โดย : ปิ่น บุตรี(pinn109@hotmail.com)

องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น ชวนเปิดมุมมองใหม่ไปกับ 5 อันซีน ฮอกไกโด สถานที่ท่อง
เที่ยวน่าสนใจในมุมมองใหม่ของญี่ปุ่นสำหรับคนไทย
“ฮอกไกโด”(Hokkaido) คือ 1 ใน 4 เกาะหลักของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ทางเหนือสุดของญี่ปุ่น เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของประเทศญี่ปุ่น มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ และยังมีฐานะเป็น 1 ใน 47 จังหวัดของญี่ปุ่น

ฮอกไกโดเป็นเกาะที่มีฤดูหนาวยาวนาน บนภูเขาหิมะจะเริ่มตกตั้งแต่เดือนกันยายน ส่วนในเมืองจะเริ่มตกตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนยาวไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์หรือมีนาคม ก่อนจะเริ่มละลายในเดือนเมษายนและย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ
ในช่วงฤดูหนาวฮอกไกโดจะมีแต่สีขาวโพลนของหิมะปกคลุมไปทั่วทั้งเกาะ เป็นเสน่ห์ที่แสนจะเหน็บหนาว แต่ก็ช่วยสร้างทิวทัศน์ของเมืองให้สวยงามตรึงใจยิ่งนัก นักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยจากทั่วทุกมุมโลกต่างเดินทางมาเยือนฮอกไกโดในช่วงฤดูหนาวนี้กันเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงชาวไทยด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ฮอกไกโดยังมีลานสกีเป็นที่รู้จักระดับโลกเพราะมีหิมะแบบเพาเดอร์สโนว์คุณภาพดีเลิศและยังมีเทศกาลหิมะที่ยิ่งใหญ่จัดขึ้นในทุกๆ ปี และช่วงฤดูร้อนอากาศเย็นสบาย เหมาะแก่การชมทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงามยิ่งใหญ่ พร้อมมีทุ่งดอกไม้หลากหลาย เช่น ทุ่งลาเวนเดอร์ ทุ่งดอกทานตะวัน ทุ่งดอกพิงค์มอส เป็นต้น

ฮอกไกโดมีศูนย์กลางและเมืองหลวงคือ “เมืองซัปโปโร” ที่อยู่ทางตอนกลางของเกาะ ทุกๆปีในช่วงฤดูหนาวที่มีหิมะตกหนาแน่น เมืองซับโปโรจะมีการจัด “งานเทศกาลหิมะซัปโปโร” (Sapporo Snow Festival) ขึ้นที่สวนสาธารณะโอโดริ กลางเมืองซัปโปโร ซึ่งถือเป็นงานเทศกาลหิมะชื่อก้องโลก ที่จัดต่อเนื่องกันมาร่วมเกือบ 70 ปีแล้ว

สำหรับปีนี้งานเทศกาลหิมะซัปโปโร ได้จัดผ่านพ้นไปเมื่อวันที่ 4-8 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นที่น่ายินดีว่า ทีมแกะสลักหิมะจากไทย ได้ไปประกาศศักดาในเทศกาลหิมะเมืองซับโปโรอีกครั้ง หลังชูแนวคิด“ไก่ชน”สัตว์เลี้ยงที่ผูกพันกับสังคมไทยมาช้านาน นำมาแกะสลักจนเข้าตากรรมการ คว้าแชมป์มาครองอีกหนึ่งสมัย
นอกจากเมืองหลวงซับโปโรแล้ว ฮอกไกโดยังมีเมืองท่องเที่ยวเลื่องชื่ออื่นๆอีก อาทิ เมืองโอตารุ เมืองชิโตเสะ เมืองฮาโคดาเตะ เมืองอะซาฮิคาวะ เป็นต้น

อย่างไรก็ดีสำหรับฮอกไกโดแล้ว ไม่ว่าจะไปเยือนสักกี่ครั้ง ดินแดนแห่งนี้ก็ยังมีมีมนต์และอะไรใหม่ๆ ให้ค้นพบอยู่เสมอ ซึ่งล่าสุดทาง“องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น”(JNTO) ได้ชวนเปิดมุมมองใหม่ไปกับ 5 อันซีน ฮอกไกโด สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจในมุมมองใหม่ของญี่ปุ่นสำหรับคนไทย
สำหรับ 5 สถานที่อันซีนในฮอกไกโดนั้น ได้แก่
วัคคะไน

วัคคะไน (Wakkanai) คือเมืองที่อยู่ตอนเหนือสุดของฮอกไกโด (Hokkaido) หากได้มาเยือนที่นี่สิ่งที่ไม่ควรพลาดโดยเด็ดขาดเลยก็คือการถ่ายรูปที่ระลึกกับอนุสาวรีย์ที่แหลมโซยะ (Cape Soya) ซึ่งเป็นจุดที่อยู่เหนือสุดในประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง
ส่วนอีกหนึ่งสถานที่แนะนำสำหรับเก็บภาพสวย ๆ ก็คือ สวนนกป่าโอนุมะ (Onuma Bird House) ที่จะมีหงส์บินมาเป็นจำนวนมากในฤดูใบไม้ผลิ

สำหรับย่านใกล้ ๆ กับตัวเมืองก็จะมี แหลมโนชัปปุ (Cape Noshappu) ที่โดดเด่นด้วยวิวพระอาทิตย์ตกดินแสนสวย และ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโนชัปปุ (Noshappu Aquarium) ที่จัดแสดงปลาทางตอนเหนือ และใกล้กับสถานีรถไฟ JR วัคคะไน (JR Wakkanai Station) ก็มี ตลาดฟุคุโค (Fukuko Market) ที่นอกจากจะมีอาหารทะเลสดใหม่เพิ่งขึ้นจากทะเลให้ได้เอร็ดอร่อยกันอย่างแสนสะดวกสบายแล้ว ก็ยังมีออนเซ็นให้ได้แช่ผ่อนคลายด้วยเช่นกัน

ส่วนถ้าหากไปเยือนที่นี่ในฤดูใบไม้ผลิช่วงประมาณเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมก็ยังเป็นฤดูอร่อยของปูขน ปลาฮกเกะ (Hokke) และปลานิชิน (Nishin) อีกด้วย
เกาะริชิริ - เกาะเระบุน
เกาะริชิริ (Rishiri Island) และเกาะเระบุน (Rebun Island) เป็นเกาะที่จะทำให้เราได้เต็มอิ่มกับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ทั้งภูเขาและทะเล สามารถเดินทางไปได้แสนสะดวกโดยเรือเฟอร์รีจากวัคคะไน (Wakkanai) ทั้งสองเกาะมีบริการรถบัสนำเที่ยวซึ่งสามารถแวะเวียนไปตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญต่าง ๆ ได้ภายในครึ่งวัน จึงสามารถเที่ยวได้ทั่วทั้ง 2 เกาะภายในเวลา 1 วัน

สำหรับฤดูที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวที่นี่มากที่สุดก็คือช่วงเดือนมิถุนายนจนถึงเดือนตุลาคมซึ่งเป็นช่วงที่พืชพรรณเขตอัลไพน์ผลิบาน และเป็นช่วงที่จะแน่นขนัดไปด้วยนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
โดยเกาะริชิริ (Rishiri Island) มีไฮไลท์ที่น่าสนใจ ได้แก่ ภูเขาริชิริ (Mt. Rishiri) 1ใน 100 ภูเขาที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น ด้วยรูปทรงโค้งมนงดงามคล้ายกับภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji) ทำให้ภูเขาลูกนี้ได้รับการขนานนามว่า “ริชิริฟูจิ (Rishiri Fuji)” ซึ่งแปลว่าภูเขาฟูจิแห่งริชิรินั่นเอง

นอกจากนี้เกาะริชิริ (Rishiri Island) ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งตระหง่านของภูเขาสวยลูกนี้ก็เป็นเกาะที่สวยงามโดดเด่นด้วยป่าดึกดำบรรพ์และห้วยหนองคลองบึงมากมายเหมาะกับการเดินเล่นท่ามกลางป่าเขาอาบสูดกลิ่นอายจากธรรมชาติเพื่อผ่อนคลายร่างกายและจิตใจเป็นอย่างยิ่ง
ขณะที่สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมบนเกาะแห่งนี้ ก็ได้แก่ บึงฮิเมะนุมะ (Himenuma Pond) ที่งดงามด้วยภาพของภูเขาริชิริสะท้อนลงบนผิวน้ำนิ่งสงบ, บึงโอะตะโทะมะรินุมะ (Otatomarinuma Pond) ซึ่งเราจะได้เห็นภาพทิวทัศน์เดียวกับที่เห็นบนกล่องขนมชื่อดังของฮอกไกโด และสวนสาธารณะเซ็มโปชิมิซากิ (Senposhimisaki Park) ซึ่งมีแมวน้ำป่าอาศัยอยู่นั้น ก็จะได้เห็นทิวทัศน์ที่งดงามด้วยน้ำทะเลใสสะอาดของฮอกไกโด

สำหรับเมนูอร่อยประจำท้องถิ่นก็ได้แก่ อุนิเมชิด้ง (Unimeshi-don) หรือข้าวหน้าไข่หอยเม่น และ ยากิโชยุราเม็ง (Yaki-Shoyu Ramen) และเครื่องดื่มมิรุพิซุ (Mirupisu) ของริชิริ
ส่วน เกาะเระบุน (Rebun Island) ที่ตั้งอยู่ข้าง ๆ เกาะริชิริ (Rishiri Island) เป็นเกาะที่มีดอกไม้งามและธรรมชาติอุดมสมบูรณ์โดดเด่นด้วยลักษณะทางนิเวศวิทยาสุดแปลกที่มีพืชพรรณแบบอัลไพน์ผลิดอกอยู่ตามชายฝั่งทะเล โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงที่มีมากที่สุดคือช่วงฤดูร้อนตั้งแต่เดือนมิถุนายนจนถึงเดือนสิงหาคมนั้น ที่นี่จะสะพรั่งไปด้วยดอกไม้กว่า 300 ชนิดเลยทีเดียว นับว่า เหมาะกับการเทรกกิ้งหรือเดินป่าสำหรับผู้ที่หลงใหลในความงามของดอกไม้เป็นอย่างยิ่ง

สำหรับแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของที่นี่ได้แก่ แหลมซุโคะตง (Cape Sukoton) ซึ่งอยู่เหนือสุดของญี่ปุ่นและสามารถมองเห็นทิวทัศน์แห่งท้องทะเลที่งดงาม และ โมะโมะอิวะ (Momoiwa) เนินหินขนาดยักษ์ที่เกิดจากการฟอร์มตัวของหินหนืดหรือแม็กมา (Magma) จากใต้ท้องทะเลลึก

ด้านอาหารขึ้นชื่อคือ อุนิด้ง (Unidon) หรือข้าวหน้าไข่หอยเม่น และ ฮกเกะโนะจังจังยากิ (Hokke no Chanchanyaki) หรือปลาฮกเกะย่างสไตล์เกาะเระบุนนั่นเอง
เกาะเทะอุริ - เกาะยะงิชิริ
เกาะเทะอุริ (Teuri Island) และ เกาะยะงิชิริ (Yagishiri Island) สามารถเดินทางไปได้โดยข้ามเรือเฟอร์รีจากเมืองฮะโบะโระ (Haboro) ในฮอกไกโดตอนเหนือ ฮะโบะโระเป็นเมืองที่ไม่มีสถานีรถไฟ แนะนำให้นั่งรถบัสไปจากซัปโปโร (Sapporo) จะสะดวกกว่า

ทั้งเกาะเทะอุริ และ เกาะยะงิชิริ เป็นเกาะที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก มีระยะทางรอบเกาะเพียง 12 กิโลเมตร แค่เช่าจักรยานหรือมอเตอร์ไซค์ก็เพียงพอแก่การเดินทางท่องเที่ยวบนเกาะแล้ว การเดินทางระหว่าง 2 เกาะนี้สามารถข้ามเรือเฟอร์รีไปโดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที สำหรับโรงแรมที่พักรวมถึงมินชูกุ (Minshuku) หรือโฮมสเตย์แบบญี่ปุ่นนั้น ส่วนมากมักปิดทำการในช่วงฤดูใบไม้ร่วงจนถึงฤดูหนาว จึงควรตรวจสอบข้อมูลและจองที่พักล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง
สำหรับเกาะเทะอุริ (Teuri Island) เป็นเกาะที่มีชื่อเสียงโดดเด่นในฐานะแหล่งวางไข่แหล่งใหญ่ของนกทะเล ในช่วงเดือนเมษายนจนถึงเดือนสิงหาคมซึ่งเป็นฤดูวางไข่นั้น จะสามารถดูนกทะเลได้อย่างชัดเจนจากจุดชมนกทะเล (Seabird Observatory) บนหน้าผา และจากจุดชมวิวเนินหินอะกะอิวะ (Akaiwa Rock) ซึ่งสูงตระหง่านเหนือผิวน้ำขึ้นไปถึง 48 เมตรได้อย่างสวยงามจับตา

นอกจากนี้บนเกาะยังมีเส้นทางเดินเท้า “Footpath” ด้วย จึงเหมาะกับการเดินป่าพร้อมกับเฝ้าดูนกได้อย่างสนุกสนานเพลิดเพลิน และที่จะพลาดไม่ได้เลยก็คืออาหารทะเลอร่อยสดใหม่ที่เพิ่งขึ้นจากทะเลอย่างเช่น ไข่หอยเม่น และ เป๋าฮือ เป็นต้น ซึ่งในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมก็จะมีการจัดงานเทศกาลไข่หอยเม่นแห่งเทะอุริ (Teuri Uni Festival) อีกด้วย

ส่วนเกาะยะงิชิริ (Yagishiri Island) เป็นเกาะที่ปกคลุมด้วยป่าลึกราว 30% ของพื้นที่ และมีทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ จึงเป็นสถานที่ ๆ เหมาะกับการมาพักผ่อนเที่ยวชมธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ในบรรยากาศแสนสบาย โดยจุดที่สามารถเต็มอิ่มกับมนต์เสน่ห์แห่งป่าเขาของเกาะยะงิชิริแห่งนี้ก็คือ หุบเขาไนติงเกล (Nightingale Valley) ซึ่งเป็นป่ารกทึบและเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของนกป่าจำนวนมาก และ สวนสาธารณะฮิบะริงะโอกะ (Hibarigaoka Park) ที่เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับการเดินเล่นท่ามกลางป่าเขาอาบสูดกลิ่นอายจากธรรมชาติเพื่อผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ

ขณะที่ทุ่งหญ้ากว้างโล่งแสนปลอดโปร่งของที่นี่จะเป็นฟาร์มแกะพันธุ์หรูอย่างซัฟฟอล์ค (Suffolk) ซึ่งเลี้ยงแบบปล่อยอิสระ และสามารถลองลิ้มชิมรสเนื้อแกะพันธุ์นี้ได้ตามร้านอาหารบนเกาะ ในช่วงต้นเดือนสิงหาคมจะมีการจัดงานเทศกาลแกะแห่งยะงิชิริ (Yagishiri Sheep Festival) ซึ่งเป็นงานที่ครึกครื้นและคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่มาเอร็ดอร่อยไปกับเนื้อแกะและอาหารทะเลสดใหม่ย่างมาร้อนๆ บนเตาถ่าน
และนี่ก็คือมนต์เสน่ห์ของอันซีน ฮอกไกโด สถานที่ท่องเที่ยวในมุมมองใหม่ๆของญี่ปุ่น ที่ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของนักท่องเที่ยวที่น่าสนใจไม่น้อยเลย
**********************************************
หมายเหตุ : ข้อมูลส่วนหนึ่งจาก “องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น”(JNTO)
******************************************
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น ชวนเปิดมุมมองใหม่ไปกับ 5 อันซีน ฮอกไกโด สถานที่ท่อง
เที่ยวน่าสนใจในมุมมองใหม่ของญี่ปุ่นสำหรับคนไทย
“ฮอกไกโด”(Hokkaido) คือ 1 ใน 4 เกาะหลักของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ทางเหนือสุดของญี่ปุ่น เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของประเทศญี่ปุ่น มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ และยังมีฐานะเป็น 1 ใน 47 จังหวัดของญี่ปุ่น
ฮอกไกโดเป็นเกาะที่มีฤดูหนาวยาวนาน บนภูเขาหิมะจะเริ่มตกตั้งแต่เดือนกันยายน ส่วนในเมืองจะเริ่มตกตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนยาวไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์หรือมีนาคม ก่อนจะเริ่มละลายในเดือนเมษายนและย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ
ในช่วงฤดูหนาวฮอกไกโดจะมีแต่สีขาวโพลนของหิมะปกคลุมไปทั่วทั้งเกาะ เป็นเสน่ห์ที่แสนจะเหน็บหนาว แต่ก็ช่วยสร้างทิวทัศน์ของเมืองให้สวยงามตรึงใจยิ่งนัก นักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยจากทั่วทุกมุมโลกต่างเดินทางมาเยือนฮอกไกโดในช่วงฤดูหนาวนี้กันเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงชาวไทยด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ฮอกไกโดยังมีลานสกีเป็นที่รู้จักระดับโลกเพราะมีหิมะแบบเพาเดอร์สโนว์คุณภาพดีเลิศและยังมีเทศกาลหิมะที่ยิ่งใหญ่จัดขึ้นในทุกๆ ปี และช่วงฤดูร้อนอากาศเย็นสบาย เหมาะแก่การชมทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงามยิ่งใหญ่ พร้อมมีทุ่งดอกไม้หลากหลาย เช่น ทุ่งลาเวนเดอร์ ทุ่งดอกทานตะวัน ทุ่งดอกพิงค์มอส เป็นต้น
ฮอกไกโดมีศูนย์กลางและเมืองหลวงคือ “เมืองซัปโปโร” ที่อยู่ทางตอนกลางของเกาะ ทุกๆปีในช่วงฤดูหนาวที่มีหิมะตกหนาแน่น เมืองซับโปโรจะมีการจัด “งานเทศกาลหิมะซัปโปโร” (Sapporo Snow Festival) ขึ้นที่สวนสาธารณะโอโดริ กลางเมืองซัปโปโร ซึ่งถือเป็นงานเทศกาลหิมะชื่อก้องโลก ที่จัดต่อเนื่องกันมาร่วมเกือบ 70 ปีแล้ว
สำหรับปีนี้งานเทศกาลหิมะซัปโปโร ได้จัดผ่านพ้นไปเมื่อวันที่ 4-8 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นที่น่ายินดีว่า ทีมแกะสลักหิมะจากไทย ได้ไปประกาศศักดาในเทศกาลหิมะเมืองซับโปโรอีกครั้ง หลังชูแนวคิด“ไก่ชน”สัตว์เลี้ยงที่ผูกพันกับสังคมไทยมาช้านาน นำมาแกะสลักจนเข้าตากรรมการ คว้าแชมป์มาครองอีกหนึ่งสมัย
นอกจากเมืองหลวงซับโปโรแล้ว ฮอกไกโดยังมีเมืองท่องเที่ยวเลื่องชื่ออื่นๆอีก อาทิ เมืองโอตารุ เมืองชิโตเสะ เมืองฮาโคดาเตะ เมืองอะซาฮิคาวะ เป็นต้น
อย่างไรก็ดีสำหรับฮอกไกโดแล้ว ไม่ว่าจะไปเยือนสักกี่ครั้ง ดินแดนแห่งนี้ก็ยังมีมีมนต์และอะไรใหม่ๆ ให้ค้นพบอยู่เสมอ ซึ่งล่าสุดทาง“องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น”(JNTO) ได้ชวนเปิดมุมมองใหม่ไปกับ 5 อันซีน ฮอกไกโด สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจในมุมมองใหม่ของญี่ปุ่นสำหรับคนไทย
สำหรับ 5 สถานที่อันซีนในฮอกไกโดนั้น ได้แก่
วัคคะไน
วัคคะไน (Wakkanai) คือเมืองที่อยู่ตอนเหนือสุดของฮอกไกโด (Hokkaido) หากได้มาเยือนที่นี่สิ่งที่ไม่ควรพลาดโดยเด็ดขาดเลยก็คือการถ่ายรูปที่ระลึกกับอนุสาวรีย์ที่แหลมโซยะ (Cape Soya) ซึ่งเป็นจุดที่อยู่เหนือสุดในประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง
ส่วนอีกหนึ่งสถานที่แนะนำสำหรับเก็บภาพสวย ๆ ก็คือ สวนนกป่าโอนุมะ (Onuma Bird House) ที่จะมีหงส์บินมาเป็นจำนวนมากในฤดูใบไม้ผลิ
สำหรับย่านใกล้ ๆ กับตัวเมืองก็จะมี แหลมโนชัปปุ (Cape Noshappu) ที่โดดเด่นด้วยวิวพระอาทิตย์ตกดินแสนสวย และ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโนชัปปุ (Noshappu Aquarium) ที่จัดแสดงปลาทางตอนเหนือ และใกล้กับสถานีรถไฟ JR วัคคะไน (JR Wakkanai Station) ก็มี ตลาดฟุคุโค (Fukuko Market) ที่นอกจากจะมีอาหารทะเลสดใหม่เพิ่งขึ้นจากทะเลให้ได้เอร็ดอร่อยกันอย่างแสนสะดวกสบายแล้ว ก็ยังมีออนเซ็นให้ได้แช่ผ่อนคลายด้วยเช่นกัน
ส่วนถ้าหากไปเยือนที่นี่ในฤดูใบไม้ผลิช่วงประมาณเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมก็ยังเป็นฤดูอร่อยของปูขน ปลาฮกเกะ (Hokke) และปลานิชิน (Nishin) อีกด้วย
เกาะริชิริ - เกาะเระบุน
เกาะริชิริ (Rishiri Island) และเกาะเระบุน (Rebun Island) เป็นเกาะที่จะทำให้เราได้เต็มอิ่มกับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ทั้งภูเขาและทะเล สามารถเดินทางไปได้แสนสะดวกโดยเรือเฟอร์รีจากวัคคะไน (Wakkanai) ทั้งสองเกาะมีบริการรถบัสนำเที่ยวซึ่งสามารถแวะเวียนไปตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญต่าง ๆ ได้ภายในครึ่งวัน จึงสามารถเที่ยวได้ทั่วทั้ง 2 เกาะภายในเวลา 1 วัน
สำหรับฤดูที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวที่นี่มากที่สุดก็คือช่วงเดือนมิถุนายนจนถึงเดือนตุลาคมซึ่งเป็นช่วงที่พืชพรรณเขตอัลไพน์ผลิบาน และเป็นช่วงที่จะแน่นขนัดไปด้วยนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
โดยเกาะริชิริ (Rishiri Island) มีไฮไลท์ที่น่าสนใจ ได้แก่ ภูเขาริชิริ (Mt. Rishiri) 1ใน 100 ภูเขาที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น ด้วยรูปทรงโค้งมนงดงามคล้ายกับภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji) ทำให้ภูเขาลูกนี้ได้รับการขนานนามว่า “ริชิริฟูจิ (Rishiri Fuji)” ซึ่งแปลว่าภูเขาฟูจิแห่งริชิรินั่นเอง
นอกจากนี้เกาะริชิริ (Rishiri Island) ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งตระหง่านของภูเขาสวยลูกนี้ก็เป็นเกาะที่สวยงามโดดเด่นด้วยป่าดึกดำบรรพ์และห้วยหนองคลองบึงมากมายเหมาะกับการเดินเล่นท่ามกลางป่าเขาอาบสูดกลิ่นอายจากธรรมชาติเพื่อผ่อนคลายร่างกายและจิตใจเป็นอย่างยิ่ง
ขณะที่สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมบนเกาะแห่งนี้ ก็ได้แก่ บึงฮิเมะนุมะ (Himenuma Pond) ที่งดงามด้วยภาพของภูเขาริชิริสะท้อนลงบนผิวน้ำนิ่งสงบ, บึงโอะตะโทะมะรินุมะ (Otatomarinuma Pond) ซึ่งเราจะได้เห็นภาพทิวทัศน์เดียวกับที่เห็นบนกล่องขนมชื่อดังของฮอกไกโด และสวนสาธารณะเซ็มโปชิมิซากิ (Senposhimisaki Park) ซึ่งมีแมวน้ำป่าอาศัยอยู่นั้น ก็จะได้เห็นทิวทัศน์ที่งดงามด้วยน้ำทะเลใสสะอาดของฮอกไกโด
สำหรับเมนูอร่อยประจำท้องถิ่นก็ได้แก่ อุนิเมชิด้ง (Unimeshi-don) หรือข้าวหน้าไข่หอยเม่น และ ยากิโชยุราเม็ง (Yaki-Shoyu Ramen) และเครื่องดื่มมิรุพิซุ (Mirupisu) ของริชิริ
ส่วน เกาะเระบุน (Rebun Island) ที่ตั้งอยู่ข้าง ๆ เกาะริชิริ (Rishiri Island) เป็นเกาะที่มีดอกไม้งามและธรรมชาติอุดมสมบูรณ์โดดเด่นด้วยลักษณะทางนิเวศวิทยาสุดแปลกที่มีพืชพรรณแบบอัลไพน์ผลิดอกอยู่ตามชายฝั่งทะเล โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงที่มีมากที่สุดคือช่วงฤดูร้อนตั้งแต่เดือนมิถุนายนจนถึงเดือนสิงหาคมนั้น ที่นี่จะสะพรั่งไปด้วยดอกไม้กว่า 300 ชนิดเลยทีเดียว นับว่า เหมาะกับการเทรกกิ้งหรือเดินป่าสำหรับผู้ที่หลงใหลในความงามของดอกไม้เป็นอย่างยิ่ง
สำหรับแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของที่นี่ได้แก่ แหลมซุโคะตง (Cape Sukoton) ซึ่งอยู่เหนือสุดของญี่ปุ่นและสามารถมองเห็นทิวทัศน์แห่งท้องทะเลที่งดงาม และ โมะโมะอิวะ (Momoiwa) เนินหินขนาดยักษ์ที่เกิดจากการฟอร์มตัวของหินหนืดหรือแม็กมา (Magma) จากใต้ท้องทะเลลึก
ด้านอาหารขึ้นชื่อคือ อุนิด้ง (Unidon) หรือข้าวหน้าไข่หอยเม่น และ ฮกเกะโนะจังจังยากิ (Hokke no Chanchanyaki) หรือปลาฮกเกะย่างสไตล์เกาะเระบุนนั่นเอง
เกาะเทะอุริ - เกาะยะงิชิริ
เกาะเทะอุริ (Teuri Island) และ เกาะยะงิชิริ (Yagishiri Island) สามารถเดินทางไปได้โดยข้ามเรือเฟอร์รีจากเมืองฮะโบะโระ (Haboro) ในฮอกไกโดตอนเหนือ ฮะโบะโระเป็นเมืองที่ไม่มีสถานีรถไฟ แนะนำให้นั่งรถบัสไปจากซัปโปโร (Sapporo) จะสะดวกกว่า
ทั้งเกาะเทะอุริ และ เกาะยะงิชิริ เป็นเกาะที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก มีระยะทางรอบเกาะเพียง 12 กิโลเมตร แค่เช่าจักรยานหรือมอเตอร์ไซค์ก็เพียงพอแก่การเดินทางท่องเที่ยวบนเกาะแล้ว การเดินทางระหว่าง 2 เกาะนี้สามารถข้ามเรือเฟอร์รีไปโดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที สำหรับโรงแรมที่พักรวมถึงมินชูกุ (Minshuku) หรือโฮมสเตย์แบบญี่ปุ่นนั้น ส่วนมากมักปิดทำการในช่วงฤดูใบไม้ร่วงจนถึงฤดูหนาว จึงควรตรวจสอบข้อมูลและจองที่พักล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง
สำหรับเกาะเทะอุริ (Teuri Island) เป็นเกาะที่มีชื่อเสียงโดดเด่นในฐานะแหล่งวางไข่แหล่งใหญ่ของนกทะเล ในช่วงเดือนเมษายนจนถึงเดือนสิงหาคมซึ่งเป็นฤดูวางไข่นั้น จะสามารถดูนกทะเลได้อย่างชัดเจนจากจุดชมนกทะเล (Seabird Observatory) บนหน้าผา และจากจุดชมวิวเนินหินอะกะอิวะ (Akaiwa Rock) ซึ่งสูงตระหง่านเหนือผิวน้ำขึ้นไปถึง 48 เมตรได้อย่างสวยงามจับตา
นอกจากนี้บนเกาะยังมีเส้นทางเดินเท้า “Footpath” ด้วย จึงเหมาะกับการเดินป่าพร้อมกับเฝ้าดูนกได้อย่างสนุกสนานเพลิดเพลิน และที่จะพลาดไม่ได้เลยก็คืออาหารทะเลอร่อยสดใหม่ที่เพิ่งขึ้นจากทะเลอย่างเช่น ไข่หอยเม่น และ เป๋าฮือ เป็นต้น ซึ่งในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมก็จะมีการจัดงานเทศกาลไข่หอยเม่นแห่งเทะอุริ (Teuri Uni Festival) อีกด้วย
ส่วนเกาะยะงิชิริ (Yagishiri Island) เป็นเกาะที่ปกคลุมด้วยป่าลึกราว 30% ของพื้นที่ และมีทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ จึงเป็นสถานที่ ๆ เหมาะกับการมาพักผ่อนเที่ยวชมธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ในบรรยากาศแสนสบาย โดยจุดที่สามารถเต็มอิ่มกับมนต์เสน่ห์แห่งป่าเขาของเกาะยะงิชิริแห่งนี้ก็คือ หุบเขาไนติงเกล (Nightingale Valley) ซึ่งเป็นป่ารกทึบและเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของนกป่าจำนวนมาก และ สวนสาธารณะฮิบะริงะโอกะ (Hibarigaoka Park) ที่เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับการเดินเล่นท่ามกลางป่าเขาอาบสูดกลิ่นอายจากธรรมชาติเพื่อผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ
ขณะที่ทุ่งหญ้ากว้างโล่งแสนปลอดโปร่งของที่นี่จะเป็นฟาร์มแกะพันธุ์หรูอย่างซัฟฟอล์ค (Suffolk) ซึ่งเลี้ยงแบบปล่อยอิสระ และสามารถลองลิ้มชิมรสเนื้อแกะพันธุ์นี้ได้ตามร้านอาหารบนเกาะ ในช่วงต้นเดือนสิงหาคมจะมีการจัดงานเทศกาลแกะแห่งยะงิชิริ (Yagishiri Sheep Festival) ซึ่งเป็นงานที่ครึกครื้นและคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่มาเอร็ดอร่อยไปกับเนื้อแกะและอาหารทะเลสดใหม่ย่างมาร้อนๆ บนเตาถ่าน
และนี่ก็คือมนต์เสน่ห์ของอันซีน ฮอกไกโด สถานที่ท่องเที่ยวในมุมมองใหม่ๆของญี่ปุ่น ที่ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของนักท่องเที่ยวที่น่าสนใจไม่น้อยเลย
**********************************************
หมายเหตุ : ข้อมูลส่วนหนึ่งจาก “องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น”(JNTO)
******************************************
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager