Facebook :Travel @ Manager

“อาหารอิตาเลียน” เป็นอีกหนึ่งอาหารต่างชาติที่ “ตระเวนกิน” ชื่นชอบ ซึ่งการจะหาอาหารอิตาเลียนกินสักร้านในกรุงเทพฯ นั้นเป็นเรื่องที่ง่ายมาก เพราะว่ามีร้านอาหารอิตาเลียนหลายร้านให้เลือกไปกินหลากหลายสถานที่ แต่ว่าเราก็ต้องขอเลือกสรรร้านอาหารที่นำเสนออาหารอิตาเลียนแท้ๆ ที่มีคุณภาพแบบพรีเมียม และถูกปากโดนใจกันสักหน่อย

หลังจากที่เสาะหาอยู่ไม่นานและมีเพื่อนพ้องที่ชื่นชอบกินอาหารอิตาเลียนแนะนำมา ในที่สุดมื้อนี้เราก็ได้มาลิ้มรสอาหารอิตาเลียนรสดี แบบพรีเมียมกันที่ร้านนี้ “Lenzi Tuscan Kitchen” ตั้งอยู่ในซอยร่วมฤดี 2 ที่เราเลือกมาสัมผัสกับอาหารอิตาเลียนของที่ร้านนี้ก็เพราะว่า ที่นี่นำเสนออาหารอิตาเลียนขนานแท้ เพราะว่ามีเจ้าของร้านเป็นชาวอิตาเลียน พร้อมกับเป็นเชฟที่มากฝีมือด้วย นามว่า Francesco Lenzi

เชฟ Francesco เป็นชาวอิตาเลียนที่มาจากแคว้น Tuscany ประเทศอิตาลี ทำให้อาหารอิตาเลียนที่เชฟสร้างสรรค์ขึ้นมาเป็นอาหารอิตาเลียนสไตล์ทัสคานี แล้วก็เป็นแบบโฮมเมด ที่พิถีพิถันในเรื่องของการคัดสรรวัตถุดิบเป็นอย่างมาก เชฟเลือกสรรแต่วัตถุดิบพรีเมียม ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ และมีความสดใหม่ สั่งตรงมาจากอิตาลีโดยเฉพาะ เพื่อนำมาสร้างสรรค์เป็นเมนูอิตาเลียนที่ล้วนแล้วแต่ชวนชิมมากมาย

แล้วในส่วนของบรรยากาศร้านที่นี่ก็ตกแต่งอย่างสวยงาม ดูดีมีสไตล์ แฝงไว้ด้วยความอบอุ่นชวนนั่งแบบสบายๆ ซึ่งภายในร้านมี 2 ชั้น มีโต๊ะให้เลือกนั่งหลากหลายโซน มีครัวเปิดโชว์ให้เห็นถึงการปรุงอาหารของเชฟ มีเคาน์เตอร์บาร์ให้เลือกนั่งพร้อมกับบริการเครื่องดื่มหลากหลาย และมีห้องไวน์ที่นำเสนอไวน์ชั้นดีจากอิตาลีให้เหล่านักดื่มไวน์ได้เลือกสั่งมาดื่มควบคู่กับอาหารชั้นเลิศ

สำหรับเมนูอาหารจานเด็ดที่เราได้ลองลิ้มจนติดใจปาก จนต้องขอแนะนำให้คออาหารอิตาเลียนสั่งมาชิมให้ได้ก็มี Tagliere Del Lenzi (Cold Cut) (ไซส์ S 520 บาท++ ไซส์ M 890 บาท++ ไซส์ L 1,600 บาท++) เป็นเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน ที่ประกอบไปด้วยแฮมหลายชนิดที่นำเข้าจากฟาร์มของทางร้านเองที่อิตาลี มี Biroldo หรือ ที่เรียกกันว่า Blood Pudding Ham ส่วนประกอบคือส่วนต่างๆ ของหมู นำมาทำให้สุกโดยเติมเลือดเข้าไปในตอนท้าย Soppressata ส่วนต่างๆของหมูเช่นกันบดผสมกับเครื่องเทศที่เป็นสูตรลับของทางฟาร์ม อีกตัวที่อร่อยไม่แพ้กันคือ MortadellaTartufo เป็นแฮมที่มีส่วนผสมของชิ้นเห็ดทรัฟเฟิลที่ขึ้นชื่อว่าเป็นส่วนประกอบที่มีความพิเศษมากเพราะหาได้ยากและมีราคาแพงมาก ชิ้นแฮมมีความหอมมากแค่นำเข้าปากเคี้ยวคำแรกก็ได้กลิ่นของทรัฟเฟิลขึ้นจมูก และยังมีแฮมชนิดอื่นๆ อีก คือ Salame, Lonza Dolce, Lardo นอกจากนี้ยังเสิร์ฟมาพร้อมชีส 3 ชนิดที่นำเข้าจากอิตาลีเช่นกัน มีชีสนมแกะ 2 ชนิด และ นมวัว 1 ชนิด ซึ่งทั้งแกะและวัวที่นำมาทำเป็นชีสนั้นได้รับการเลี้ยงแบบเปิดตามธรรมชาติ ทำให้ได้รสชาติของชีสที่ละมุนละไมกินเข้ากันดีกับแฮมต่างๆ

จานต่อมาชวนลิ้มรส Aspargi Bianchi, Fonduta Di Taleggio E Parmigiano (780 บาท++) เป็นเมนูพิเศษ โดยเชฟได้นำเอาหน่อไม้ฝรั่งขาวที่นำเข้าจากฝรั่งเศส ซึ่งเป็นผักตามฤดูกาลไม่ได้มีให้กินตลอดทั้งปี แต่จะเริ่มมีให้กินตั้งแต่เดือนมี.ค. ไปจนถึงเดือนพ.ค. เท่านั้น หน่อไม้ฝรั่งสีขาวเกรดพรีเมียมคัดสรรมาอย่างดี เชฟจะนำไปนึ่งในเวลาที่พอเหมาะ และเสิร์ฟกับซายอนซอสที่ทำจากพาเมซานชีส และชีสทาเลจจิโอ ที่เสิร์ฟมาในแบบของฟองดู หั่นชิ้นหน่อไม้ฝรั่งก้านอวบส่งเข้าปากเคี้ยวกรอบนุ่ม รสชาติละมุนเข้ากับซอสรสดีได้รสชาติชีสที่กลมกล่อมลงตัวเข้ากันแบบโดนใจปากมาก

ถัดมาลิ้มลองเมนูพาสต้าจานเด็ด Rigatoni Con Pomodorini & Burrata (450 บาท++) เป็นริกาโตนีพาสต้าผัดกับซอสมะเขือเทศสูตรพิเศษ และมีชีสนมควายนำเข้าจากอิตาลีโปะมาด้านบนให้กินคู่กัน ลิ้มรสพาสต้าอร่อยลิ้นฉ่ำซอสมะเขือเทศรสเข้มข้นถูกปาก กินเข้ากับชีสนมควายแบบลงตัว

แล้วมากินเมนูจานเด่นที่มีเฉพาะฤดูกาลนี้ Scampi Gratinatie E Caponata (2,800 บาท++) หน้าตาชวนกินมาก เป็นกุ้งแลงกวิสตินที่สั่งนำเข้ามาเป็นพิเศษจากอิตาลี แล้วนำมาย่างกับเตาถ่านแบบดั้งเดิมสไตล์อิตาลี เสิร์ฟมาแบบร้อนๆ ราดด้วยเลมอนและน้ำมันมะกอก กุ้งย่างส่งกลิ่นหอมๆ เนื้อกุ้งนุ่มเด้งสดหวานถูกลิ้น กินแล้วฟินปาก

กินของคาวแล้วก็ต้องกินของหวานล้างปากกันด้วย นำเสนอของหวานเมนูเด็ดของที่นี่ Tiramisu (230 บาท++) ที่เชฟทำตามสไตล์สูตรดั้งเดิมจากอิตาลี เป็นทีรามิสุที่กินแล้วช่างฟินใจ หอมกลิ่นกาแฟอ่อนๆ รสชาติละมุนละไมนุ่มเนียนลิ้น

นอกจากเมนูจานเด็ดต่างๆ ที่กล่าวมาแล้ว เชฟยังมีเมนูอิตาเลียนจานเด่นอื่นๆ ที่ชวนให้ลองลิ้มกันอีก อาทิ Pan-Seard Giant Hokkaido Scallops (580 บาท++) Rigatoni Pasta with Tuscan Sausage & Truffle from San Miniato (550 บาท++) Pan-Seared Angus Australian Lamb Loin topped with Pan Fried French Foie Gras (1,390 บาท++) Roasted SardanianSeabass (1 Fillet 820 บาท++ และ 2 Fillets 1,400 บาท++) และอีกสารพัดอาหารอิตาเลียนเลิศรส ซึ่งถ้าหากใครเป็นคออาหารอิตาเลียนตัวยง ขอชวนให้มากันที่ร้าน “Lenzi Tuscan Kitchen” จะได้อิ่มเอมกับอาหารอิตาเลียนขนานแท้ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรสชาติยอดเยี่ยม
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ร้าน “Lenzi Tuscan Kitchen” ตั้งอยู่ที่ 69/1-2 ซอยร่วมฤดี 2 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เปิดทุกวัน เวลา 11.45 - 13.45 น. และ 18.00 - 22.45 น. ถ้ามากินอาหารแนะนำว่าควรโทร. มาจองโต๊ะก่อน โทร. 0-2001-0116 , 09-5251-5040 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.lenzibangkok.com , www.facebook.com/lenzikitchen และหากมากินอาหารที่ร้าน Lenzi แล้วจ่ายด้วยบัตรเครดิต KTC รับฟรี Tiramisu 1 ที่ / 1 โต๊ะ ตั้งแต่วันนี้ - 15 ก.ย. 2561
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
“อาหารอิตาเลียน” เป็นอีกหนึ่งอาหารต่างชาติที่ “ตระเวนกิน” ชื่นชอบ ซึ่งการจะหาอาหารอิตาเลียนกินสักร้านในกรุงเทพฯ นั้นเป็นเรื่องที่ง่ายมาก เพราะว่ามีร้านอาหารอิตาเลียนหลายร้านให้เลือกไปกินหลากหลายสถานที่ แต่ว่าเราก็ต้องขอเลือกสรรร้านอาหารที่นำเสนออาหารอิตาเลียนแท้ๆ ที่มีคุณภาพแบบพรีเมียม และถูกปากโดนใจกันสักหน่อย
หลังจากที่เสาะหาอยู่ไม่นานและมีเพื่อนพ้องที่ชื่นชอบกินอาหารอิตาเลียนแนะนำมา ในที่สุดมื้อนี้เราก็ได้มาลิ้มรสอาหารอิตาเลียนรสดี แบบพรีเมียมกันที่ร้านนี้ “Lenzi Tuscan Kitchen” ตั้งอยู่ในซอยร่วมฤดี 2 ที่เราเลือกมาสัมผัสกับอาหารอิตาเลียนของที่ร้านนี้ก็เพราะว่า ที่นี่นำเสนออาหารอิตาเลียนขนานแท้ เพราะว่ามีเจ้าของร้านเป็นชาวอิตาเลียน พร้อมกับเป็นเชฟที่มากฝีมือด้วย นามว่า Francesco Lenzi
เชฟ Francesco เป็นชาวอิตาเลียนที่มาจากแคว้น Tuscany ประเทศอิตาลี ทำให้อาหารอิตาเลียนที่เชฟสร้างสรรค์ขึ้นมาเป็นอาหารอิตาเลียนสไตล์ทัสคานี แล้วก็เป็นแบบโฮมเมด ที่พิถีพิถันในเรื่องของการคัดสรรวัตถุดิบเป็นอย่างมาก เชฟเลือกสรรแต่วัตถุดิบพรีเมียม ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ และมีความสดใหม่ สั่งตรงมาจากอิตาลีโดยเฉพาะ เพื่อนำมาสร้างสรรค์เป็นเมนูอิตาเลียนที่ล้วนแล้วแต่ชวนชิมมากมาย
แล้วในส่วนของบรรยากาศร้านที่นี่ก็ตกแต่งอย่างสวยงาม ดูดีมีสไตล์ แฝงไว้ด้วยความอบอุ่นชวนนั่งแบบสบายๆ ซึ่งภายในร้านมี 2 ชั้น มีโต๊ะให้เลือกนั่งหลากหลายโซน มีครัวเปิดโชว์ให้เห็นถึงการปรุงอาหารของเชฟ มีเคาน์เตอร์บาร์ให้เลือกนั่งพร้อมกับบริการเครื่องดื่มหลากหลาย และมีห้องไวน์ที่นำเสนอไวน์ชั้นดีจากอิตาลีให้เหล่านักดื่มไวน์ได้เลือกสั่งมาดื่มควบคู่กับอาหารชั้นเลิศ
สำหรับเมนูอาหารจานเด็ดที่เราได้ลองลิ้มจนติดใจปาก จนต้องขอแนะนำให้คออาหารอิตาเลียนสั่งมาชิมให้ได้ก็มี Tagliere Del Lenzi (Cold Cut) (ไซส์ S 520 บาท++ ไซส์ M 890 บาท++ ไซส์ L 1,600 บาท++) เป็นเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน ที่ประกอบไปด้วยแฮมหลายชนิดที่นำเข้าจากฟาร์มของทางร้านเองที่อิตาลี มี Biroldo หรือ ที่เรียกกันว่า Blood Pudding Ham ส่วนประกอบคือส่วนต่างๆ ของหมู นำมาทำให้สุกโดยเติมเลือดเข้าไปในตอนท้าย Soppressata ส่วนต่างๆของหมูเช่นกันบดผสมกับเครื่องเทศที่เป็นสูตรลับของทางฟาร์ม อีกตัวที่อร่อยไม่แพ้กันคือ MortadellaTartufo เป็นแฮมที่มีส่วนผสมของชิ้นเห็ดทรัฟเฟิลที่ขึ้นชื่อว่าเป็นส่วนประกอบที่มีความพิเศษมากเพราะหาได้ยากและมีราคาแพงมาก ชิ้นแฮมมีความหอมมากแค่นำเข้าปากเคี้ยวคำแรกก็ได้กลิ่นของทรัฟเฟิลขึ้นจมูก และยังมีแฮมชนิดอื่นๆ อีก คือ Salame, Lonza Dolce, Lardo นอกจากนี้ยังเสิร์ฟมาพร้อมชีส 3 ชนิดที่นำเข้าจากอิตาลีเช่นกัน มีชีสนมแกะ 2 ชนิด และ นมวัว 1 ชนิด ซึ่งทั้งแกะและวัวที่นำมาทำเป็นชีสนั้นได้รับการเลี้ยงแบบเปิดตามธรรมชาติ ทำให้ได้รสชาติของชีสที่ละมุนละไมกินเข้ากันดีกับแฮมต่างๆ
จานต่อมาชวนลิ้มรส Aspargi Bianchi, Fonduta Di Taleggio E Parmigiano (780 บาท++) เป็นเมนูพิเศษ โดยเชฟได้นำเอาหน่อไม้ฝรั่งขาวที่นำเข้าจากฝรั่งเศส ซึ่งเป็นผักตามฤดูกาลไม่ได้มีให้กินตลอดทั้งปี แต่จะเริ่มมีให้กินตั้งแต่เดือนมี.ค. ไปจนถึงเดือนพ.ค. เท่านั้น หน่อไม้ฝรั่งสีขาวเกรดพรีเมียมคัดสรรมาอย่างดี เชฟจะนำไปนึ่งในเวลาที่พอเหมาะ และเสิร์ฟกับซายอนซอสที่ทำจากพาเมซานชีส และชีสทาเลจจิโอ ที่เสิร์ฟมาในแบบของฟองดู หั่นชิ้นหน่อไม้ฝรั่งก้านอวบส่งเข้าปากเคี้ยวกรอบนุ่ม รสชาติละมุนเข้ากับซอสรสดีได้รสชาติชีสที่กลมกล่อมลงตัวเข้ากันแบบโดนใจปากมาก
ถัดมาลิ้มลองเมนูพาสต้าจานเด็ด Rigatoni Con Pomodorini & Burrata (450 บาท++) เป็นริกาโตนีพาสต้าผัดกับซอสมะเขือเทศสูตรพิเศษ และมีชีสนมควายนำเข้าจากอิตาลีโปะมาด้านบนให้กินคู่กัน ลิ้มรสพาสต้าอร่อยลิ้นฉ่ำซอสมะเขือเทศรสเข้มข้นถูกปาก กินเข้ากับชีสนมควายแบบลงตัว
แล้วมากินเมนูจานเด่นที่มีเฉพาะฤดูกาลนี้ Scampi Gratinatie E Caponata (2,800 บาท++) หน้าตาชวนกินมาก เป็นกุ้งแลงกวิสตินที่สั่งนำเข้ามาเป็นพิเศษจากอิตาลี แล้วนำมาย่างกับเตาถ่านแบบดั้งเดิมสไตล์อิตาลี เสิร์ฟมาแบบร้อนๆ ราดด้วยเลมอนและน้ำมันมะกอก กุ้งย่างส่งกลิ่นหอมๆ เนื้อกุ้งนุ่มเด้งสดหวานถูกลิ้น กินแล้วฟินปาก
กินของคาวแล้วก็ต้องกินของหวานล้างปากกันด้วย นำเสนอของหวานเมนูเด็ดของที่นี่ Tiramisu (230 บาท++) ที่เชฟทำตามสไตล์สูตรดั้งเดิมจากอิตาลี เป็นทีรามิสุที่กินแล้วช่างฟินใจ หอมกลิ่นกาแฟอ่อนๆ รสชาติละมุนละไมนุ่มเนียนลิ้น
นอกจากเมนูจานเด็ดต่างๆ ที่กล่าวมาแล้ว เชฟยังมีเมนูอิตาเลียนจานเด่นอื่นๆ ที่ชวนให้ลองลิ้มกันอีก อาทิ Pan-Seard Giant Hokkaido Scallops (580 บาท++) Rigatoni Pasta with Tuscan Sausage & Truffle from San Miniato (550 บาท++) Pan-Seared Angus Australian Lamb Loin topped with Pan Fried French Foie Gras (1,390 บาท++) Roasted SardanianSeabass (1 Fillet 820 บาท++ และ 2 Fillets 1,400 บาท++) และอีกสารพัดอาหารอิตาเลียนเลิศรส ซึ่งถ้าหากใครเป็นคออาหารอิตาเลียนตัวยง ขอชวนให้มากันที่ร้าน “Lenzi Tuscan Kitchen” จะได้อิ่มเอมกับอาหารอิตาเลียนขนานแท้ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรสชาติยอดเยี่ยม
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ร้าน “Lenzi Tuscan Kitchen” ตั้งอยู่ที่ 69/1-2 ซอยร่วมฤดี 2 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เปิดทุกวัน เวลา 11.45 - 13.45 น. และ 18.00 - 22.45 น. ถ้ามากินอาหารแนะนำว่าควรโทร. มาจองโต๊ะก่อน โทร. 0-2001-0116 , 09-5251-5040 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.lenzibangkok.com , www.facebook.com/lenzikitchen และหากมากินอาหารที่ร้าน Lenzi แล้วจ่ายด้วยบัตรเครดิต KTC รับฟรี Tiramisu 1 ที่ / 1 โต๊ะ ตั้งแต่วันนี้ - 15 ก.ย. 2561
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager