โดย : ปิ่น บุตรี (pinn109@hotmail.com)
Facebook Travel Unlimited / เที่ยวถึงไหนถึงกัน

“ฉันคิดไปเป็นชาวเกาะ
มีชีวิตกลางแดดและคลื่นลม
จะจูบอำลาสังคมแสงสีในเมืองนภา
หากเบื่อชีวิตในเมืองกรุง และคิดใจมุ่งแสวงหา
มีธรรมชาติในวิญญาตามฉันมาเป็นชาวเกาะเอย...”
“คิดไปเป็นชาวเกาะ” เพลงเก่าของน้า “ปานศักดิ์ รังสิพราหมณกุล” ที่ยังคงใช้ได้ดีกับการออกทะเลไปเที่ยวเกาะมาทุกยุคทุกสมัย
สำหรับหนึ่งในเกาะที่ผมอยากจะหนีจากป่าคอนกรีตในเมืองกรุง ไปใช้ชีวิตคิดไปเป็นชาวเกาะอยู่นานๆ(แต่ไม่ตลอดไป)ก็คือ “เกาะกูด” แห่งน่านน้ำทะเลไทยสุดบูรพา ที่งดงามจับใจน่าอภิรมย์กระไรปานนั้น
อันดามันตะวันออก

เกาะกูด ตั้งอยู่ในทะเลตราด จังหวัดตราด เป็น 1 ใน 52 เกาะของหมู่เกาะช้าง มีขนาดใหญ่เป็นลำดับที่ 4 ของประเทศไทย ไล่เรียงรองลำดับลงมาจาก อันดับ 1.เกาะภูเก็ต(จ.ภูเก็ต) 2.เกาะช้าง(จ.ตราด) และ 3.เกาะสมุย(จ.สุราษฎร์ธานี)
เกาะกูด เป็นเกาะสุดท้ายของน่านน้ำทะเลอ่าวไทยฝั่งตะวันออกของบ้านเรา หรือดินแดนสุดบูรพาแห่งท้องทะเลฝั่งอ่าวไทย
ความที่อยู่ไกลชายฝั่ง ทำให้เกาะกูดวันนี้ยังคงมีสภาพธรรมชาติที่สมบูรณ์ บนเกาะกูดมีรีสอร์ท ที่พัก ขึ้นอยู่พอสมควร แต่ยังไม่ถึงกับแน่น เหมาะสำหรับคนที่ชอบเที่ยวพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ ในบรรยากาศไม่พลุกพล่าน ไม่เน้นในแสงสีและสถานบันเทิงยั่วเย้า

นอกจากนี้ความไกลชายฝั่ง(แผ่นดินใหญ่ จ.ตราด) ทำให้เกาะกูดวันนี้ยังคงมีท้องทะเลที่สวยสะอาด หาดทรายขาวเนียน ทรายละเอียดเดินแน่นนุ่มเท้า(ในหลายหาด) มีน้ำทะเลสวยใสไม่ต่างจากเกาะแถบอันดามัน จนเกาะกูดได้รับฉายาว่าเป็น “อันดามันตะวันออก”
สำหรับหาดทรายชายทะเลอันโดดเด่นชวนเที่ยวบนเกาะกูดนั้น จากทางฝั่งตะวันออกของเกาะ หากไล่เรียงชื่อที่เด่นๆ จากเหนือลงใต้มาก็มี อ่าวสับปะรด อ่าวสลัด อ่าวยายเกิด อ่าวกล้วย อ่าวจาก เป็นต้น
ส่วนทะเลงามฝั่งตะวันตกจากเหนือลงใต้ที่เด่นๆก็มี อ่าวมะพูด อ่าวตาติ้น หาดคลองยายกี๋ หาดตะเภา หาดคลองเจ้า หาดงามโข(ง่ามโข) อ่าวบางเบ้า

และ“อ่าวพร้าว” อ่าวสุดท้ายของเกาะกูด ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากน่านน้ำเขมร มีชายหาดขาว โค้งเว้า ยาวประมาณ 800 เมตร มีน้ำทะเลสวยใส และยังคงมีทิวมะพร้าวที่นับวันยิ่งมายิ่งเหลือน้อยให้สัมผัสกัน
ในบรรดาชายหาด อ่าว รวมถึงซอกหลืบต่างๆ บนเกาะกูด อันเป็นที่ตั้งของรีสอร์ท ที่พักต่างๆนั้น ส่วนใหญ่จะมีสะพานท่าเทียบเรือส่วนตัวยื่นออกไป ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์อันโดดเด่นของเกาะแห่งนี้

ดำน้ำทะเลตราด
สำหรับผู้ที่มาเที่ยวเกาะกูด หรือเกาะอื่นๆแห่งหมู่เกาะช้างทะเลตราด ที่นี่มีอีกหนึ่งกิจกรรมยอดนิยมให้นักท่องเที่ยวได้เลือกไปสัมผัสกันนั่นก็คือ การดำน้ำชมความงามของโลกใต้ทะเลแห่งหมู่เกาะช้าง ที่ว่าความงามของโลกใต้ทะเลทางฝั่งอ่าวไทยตะวันออกจะสู้ความงามทางฝั่งอ่าวไทยภาคใต้ และฝั่งอันดามันของบ้านเราไม่ได้ แต่โลกใต้ทะเลของที่นี่ก็มีสิ่งน่าสนใจและมนต์เสน่ห์สีสันอันน่าเพลิดเพลิน ชวนให้ดำดิ่งชมความงามกันไม่น้อยเลย

โดยจุดดำน้ำตื้นยอดนิยมที่ขึ้นชื่อว่าสวยงามที่สุดแห่งหมู่เกาะช้างนั่นก็คือที่ “หมู่เกาะรัง” ซึ่งมีเกาะรังเป็นเกาะใหญ่สุด เคียงคู่ไปกับเกาะเล็ก-เกาะน้อยอื่นๆที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ อาทิ เกาะรังเล็ก เกาะเทียน เกาะมะปริง เกาะกระ และเกาะยักษ์เล็ก-ยักษ์ใหญ่ ที่เป็นอีกจุดหนึ่งที่มีโลกใต้ทะเลอันงดงาม ซึ่งมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาตินิยมมาดำน้ำตื้นดูปะการัง และปลาสวยงามที่เกาะยักษ์กันเป็นจำนวนมาก
ส่วนจุดดำน้ำอีกจุดหนึ่ง ซึ่งถือว่าน่าสนใจไม่แพ้กันก็คือบริเวณ “เกาะแรด” เกาะเล็กๆที่ตั้งอยู่ห่างจากเกาะกูดทางด้านทิศตะวันตกเพียงแค่ประมาณ 400 เมตร

บริเวณเกาะแรดนอกจากจะมีแนวปะการังอันสวยงาม และปลาแหลากหลายสายพันธุ์แหวกว่ายอวดโฉมแล้ว โลกใต้ทะเลที่นี่ยังมีไฮไลท์สำคัญคือ “ประติมากรรมใต้ท้องทะเลไทยเฉลิมพระเกียรติ” ที่สร้างขึ้นในปี 2555 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ ๙ เนื่องในโอกาสเจริญพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ 84 พรรษา
ประติมากรรมใต้ท้องทะเลไทยเฉลิมพระเกียรติ ประกอบไปด้วย รูปปั้นช้าง ม้า วัว ควาย และสัตว์ชนิดต่างๆ ที่อยู่ใต้น้ำ มีขนาดใหญ่เท่าของจริง โดยมีประติมากรรมช้างมงคลเป็นไฮไลท์ชวนให้ดิ่งไปสัมผัสกับบรรยากาศโลกใต้ทะเลที่แตกต่าง

เสน่ห์ชุมชน บนเกาะกูด
เดิมชาวบ้านเกาะกูดนอกจากจะมีอาชีพทำประมง ทำสวนมะพร้าว ต่อมาเมื่อการท่องเที่ยวเข้ามา หลายๆคนขายที่ให้นายทุน บางคนที่มีเงินทุนก็หันมาทำรีสอร์ทเล็กๆของตัวเอง นั่นจึงทำให้การทำสวนมะพร้าวค่อยๆร่อยหรอหดหายไป เหลืออยู่เพียงไม่กี่เจ้า ขณะที่ลูกหลานชาวบ้านส่วนหนึ่งก็เปลี่ยนวิถีมาทำอาชีพบริการในภาคธุรกิจท่องเที่ยวแทน

อย่างไรก็ดีบนเกาะกูดก็ยังมีวิถีของหมู่บ้านชาวประมงให้ได้สัมผัสเที่ยวชมกัน นำโดย“บ้านอ่าวสลัด” ที่วันนี้ยังคงมีวิถีชาวประมงให้เห็นควบคู่ไปกับการปรับตัวรับกระแสท่องเที่ยวที่ถาโถม
ชาวบ้านอ่าวสลัดวันนี้มีวิถีที่ครึกครื้นไม่น้อย เพราะที่นี่ได้กลายเป็นท่าเรือสำคัญรองรับผู้ที่เดินทางไป-กลับ จาก“ท่าแหลมศอก”(จ.ตราด) กับเกาะกูด ทำให้ที่นี่พัฒนาเติบโต มีการร้านอาหารขายให้นักท่องเที่ยว มีบริการเรือพาเที่ยว พาดำน้ำ รวมไปถึงมีโฮมสเตย์ไว้อีกเป็นทางเลือกของนักท่องเที่ยว

นอกจากบ้านอ่าวสลัดแล้ว บนเกาะกูดยังมี“บ้านอ่าวใหญ่” หมู่บ้านชาวประมงที่ตั้งอยู่ที่อ่าวใหญ่บริเวณด้านท้ายสุดของเกาะ
ปัจจุบันเมื่อการท่องเที่ยวบนเกาะกูดเจริญเติบโต ชาวบ้านที่นี่ส่วนหนึ่งนอกจากจะมาทำประมงเป็นอาชีพหลักแล้ว ก็ยังหันมาจับงานด้านการท่องเที่ยว เปิดร้านอาหารทะเล ขายของที่ระลึก มีการทำธนาคารปู มีกระชังปลา และเปิดหมู่บ้านให้ผู้สนใจมาเดินเที่ยวชม ซึ่งภายในชุมชนจะมีสะพานปูนทอดยาวพาไปสัมผัสกับวิถีชาวประมงดั้งเดิมที่ยังไม่เลือนหายไปของชาวหมู่บ้านอ่าวใหญ่

วันนี้ชุมชนชาวประมงอ่าวใหญ่กำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเป็นแหล่งเที่ยวชมวิถีชีวิต ซึ่งชาวบ้านที่นี่นั้นก็น่ารัก ยิ้มแย้มแจ่มใสเปี่ยมไปด้วยมิตรไมตรี อีกทั้งที่นี่ยังเป็นแหล่งขายอาหารทะเลสดใหม่ในราคาสมเหตุสมผล ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวหมู่บ้านอ่าวใหญ่ และกินอาหารทะเลรสเด็ดที่นี่กันเป็นจำนวนมาก

คลองเจ้า ชื่อสถานที่สุดเจ๋งบนเกาะกูด
อีกหนึ่งจุดเด่นที่เป็นไฮไลท์ของเกาะกูดนั่นก็คือชื่อ“คลองเจ้า”
คลองเจ้าเป็นชื่อของสถานที่สำคัญหลากหลายบนเกาะกูด ไล่เรียงไปจาก“น้ำตกคลองเจ้า” น้ำตกชื่อดังประจำเกาะกูด
น้ำตกคลองเจ้าเป็นน้ำตกขนาดกลางที่นอกจากจะสวยงามร่มรื่นน่าเล่นน้ำแล้ว ยังเป็นน้ำตกที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เพราะในสมัยรัชกาลที่ 1 เจ้าญวน“องเชียงสือ”แห่งแคว้นอันนัม(ปัจจุบันคือเวียดนาม) ได้ลี้ภัยสงครามมาพึงพระบรมโพธิสมภาร แล้วรวบรวมพลขึ้นที่เกาะกูดก่อนเดินทางกลับไปกู้บ้านเมืองจนสามารถปราบกบฏไกเซินได้สำเร็จ

สำหรับจุดหลักที่องเชียงสือพำนักอยู่บนเกาะกูดก็คือที่น้ำตกแห่งนี้ นั่นจึงเป็นที่มาของชื่อ “น้ำตกคลองเจ้า”อันเลื่องชื่อแห่งเกาะกูด
ต่อมาในปี พ.ศ. 2454 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ได้เสด็จประพาสเกาะกูดและเสด็จมายังน้ำตกแห่งนี้ พระองค์จึงทรงพระราชทานนามน้ำตกนี้ว่า “น้ำตกอนัมก๊ก” เพื่อเป็นที่ระลึกแก่องเชียงสือ
อย่างไรก็ดีชาวบ้านที่นี่นิยมเรียกน้ำตกแห่งนี้ว่าน้ำตกคลองเจ้า เพราะนอกจากจะเป็นน้ำตกที่เจ้าญวนคือองค์องเชียงสือเคยมาพำนักแล้ว ยังเป็นน้ำตกที่รัชกาลที่ 6 เจ้าเหนือหัวของปวงชนชาวไทยได้เคยเสด็จมาประพาสยังน้ำตกแห่งนี้

น้ำตกคลองเจ้าเป็นน้ำตกที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี มีต้นกำเนิดจากลำธารบนเนินเขาตอนกลางของเกาะ มีทั้งหมด 3 ชั้นด้วยกัน ชั้นบนมีลักษณะเป็นลำธาร ไหลผ่านหน้าผาหินตกลงมาเป็นยังแอ่งขนาดใหญ่ที่เบื้องล่างที่สามารถลงไปแหวกว่ายได้อย่างสนุกเพลิดเพลิน
ขณะที่ข้างๆตัวน้ำตก(ด้านขวา เมื่อมองเข้าไป)มีต้นไม้ใหญ่ แขวนเชือกเป็นห่วงไว้ให้นักท่องเที่ยวผู้นิยมความท้าทายกระโดดน้ำเล่น ซึ่งใครถ้ากระโดดเป็น ยามลงมาก็ท่าสวย แต่ถ้าใครที่กระโดดไม่เป็นหล่นลงมาผิดท่า ก็คงได้จุกกันบ้างแหละ

สายน้ำตกคลองเจ้าเป็นหนึ่งในต้นน้ำที่ไหลรวมกับสายน้ำอื่นๆเกิดเป็นลำ“คลองเจ้า”คลองน้ำใสสะอาดอันอุดมสมบูรณ์ร่มรื่นไปด้วยแมกไม้ ถือเป็นลำคลองสายสำคัญบนเกาะกูดที่ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของที่พักอันหลากหลายในบริเวณริมลำคลอง รวมถึงที่นี่ยังเป็นเส้นทางที่นักท่องเที่ยวนิยมมาพายคายัคชมธรรมชาติของผืนป่าชายเลน(ป่าโกงกาง) และพายจากลำคลองเจ้ามุ่งหน้าสู่น้ำตกคลองเจ้าอันสวยงาม

สายน้ำจากลำคลองเจ้าจะไหลออกสู่ทะเลที่“อ่าวคลองเจ้า” ที่มีเวิ้งอ่าวอันสวยงาม มีทั้งร่องน้ำลึก น้ำตื้น ซึ่งเป็นบริเวณพื้นที่ของสามสายน้ำมาอยู่รวมกัน คือ น้ำเค็ม(น้ำทะเล-ปากอ่าว) น้ำกร่อย(รอยต่อระหว่างปากอ่าวกับลำคลอง) และน้ำจืด(ในลำคลองเจ้า)
อ่าวคลองเจ้าเป็นที่ตั้งของ“หาดคลองเจ้า” ชายหาดอันดับหนึ่งแห่งเกาะกูด มีน้ำทะเลสวยใสแจ๋ว พื้นทรายละเอียดยิบ เดินเนียนนุ่มเท้า(อ่าวคลองเจ้าและหาดคลองเจ้าเป็นบริเวณเดียวกัน)

หาดคลองเจ้า เป็นแนวหาดทรายขาวเนียน สะอาด ทอดยาวจากบนเกาะออกสู่ปากอ่าวคลองเจ้า หาดแห่งนี้มีความพิเศษ คือเป็นหาด 3 น้ำ เช่นเดียวกับอ่าวคลองเจ้า คือที่หน้าหาดจะเห็นน้ำทะเล ที่ปลายสุดของหาด(ปากอ่าว)จะเป็นน้ำกร่อย และที่ด้านหลังหาดหรือด้านในถัดเข้ามาในพื้นที่เกาะจะเป็นน้ำจืดอันสวยใสร่มรื่นไปด้วยของลำคลองเจ้า

นอกจากนี้หาดคลองเจ้ายังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกทะเลอันสวยงามยิ่งบนเกาะกูด ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้ถือเป็นแม่เหล็กสำคัญดึงดูดให้ทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ เดินทางสัมผัสกับมนต์เสน่ห์ความงามของหาดแห่งนี้กันเป็นจำนวนมาก ทั้งมาพักผ่อน เล่นน้ำ อาบแดด ชมพระอาทิตย์ตก หรือพายเรือคายัคเล่นเป็นที่เพลิดเพลิน
และนี่ก็เป็นเรื่องราวส่วนหนึ่งของเกาะกูด ที่วันนี้ยังคงเป็นเพชรเม็ดงามอันทรงเสน่ห์แห่งท้องทะเลตราด ที่นายทุนทั้งต่างถิ่น ต่างชาติ ต่างหมายปองตาเป็นมัน ซึ่งยังไงๆก็ขอให้เกาะกูดยืนหยัดรักษาความพิสุทธิ์สงบงามเอาไว้ให้นานเท่านาน

อย่าให้ธรรมชาติถูกทำลายจนมากเกินพอดี อย่าให้วิถีชุมชนถูกทำลาย และก็ขอภาวนาอย่าให้เกาะกูดประสบกับสภาพการณ์ “ยิ่งดังยิ่งเละ" เหมือนกับสถานที่ท่องเที่ยวรุ่นพี่ๆหลายๆแห่ง ที่ถูกภาคธุรกิจท่องเที่ยวถั่งโถมทำลาย จนเปลี่ยนเพี้ยนเสียศูนย์
ยากที่จะกู้ให้กลับฟื้นคืนมาดังเดิมได้

******************************************
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
Facebook Travel Unlimited / เที่ยวถึงไหนถึงกัน
“ฉันคิดไปเป็นชาวเกาะ
มีชีวิตกลางแดดและคลื่นลม
จะจูบอำลาสังคมแสงสีในเมืองนภา
หากเบื่อชีวิตในเมืองกรุง และคิดใจมุ่งแสวงหา
มีธรรมชาติในวิญญาตามฉันมาเป็นชาวเกาะเอย...”
“คิดไปเป็นชาวเกาะ” เพลงเก่าของน้า “ปานศักดิ์ รังสิพราหมณกุล” ที่ยังคงใช้ได้ดีกับการออกทะเลไปเที่ยวเกาะมาทุกยุคทุกสมัย
สำหรับหนึ่งในเกาะที่ผมอยากจะหนีจากป่าคอนกรีตในเมืองกรุง ไปใช้ชีวิตคิดไปเป็นชาวเกาะอยู่นานๆ(แต่ไม่ตลอดไป)ก็คือ “เกาะกูด” แห่งน่านน้ำทะเลไทยสุดบูรพา ที่งดงามจับใจน่าอภิรมย์กระไรปานนั้น
อันดามันตะวันออก
เกาะกูด ตั้งอยู่ในทะเลตราด จังหวัดตราด เป็น 1 ใน 52 เกาะของหมู่เกาะช้าง มีขนาดใหญ่เป็นลำดับที่ 4 ของประเทศไทย ไล่เรียงรองลำดับลงมาจาก อันดับ 1.เกาะภูเก็ต(จ.ภูเก็ต) 2.เกาะช้าง(จ.ตราด) และ 3.เกาะสมุย(จ.สุราษฎร์ธานี)
เกาะกูด เป็นเกาะสุดท้ายของน่านน้ำทะเลอ่าวไทยฝั่งตะวันออกของบ้านเรา หรือดินแดนสุดบูรพาแห่งท้องทะเลฝั่งอ่าวไทย
ความที่อยู่ไกลชายฝั่ง ทำให้เกาะกูดวันนี้ยังคงมีสภาพธรรมชาติที่สมบูรณ์ บนเกาะกูดมีรีสอร์ท ที่พัก ขึ้นอยู่พอสมควร แต่ยังไม่ถึงกับแน่น เหมาะสำหรับคนที่ชอบเที่ยวพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ ในบรรยากาศไม่พลุกพล่าน ไม่เน้นในแสงสีและสถานบันเทิงยั่วเย้า
นอกจากนี้ความไกลชายฝั่ง(แผ่นดินใหญ่ จ.ตราด) ทำให้เกาะกูดวันนี้ยังคงมีท้องทะเลที่สวยสะอาด หาดทรายขาวเนียน ทรายละเอียดเดินแน่นนุ่มเท้า(ในหลายหาด) มีน้ำทะเลสวยใสไม่ต่างจากเกาะแถบอันดามัน จนเกาะกูดได้รับฉายาว่าเป็น “อันดามันตะวันออก”
สำหรับหาดทรายชายทะเลอันโดดเด่นชวนเที่ยวบนเกาะกูดนั้น จากทางฝั่งตะวันออกของเกาะ หากไล่เรียงชื่อที่เด่นๆ จากเหนือลงใต้มาก็มี อ่าวสับปะรด อ่าวสลัด อ่าวยายเกิด อ่าวกล้วย อ่าวจาก เป็นต้น
ส่วนทะเลงามฝั่งตะวันตกจากเหนือลงใต้ที่เด่นๆก็มี อ่าวมะพูด อ่าวตาติ้น หาดคลองยายกี๋ หาดตะเภา หาดคลองเจ้า หาดงามโข(ง่ามโข) อ่าวบางเบ้า
และ“อ่าวพร้าว” อ่าวสุดท้ายของเกาะกูด ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากน่านน้ำเขมร มีชายหาดขาว โค้งเว้า ยาวประมาณ 800 เมตร มีน้ำทะเลสวยใส และยังคงมีทิวมะพร้าวที่นับวันยิ่งมายิ่งเหลือน้อยให้สัมผัสกัน
ในบรรดาชายหาด อ่าว รวมถึงซอกหลืบต่างๆ บนเกาะกูด อันเป็นที่ตั้งของรีสอร์ท ที่พักต่างๆนั้น ส่วนใหญ่จะมีสะพานท่าเทียบเรือส่วนตัวยื่นออกไป ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์อันโดดเด่นของเกาะแห่งนี้
ดำน้ำทะเลตราด
สำหรับผู้ที่มาเที่ยวเกาะกูด หรือเกาะอื่นๆแห่งหมู่เกาะช้างทะเลตราด ที่นี่มีอีกหนึ่งกิจกรรมยอดนิยมให้นักท่องเที่ยวได้เลือกไปสัมผัสกันนั่นก็คือ การดำน้ำชมความงามของโลกใต้ทะเลแห่งหมู่เกาะช้าง ที่ว่าความงามของโลกใต้ทะเลทางฝั่งอ่าวไทยตะวันออกจะสู้ความงามทางฝั่งอ่าวไทยภาคใต้ และฝั่งอันดามันของบ้านเราไม่ได้ แต่โลกใต้ทะเลของที่นี่ก็มีสิ่งน่าสนใจและมนต์เสน่ห์สีสันอันน่าเพลิดเพลิน ชวนให้ดำดิ่งชมความงามกันไม่น้อยเลย
โดยจุดดำน้ำตื้นยอดนิยมที่ขึ้นชื่อว่าสวยงามที่สุดแห่งหมู่เกาะช้างนั่นก็คือที่ “หมู่เกาะรัง” ซึ่งมีเกาะรังเป็นเกาะใหญ่สุด เคียงคู่ไปกับเกาะเล็ก-เกาะน้อยอื่นๆที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ อาทิ เกาะรังเล็ก เกาะเทียน เกาะมะปริง เกาะกระ และเกาะยักษ์เล็ก-ยักษ์ใหญ่ ที่เป็นอีกจุดหนึ่งที่มีโลกใต้ทะเลอันงดงาม ซึ่งมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาตินิยมมาดำน้ำตื้นดูปะการัง และปลาสวยงามที่เกาะยักษ์กันเป็นจำนวนมาก
ส่วนจุดดำน้ำอีกจุดหนึ่ง ซึ่งถือว่าน่าสนใจไม่แพ้กันก็คือบริเวณ “เกาะแรด” เกาะเล็กๆที่ตั้งอยู่ห่างจากเกาะกูดทางด้านทิศตะวันตกเพียงแค่ประมาณ 400 เมตร
บริเวณเกาะแรดนอกจากจะมีแนวปะการังอันสวยงาม และปลาแหลากหลายสายพันธุ์แหวกว่ายอวดโฉมแล้ว โลกใต้ทะเลที่นี่ยังมีไฮไลท์สำคัญคือ “ประติมากรรมใต้ท้องทะเลไทยเฉลิมพระเกียรติ” ที่สร้างขึ้นในปี 2555 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ ๙ เนื่องในโอกาสเจริญพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ 84 พรรษา
ประติมากรรมใต้ท้องทะเลไทยเฉลิมพระเกียรติ ประกอบไปด้วย รูปปั้นช้าง ม้า วัว ควาย และสัตว์ชนิดต่างๆ ที่อยู่ใต้น้ำ มีขนาดใหญ่เท่าของจริง โดยมีประติมากรรมช้างมงคลเป็นไฮไลท์ชวนให้ดิ่งไปสัมผัสกับบรรยากาศโลกใต้ทะเลที่แตกต่าง
เสน่ห์ชุมชน บนเกาะกูด
เดิมชาวบ้านเกาะกูดนอกจากจะมีอาชีพทำประมง ทำสวนมะพร้าว ต่อมาเมื่อการท่องเที่ยวเข้ามา หลายๆคนขายที่ให้นายทุน บางคนที่มีเงินทุนก็หันมาทำรีสอร์ทเล็กๆของตัวเอง นั่นจึงทำให้การทำสวนมะพร้าวค่อยๆร่อยหรอหดหายไป เหลืออยู่เพียงไม่กี่เจ้า ขณะที่ลูกหลานชาวบ้านส่วนหนึ่งก็เปลี่ยนวิถีมาทำอาชีพบริการในภาคธุรกิจท่องเที่ยวแทน
อย่างไรก็ดีบนเกาะกูดก็ยังมีวิถีของหมู่บ้านชาวประมงให้ได้สัมผัสเที่ยวชมกัน นำโดย“บ้านอ่าวสลัด” ที่วันนี้ยังคงมีวิถีชาวประมงให้เห็นควบคู่ไปกับการปรับตัวรับกระแสท่องเที่ยวที่ถาโถม
ชาวบ้านอ่าวสลัดวันนี้มีวิถีที่ครึกครื้นไม่น้อย เพราะที่นี่ได้กลายเป็นท่าเรือสำคัญรองรับผู้ที่เดินทางไป-กลับ จาก“ท่าแหลมศอก”(จ.ตราด) กับเกาะกูด ทำให้ที่นี่พัฒนาเติบโต มีการร้านอาหารขายให้นักท่องเที่ยว มีบริการเรือพาเที่ยว พาดำน้ำ รวมไปถึงมีโฮมสเตย์ไว้อีกเป็นทางเลือกของนักท่องเที่ยว
นอกจากบ้านอ่าวสลัดแล้ว บนเกาะกูดยังมี“บ้านอ่าวใหญ่” หมู่บ้านชาวประมงที่ตั้งอยู่ที่อ่าวใหญ่บริเวณด้านท้ายสุดของเกาะ
ปัจจุบันเมื่อการท่องเที่ยวบนเกาะกูดเจริญเติบโต ชาวบ้านที่นี่ส่วนหนึ่งนอกจากจะมาทำประมงเป็นอาชีพหลักแล้ว ก็ยังหันมาจับงานด้านการท่องเที่ยว เปิดร้านอาหารทะเล ขายของที่ระลึก มีการทำธนาคารปู มีกระชังปลา และเปิดหมู่บ้านให้ผู้สนใจมาเดินเที่ยวชม ซึ่งภายในชุมชนจะมีสะพานปูนทอดยาวพาไปสัมผัสกับวิถีชาวประมงดั้งเดิมที่ยังไม่เลือนหายไปของชาวหมู่บ้านอ่าวใหญ่
วันนี้ชุมชนชาวประมงอ่าวใหญ่กำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเป็นแหล่งเที่ยวชมวิถีชีวิต ซึ่งชาวบ้านที่นี่นั้นก็น่ารัก ยิ้มแย้มแจ่มใสเปี่ยมไปด้วยมิตรไมตรี อีกทั้งที่นี่ยังเป็นแหล่งขายอาหารทะเลสดใหม่ในราคาสมเหตุสมผล ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวหมู่บ้านอ่าวใหญ่ และกินอาหารทะเลรสเด็ดที่นี่กันเป็นจำนวนมาก
คลองเจ้า ชื่อสถานที่สุดเจ๋งบนเกาะกูด
อีกหนึ่งจุดเด่นที่เป็นไฮไลท์ของเกาะกูดนั่นก็คือชื่อ“คลองเจ้า”
คลองเจ้าเป็นชื่อของสถานที่สำคัญหลากหลายบนเกาะกูด ไล่เรียงไปจาก“น้ำตกคลองเจ้า” น้ำตกชื่อดังประจำเกาะกูด
น้ำตกคลองเจ้าเป็นน้ำตกขนาดกลางที่นอกจากจะสวยงามร่มรื่นน่าเล่นน้ำแล้ว ยังเป็นน้ำตกที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เพราะในสมัยรัชกาลที่ 1 เจ้าญวน“องเชียงสือ”แห่งแคว้นอันนัม(ปัจจุบันคือเวียดนาม) ได้ลี้ภัยสงครามมาพึงพระบรมโพธิสมภาร แล้วรวบรวมพลขึ้นที่เกาะกูดก่อนเดินทางกลับไปกู้บ้านเมืองจนสามารถปราบกบฏไกเซินได้สำเร็จ
สำหรับจุดหลักที่องเชียงสือพำนักอยู่บนเกาะกูดก็คือที่น้ำตกแห่งนี้ นั่นจึงเป็นที่มาของชื่อ “น้ำตกคลองเจ้า”อันเลื่องชื่อแห่งเกาะกูด
ต่อมาในปี พ.ศ. 2454 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ได้เสด็จประพาสเกาะกูดและเสด็จมายังน้ำตกแห่งนี้ พระองค์จึงทรงพระราชทานนามน้ำตกนี้ว่า “น้ำตกอนัมก๊ก” เพื่อเป็นที่ระลึกแก่องเชียงสือ
อย่างไรก็ดีชาวบ้านที่นี่นิยมเรียกน้ำตกแห่งนี้ว่าน้ำตกคลองเจ้า เพราะนอกจากจะเป็นน้ำตกที่เจ้าญวนคือองค์องเชียงสือเคยมาพำนักแล้ว ยังเป็นน้ำตกที่รัชกาลที่ 6 เจ้าเหนือหัวของปวงชนชาวไทยได้เคยเสด็จมาประพาสยังน้ำตกแห่งนี้
น้ำตกคลองเจ้าเป็นน้ำตกที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี มีต้นกำเนิดจากลำธารบนเนินเขาตอนกลางของเกาะ มีทั้งหมด 3 ชั้นด้วยกัน ชั้นบนมีลักษณะเป็นลำธาร ไหลผ่านหน้าผาหินตกลงมาเป็นยังแอ่งขนาดใหญ่ที่เบื้องล่างที่สามารถลงไปแหวกว่ายได้อย่างสนุกเพลิดเพลิน
ขณะที่ข้างๆตัวน้ำตก(ด้านขวา เมื่อมองเข้าไป)มีต้นไม้ใหญ่ แขวนเชือกเป็นห่วงไว้ให้นักท่องเที่ยวผู้นิยมความท้าทายกระโดดน้ำเล่น ซึ่งใครถ้ากระโดดเป็น ยามลงมาก็ท่าสวย แต่ถ้าใครที่กระโดดไม่เป็นหล่นลงมาผิดท่า ก็คงได้จุกกันบ้างแหละ
สายน้ำตกคลองเจ้าเป็นหนึ่งในต้นน้ำที่ไหลรวมกับสายน้ำอื่นๆเกิดเป็นลำ“คลองเจ้า”คลองน้ำใสสะอาดอันอุดมสมบูรณ์ร่มรื่นไปด้วยแมกไม้ ถือเป็นลำคลองสายสำคัญบนเกาะกูดที่ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของที่พักอันหลากหลายในบริเวณริมลำคลอง รวมถึงที่นี่ยังเป็นเส้นทางที่นักท่องเที่ยวนิยมมาพายคายัคชมธรรมชาติของผืนป่าชายเลน(ป่าโกงกาง) และพายจากลำคลองเจ้ามุ่งหน้าสู่น้ำตกคลองเจ้าอันสวยงาม
สายน้ำจากลำคลองเจ้าจะไหลออกสู่ทะเลที่“อ่าวคลองเจ้า” ที่มีเวิ้งอ่าวอันสวยงาม มีทั้งร่องน้ำลึก น้ำตื้น ซึ่งเป็นบริเวณพื้นที่ของสามสายน้ำมาอยู่รวมกัน คือ น้ำเค็ม(น้ำทะเล-ปากอ่าว) น้ำกร่อย(รอยต่อระหว่างปากอ่าวกับลำคลอง) และน้ำจืด(ในลำคลองเจ้า)
อ่าวคลองเจ้าเป็นที่ตั้งของ“หาดคลองเจ้า” ชายหาดอันดับหนึ่งแห่งเกาะกูด มีน้ำทะเลสวยใสแจ๋ว พื้นทรายละเอียดยิบ เดินเนียนนุ่มเท้า(อ่าวคลองเจ้าและหาดคลองเจ้าเป็นบริเวณเดียวกัน)
หาดคลองเจ้า เป็นแนวหาดทรายขาวเนียน สะอาด ทอดยาวจากบนเกาะออกสู่ปากอ่าวคลองเจ้า หาดแห่งนี้มีความพิเศษ คือเป็นหาด 3 น้ำ เช่นเดียวกับอ่าวคลองเจ้า คือที่หน้าหาดจะเห็นน้ำทะเล ที่ปลายสุดของหาด(ปากอ่าว)จะเป็นน้ำกร่อย และที่ด้านหลังหาดหรือด้านในถัดเข้ามาในพื้นที่เกาะจะเป็นน้ำจืดอันสวยใสร่มรื่นไปด้วยของลำคลองเจ้า
นอกจากนี้หาดคลองเจ้ายังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกทะเลอันสวยงามยิ่งบนเกาะกูด ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้ถือเป็นแม่เหล็กสำคัญดึงดูดให้ทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ เดินทางสัมผัสกับมนต์เสน่ห์ความงามของหาดแห่งนี้กันเป็นจำนวนมาก ทั้งมาพักผ่อน เล่นน้ำ อาบแดด ชมพระอาทิตย์ตก หรือพายเรือคายัคเล่นเป็นที่เพลิดเพลิน
และนี่ก็เป็นเรื่องราวส่วนหนึ่งของเกาะกูด ที่วันนี้ยังคงเป็นเพชรเม็ดงามอันทรงเสน่ห์แห่งท้องทะเลตราด ที่นายทุนทั้งต่างถิ่น ต่างชาติ ต่างหมายปองตาเป็นมัน ซึ่งยังไงๆก็ขอให้เกาะกูดยืนหยัดรักษาความพิสุทธิ์สงบงามเอาไว้ให้นานเท่านาน
อย่าให้ธรรมชาติถูกทำลายจนมากเกินพอดี อย่าให้วิถีชุมชนถูกทำลาย และก็ขอภาวนาอย่าให้เกาะกูดประสบกับสภาพการณ์ “ยิ่งดังยิ่งเละ" เหมือนกับสถานที่ท่องเที่ยวรุ่นพี่ๆหลายๆแห่ง ที่ถูกภาคธุรกิจท่องเที่ยวถั่งโถมทำลาย จนเปลี่ยนเพี้ยนเสียศูนย์
ยากที่จะกู้ให้กลับฟื้นคืนมาดังเดิมได้
******************************************
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager