Facebook :Travel @ Manager

เห็นอากาศประเทศไทยร้อนระอุขึ้นทุกวันขนาดนี้ “ตะลอนเที่ยว” จึงขอจัดกระเป๋าหนีไปเที่ยว “ไต้หวัน” ดีกว่า ซึ่งหากพูดถึงไต้หวันหลายคนคนจะนึกถึง “เมืองไทเป” แต่ครั้งนี้ตะลอนเที่ยวขอพามาเที่ยวทางภาคกลางที่ “เมืองไทจง” กันบ้าง ที่นี่มี “ฟาร์มฝูโซ่วซาน” (Fushoushan Farm) เป็นสถานที่ที่น่าสนใจไม่น้อย

“ฟาร์มฝูโซ่วซาน” (Fushoushan Farm) ตั้งอยู่ระหว่างภูเขาเหอหวน (Hehuanshan) และภูเขาหิมะ (Snowshan) ซึ่งสูงจากพื้นประมาณ 1,800-2,580 เมตร ล้อมรอบไปด้วยภูเขาที่มีความสูงเกิน 3,000 เมตรถึง 36 ลูก ซึ่งหากมองจากมุมสูงจะเห็นฝูโซ่วซานอยู่ตรงกลางดอกบัว ที่มีหุบเขาล้อมรอบคล้ายกับกลีบบัวนั่นเอง
ที่นี่มีวิวทิวทัศน์เป็นเอกลักษณ์สวยงาม อากาศดีเย็นสบายไปถึงหนาวตลอดทั้งปี อย่างในเดือนเมษายนอย่างนี้ที่นี่ยังมีอุณหภูมิในช่วงกลางวันประมาณ 12-15 องศา และมีกลุ่มหมอกลอยเอื่อยๆ ระหว่างหุบเขาให้เห็นกันด้วย เรียกว่าเป็นสถานที่ที่ใกล้ชิดธรรมชาติสุดๆ มีต้นไม้นานาชนิดทั้งซากุระ เมเปิ้ล และไม้เมืองหนาวอีกมากมาย รวมถึงมีสวนผลไม้หลากหลายอย่างและไร่ชาให้ได้เดินชมกันอีกด้วย ที่นี่จึงถูกขนานนามว่า "สวนสวิตเซอร์แลนด์ในไต้หวัน"

ว่าแล้วก็ไม่รอช้าตะลอนเที่ยวขอออกไปชมไฮไลต์ของที่ฟาร์มก่อนเลย นั่นก็คือ “สามราชาผลไม้” ได้แก่
“ต้นราชาแอปเปิล”, “ต้นราชาสาลี่” (ลูกแพร) และ “ต้นราชาพีช” (ลูกท้อ) ที่เรียกว่าเป็นราชานั้นก็เพราะว่าในต้นนั้นมีสายพันธุ์มากกว่า 40 ชนิดจากหลากหลายสถานที่ในต้นเดียว

อย่างเช่น ต้นราชาแอปเปิลจะมีผลแอปเปิลในแต่ละกิ่งก้านที่แตกต่างสายพันธุ์ถึง 43 ชนิด ซึ่งที่ฟาร์มนี้ได้มีการพัฒนาขยายสายพันธุ์โดยการต่อกิ่ง มีการผสมข้ามสายพันธุ์ แอปเปิลบางลูกยังหนักถึง 0.6 กิโลกรัมเลยด้วย และมีรสชาติหวานกรอบได้กินแล้วประทับใจแน่นอน

ออกเดินเท้าในบรรยากาศเย็นสบายๆ ต่อมาจะพบกับ “เส้นทางเดินท่องเที่ยวทะเลสาบหยวนหยาง” ซึ่งตลอดเส้นทางจะรายล้อมไปด้วยต้นเมเปิ้ลมากมาย และยังมีทะเลสาบหยวนหยาง (Yuanyang Lake) ที่เป็นแอ่งน้ำสีเขียวไหลลงมาจากภูเขาให้ความรู้สึกเย็นสบาย มองดูตัดกับสีของใบเมเปิ้ลสวยงามสะกดสายตา

เดินตามเส้นทางไปเพลินๆ จะมาพบกับ “สวนอนุสรณ์สถานฮวาไท่” หรือ “สวนอนุสรณ์สถานการแลกเปลี่ยนด้านการเกษตรไทย-กลุ่มคนเชื้อสายจีน” ที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกับประเทศไทยอย่างมาก ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2558 หลังจากที่คุณซง ชิง ยวิน รองผู้จัดการฟาร์ม ได้เดินทางไปยังประเทศไทยเมื่อหลายปีก่อนเพื่อทำการสำรวจเกี่ยวกับด้านการเกษตร ซี่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ ๙) ทรงให้คำปรึกษาและได้ทรงพัฒนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศจีนให้แนบชิดยิ่งขึ้นอีกด้วย

ยืนชื่นชมกับความภาคภูมิใจที่อนุสรณ์นี้แล้ว “ตะลอนเที่ยว” ก็ขอออกเดินตะลอนในฟาร์มต่อ ซึ่งจะเริ่มเข้าสู่ “เส้นทางเยี่ยมชมสวนผลไม้” โดยตลอดเส้นทางจะแบ่งเป็นพื้นที่สวนออกเป็นสวนแอปเปิล สวนสาลี่ สวนลูกพีช เป็นต้น ซึ่งหากใครมาช่วงนี้อาจจะยังไม่ได้เห็นตัวผลของแต่ละต้น แต่จะได้บรรยากาศของความสดใสของดอกของต้นแอปเปิล ต้นสาลี่ และต้นพีชแทน สวยงามไม่แพ้ใคร ส่วนใครที่อยากชมชิมผลต้องมาช่วงเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไปแทน


เดินไปอีกระยะจะได้พบกับ “ต้นซากุระ” ที่ ณ ตอนนี้ (เดือนเมษายน) ยังมีให้ได้เห็นอยู่ เพราะว่าเป็นซากุระที่ขึ้นบนภูเขาสูงและมีอากาศเย็น ที่ประทับใจไปกว่านั้นคือได้เห็น “ซากุระสีเหลือง” ซึ่งหาชมได้ยากแล้ว โดยตัวดอกจะสีเหลืองนวล ชวนมองไม่แพ้ซากุระสีชมพูเลย ใครอยากดูต้องรีบมาแล้ว เดี๋ยวอีกไม่นานดอกอาจจะโรยไปเสียก่อนได้

หลังจากเดินเที่ยวชมภายในฟาร์มตามจุดที่น่าสนใจเรียบร้อยแล้ว “ตะลอนเที่ยว” ก็ขอนั่งรถไปชม “สวนชาอู่หลง” ของที่นี่ ซึ่งได้ชื่อว่ามีความหอมอร่อยไม่แพ้ที่ใด เพราะว่าปลูกอยู่บนที่สูงประมาณ 2,300-2,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล จึงทำให้มีอากาศบริสุทธิ์ ดินอุดมสมบูรณ์ แสงแดดเพียงพอ ทำให้มีแร่ธาตุต่างๆ ครบถ้วน แต่เนื่องจากอากาศค่อนข้างหนาวเย็น จึงมีพัดลม (คล้ายกังหัน) คอยทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้ใบชาเกาะเป็นน้ำแข็ง โดยจะเริ่มทำงานอัตโนมัติเมื่ออุณหภูมิต่ำกว่า 6 องศาเซลเซียส

ต่อจากนั้นก็นั่งรถขึ้นมายังจุดสูงสุดของที่นี่กันบ้าง ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเล 2,614 เมตร ไฮไลต์ของด้านบนที่นอกจากวิวยอดภูเขาและหมอกลอยเอื่อยๆ แล้ว ก็คือ “สระแห่งฟ้า” (Tianchi Pond หรือ Heaven Pond) ที่คนที่นี่เขามีความเชื่อว่าเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ หากเดินวนซ้าย 3 รอบ และวนขวา 3 รอบ จะเหมือนเป็นการเพิ่มพลังชีวิตให้กับเรา ส่วนด้านหน้าของสระแห่งฟ้าจะเป็นจุดชมวิวที่เรียกว่าสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นได้สวยไม่แพ้ที่อื่นเลยก็ว่าได้

ส่วนด้านหลังสระแห่งฟ้าจะเป็น “ศาลากวานกวัง” (Daguan Pavilion) ที่ในอดีตเคยเป็นบ้านพักในช่วงฤดูร้อนของประธานาธิบดีเจียง ไคเชก และภรรยาซ่ง เหม่ยหลิง ส่วนในฤดูอื่นจะไม่มาพักที่นี่เพราะว่าจะมีอากาศหนาวเย็นมากๆ สำหรับตัวอาคารมีลักษณะเป็นอาคาร 2 ชั้น มีห้องนอน ห้องสมุด ห้องที่ใช้สำหรับการประชุมงาน ส่วนบนชั้น 2 นั้นจะมีระเบียงที่ไว้ชมวิวทิวทัศน์ของสระแห่งฟ้าและวิวภูเขาด้านหน้า

ชมวิวจนเหนื่อยแล้วที่นี่ก็มีห้องพักไว้คอยบริการด้วย มีทั้งเป็นแบบบ้านพักในตัวฟาร์ม หรืออยากจะพักแบบกระท่อมสไตล์ยุโรปและตั้งแคมป์ที่ด้านล่างเขาก็ได้ และยังมีห้องอาหารจีนให้ลองลิ้มชิมรสชาติกันอีกด้วย เรียกว่าเป็นสถานที่เที่ยวพักผ่อนบรรยากาศดี ใกล้ชิดชิดธรรมชาติ ที่ครบวงจรเลยก็ว่าได้

ดูรายละเอียดการเดินทางเพิ่มเติมได้ที่ http://www.fushoushan.com.tw/th/location/index.php
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
เห็นอากาศประเทศไทยร้อนระอุขึ้นทุกวันขนาดนี้ “ตะลอนเที่ยว” จึงขอจัดกระเป๋าหนีไปเที่ยว “ไต้หวัน” ดีกว่า ซึ่งหากพูดถึงไต้หวันหลายคนคนจะนึกถึง “เมืองไทเป” แต่ครั้งนี้ตะลอนเที่ยวขอพามาเที่ยวทางภาคกลางที่ “เมืองไทจง” กันบ้าง ที่นี่มี “ฟาร์มฝูโซ่วซาน” (Fushoushan Farm) เป็นสถานที่ที่น่าสนใจไม่น้อย
“ฟาร์มฝูโซ่วซาน” (Fushoushan Farm) ตั้งอยู่ระหว่างภูเขาเหอหวน (Hehuanshan) และภูเขาหิมะ (Snowshan) ซึ่งสูงจากพื้นประมาณ 1,800-2,580 เมตร ล้อมรอบไปด้วยภูเขาที่มีความสูงเกิน 3,000 เมตรถึง 36 ลูก ซึ่งหากมองจากมุมสูงจะเห็นฝูโซ่วซานอยู่ตรงกลางดอกบัว ที่มีหุบเขาล้อมรอบคล้ายกับกลีบบัวนั่นเอง
ที่นี่มีวิวทิวทัศน์เป็นเอกลักษณ์สวยงาม อากาศดีเย็นสบายไปถึงหนาวตลอดทั้งปี อย่างในเดือนเมษายนอย่างนี้ที่นี่ยังมีอุณหภูมิในช่วงกลางวันประมาณ 12-15 องศา และมีกลุ่มหมอกลอยเอื่อยๆ ระหว่างหุบเขาให้เห็นกันด้วย เรียกว่าเป็นสถานที่ที่ใกล้ชิดธรรมชาติสุดๆ มีต้นไม้นานาชนิดทั้งซากุระ เมเปิ้ล และไม้เมืองหนาวอีกมากมาย รวมถึงมีสวนผลไม้หลากหลายอย่างและไร่ชาให้ได้เดินชมกันอีกด้วย ที่นี่จึงถูกขนานนามว่า "สวนสวิตเซอร์แลนด์ในไต้หวัน"
ว่าแล้วก็ไม่รอช้าตะลอนเที่ยวขอออกไปชมไฮไลต์ของที่ฟาร์มก่อนเลย นั่นก็คือ “สามราชาผลไม้” ได้แก่
“ต้นราชาแอปเปิล”, “ต้นราชาสาลี่” (ลูกแพร) และ “ต้นราชาพีช” (ลูกท้อ) ที่เรียกว่าเป็นราชานั้นก็เพราะว่าในต้นนั้นมีสายพันธุ์มากกว่า 40 ชนิดจากหลากหลายสถานที่ในต้นเดียว
อย่างเช่น ต้นราชาแอปเปิลจะมีผลแอปเปิลในแต่ละกิ่งก้านที่แตกต่างสายพันธุ์ถึง 43 ชนิด ซึ่งที่ฟาร์มนี้ได้มีการพัฒนาขยายสายพันธุ์โดยการต่อกิ่ง มีการผสมข้ามสายพันธุ์ แอปเปิลบางลูกยังหนักถึง 0.6 กิโลกรัมเลยด้วย และมีรสชาติหวานกรอบได้กินแล้วประทับใจแน่นอน
ออกเดินเท้าในบรรยากาศเย็นสบายๆ ต่อมาจะพบกับ “เส้นทางเดินท่องเที่ยวทะเลสาบหยวนหยาง” ซึ่งตลอดเส้นทางจะรายล้อมไปด้วยต้นเมเปิ้ลมากมาย และยังมีทะเลสาบหยวนหยาง (Yuanyang Lake) ที่เป็นแอ่งน้ำสีเขียวไหลลงมาจากภูเขาให้ความรู้สึกเย็นสบาย มองดูตัดกับสีของใบเมเปิ้ลสวยงามสะกดสายตา
เดินตามเส้นทางไปเพลินๆ จะมาพบกับ “สวนอนุสรณ์สถานฮวาไท่” หรือ “สวนอนุสรณ์สถานการแลกเปลี่ยนด้านการเกษตรไทย-กลุ่มคนเชื้อสายจีน” ที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกับประเทศไทยอย่างมาก ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2558 หลังจากที่คุณซง ชิง ยวิน รองผู้จัดการฟาร์ม ได้เดินทางไปยังประเทศไทยเมื่อหลายปีก่อนเพื่อทำการสำรวจเกี่ยวกับด้านการเกษตร ซี่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ ๙) ทรงให้คำปรึกษาและได้ทรงพัฒนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศจีนให้แนบชิดยิ่งขึ้นอีกด้วย
ยืนชื่นชมกับความภาคภูมิใจที่อนุสรณ์นี้แล้ว “ตะลอนเที่ยว” ก็ขอออกเดินตะลอนในฟาร์มต่อ ซึ่งจะเริ่มเข้าสู่ “เส้นทางเยี่ยมชมสวนผลไม้” โดยตลอดเส้นทางจะแบ่งเป็นพื้นที่สวนออกเป็นสวนแอปเปิล สวนสาลี่ สวนลูกพีช เป็นต้น ซึ่งหากใครมาช่วงนี้อาจจะยังไม่ได้เห็นตัวผลของแต่ละต้น แต่จะได้บรรยากาศของความสดใสของดอกของต้นแอปเปิล ต้นสาลี่ และต้นพีชแทน สวยงามไม่แพ้ใคร ส่วนใครที่อยากชมชิมผลต้องมาช่วงเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไปแทน
เดินไปอีกระยะจะได้พบกับ “ต้นซากุระ” ที่ ณ ตอนนี้ (เดือนเมษายน) ยังมีให้ได้เห็นอยู่ เพราะว่าเป็นซากุระที่ขึ้นบนภูเขาสูงและมีอากาศเย็น ที่ประทับใจไปกว่านั้นคือได้เห็น “ซากุระสีเหลือง” ซึ่งหาชมได้ยากแล้ว โดยตัวดอกจะสีเหลืองนวล ชวนมองไม่แพ้ซากุระสีชมพูเลย ใครอยากดูต้องรีบมาแล้ว เดี๋ยวอีกไม่นานดอกอาจจะโรยไปเสียก่อนได้
หลังจากเดินเที่ยวชมภายในฟาร์มตามจุดที่น่าสนใจเรียบร้อยแล้ว “ตะลอนเที่ยว” ก็ขอนั่งรถไปชม “สวนชาอู่หลง” ของที่นี่ ซึ่งได้ชื่อว่ามีความหอมอร่อยไม่แพ้ที่ใด เพราะว่าปลูกอยู่บนที่สูงประมาณ 2,300-2,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล จึงทำให้มีอากาศบริสุทธิ์ ดินอุดมสมบูรณ์ แสงแดดเพียงพอ ทำให้มีแร่ธาตุต่างๆ ครบถ้วน แต่เนื่องจากอากาศค่อนข้างหนาวเย็น จึงมีพัดลม (คล้ายกังหัน) คอยทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้ใบชาเกาะเป็นน้ำแข็ง โดยจะเริ่มทำงานอัตโนมัติเมื่ออุณหภูมิต่ำกว่า 6 องศาเซลเซียส
ต่อจากนั้นก็นั่งรถขึ้นมายังจุดสูงสุดของที่นี่กันบ้าง ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเล 2,614 เมตร ไฮไลต์ของด้านบนที่นอกจากวิวยอดภูเขาและหมอกลอยเอื่อยๆ แล้ว ก็คือ “สระแห่งฟ้า” (Tianchi Pond หรือ Heaven Pond) ที่คนที่นี่เขามีความเชื่อว่าเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ หากเดินวนซ้าย 3 รอบ และวนขวา 3 รอบ จะเหมือนเป็นการเพิ่มพลังชีวิตให้กับเรา ส่วนด้านหน้าของสระแห่งฟ้าจะเป็นจุดชมวิวที่เรียกว่าสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นได้สวยไม่แพ้ที่อื่นเลยก็ว่าได้
ส่วนด้านหลังสระแห่งฟ้าจะเป็น “ศาลากวานกวัง” (Daguan Pavilion) ที่ในอดีตเคยเป็นบ้านพักในช่วงฤดูร้อนของประธานาธิบดีเจียง ไคเชก และภรรยาซ่ง เหม่ยหลิง ส่วนในฤดูอื่นจะไม่มาพักที่นี่เพราะว่าจะมีอากาศหนาวเย็นมากๆ สำหรับตัวอาคารมีลักษณะเป็นอาคาร 2 ชั้น มีห้องนอน ห้องสมุด ห้องที่ใช้สำหรับการประชุมงาน ส่วนบนชั้น 2 นั้นจะมีระเบียงที่ไว้ชมวิวทิวทัศน์ของสระแห่งฟ้าและวิวภูเขาด้านหน้า
ชมวิวจนเหนื่อยแล้วที่นี่ก็มีห้องพักไว้คอยบริการด้วย มีทั้งเป็นแบบบ้านพักในตัวฟาร์ม หรืออยากจะพักแบบกระท่อมสไตล์ยุโรปและตั้งแคมป์ที่ด้านล่างเขาก็ได้ และยังมีห้องอาหารจีนให้ลองลิ้มชิมรสชาติกันอีกด้วย เรียกว่าเป็นสถานที่เที่ยวพักผ่อนบรรยากาศดี ใกล้ชิดชิดธรรมชาติ ที่ครบวงจรเลยก็ว่าได้
ดูรายละเอียดการเดินทางเพิ่มเติมได้ที่ http://www.fushoushan.com.tw/th/location/index.php
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager