบูรณ์” เป็นอาคารสำนักงานการชาดเก่าที่อยู่ในบริเวณสวนสาธารณะเพชบุระ ได้จัดเป็นหอแสดงภูมิปัญญาและวิธีชีวิตคนเพชรบูรณ์แบ่งเป็นเรื่องการทำมาหากินอาชีพดั้งเดิมของคนเพชรบูรณ์ 6 เรื่องด้วยกัน คือ ข้าว ข้าวโพด มะขามหวาน ใบยาสูบ การหาของป่าและวิถีชีวิตริมแม่น้ำป่าสัก พร้อมทั้งเครื่องมือทำมาหากินและเครื่องมือที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
หลวงพ่อเพชรมีชัย วัดมหาธาตุ
“วัดมหาธาตุ พระอารามหลวง” เป็นวัดเก่าแก่ที่สุดคู่บ้านคู่เมืองเพชรบูรณ์ตั้งแต่สมัยสุโขทัย ด้านหลังโบสถ์มีเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ เมื่อพ.ศ.2510 ได้มีการขุดค้นเจดีย์ พบจารึกลานทองในท้องหมูที่ทำจากสำริด จารึกว่า "พระเจ้าเพชบุร” เป็นผู้สร้างเมื่อ พ.ศ.1926 และยังพบพระพุทธรูปสมัยต่างๆ เช่น ทวารวดี ลพบุรี สุโขทัย อู่ทอง และพระเครื่องเนื้อชินพิมพ์ต่าง ๆ มากมาย นอกจากนั้นยังเป็นที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อเพชรมีชัย" ที่ตามพงศวดารระบุว่า พระยาจักรี (รัชกาลที่ 1) ในขณะนั้นได้เคยมานมัสการในขณะเดินทัพมาพักที่เพชรบูรณ์ วัดมหาธาตุจึงเป็นวัดที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่มีความสำคัญต่อเมืองเพชรบูรณ์มาตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน
พระพุทธมหาธรรมราชา ประดิษฐานที่วัดไตรภูมิ
“วัดไตรภูมิ” เป็นวัดที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยา ตั้งอยู่ริมแม่น้ำป่าสัก เป็นวัดสำคัญที่ประดิษฐาน “พระพุทธมหาธรรมราชา” พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของเพชรบูรณ์ เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่อง ปางสมาธิ ศิลปะขอม หน้าตักกว้าง 13นิ้ว สูง 18 นิ้ว ไม่มีฐาน หล่อด้วยทองสำริด ทรงชฎาเทริดดูน่าเกรงขาม เข้มขลัง งดงามมาก โดยพระพุทธรูปองค์นี้ สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 และมีตำนานว่าถูกอัญเชิญขึ้นแพแล้วลอยมาตามน้ำ ก่อนจะเกิดเหตุการณ์แพแตก แล้วจมลงที่เมืองเพชรบูรณ์ จากนั้นจึงถูกอัญเชิญขึ้นมาประดิษฐานไว้บนบก เพื่อให้ชาวบ้านได้สักการะบูชามาจนถึงทุกวันนี้ และเป็นตำนานที่มาของ “ประเพณีอุ้มพระดำน้ำ” ที่สืบทอดต่อกันมาหลายร้อยปีแล้ว
หอนิทรรศน์กำแพงเมืองเพชรบูรณ์
ข้อมูลต่างๆ ในหอนิทรรศการกำแพงเมือง
“กำแพงเมืองและหอนิทรรศน์กำแพงเมืองเพชรบูรณ์” ลักษณะกำแพงก่ออิฐถือปูนที่ประตูเมืองมีหินทรายและศิลาแลงประกอบบางส่วน สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างในสมัยกลางกรุงศรีอยุธยา โดยมีป้อมปราการทั้งหมด 4 ป้อม ส่วนหอนิทรรศน์กำแพงเมือง เป็นพิพิธภัณฑ์แสดงรายละเอียดการสร้างกำแพงเมืองโบราณของเพชรบูรณ์ 2 ยุคสมัยด้วยกัน คือ สมัยสุโขทัยและอยุธยา ภายในหอฯ นอกจากจะมีข้อมูลเกี่ยวกับวัดโบราณและตำนานพื้นบ้านที่ร่วมสมัยกับกำแพงเมืองเพชรบูรณ์แล้ว ยังมีข้อมูลความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับกำแพงเมืองในที่ต่างๆ อีกด้วย ส่วนอาคารด้านนอกจะสร้างโดยใช้ลักษณะแบบป้อมกำแพงเมืองที่มีใบบังและใบเสมาตามหลักฐานทางโบราณคดีซึ่งสามารถเดินรอบและขึ้นไปชั้นบนเพื่อดูวิวทิวทัศน์ อย่างป้อมกำแพงเมืองจริงๆ ได้

“วัดเพชรวราราม พระอารามหลวง” เป็นวัดที่มีความสำคัญยิ่งที่สมเด็จพระสังฆราชฯ เสด็จฯมาเยี่ยมและเผยแพร่ธรรมถึง 3 พระองค์ และเป็นวัดที่มีพระอุโบสถที่งดงามยิ่ง มีสำนักเรียนพระปริยัติธรรม แผนกนักธรรมและแผนกบาลี ภายในวัดมีสวนป่าสวยงาม ร่มรื่น เป็นแหล่งเรียนรู้ทางพฤกษศาสตร์และเหมาะสำหรับการปฏิบัติธรรมและพักผ่อนหย่อนใจเพื่อกล่อมเกลาจิตใจ
วงเวียนอนุสรณ์นครบาลเพชรบูรณ์
“วงเวียนอนุสรณ์นครบาลเพชรบูรณ์” จัดสร้างขึ้นโดยจำลองจากเสาหลักเมืองนครบาลฯ ที่เมื่อพ.ศ. 2486-2487 สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี ได้ออกพระราชกำหนดย้ายเมืองหลวงมาอยู่ที่เพชรบูรณ์โดยใช้ชื่อว่า "นครบาลเพชรบูรณ์” เพราะเห็นว่าเพชรบูรณ์นั้นมีชัยภูมิที่เหมาะสม อากาศดี อยู่ใจกลางประเทศ มีภูเขาล้อมรอบและมีทางเข้าออกเพียงทางเดียว และได้ดำเนินการอพยพราษฎรมาตั้งหลักแหล่งที่เพชรบูรณ์พร้อมกับย้ายที่ทำการรัฐบาลตลอดจนสถานที่ราชการต่างๆ มาตั้งที่เพชรบูรณ์ แต่ไม่ผ่านอนุมัติจึงยกเลิกไป

“หอนาฬิกาแชมป์โลกคู่แฝด เขาค้อ-เขาทราย” เป็นอนุสรณ์แก่แชมป์โลกคู่แฝดชาวเพชรบูรณ์ นั่นคือ เขาค้อ และเขาทราย แกแลคซี่ ซึ่งทั้งสองคนได้สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดเพชรบูรณ์เป็นอย่างมากโด่งดังไปทั้งประเทศในฐานะที่เป็นแชมป์โลกคู่แฝดในเวลาเดียวกัน
หอนาฬิกาแชมป์โลกคู่แฝด เขาค้อ-เขาทราย
“สวนสาธารณะหนองนารี” เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่เป็นแหล่งพันธุ์พืช ประเภทบัวนานาชนิด แหล่งพันธุ์ปลาต่างๆ ตลอดจนนกหลากหลายสายพันธุ์ทั้งนกประจำถิ่นและนกที่อพยพจากถิ่นอื่น เทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ได้ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์ปรับปรุงให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ด้วยการพัฒนาให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ สถานที่ออกกำลังกายสถานที่จัดงานประเพณีและกีฬา รวมทั้งกิจกรรมนันทนาการต่าง ๆ นอกจากนั้น ยังได้จัดทำอุทยานวิทยาศาสตร์เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ในทุก ๆ ด้าน และมีท้องฟ้าจำลองหอดูดาว โรงหนัง 3 มิติ อุทยานบัวสวนพฤกษศาสตร์ ฯลฯ

ผู้ที่สนใจเส้นทาง “14 จุดสุดประทับใจ เที่ยวในเมืองเพชรบูรณ์” สามารถเที่ยวชมได้ด้วยตนเอง นอกจากนี้ยยังมีรถรางให้บริการนำชม ให้บริการเป็นหมู่คณะ วันจันทร์-ศุกร์ สอบถามได้ที่ ศูนย์บริการท่องเที่ยวเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ โทร. 0-5672-1523
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager


กำลังโหลดความคิดเห็น