Facebook :Travel @ Manager

สำหรับคออาหารญี่ปุ่นทั้งหลาย “ตระเวนกิน” เชื่อว่าสิ่งที่ทุกคนคาดหวังจากการไปลิ้มรสอาหารญี่ปุ่น ก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของความสดของวัตถุดิบอย่างพวกปลาดิบต่างๆ รวมถึงอาหารทะเลที่ต้องมีความสดใหม่ และมีรสชาติที่ถูกปากโดนใจ

หากว่าใครคำนึงถึงเรื่องความสดอร่อยของอาหารเป็นสิ่งสำคัญ ขอแนะนำให้มาอิ่มเอมกับอาหารญี่ปุ่นที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสดใหม่ของวัตถุดิบชั้นดี กันที่ร้านนี้ “Ryujin Sushi & Bar” (ริวจิน ซูชิ แอนด์ บาร์) ตั้งอยู่ที่โครงการ The Up พระราม 3 ที่นี่เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีความโดดเด่นในเรื่องการนำเสนออาหารญี่ปุ่นที่เน้นการนำเข้าวัตถุดิบสดใหม่อย่างปลาดิบและอาหารทะเลอื่นๆ ที่มีคุณภาพสูง ส่งตรงมาจากตลาดปลาซึกิจิ ที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะถูกส่งมา 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เรียกว่าเน้นความสดใหม่เป็นหัวใจสำคัญ เพื่อนำมารังสรรค์เป็นเมนูญี่ปุ่นแนวฟิวชั่นสูตรเด็ดที่ทางร้านคิดสูตรขึ้นมาเองโดยเฉพาะ มีการปรับรสชาติให้ถูกลิ้นคนไทย ผ่านการปรุงโดยเชฟมากฝีมือ

อาหารของที่นี่ว่าน่าสนใจชวนกินแล้ว บรรยากาศของที่นี่ก็ชวนนั่งไม่แพ้กัน ทางร้านให้ความใส่ใจในการจัดตกแต่งร้านออกแนวญี่ปุ่นโมเดิร์น จัดสรรพื้นที่โต๊ะนั่งมีบรรยากาศชวนนั่งสบายๆ มีโซนเคาน์เตอร์บาร์ให้เลือกนั่ง ซึ่งจะได้เห็นเชฟปรุงอาหารอย่างใกล้ชิด และสามารถนั่งดื่มเครื่องดื่มหลากหลายที่ทางร้านมีให้บริการแบบครบครัน อาทิ เหล้าบ๊วย เหล้าสาเก ไวน์ วิสกี้ เบียร์ ค็อกเทล อีกทั้งยังมีดนตรีเล่นสดจากนักร้องชื่อดัง นิค เดอะวอยซ์ ให้ฟังอย่างเพลิดเพลินในวันพฤหัส – เสาร์ ตั้งแต่เวลา 19.30 น. เป็นต้นไป

กลับมาที่เรื่องอาหาร ที่นี่มีเมนูญี่ปุ่นที่ชวนชิมหลากหลาย อย่างเมนูเด่นๆ ที่ถ้ามาถึงร้านแล้วแนะนำว่าไม่ควรพลาดสั่งมากินกันก็มี So Fresh Sashimi (3,980 บาท++) เมนูนี้เอาใจสาวกซาชิมิแบบจัดเต็ม ในชามใหญ่ยักษ์อัดแน่นไปด้วยอาหารทะเลและปลาดิบหลายหลากอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ปลาทูน่าโอโทโร่ ชูโทโร่ อากามิ ปลาแซลมอน ปลาฮามาจิ ปลาดิบจะแล่มาแบบชิ้นหนามาอย่างละ 3 ชิ้น ไข่หอยเม่นมาแบบคำโต หอยเชลล์โฮตาเตะไซส์ใหญ่ให้มาแบบ 2 ตัว แล่มาแบบชิ้นหนากำลังดี กุ้งหวานโบตั๋น 2 ตัว ขอบอกเลยว่าซาชิมิทุกอย่างมีความสดจริง กินแล้วเคี้ยวนุ่มลิ้นหวานปาก ช่างดีต่อใจ

กินซาชิมิแล้วมาอร่อยกันต่อกับ Lobster Aubri Butter (1,380 บาท++) เชฟนำกุ้งล็อบสเตอร์ตัวใหญ่ทั้งตัว โดยนำเอาแต่เนื้อกุ้งล็อบสเตอร์มาผัดกับเนยกระเทียมตามสูตรเด็ด แล้วนำกลับมาใส่ในตัวกุ้งล็อบสเตอร์เหมือนเดิม หน้าตาชวนกินมาก คีบชิ้นเนื้อกุ้งล็อบสเตอร์ส่งเข้าปาก เนื้อกุ้งเคี้ยวนุ่มเด้ง ได้รสชาติเนยกระเทียมกลมกล่อมลิ้น กินฟินกันไป

ถัดมาชวนชิมเมนูซดน้ำซุปร้อนๆ Kanikebukai Miso Nabe (980 บาท++) มีหม้อชาบูใส่น้ำซุปมิโซะและผักต่างๆ ใส่มาด้วยตามสูตรเฉพาะของเชฟ พร้อมกับมีปูขนที่ส่งตรงมาจากญี่ปุ่น ให้มาแบบทั้งตัวทำมาให้สุกพอประมาณ วิธีกินเมนูนี้จะมีไม้ให้คีบเนื้อปู แล้วนำลงไปต้มในน้ำซุปร้อนๆ จะได้สัมผัสกับรสชาติของปูขนที่เนื้อแน่นหวานสด ชุ่มน้ำซุปมิโซะรสเข้มข้น ซดน้ำซุปร้อนๆ หอมกรุ่นคล่องคอชื่นใจ

หากใครชอบกินซูชิไม่ควรพลาดเมนูนี้ Tripple Layers (580 บาท++) เป็นข้าวปั้นคำอลังการงานสร้าง เชฟคัดสรรแต่ของดีมีคุณภาพ มีทั้งตับห่าน เนื้อวากิว และครีบปลาตาเดียว ทุกอย่างถูกเบิร์นมาแบบได้ที่ แถมโรยหน้าด้วยไข่ปลาคาเวียร์และวาซาบิดอง ราดด้วยซอสปลาไหลเคี่ยวผสมกับตับห่านสูตรเฉพาะของเชฟ หม่ำข้าวปั้นคำโต ได้รสสัมผัสตับห่านนุ่มละมุน เนื้อวากิวเคี้ยวนุ่มหนึบปาก ครีบปลาตาเดียวเนื้อนุ่มหวาน กลมกลืนรสชาติเข้ากับซอสที่หอมหวานกลมกล่อม

ต่อด้วยอีกหนึ่งซูชิรสเด็ดชื่อว่า Taraba Sushi (360 บาท++) เชฟนำเนื้อปูทาราบะสดชิ้นใหญ่มาเบิร์นจนสุกได้ที่ ห่อกับข้าวปั้น แล้วพันด้วยสาหร่าย โรยหน้าด้วยไข่ปลาแซลมอน ราดซอสสไปซี่รสเด็ด ลิ้มรสซูชิคำนี้จะได้รสสัมผัสของเนื้อปูทาราบะที่นุ่มแน่นหวานสด เข้ากับข้าวปั้นรสดีเคี้ยวนุ่มปาก และรสชาติซอสสไปซี่ถูกลิ้น

แล้วมาอิ่มกับเมนูนี้ Ebi Tempura Crunchy Roll (340 บาท++) เป็นข้าวปั้นห่อสาหร่ายข้างในเป็นไส้กุ้งเทมปุระ โรยด้วยกุ้งเทมปุระทอดกรอบอีกและไข่กุ้ง ราดซอสสไปซี่สูตรเฉพาะของเชฟ ส่งข้าวปั้นเข้าปากเคี้ยวกร้วมเต็มปากเต็มคำ กรุบกรอบกับกุ้งเทมปุระรสดี กลมกล่อมเข้ากับซอสสไปซี่รสเยี่ยม

เมนูต่อมาชวนกิน Kurobuta Hotpot (380 บาท++) ลักษณะเป็นหม้อไฟคล้ายต้มเล้งแซ่บ โดดเด่นตรงน้ำซุปที่เชฟปรุงแบบสไตล์ญี่ปุ่น แต่มีรสชาติจัดจ้านแบบไทย ซี่โครงหมูที่ตุ๋นมานั้นมีความเปื่อยนุ่มเคี้ยวกรึบกินเพลินปาก ซดน้ำซุปร้อนๆ รสแซ่บคล่องคอโดนใจดีแท้

ส่วนถ้าใครชอบกินของหวาน ขอแนะนำให้ลองลิ้ม Cheesecake (160 บาท++) ซึ่งทางร้านนำเข้าชีสเค้กมาเป็นพิเศษจากญี่ปุ่น เสิร์ฟมาเป็นชิ้นราดด้วยไซรัป แล้วก็มีเยลลี่ใส่มาด้านบน ลิ้มรสชีสเค้กเนื้อแน่นรสชาติดีกลมกลืนเข้ากับความหอมหวานหอมของไซรัปอันลงตัว สั่งมากินล้างปากดีนักแล

แล้วใช่ว่าอาหารญี่ปุ่นรสเด็ดจะมีแค่เท่าที่แนะนำมานี้ เพราะว่ายังมีเมนูญี่ปุ่นเลิศรสชั้นดีที่ชวนลิ้มลองอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Tripple Ryujin Set (620 บาท++) Avocado Hotate Spicy (480 บาท++) Hamachi Kama Salted-Teriyaki (980 บาท++) Ryujin Salad (480 บาท++) และอีกสารพัดอาหารญี่ปุ่นแนวฟิวชั่น ที่อยากชวนให้คออาหารญี่ปุ่นได้ตามมาลองชิมให้รู้กับปากตัวเองกันที่ร้าน “Ryujin Sushi & Bar” ที่โดดเด่นเรื่องความสดอร่อยของวัตถุดิบอาหารเป็นหัวใจสำคัญ
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“Ryujin Sushi & Bar” (ริวจิน ซูชิ แอนด์ บาร์) ตั้งอยู่ที่โครงการ The Up พระราม 3 บริเวณแยกทางด่วนตัดถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพฯ ร้านริวจิน ซูชิ แอนด์ บาร์ ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 (หลังธนาคารกรุงเทพ) เปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 23.00 น. โทร. 0-2116-5879, 06-4040-2569 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/ryujinsushi
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
สำหรับคออาหารญี่ปุ่นทั้งหลาย “ตระเวนกิน” เชื่อว่าสิ่งที่ทุกคนคาดหวังจากการไปลิ้มรสอาหารญี่ปุ่น ก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของความสดของวัตถุดิบอย่างพวกปลาดิบต่างๆ รวมถึงอาหารทะเลที่ต้องมีความสดใหม่ และมีรสชาติที่ถูกปากโดนใจ
หากว่าใครคำนึงถึงเรื่องความสดอร่อยของอาหารเป็นสิ่งสำคัญ ขอแนะนำให้มาอิ่มเอมกับอาหารญี่ปุ่นที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสดใหม่ของวัตถุดิบชั้นดี กันที่ร้านนี้ “Ryujin Sushi & Bar” (ริวจิน ซูชิ แอนด์ บาร์) ตั้งอยู่ที่โครงการ The Up พระราม 3 ที่นี่เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีความโดดเด่นในเรื่องการนำเสนออาหารญี่ปุ่นที่เน้นการนำเข้าวัตถุดิบสดใหม่อย่างปลาดิบและอาหารทะเลอื่นๆ ที่มีคุณภาพสูง ส่งตรงมาจากตลาดปลาซึกิจิ ที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะถูกส่งมา 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เรียกว่าเน้นความสดใหม่เป็นหัวใจสำคัญ เพื่อนำมารังสรรค์เป็นเมนูญี่ปุ่นแนวฟิวชั่นสูตรเด็ดที่ทางร้านคิดสูตรขึ้นมาเองโดยเฉพาะ มีการปรับรสชาติให้ถูกลิ้นคนไทย ผ่านการปรุงโดยเชฟมากฝีมือ
อาหารของที่นี่ว่าน่าสนใจชวนกินแล้ว บรรยากาศของที่นี่ก็ชวนนั่งไม่แพ้กัน ทางร้านให้ความใส่ใจในการจัดตกแต่งร้านออกแนวญี่ปุ่นโมเดิร์น จัดสรรพื้นที่โต๊ะนั่งมีบรรยากาศชวนนั่งสบายๆ มีโซนเคาน์เตอร์บาร์ให้เลือกนั่ง ซึ่งจะได้เห็นเชฟปรุงอาหารอย่างใกล้ชิด และสามารถนั่งดื่มเครื่องดื่มหลากหลายที่ทางร้านมีให้บริการแบบครบครัน อาทิ เหล้าบ๊วย เหล้าสาเก ไวน์ วิสกี้ เบียร์ ค็อกเทล อีกทั้งยังมีดนตรีเล่นสดจากนักร้องชื่อดัง นิค เดอะวอยซ์ ให้ฟังอย่างเพลิดเพลินในวันพฤหัส – เสาร์ ตั้งแต่เวลา 19.30 น. เป็นต้นไป
กลับมาที่เรื่องอาหาร ที่นี่มีเมนูญี่ปุ่นที่ชวนชิมหลากหลาย อย่างเมนูเด่นๆ ที่ถ้ามาถึงร้านแล้วแนะนำว่าไม่ควรพลาดสั่งมากินกันก็มี So Fresh Sashimi (3,980 บาท++) เมนูนี้เอาใจสาวกซาชิมิแบบจัดเต็ม ในชามใหญ่ยักษ์อัดแน่นไปด้วยอาหารทะเลและปลาดิบหลายหลากอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ปลาทูน่าโอโทโร่ ชูโทโร่ อากามิ ปลาแซลมอน ปลาฮามาจิ ปลาดิบจะแล่มาแบบชิ้นหนามาอย่างละ 3 ชิ้น ไข่หอยเม่นมาแบบคำโต หอยเชลล์โฮตาเตะไซส์ใหญ่ให้มาแบบ 2 ตัว แล่มาแบบชิ้นหนากำลังดี กุ้งหวานโบตั๋น 2 ตัว ขอบอกเลยว่าซาชิมิทุกอย่างมีความสดจริง กินแล้วเคี้ยวนุ่มลิ้นหวานปาก ช่างดีต่อใจ
กินซาชิมิแล้วมาอร่อยกันต่อกับ Lobster Aubri Butter (1,380 บาท++) เชฟนำกุ้งล็อบสเตอร์ตัวใหญ่ทั้งตัว โดยนำเอาแต่เนื้อกุ้งล็อบสเตอร์มาผัดกับเนยกระเทียมตามสูตรเด็ด แล้วนำกลับมาใส่ในตัวกุ้งล็อบสเตอร์เหมือนเดิม หน้าตาชวนกินมาก คีบชิ้นเนื้อกุ้งล็อบสเตอร์ส่งเข้าปาก เนื้อกุ้งเคี้ยวนุ่มเด้ง ได้รสชาติเนยกระเทียมกลมกล่อมลิ้น กินฟินกันไป
ถัดมาชวนชิมเมนูซดน้ำซุปร้อนๆ Kanikebukai Miso Nabe (980 บาท++) มีหม้อชาบูใส่น้ำซุปมิโซะและผักต่างๆ ใส่มาด้วยตามสูตรเฉพาะของเชฟ พร้อมกับมีปูขนที่ส่งตรงมาจากญี่ปุ่น ให้มาแบบทั้งตัวทำมาให้สุกพอประมาณ วิธีกินเมนูนี้จะมีไม้ให้คีบเนื้อปู แล้วนำลงไปต้มในน้ำซุปร้อนๆ จะได้สัมผัสกับรสชาติของปูขนที่เนื้อแน่นหวานสด ชุ่มน้ำซุปมิโซะรสเข้มข้น ซดน้ำซุปร้อนๆ หอมกรุ่นคล่องคอชื่นใจ
หากใครชอบกินซูชิไม่ควรพลาดเมนูนี้ Tripple Layers (580 บาท++) เป็นข้าวปั้นคำอลังการงานสร้าง เชฟคัดสรรแต่ของดีมีคุณภาพ มีทั้งตับห่าน เนื้อวากิว และครีบปลาตาเดียว ทุกอย่างถูกเบิร์นมาแบบได้ที่ แถมโรยหน้าด้วยไข่ปลาคาเวียร์และวาซาบิดอง ราดด้วยซอสปลาไหลเคี่ยวผสมกับตับห่านสูตรเฉพาะของเชฟ หม่ำข้าวปั้นคำโต ได้รสสัมผัสตับห่านนุ่มละมุน เนื้อวากิวเคี้ยวนุ่มหนึบปาก ครีบปลาตาเดียวเนื้อนุ่มหวาน กลมกลืนรสชาติเข้ากับซอสที่หอมหวานกลมกล่อม
ต่อด้วยอีกหนึ่งซูชิรสเด็ดชื่อว่า Taraba Sushi (360 บาท++) เชฟนำเนื้อปูทาราบะสดชิ้นใหญ่มาเบิร์นจนสุกได้ที่ ห่อกับข้าวปั้น แล้วพันด้วยสาหร่าย โรยหน้าด้วยไข่ปลาแซลมอน ราดซอสสไปซี่รสเด็ด ลิ้มรสซูชิคำนี้จะได้รสสัมผัสของเนื้อปูทาราบะที่นุ่มแน่นหวานสด เข้ากับข้าวปั้นรสดีเคี้ยวนุ่มปาก และรสชาติซอสสไปซี่ถูกลิ้น
แล้วมาอิ่มกับเมนูนี้ Ebi Tempura Crunchy Roll (340 บาท++) เป็นข้าวปั้นห่อสาหร่ายข้างในเป็นไส้กุ้งเทมปุระ โรยด้วยกุ้งเทมปุระทอดกรอบอีกและไข่กุ้ง ราดซอสสไปซี่สูตรเฉพาะของเชฟ ส่งข้าวปั้นเข้าปากเคี้ยวกร้วมเต็มปากเต็มคำ กรุบกรอบกับกุ้งเทมปุระรสดี กลมกล่อมเข้ากับซอสสไปซี่รสเยี่ยม
เมนูต่อมาชวนกิน Kurobuta Hotpot (380 บาท++) ลักษณะเป็นหม้อไฟคล้ายต้มเล้งแซ่บ โดดเด่นตรงน้ำซุปที่เชฟปรุงแบบสไตล์ญี่ปุ่น แต่มีรสชาติจัดจ้านแบบไทย ซี่โครงหมูที่ตุ๋นมานั้นมีความเปื่อยนุ่มเคี้ยวกรึบกินเพลินปาก ซดน้ำซุปร้อนๆ รสแซ่บคล่องคอโดนใจดีแท้
ส่วนถ้าใครชอบกินของหวาน ขอแนะนำให้ลองลิ้ม Cheesecake (160 บาท++) ซึ่งทางร้านนำเข้าชีสเค้กมาเป็นพิเศษจากญี่ปุ่น เสิร์ฟมาเป็นชิ้นราดด้วยไซรัป แล้วก็มีเยลลี่ใส่มาด้านบน ลิ้มรสชีสเค้กเนื้อแน่นรสชาติดีกลมกลืนเข้ากับความหอมหวานหอมของไซรัปอันลงตัว สั่งมากินล้างปากดีนักแล
แล้วใช่ว่าอาหารญี่ปุ่นรสเด็ดจะมีแค่เท่าที่แนะนำมานี้ เพราะว่ายังมีเมนูญี่ปุ่นเลิศรสชั้นดีที่ชวนลิ้มลองอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Tripple Ryujin Set (620 บาท++) Avocado Hotate Spicy (480 บาท++) Hamachi Kama Salted-Teriyaki (980 บาท++) Ryujin Salad (480 บาท++) และอีกสารพัดอาหารญี่ปุ่นแนวฟิวชั่น ที่อยากชวนให้คออาหารญี่ปุ่นได้ตามมาลองชิมให้รู้กับปากตัวเองกันที่ร้าน “Ryujin Sushi & Bar” ที่โดดเด่นเรื่องความสดอร่อยของวัตถุดิบอาหารเป็นหัวใจสำคัญ
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“Ryujin Sushi & Bar” (ริวจิน ซูชิ แอนด์ บาร์) ตั้งอยู่ที่โครงการ The Up พระราม 3 บริเวณแยกทางด่วนตัดถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพฯ ร้านริวจิน ซูชิ แอนด์ บาร์ ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 (หลังธนาคารกรุงเทพ) เปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 23.00 น. โทร. 0-2116-5879, 06-4040-2569 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/ryujinsushi
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager