อีกหนึ่งน้ำพระราชหฤทัยอันงดงามของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร ที่ทรงมีพระราชปณิธานอันแน่วแน่ปรารถนาให้ทุกคนที่อาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินไทยได้มีความสุขกายสบายใจอย่างทั่วหน้า จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หน่วยราชการในพระองค์ฯ หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน จัดงานพระราชทานความสุขให้กับประชาชน และเผยแพร่ความงดงามของความเป็นไทยในรูปแบบต่างๆในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ภายใต้ชื่องานว่า “อุ่นไอรัก คลายความหนาว”
งานอุ่นไอรัก คลายความหนาว จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ พระลานพระราชวังดุสิต และสนามเสือป่า ระหว่างวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ถึง 11 มีนาคม 2561 ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดียิ่ง มีประชาชนเดินทางไปเที่ยวชมงานทุกวันอย่างคับคั่ง
แต่งชุดไทย ไปย้อนอดีตวันวาน
งานอุ่นไอรัก คลายความหนาว ได้เนรมิตพื้นที่การจัดงานให้ย้อนยุคกลับไปในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ พร้อมกันนี้ได้เชิญชวนให้ผู้ที่มาร่วมงานแต่งกายด้วย“ชุดไทย” ซึ่งนอกจากจะเข้ากันได้ดีกับบรรยากาศแห่งอดีตแล้ว ยังเป็นการร่วมเผยแพร่เอกลักษณ์ไทยให้ชาวต่างชาติได้เห็น ส่วนใครที่ไม่มีชุดไทยก็ให้สวมผ้าไทยหรือชุดสุภาพเข้ามาเที่ยวชมงาน
งานอุ่นไอรัก คลายความหนาว มีการตกแต่งภูมิทัศน์อย่างสวยงาม นอกจากจะอบอวลไปด้วยไออดีตแห่งวันวานแล้ว ยังตื่นตาตื่นใจกับความงดงามของดอกไม้หลากสีสัน หลากสายพันธุ์ที่นำมาประดับตกแต่ง ทำให้ภายในงานมากไปด้วยมุมสวยๆให้ถ่ายรูป เซลฟี่ และเก็บภาพความประทับใจกันเป็นที่เพลิดเพลิน
นิทรรศการเทิดพระเกียรติ 2 บูรพมหากษัตริย์
สำหรับสิ่งน่าสนใจหรือจุดไฮไลท์ต่างๆภายในงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว นั้นเริ่มกันด้วย การแสดงนิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ สองบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าผู้เป็นที่รักเคารพยิ่งของปวงชนชาวไทย
โดยนิทรรศการเทิดพระเกียรติ รัชกาลที่ ๕ ได้มีการจัดแสดงผ่านสถาปัตยกรรมสไตล์โคโรเนียล ซึ่งได้จำลองหน่วยงานต่างๆที่ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๕ ทรงก่อตั้งขึ้น อาทิ เช่น การรถไฟ, การไฟฟ้า, การประปา, การไปรษณีย์ไทย, สภาอุณาโลมแดงแห่งชาติสยาม และธนาคารธนาคารสยามกัมมาจล หรือธนาคารไทยพาณิชย์(ปัจจุบัน)
ส่วนนิทรรศการเทิดพระเกียรติ รัชกาลที่ ๙ จัดแสดงเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจต่างๆของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ทรงงานหนักมาตลอดระยะเวลา ๗๐ ปี แห่งการครองราชย์ เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม
สุดเพลิน เดินถ่ายรูปมุมยอดฮิต
ไฮไลท์ต่อไปของงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว สอดรับกับกิจกรรมยอดฮิตของคนยุคนี้เป็นอย่างดี นั่นก็คือ การถ่ายภาพ เซลฟี่ วีฟี่ ซึ่งภายในงานนี้มีจุดไฮไลท์ที่มีคนนิยมไปถ่ายรูปกันเป็นจำนวนมาก ได้แก่
-“เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์จำลอง” ตั้งอยู่อย่างโดดเด่นกลางพระลานพระราชวังดุสิต มีความยาวกว่า ๒๕ เมตร เรือสุพรรณหงส์เป็นเรือพระที่นั่งที่มีความสำคัญมากในพระราชพิธีกระบวนพยุหยาตราชลมารค จัดทำอย่างประณีตงดงามวิจิตร และบริเวณรอบๆองค์เรือสุพรรณหงส์จำลองประดับตกแต่งด้วย ผ้าไหมทอง ดอกไม้และกล้วยไม้หลากสีสันอีกด้วย
-“สวนสวยหน้าพระบรมรูปทรงม้า และพระที่นั่งอนันตสมาคม” เป็น 2 จุดไฮไลท์ที่คนนิยมมาถ่ายรูป และโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย แชร์ต่อๆกันไปเป็นจำนวนมาก กับสวนดอกไม้หลากสีสันจากดอกไม้นานาพันธุ์ ที่นำมาจัดประดับตกแต่งอย่างสวยงาม เมื่อมองจากด้านหน้าผ่านเข้าไปจะเห็นสวนดอกไม้ท่ามกลางฉากหลังเป็นพระบรมรูปทรงม้า และสวนดอกไม้ที่มีพระที่นั่งอนันตสมาคมเป็นฉากหลังดูสวยงามน่าประทับใจยิ่งนัก
ย้อนอดีตไปกับ ททท.
มาถึงอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของงานนี้นั่นก็คือ การจำลองตึกรามบ้านเรือน และวิถีวัฒนธรรมย้อนยุคมาจัดแสดง ที่ไม่ควรพลาดของงานนี้ก็คือ “โรงภาพยนตร์ย้อนยุค” ที่จัดโดย“การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย”(ททท.)
โรงภาพยนตร์ย้อนยุค ททท. เป็นการจำลองโรงภาพยนตร์ย้อนยุคมาจัดแสดง แบ่งออกเป็น ๓ โซน ประกอบด้วย
ททท.เธียเตอร์ การจำลองโรงภาพยนตร์ในปลายรัชกาลที่ ๕ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเจริญที่มาจากประเทศทางตะวันตกเป็นความบันเทิงร่วมสมัยที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และผู้เข้าร่วมงานจะได้ชมภาพยนตร์เรื่องราวเหตุการณ์สถานที่สำคัญของกรุงเทพมหานครในอดีต และภาพยนตร์ประชาสัมพันธ์ประเทศไทยในอดีตจนถึงปัจจุบัน ฉายวันละ 20 รอบๆ ละ 15 นาที เข้าชมได้รอบละ 20 คน
ห้องเสื้อไฉไลประชาราษฐ์ จัดชุดไทยย้อนยุคเพื่อให้ประชาชนได้แต่งกายสวยงามเดินชมงาน สามารถสวมใส่ได้ตลอดวันหรือซื้อเพื่อแต่งกายในงานได้ทุกวัน
สยามบรรณาคาร จำลองกลิ่นอายร้านหนังสือและบรรยากาศที่แสนมีเสน่ห์ของเวิ้งนครเขษมตลาดเก่าที่มีเอกลักษณ์ เปรียบเสมือนสยามสแควร์ในปัจจุบันเป็นความเจริญจากชาวตะวันตก จึงเต็มไปด้วยร้านค้า สถานที่ทันสมัยมากมาย และจำลองหนังสือ Bangkok Siam ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นหนังสือ Guide Book เล่มแรกของประเทศไทยที่มีเนื้อหาด้านในเสมือนหนังสือเล่มจริง และหนังสือเกี่ยวกับการท่องเที่ยว พร้อมนำหนังสืออนุสาร อสท. ในอดีต ซึ่งนำเสนอภาพเหตุการณ์สำคัญในอดีต นำเสนอมุมมองด้านการท่องเที่ยวไทยจากอดีตจนถึงปัจจุบัน
นอกจากโรงภาพยนตร์ย้อนยุคของ ททท.แล้ว ก็มีมุมวิถีย้อนยุคให้สัมผัสเที่ยวชมกันอีกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น สตูดิโอถ่ายภาพย้อนยุคกับบริการแต่งชุดไทยถ่ายภาพโบราณสวยๆ, กรมประชาสัมพันธ์สมัยก่อนที่มีการจำลองให้ลองจัดรายการโทรทัศน์และวิทยุแบบในอดีต และ“ร้านไปรสนีย์กรุงสยาม” ที่มาในบรรยากาศของอาคารไปรสนียาคาร ที่ทำการไปรษณีย์แห่งแรกของประเทศไทยในสมัยรัชกาลที่ ๕ โดยมี “ตู้ทิ้งหนังสือ”หรือตู้ไปรษณีย์ใบแรกของไทยสีแดงสดเป็นไฮไลท์ พร้อมบุรุษไปรษณีย์ในชุดย้อนยุค พร้อมกับการนำเสนอเรื่องราวการสื่อสารในเมื่อครั้งวันวานต่างๆ
ชม ช็อป ชิม อิ่มอร่อยที่ตลาดย้อนยุค
“ตลาดย้อนยุค” ถือเป็นไฮไลท์เด็ดของบรรดาสายกินทั้งหลาย ตลาดย้อนยุคแห่งนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร สืบสานชุมชนวิถีไทย” ซึ่งคึกคักไปด้วยสินค้าและอาหารการกินให้อิ่มอร่อยมากมาย อาทิ ผัดหมี่โบราณ กระเพาะปลา ขนมเบื้องโบราณ ขนมจีน ส้มตำ น้ำพริกผักต้ม โรตี ลูกชิ้น ข้าวจี่ ก๋วยเตี๋ยวเรือโบราณ ข้าวขาหมู ข้าวเหนียวมะม่วง เป็นต้น โดยอาหารหลายอย่างของที่นี่เป็นของกินหายากที่หากได้มาลิ้มลองแล้วจะติดใจ
กิจกรรมย้อนยุคโดนๆ
นอกจากไฮไลท์ต่างๆตามที่กล่าวมาแล้ว ในงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว ยังมีกิจกรรมดีที่น่าสนใจในบรรยากาศย้อนยุคให้ได้สัมผัสกันอีกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การแสดงสะท้อนวัฒนธรรมท้องถิ่นทั่วทุกภูมิภาคผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันทุกวัน ได้แก่ การแสดงบนเวทีใหญ่ ทุกวันศุกร์และวันเสาร์ เวลา 18.00- 20.30 น. ยกเว้นสัปดาห์แรกเพิ่มวันพฤหัสบดีและสัปดาห์สุดท้ายเพิ่มวันอาทิตย์, การแสดงบนเวทีเล็ก ทุกวันอาทิตย์ วันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 18.00- 20.30 น. รวมถึงการฉายหนังกลางแปลงที่เป็นภาพยนตร์ในยุคเก่าที่หาชมได้ยาก ทุกวันพุธ และวันพฤหัสบดี เวลา 18.30-20.30 น.
การจัดแสดงศิลปะชั้นสูงในราชสานักที่สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน เช่น การร้อยดอกไม้สด การปักผ้า ฯลฯ โดยวิทยาลัยในวัง(หญิง) และวิทยาลัยในวัง(ชาย) ประชาชนที่สนใจสามารถเข้าร่วมเรียนรู้การประดิษฐ์งานศิลปะชั้นสูงเพื่อนำไปประกอบอาชีพได้
ส่วนที่บริเวณสนามเสือป่า ผู้ที่มาร่วมงาน ยังสามารถมีส่วนร่วมโดยเสด็จพระราชกุศลด้วยการเลือกซื้อสินค้านานาชนิด จากร้านค้าในพระบรมวงศานุวงศ์ฯ อาทิ จิตอาสา 904, มูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า, ภูฟ้า, มูลนิธิสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์, มูลนิธิโครงการหลวง ดอยคำ เป็นต้น รวมถึงร้านค้ารับเชิญทั้งจากภาครัฐและเอกชนอีกหลากหลาย
นอกจากนี้ก็ยังมีกิจกรรมสอยต้นกัลปพฤกษ์ ราคา 25 บาท และสลากการกุศล ราคา 129 บาท เสื้อโปโลลายฝีพระหัตถ์ ราคา ๒๙๙ บาท กิจกรรมร่วมถ่ายภาพย้อนยุคและภาพ 3 มิติ ที่จัดไว้ในมุมต่างๆ ภายในงาน โดยรายได้จากการจัดงานทั้งหมดจะนำไปช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อนในทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ
และนี่ก็คือมนต์เสน่ห์รวมถึงสิ่งที่น่าสนใจต่างๆของงาน“อุ่นไอรัก คลายความหนาว”ซึ่งมาจนถึงวันนี้ถือช่วงเป็นโค้งสุดท้ายของงานที่หากว่าใครยังไม่มีโอกาสได้ไปเดินเที่ยวชมงาน ช่วงเวลาที่เหลือน่าจะเป็นโอกาสดีที่น่าจะไปเที่ยวชมงานกันสักครั้งหรือหลายๆครั้ง เพราะนี่เป็นอีกหนึ่งงานดีๆที่น่าประทับใจรับต้นปี พ.ศ.2561 ที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
*****************************************
งาน“อุ่นไอรัก คลายความหนาว” จัด ณ พระลานพระราชวังดุสิต และสนามเสือป่า ตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ. - 11 มี.ค. 61 เวลาเข้าชม วันอาทิตย์-พฤหัสบดี 10.00 - 21.00 น. วันศุกร์-เสาร์ 10.00-22.00 น. และเชิญชวนให้แต่งชุดไทยไปร่วมงาน ส่วนถ้าใครไม่มีก็ให้ใส่ผ้าไทยหรือแต่งกายสุภาพไปเที่ยวชมงาน โดยสวมกางเกงและกระโปรงยาว ไม่นุ่งกางเกงขาสั้นหรือกระโปรงสั้นเหนือหัวเข่า ไม่สวมรองเท้าแตะ นอกจากนี้ที่งานยังมีชุดไทยให้เช่า ในราคา 250 บาท(ใส่ได้ทั้งวัน) ทั้งนี้ผู้มาเที่ยวงานต้องนำบัตรประชาชนมา เพื่อแสดงตัวพร้อมบัตรประชาชนที่จุดคัดกรอง
