xs
xsm
sm
md
lg

เฮงเฮงรับตรุษจีน อะเมซิ่ง เที่ยวทั่วไทยไป"ตามรอยมังกร"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

Facebook : Travel @ Manager
ตามรอยมังกรรับตรุษจีน
"มังกร" ถือเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของชาวจีนที่เชื่อกันว่าเป็นตัวแทนของพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ เป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจบารมี ความสูงส่งและสง่างาม บางครั้งเราอาจพบมังกรในฐานะเทพเจ้าแห่งการปกป้องคุ้มครอง นำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรือง โชคลาภวาสนา ในช่วงเทศกาลตรุษจีนหรือวันปีใหม่ของชาวจีนเราจึงเห็นภาพของมังกรซึ่งเป็นสัญลักษณ์มงคลนี้เต็มไปหมด

สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในเมืองไทยก็มีหลายแห่งที่เกี่ยวข้องกับมังกร ให้เราได้ไปตามรอยเพิ่มความเฮงเสริมมงคลในช่วงตรุษจีนนี้กัน
ถนนเยาวราชได้ชื่อว่าเป็นถนนสายมังกร
ถนนสายมังกร

“เยาวราช” หรือไชนาทาวน์แห่งเมืองไทย เป็นย่านที่อยู่อาศัยของคนไทยเชื้อสายจีนที่ใหญ่ที่สุดในไทยมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ และ “ถนนเยาวราช” ซึ่งเป็นถนนสายหลักใจกลางย่านเยาวราชก็ได้ชื่อว่าเป็น “ถนนสายมังกร” เพราะมีความเจริญรุ่งเรืองทางการค้าอีกทั้งยังมีความคึกคักมีชีวิตชีวาไม่ว่ายามกลางวันหรือกลางคืน

ถนนเยาวราชมีจุดเริ่มต้นจากซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา บริเวณวงเวียนโอเดียนที่เปรียบได้กับ “หัวมังกร” อันสง่างาม “ท้องมังกร” อันอิ่มเต็มและอุดมสมบูรณ์อยู่บริเวณถนนช่วงกลางที่เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร รวมถึงตลาด และที่สำคัญคือร้านทอง ที่นับได้ว่าเป็นย่านที่มีร้านทองมากที่สุดในเมืองไทย แสดงให้เห็นถึงความเป็นย่านการค้าที่รุ่งเรือง โดยมีร้านทองที่เก่าแก่ที่สุดในย่านเยาวราชก็คือ “ห้างทองตั้ง โต๊ะ กัง” ตั้งอยู่ตรงปากซอยวานิช ถนนมังกร ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่สมัย ร.5 และส่วนของ “หางมังกร” อยู่บริเวณปลายถนนบริเวณจุดตัดกับถนนจักรเพชร หรือบริเวณห้างเมอรี่คิง วังบูรพา(เก่า) นับเป็นมังกรตัวใหญ่ที่งามสง่ามากทีเดียว
หัวมังกรอยู่บริเวณซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา
วัดมังกรกมลาวาส กรุงเทพฯ
วัดมังกร

นอกจากถนนสายมังกรแล้ว ก็ยังมี “วัดมังกร” ซึ่งเป็นวัดจีนเก่าแก่หลายแห่งที่น่าไปสักการะ เริ่มจาก “วัดมังกรกมลาวาส” หรือ "วัดเล่งเน่ยยี่" ซึ่งตั้งอยู่บนถนนเจริญกรุง ย่านเยาวราช สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 มีสถาปัตยกรรมโดดเด่นด้วยการวางผังแบบวังหลวงแต้จิ๋วโบราณ วัดเล่งเน่ยยี่เปรียบได้กับ “ส่วนหัวของมังกร”
วัดเล่งฮกยี่ จ.ฉะเชิงเทรา
ส่วน "วัดเล่งฮกยี่" ในอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา ถือเป็น "ส่วนท้องของมังกร" วัดเล่งฮกยี่สร้างขึ้นราว พ.ศ.2449 คำว่า “เล่ง” แปลว่ามังกร และ “ฮก” แปลว่าโชคลาภ วาสนา จึงมักมีคนเรียกวัดแห่งนี้ว่า วัดมังกรแห่งวาสนา ต่อมารัชกาลที่ 5 ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมวัดเล่งฮกยี่ และทรงมีจิตศรัทธาพระราชทานเงินเพื่อบำรุงวัด พร้อมทั้งได้ชื่อไทยให้ว่า "วัดจีนประชาสโมสร"
วัดมังกรบุปผาราม จ.จันทบุรี
"ส่วนหางของมังกร" อยู่ที่ "วัดเล่งฮัวยี่" หรือ "วัดมังกรบุปผาราม" อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี ตัววัดสร้างด้วยสถาปัตยกรรมจีนหลังคาซ้อน 3 ชั้น ยอดเป็นรูปเจดีย์ ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระประธานพุทธเจ้า 3 พระองค์สีทองอร่ามงดงามยิ่งนัก
วัดเล่งเน่ยยี่ 2 หรือวัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ บางบัวทอง นนทบุรี
ปิดท้ายวัดมังกรด้วย “วัดเล่งเน่ยยี่ 2” หรือ “วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์” อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ที่นี่เป็นวัดจีนที่อยู่ในความอุปถัมภ์ของคณะสงฆ์จีนนิกายแห่งประเทศไทย จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติแด่ในหลวง ร.๙ เนื่องในวโรกาสที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี เป็นวัดจีนขนาดใหญ่ที่งดงามอลังการ ถ้ามีโอกาสอยากให้ลองสักการะและเที่ยวชมกันสักครั้ง
สันหลังมังกร จ.สตูล
ทะเลมังกร

ในทะเลไม่ได้มีแค่กุ้งหอยปูปลา แต่ในทะเลยังมีมังกร โดยเฉพาะทะเลสตูลและทะเลตรังที่มี “สันหลังมังกร” กลางทะเล อันเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติของท้องทะเลยามที่น้ำลดจนได้ระดับ แนวสันทรายใต้น้ำในช่วงน้ำตื้นจะผุดโผล่ขึ้นมา เกิดเป็นสันทรายแนวยาวทอดโค้งกลางทะเล จนได้รับฉายาเรียกขานให้เป็นสันหลังมังกรเพื่อความเป็นสิริมงคล

สำหรับที่จังหวัดสตูลสามารถไปชมสันหลังมังกรได้ที่กลางทะเลในเขตอำเภอเมือง สามารถเดินทางมาจากท่าเรือบ้านบากันเคย ต.ตันหยงโป อ.เมืองสตูล ได้ในเวลาราว 20 นาที เมื่อน้ำลดได้ที่จะมองเห็นสันหลังมังกรหรือสันทรายกลางทะเลเชื่อมระหว่างเกาะหัวมันกับเกาะสาม เป็นเส้นทางเดินกลางทะเลที่มีความยาวกว่า 3 กม. เป็นทางคดโค้งไปมาราวกับมังกรกำลังพลิ้วกายแหวกว่ายกลางทะเล

ส่วนในทะเลตรังมีสันหลังมังกรอยู่ถึง 6 แห่ง ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น “มังกรเหลือง” บ้านหยงสตาร์ ต.ท่าข้าม อ.ปะเหลียน “มังกรเกล็ดทองคำ” บ้านทุ่งรวงทอง ต.ท่าข้าม อ.ปะเหลียน “มังกรหยก” (บริเวณเกาะสุกร) “มังกรทับทิมสยาม” บริเวณเกาะสุกร “มังกรนิล” อ.หาดสำราญ และ “มังกรเผือก” (เกาะมดตะนอย) ในแต่ละวันสันหลังมังกรก็จะเปลี่ยนรูปร่างไปตามการพัดพาของน้ำ เราสามารถลงไปเดินเล่นตามแนวสันทรายได้ ให้บรรยากาศเหมือนกับกำลังเดินอยู่กลางทะเลเลยทีเดียว
แช่ตัวที่สะดือมังกร หาดเตยงาม สัตหีบ
อีกหนึ่งมังกรกลางทะเลที่อยู่ใกล้กรุงคือ “สะดือมังกร” ที่หาดเตยงาม ภายในบริเวณอ่าวนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ฐานทัพเรือสัตหีบ ตำนานของสะดือมังกรเล่ากันว่า ในอดีตมีชาวไทยเชื้อสายจีนตระกูลหนึ่งได้เดินทางผ่านอ่าว เห็นว่าเป็นบริเวณที่มีฮวงจุ้ยดี มีลักษณะคล้ายรูปมังกรหมอบ หัวอยู่ทางด้านแหลมปู่เจ้า หางอยู่ทางด้านเขาสูง มีลักษณะภูมิประเทศที่เรียกว่าหน้ามีน้ำ หลังพิงเขา บริเวณกลางอ่าวมีกระแสน้ำวนคล้ายสะดือมังกร มีความเชื่อว่า เมื่อได้อาบหรือแช่ตัวในอ่าวนี้แล้วจะมีพลังพิเศษ และเป็นสิริมงคล คนจะนิยมมาแช่กันในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 9, วันที่ 9 เดือน 9 (ตามปฏิทินจีน), วันตรุษจีน และวันพระใหญ่ เช่น วันมาฆบูชา หรือ วันวิสาขบูชา
อุทยานมังกรสวรรค์” แห่งเมืองสุพรรณบุรี
พิพิธภัณฑ์มังกร

มังกรตัวใหญ่ที่สุดต้องยกให้ “อุทยานมังกรสวรรค์” ในอำเภอเมืองสุพรรณบุรี ที่เด่นสะดุดตาด้วยมังกรขนาดยักษ์ที่กำลังเลื้อยไหลอยู่บนก้อนเมฆ พร้อมพ่นน้ำเป็นสายออกมาจากปาก ภายในตัวมังกรนี้เป็นที่ตั้งของ “พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร” ที่บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของอารยธรรมจีนที่ยาวนานถึง 5,000 ปี รวมถึงประวัติความเป็นมาของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนในประเทศไทยโดยใช้สื่อจัดแสดงที่ทันสมัย

ในบริเวณใกล้เคียงกันยังเป็นที่ตั้งของ “ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง” ซึ่งมีลักษณะเป็นวิหารรูปเก๋งจีน เป็นที่เคารพของทั้งชาวไทยและชาวจีนในเมืองสุพรรณและพื้นที่ใกล้เคียง อีกทั้งยังมี “หมู่บ้านมังกรสวรรค์” ที่สร้างจำลองแบบมาจากเมืองลี่เจียงของประเทศจีน เป็นร้านค้า ร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึก สามารถขึ้นไปชมวิวบนหอคอยสูง 4 ชั้น สามารถชมวิวมุมสูงของอุทยานมังกรสวรรค์ได้อย่างสวยงามถนัดตา
สร้างสรรค์มังกรจากไม้เทพธาโร ที่“วังเทพธาโร” ห้วยยอด ตรัง
ส่วนที่อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ก็มี “วังเทพธาโร” ที่เกิดจากการสร้างสรรค์ของครูจรูญ แก้วละเอียด ที่ได้ไปกว้านซื้อตอไม้เทพธาโร (ไม้จวงหอม) ไม้มงคลเนื้อไม้มีกลิ่นหอมซึ่งชาวบ้านได้ตัดทิ้งขุดทิ้งจนเหลือแต่ตอ มาสร้างสรรค์เป็นประติมากรรมมังกรอันสวยงาม มีไฮไลท์คือมังกรไม้ตัวยาวที่ส่วนลำตัวทำเป็นช่องทางให้เดินลอด “9 ช่องประตูท้องมังกร” โดยแต่ละช่องจะมีความเชื่อในด้านเสริมสิริมงคลแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น พลัง อำนาจ มั่งมี บารมี ยิ่งใหญ่ อีกทั้งยังมีมังกรพ่นน้ำตัวใหญ่ และมังกรตัวที่ 88 ความยาว 39 เมตรที่ครูจรูญได้สร้างขึ้นเพื่อถวายแด่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ เนื่องในวโรกาสครบรอบ 88 พรรษา เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญ
เชิดมังกรกลางถนนเยาวราช
มังกรมีชีวิต

สำหรับในปีนี้วันตรุษจีนตรงกับวันศุกร์ที่ 16 ก.พ. ในหลายพื้นที่มีการจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งหากใครอยากไปชมมังกรตัวยาวที่เคลื่อนไหวได้ราวกับมีชีวิตก็ต้องไปชมการเชิดมังกรกันภายในงาน โดยเฉพาะงานตรุษจีนที่จัดใหญ่ อาทิ “เทศกาลตรุษจีนเยาวราช” 16-17 ก.พ. ณ ถนนเยาวราช กรุงเทพฯ “งานประเพณีแห่เจ้าพ่อ-เจ้าแม่ ปากน้ำโพ ฉลองเทศกาลตรุษจีนปากน้ำโพ” 9-20 ก.พ. ณ หาดทรายริมน้ำต้นแม่น้ำเจ้าพระยา อำเภอเมืองนครสวรรค์ “งานเทศกาลตรุษจีนหาดใหญ่” 16-19 ก.พ. ณ บริเวณโรงเรียนศรีนครมูลนิธิ, ถนนธรรมนูญวิถี อ.หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
ชมมังกรยาว 149 เมตรที่เซ็นทรัลชิดลม
และหากอยากชมมังกรตัวยาวที่สุดในไทย ต้องมาที่งาน “เซ็นทรัล ไชนีส นิวเยียร์ 2018” วันที่ 13-18 ก.พ. ณ เซ็นทรัลชิดลม โดยในวันตรุษจีน 16 ก.พ. จะมีการแสดงเชิดมังกรความยาว 149 เมตร ซึ่งยาวที่สุดในประเทศไทยจากคณะสิงโตมังกรทอง ลูกชัยมงคล ใครอยากมาชมเตรียมตัวได้เลย

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager


กำลังโหลดความคิดเห็น