Facebook :Travel @ Manager

หากพูดถึง “จังหวัดตาก” หลายคนคงจะนึกถึงน้ำตกทีลอซู น้ำตกพาเจริญ เขื่อนภูมิพล ตลาดริมเมย และวัดวาอารามมากมาย แต่ที่นี่ใน อ.แม่สอด ยังมี “Retro Elephant Camp Puter” ที่เป็นสถานที่ที่เหมาะกับคนที่ชื่นชอบ “ช้าง” และอยากมาลองสัมผัสวิถีชีวิตของช้างอย่างใกล้ชิดซ่อนตัวอยู่ด้วย
“Retro Elephant Camp Puter” หรือ “เรโทรแคมป์ช้างบ้านปูเต้อ” ตั้งอยู่ที่บ้านปูเต้อ ต.แม่กุ อ.แม่สอด มีนายอดิศร พรไพรสณฑ์ หรือ “ตะนุ” วัย 26 ปี เป็นผู้ริเริ่มขึ้นมาได้ประมาณ 9 เดือน เขาเล่าว่า “แต่ก่อนในสมัยรุ่นทวดก็จะให้ช้างทำงานลากไม้ แต่พอมาสมัยนี้ไม่มีไม้ให้ลากแล้ว ก็เลยเริ่มเปลี่ยนให้ช้างไปทำงานที่ภูเก็ตบ้าง กระบี่บ้าง ตัวเรารู้สึกว่าหลายๆ อย่างทั้งอาหารการกินความเป็นอยู่มันไม่ใช่บ้านเรา จึงพาช้างกลับบ้านมาทำที่บ้านเราเองดีกว่า โดยที่นี่มีช้างทั้งหมด 6 เชือก ส่วนช้างคู่ใจเราคือ พังมะลิ อายุ 5 ขวบ”

นอกจากพังมะลิที่เป็นดาวเด่นสุดน่ารักของที่นี่แล้ว นักท่องเที่ยวหลายคนก็มักจะถูกใจกับความขี้เล่นสุดทะเล่นของ “น้องหล่อแอ้” หรือชื่อไทยคือ “น้องน่ารัก” ช้างพังอายุ 6 ปี ที่เป็นบัดดี้สุดซี้กับ “ควาญช้างตะวัน” วัย 17 ปี เขาได้เล่าว่า “ได้เลี้ยงและสอนน้องหล่อแอ้มาตั้งแต่ที่เขาเกิดมา พอใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตลอดเขาก็จะตามเราเอง และยิ่งช่วงนี้มีไฟป่า เรากับช้างก็จะอยู่ด้วยกันตลอด แต่ก็จะมีพาเขาเข้าไปในป่าบ้าง”

สำหรับเรื่องการสื่อสารกับช้างที่นี่จะใช้ภาษากะเหรี่ยงเป็นหลัก ซึ่งภาษาพวกนี้พ่อแม่ของควาญช้างจะเป็นคนสอนสืบทอดกันเป็นรุ่นๆ เช่น “ฉุคี” แปลว่า “ถอยหลัง”, “ฮอ” แปลว่า “หยุด”, “บนมือ” แปลว่า “ยกงวง” แล้วพอช้างยกงวงแล้วควาญช้างพูดว่า “บ๊ายบายๆ” ช้างก็จะกระดิกที่ปลายงวงเหมือนกำลังบ๊ายบายนั่นเอง
แต่ก็จะมีบ้างคำที่เป็นภาษาไทยปนกันไปบ้าง เช่น “สวัสดีจ้า” ช้างจะยกงวงเหมือนคำสั่งบนมือ แล้วเปล่งเสียงออกมาแปร๋นยาวๆ คล้ายกับจะพยายามพูดว่าจ้า หรือคำสั่งว่า “จุ้บ" ก็จะแปลว่า “ให้เอางวงจุ้บ” ซึ่งอยากจะให้จุ้บตรงไหนก็ยื่นส่วนนั่นไปให้ช้าง ช้างก็จะเอาปลายงวงมาสัมผัสแล้วเหมือนดูดลมเข้าไปจนเกิดเสียงจุ้บ

เมื่อมาถึงที่บ้านปูเต้อแล้วแนะนำให้จอดรถไว้ที่วัดบ้านปูเต้อ เพราะด้านในที่จอดรถไม่เพียงพอ แล้วจึง “นั่งรถอีแต๊ก” ของคนในชุมชนสัมผัสบรรยากาศชาวบ้านเข้ามาที่แคมป์ช้าง เมื่อมาถึงแล้วจะเริ่มกิจกรรมแรกคือ “การให้อาหารช้าง” เพื่อเป็นการทำความคุ้นเคยกับช้างก่อน

และหลังจากที่ให้อาหารช้างไปแล้ว เราต้องเรียนรู้การ “ตำสมุนไพรให้ช้างกิน” เพื่อช่วยในเรื่องระบบการย่อยอาหาร แก้ท้องอืดให้เขาด้วย เพราะช้างเป็นสัตว์ที่กินเยอะและกินตลอดเวลา โดยการนำข้าวสาร บอระเพ็ด และเกลือมาตำในที่ตำข้าวแบบโบราณ คนหนึ่งใช้ขาเหยียบไม้ตำ ส่วนอีกคนใช้ไม้ช่วยคลุกเคล้าส่วนผสม เมื่อเริ่มเข้ากันดีแล้วจึงเติมมะขามและกล้วยเข้าไปเพิ่มวิตามินได้เป็นอย่างดี


วิธีให้ช้างกินเราจะทำการปั้นสมุนไพรให้เป็นลูกกลมๆ ประมาณฝ่ามือ แล้วป้อนเข้าทางปากช้างโดยตรงเลย โดยให้กิน 3 ครั้งต่ออาทิตย์ เรียกว่าเป็นหนึ่งกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบมากเพราะได้ดูแลช้างอย่างใกล้ชิดจริงๆ

ต่อมาควาญช้างจะให้ช้างเดินเอางวงจับหางเหมือนจูงกันเข้าไปตามทางเพื่อไป “ทำสปาโคลน” หรือก็คือพาช้างเข้าไปนอนเล่นบ่อน้ำโคลนที่เป็นบ่อขุดขึ้นมานั่นเอง โดยเราสามารถลงไปช่วยเอาโคลนถูตัวช้างได้ แต่อย่างน้องหล่อแอ้คงไม่ต้องช่วย เพราะเมื่อลงไปถึงบ่อโคลนก็ทิ้งตัวลงนอนเกลือกกลิ้งโชว์ความน่ารักขี้เล่นให้ทุกคนได้ยิ้มกริ่มทันที



หลังจากนั้นจะพาช้างกลับแคมป์ ซึ่งที่นี่จะไม่มีการให้คนขึ้นไปนั่งขี่บนหลังช้าง แต่จะให้ทุกคนเดินไปพร้อมๆ กับช้างแทน เมื่อถึงแล้วก็จะเป็นกิจกรรม “อาบน้ำช้าง” เพื่อล้างโคลนที่เลอะเทอะจากการเล่นสนุกมา เราก็สามารถล้างตัวไปพร้อมๆ กับช้างได้เลย

ซึ่งหากใครแวะเวียนเข้ามาก็จะได้สัมผัสกิจกรรมเหล่านี้ผลัดเปลี่ยนไปตามวงจรชีวิตของช้าง อาจจะไม่ได้เห็นทุกกิจกรรม แต่ถ้าอยากสัมผัสวิถีชีวิตของช้างอย่างเต็มๆ แนะนำให้ลองพักค้างคืนที่นี่ โดยจะมีที่ให้นอนเต๊นท์สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติจริงๆ ตื่นเช้ามาก็ได้ลองกินอาหารพื้นบ้าน และยังมีกิจกรรมเก็บขี้ช้าง ปลูกหญ้าและทำโป่งให้ช้างอีกด้วย เรียกว่าเป็นสวรรค์ของคนรักช้างจริงๆ
“เรโทรแคมป์ช้างบ้านปูเต้อ” ตั้งอยู่บ้านปูเต้อ ต.แม่กุ อ.แม่สอด จ.ตาก สนใจสอบถามรายละเอียดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โทร. 09-3286-4291 หรือที่ facebook : Retro Elephant Camp Puter
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
หากพูดถึง “จังหวัดตาก” หลายคนคงจะนึกถึงน้ำตกทีลอซู น้ำตกพาเจริญ เขื่อนภูมิพล ตลาดริมเมย และวัดวาอารามมากมาย แต่ที่นี่ใน อ.แม่สอด ยังมี “Retro Elephant Camp Puter” ที่เป็นสถานที่ที่เหมาะกับคนที่ชื่นชอบ “ช้าง” และอยากมาลองสัมผัสวิถีชีวิตของช้างอย่างใกล้ชิดซ่อนตัวอยู่ด้วย
“Retro Elephant Camp Puter” หรือ “เรโทรแคมป์ช้างบ้านปูเต้อ” ตั้งอยู่ที่บ้านปูเต้อ ต.แม่กุ อ.แม่สอด มีนายอดิศร พรไพรสณฑ์ หรือ “ตะนุ” วัย 26 ปี เป็นผู้ริเริ่มขึ้นมาได้ประมาณ 9 เดือน เขาเล่าว่า “แต่ก่อนในสมัยรุ่นทวดก็จะให้ช้างทำงานลากไม้ แต่พอมาสมัยนี้ไม่มีไม้ให้ลากแล้ว ก็เลยเริ่มเปลี่ยนให้ช้างไปทำงานที่ภูเก็ตบ้าง กระบี่บ้าง ตัวเรารู้สึกว่าหลายๆ อย่างทั้งอาหารการกินความเป็นอยู่มันไม่ใช่บ้านเรา จึงพาช้างกลับบ้านมาทำที่บ้านเราเองดีกว่า โดยที่นี่มีช้างทั้งหมด 6 เชือก ส่วนช้างคู่ใจเราคือ พังมะลิ อายุ 5 ขวบ”
นอกจากพังมะลิที่เป็นดาวเด่นสุดน่ารักของที่นี่แล้ว นักท่องเที่ยวหลายคนก็มักจะถูกใจกับความขี้เล่นสุดทะเล่นของ “น้องหล่อแอ้” หรือชื่อไทยคือ “น้องน่ารัก” ช้างพังอายุ 6 ปี ที่เป็นบัดดี้สุดซี้กับ “ควาญช้างตะวัน” วัย 17 ปี เขาได้เล่าว่า “ได้เลี้ยงและสอนน้องหล่อแอ้มาตั้งแต่ที่เขาเกิดมา พอใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตลอดเขาก็จะตามเราเอง และยิ่งช่วงนี้มีไฟป่า เรากับช้างก็จะอยู่ด้วยกันตลอด แต่ก็จะมีพาเขาเข้าไปในป่าบ้าง”
สำหรับเรื่องการสื่อสารกับช้างที่นี่จะใช้ภาษากะเหรี่ยงเป็นหลัก ซึ่งภาษาพวกนี้พ่อแม่ของควาญช้างจะเป็นคนสอนสืบทอดกันเป็นรุ่นๆ เช่น “ฉุคี” แปลว่า “ถอยหลัง”, “ฮอ” แปลว่า “หยุด”, “บนมือ” แปลว่า “ยกงวง” แล้วพอช้างยกงวงแล้วควาญช้างพูดว่า “บ๊ายบายๆ” ช้างก็จะกระดิกที่ปลายงวงเหมือนกำลังบ๊ายบายนั่นเอง
แต่ก็จะมีบ้างคำที่เป็นภาษาไทยปนกันไปบ้าง เช่น “สวัสดีจ้า” ช้างจะยกงวงเหมือนคำสั่งบนมือ แล้วเปล่งเสียงออกมาแปร๋นยาวๆ คล้ายกับจะพยายามพูดว่าจ้า หรือคำสั่งว่า “จุ้บ" ก็จะแปลว่า “ให้เอางวงจุ้บ” ซึ่งอยากจะให้จุ้บตรงไหนก็ยื่นส่วนนั่นไปให้ช้าง ช้างก็จะเอาปลายงวงมาสัมผัสแล้วเหมือนดูดลมเข้าไปจนเกิดเสียงจุ้บ
เมื่อมาถึงที่บ้านปูเต้อแล้วแนะนำให้จอดรถไว้ที่วัดบ้านปูเต้อ เพราะด้านในที่จอดรถไม่เพียงพอ แล้วจึง “นั่งรถอีแต๊ก” ของคนในชุมชนสัมผัสบรรยากาศชาวบ้านเข้ามาที่แคมป์ช้าง เมื่อมาถึงแล้วจะเริ่มกิจกรรมแรกคือ “การให้อาหารช้าง” เพื่อเป็นการทำความคุ้นเคยกับช้างก่อน
และหลังจากที่ให้อาหารช้างไปแล้ว เราต้องเรียนรู้การ “ตำสมุนไพรให้ช้างกิน” เพื่อช่วยในเรื่องระบบการย่อยอาหาร แก้ท้องอืดให้เขาด้วย เพราะช้างเป็นสัตว์ที่กินเยอะและกินตลอดเวลา โดยการนำข้าวสาร บอระเพ็ด และเกลือมาตำในที่ตำข้าวแบบโบราณ คนหนึ่งใช้ขาเหยียบไม้ตำ ส่วนอีกคนใช้ไม้ช่วยคลุกเคล้าส่วนผสม เมื่อเริ่มเข้ากันดีแล้วจึงเติมมะขามและกล้วยเข้าไปเพิ่มวิตามินได้เป็นอย่างดี
วิธีให้ช้างกินเราจะทำการปั้นสมุนไพรให้เป็นลูกกลมๆ ประมาณฝ่ามือ แล้วป้อนเข้าทางปากช้างโดยตรงเลย โดยให้กิน 3 ครั้งต่ออาทิตย์ เรียกว่าเป็นหนึ่งกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบมากเพราะได้ดูแลช้างอย่างใกล้ชิดจริงๆ
ต่อมาควาญช้างจะให้ช้างเดินเอางวงจับหางเหมือนจูงกันเข้าไปตามทางเพื่อไป “ทำสปาโคลน” หรือก็คือพาช้างเข้าไปนอนเล่นบ่อน้ำโคลนที่เป็นบ่อขุดขึ้นมานั่นเอง โดยเราสามารถลงไปช่วยเอาโคลนถูตัวช้างได้ แต่อย่างน้องหล่อแอ้คงไม่ต้องช่วย เพราะเมื่อลงไปถึงบ่อโคลนก็ทิ้งตัวลงนอนเกลือกกลิ้งโชว์ความน่ารักขี้เล่นให้ทุกคนได้ยิ้มกริ่มทันที
หลังจากนั้นจะพาช้างกลับแคมป์ ซึ่งที่นี่จะไม่มีการให้คนขึ้นไปนั่งขี่บนหลังช้าง แต่จะให้ทุกคนเดินไปพร้อมๆ กับช้างแทน เมื่อถึงแล้วก็จะเป็นกิจกรรม “อาบน้ำช้าง” เพื่อล้างโคลนที่เลอะเทอะจากการเล่นสนุกมา เราก็สามารถล้างตัวไปพร้อมๆ กับช้างได้เลย
ซึ่งหากใครแวะเวียนเข้ามาก็จะได้สัมผัสกิจกรรมเหล่านี้ผลัดเปลี่ยนไปตามวงจรชีวิตของช้าง อาจจะไม่ได้เห็นทุกกิจกรรม แต่ถ้าอยากสัมผัสวิถีชีวิตของช้างอย่างเต็มๆ แนะนำให้ลองพักค้างคืนที่นี่ โดยจะมีที่ให้นอนเต๊นท์สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติจริงๆ ตื่นเช้ามาก็ได้ลองกินอาหารพื้นบ้าน และยังมีกิจกรรมเก็บขี้ช้าง ปลูกหญ้าและทำโป่งให้ช้างอีกด้วย เรียกว่าเป็นสวรรค์ของคนรักช้างจริงๆ
“เรโทรแคมป์ช้างบ้านปูเต้อ” ตั้งอยู่บ้านปูเต้อ ต.แม่กุ อ.แม่สอด จ.ตาก สนใจสอบถามรายละเอียดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โทร. 09-3286-4291 หรือที่ facebook : Retro Elephant Camp Puter
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager