น่าชื่นชม! ชาวบ้านลำปางยกป่าให้รัฐ จัดตั้ง“อช.เขลางค์บรรพต” อุทยานแห่งชาติใหม่แกะกล่อง

จังหวัดลำปาง กำลังจะได้อุทยานแห่งชาติแห่งใหม่ ที่มีที่มาที่ไปแตกต่างจากอุทยานแห่งชาติแห่งอื่น เพราะอุทยานแห่งชาติแห่งใหม่ที่ชื่อ“อุทยานแห่งชาติเขลางค์บรรพต” นี้ เกิดจากชาวบ้านที่อยู่รอบพื้นที่ดอยพระบาท ที่มีเนื้อที่ประมาณ 50,000 ไร่นี้ เป็นอุทยานแห่งชาติที่ชาวบ้านต่างยินดีให้ทางราชการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ ซึ่งแตกต่างจากอุทยานแห่งชาติอื่นๆที่ มักถูกชาวบ้านในพื้นที่คัดค้านการจัดตั้ง ทำให้กะบวนการในการจัดตั้งอุทยานแต่ละแห่งเกิดความล่าช้ามาก

เนื่องมาจากวิกฤติไฟป่าที่เกิดขึ้นทุกปีในช่วงฤดูร้อน จนพื้นที่จังหวัดลำปางก็ประสบปัญหา แม้ทางฝ่ายปกครองจะช่วยเข้มงวดแล้ว ชาวบ้านแต่ละหมู่บ้าน ตำบลที่อยู่รอบแนวป่าได้ทำการดับไฟในเขตหมู่บ้านตัวเอง แต่มีพื้นที่ที่เหลือราว 50,390 ไร่ บนดอยพระบาท ที่อยู่ในพื้นที่ อ.เมือง อ.แม่เมาะ และ อ. แม่ทะ ที่ยังไม่มีหมู่บ้านใดรับผิดชอบโดยตรง จึงมีความคิดกันว่าพื้นที่ตรงนั้นควรจะยกให้หน่วยงานราชการเข้ามาเป็นผู้ดูแล จึงเกิดการจัดตั้งเครือข่ายประชารัฐเพื่อการจัดตั้งอุทยานแห่งชาติ จังหวัดลำปาง โดยมีนายสำคัญ วรรณบวร เป็นแกนนำเครือข่ายพูดคุยกับชาวบ้านรอบพื้นที่ดอยพระบาท และเห็นพ้องต้องกันว่าควรจะเป็นอุทยานแห่งชาติ ชื่ออุทยานแห่งชาติเขลางค์บรรพต

อุทยานฯแห่งนี้กินพื้นที่ผืนป่าบนดอยพระบาท โดยมีการกันพื้นที่บางส่วน(ภูเขาไฟจำป่าแดด)ที่ประชาชนบางหมู่บ้านใช้ประโยชน์ออกจากแผนที่อุทยานฯและผนวกพื้นที่ของภูเขาไฟลำปาง “คอกหินผาฟู” ที่อยู่ห่างจากดอยพระบาทราว 3 กม. เข้าอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาตินี้ด้วย โดยในขั้นแรกนี้ได้ใช้สวนรุกขชาติดอยพระบาทเป็นที่ทำการชั่วคราว

นายเด่นโชค มั่นใจ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ซากดึกดำบรรพ์และธรณีวิทยา จ.ลำปาง กล่าวถึงความสำคัญของพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขลางค์บรรพตว่า ทั้งดอยพระบาท และคอกหินผาฟู ต่างล้วนแต่เป็นภูเขาไฟในพื้นที่ทั้งสิ้น โดยดอยพระบาทนั้นเป็นภูเขาไฟโบราณเมื่อ 250 ล้านปีก่อน แต่ภูเขาไฟคอกหินผาฟูเป็นภูเขาไฟใหม่กว่าที่มีอายุเพียง 800,000 ปีเท่านั้น ซึ่งภูเขาไฟอายุโบราณอย่างดอยพระบาทจะนำพาโลหะหนัก อย่างทองคำขึ้นมา ซึ่งในปัจจุบันมีการร่อนทองกันใน อ.วังเหนือ ก็เป็นผลมาจากการระเบิดของภูเขาไฟดอยพระบาทนี่เอง ส่วนภูเขาไฟอายุ 8000,000 ปีนั้น จะนำพาอัญมณีอย่างพลอยขึ้นมาจากใต้โลก เพียงแต่ที่คอกหินผาฟูนี้สำรวจแล้วไม่พบว่ามีพลอยแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตามการที่ยังปรากฏเป็นปากปล่องภูเขาไฟอย่างคอกหินผาฟู หรือรูปทรงภูเขาไฟที่ชัดเจนอย่างคอกหินป่าแดด รวมทั้งการการที่มีแหล่งถ่านหินขนาดใหญ่อย่างแม่เมาะที่อยู่ใกล้เคียง อันเป็นผลมาจากแผ่นเปลือกโลกที่ขยับเลื่อยจนกลายเป็นบึงน้ำขนาดใหญ่และเกิดการสะสมของซากพืชในยุคโบราณ จนทำให้เป็นแหล่งถ่านหินนั้น ปรากฏการทางธรณีเหล่านี้จะทำให้อุทยานแห่งชาติเขลางค์บรรพตเป็นอุทยานแห่งชาติที่เป็นแหล่งเรียนรู้ทางธรณีวิทยาโดยเฉพาะเรื่องของภูเขาไฟที่สำคัญ

น.ส.ดวงพร เกียรติดำรง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขลางค์บรรพต ได้ให้ความคืบหน้าว่ากระบวนการจัดตั้งนั้นได้ผ่านคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติแล้วและอยู่ในขั้นตอนการทำรายละเอียด แผนที่แนบท้าย เพื่อเตรียมเข้า ครม.ต่อไป ซึ่งถือเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีการดำเนินการได้เร็วมาก

โดยเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2561 พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานฯ นายดำรัส โพธิ์ประสิทธิ์ ผู้อำนวยการพื้นที่บริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13(ลำปาง) ได้ลงพื้นที่ จ.ลำปาง เพื่อดูความคืบหน้าการจัดตั้งอุทยานแห่งชาติเขลางค์บรรพต ให้กำลังใจเครือข่ายของประชาชนที่ร่วมมือกับฝ่ายปกครองดูแลและเฝ้าระวังเรื่องไฟป่าจนได้ผล และเห็นประโยชน์ของการจัดตั้งอุทยานแห่งชาติที่เป็นประโยชน์ส่วนรวม และเยี่ยมเยือนชุมชนดูแลป่าอย่างเข้มแข็ง

พร้อมกันนี้ยังได้มีการมอบบ้านพักจำนวน 7 หลัง ให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ อันเกิดจากการห่วงใยของรัฐมนตรีฯ ถึงความเป็นอยู่ของเจ้าหน้าที่ที่ดูแลรักษาป่า โดยให้แต่ละอุทยานฯดูถึงความเหมาะสมและความพร้อมจนได้มอบบ้านพักดังกล่าวเพื่อเป็นสวัสดิการของเจ้าหน้าที่

พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ได้เอ่ยถึงการลงพื้นที่ จ.ลำปางว่า เป็นต้นแบบของหลายเรื่องทั้งเรื่องการร่วมมือกันในการดูแลไฟป่าจนปีนี้แทบไม่มีข่าววิกฤติจากหมอกควันในพื้นที่ เรื่องของพี่น้องประชาชนที่เห็นความสำคัญของการมีอุทยานแห่งชาติจนรวมตัวกันเป็นเครือข่ายปกป้องป่าและยินดียกป่าให้เป็นอุทยานแห่งชาติ และต้นแบบของการดูแลสวัสดิการของเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่า แม้จะเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่ก็เป็นต้นแบบที่จะทำไปทำในพื้นที่อื่นต่อไป


....................................................................................................

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager