xs
xsm
sm
md
lg

วันเดย์ทริป “1 วัง 3 วัด ในอยุธยา” ได้มาแล้วคุ้ม อิ่มบุญ สุขใจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

Facebook :Travel @ Manager
พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์และประตูเทวราชครรไล
“จังหวัดพระนครศรีอยุธยา” (อยุธยา) มักจะเป็นจังหวัดแรกๆ ที่ฉันนึกถึงเวลาที่อยากจะออกไปไหว้พระ ชมโบราณสถานและสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ที่สำคัญยังอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก จึงเหมาะที่จะไปเที่ยวแบบวันเดย์ทริปมาก ครั้งนี้ฉันขอแนะนำเส้นทางการเที่ยวชม “1 วัง 3 วัด ในอยุธยา” กัน
เหมมณเฑียรเทวราช
พระราชวังบางปะอิน (ต.บ้านเลน อ.บางปะอิน)

เริ่มแรกฉันขอพามาเยี่ยมชมพระราชวังบางอิน ที่ตั้งอยู่ห่างจากเกาะเมืองมาทางทิศใต้ประมาณ 18 กม. สำหรับประวัติความเป็นมาตามพระราชพงศาวดารได้กล่าวไว้ว่า พระเจ้าปราสาททองเป็นผู้สร้างพระราชวังแห่งนี้ เนื่องจากบริเวณเกาะบางปะอินเป็นที่ประสูติของพระองค์และเป็นเคหสถานเดิมของพระมารดาซึ่งเป็นหญิงชาวบ้านที่สมเด็จพระเอกาทศรถทรงพบเมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินโดยเรือพระที่นั่งแล้วเรือเกิดล่มตรงเกาะบางปะอิน

พระราชวังบางปะอินได้รับการบูรณะฟื้นฟูอีกครั้งในสมัยรัชกาลที่ ๔ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระที่นั่งองค์หนึ่งสำหรับเป็นที่ประทับ มีเรือนแถวสำหรับฝ่ายในและมีพลับพลาริมน้ำ ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ ๕ พระองค์ทรงโปรดเกล้าฯให้สร้างพระที่นั่งและสิ่งก่อสร้างต่างๆ ขึ้น ดังที่ปรากฏให้เห็นในปัจจุบันนี้ ซึ่งยังคงใช้เป็นที่ประทับและต้อนรับพระราชอาคันตุกะและพระราชทานเลี้ยงรับรองในโอกาสต่างๆเป็นครั้งคราว
หอวิฑูรทัศนา
หลังจากได้รู้ประวัติคร่าวๆ แล้วฉันเลยขอเดินชมให้ทั่วบริเวณ ซึ่งที่นี่แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ เขตพระราชฐานชั้นนอกและเขตพระราชฐานชั้นใน โดยเขตพระราชฐานชั้นนอกใช้เป็นที่สำหรับการออกมหาสมาคมและพระราชพิธีต่างๆ ส่วนเขตพระราชฐานชั้นในใช้เป็นที่ประทับส่วนพระองค์ ภายในมีสถาปัตยกรรมที่งดงามทั้งแบบไทย จีน ยุโรป
สำหรับสิ่งที่น่าสนใจในเขตพระราชวังชั้นนอกของพระราชวังบางปะอินมีดังนี้ หอเหมมณเฑียรเทวราช, พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์, พระที่นั่งวโรภาษพิมาน และสภาคารราชประยูร ส่วนเขตพระราชฐานชั้นในมีสิ่งที่น่าสนใจ ได้แก่ พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร, พระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ, เก๋งบุปผาประพาส, หอวิฑูรทัศนา, อนุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ (อนุสาวรีย์พระนางเรือล่ม), และอนุสาวรีย์พระอัครชายาเธอพระองค์เจ้าเสาวภาคย์นารีรัตน์และเจ้าฟ้าสามพระองค์ (อนุสาวรีย์ราชานุสรณ์)
กระเช้าลอยข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา
วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร (ต.บ้านเลน อ.บางปะอิน)

เสร็จจากการเดินเที่ยวชมพระราชวังแล้ว ฉันก็เดินเท้าต่อมาอีกไม่มากนัก เพื่อนั่งกระเช้าข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปที่เกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตรงข้ามกับพระราชวังบางปะอินไปเที่ยวชมวัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหารต่อ ซึ่งวัดนี้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2419 เพื่อใช้เป็นที่ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลต่างๆ ขณะเสด็จประทับที่พระราชวังบางปะอิน
พระอุโบสถของวัดนิเวศฯ คล้ายกับโบสถ์ฝรั่งในศาสนาคริสต์
ฉันสังเกตว่าวัดนี้มีลักษณะพิเศษต่างจากวัดอื่นในอยุธยา คือ มีการตกแต่งเป็นแบบตะวันตกพระอุโบสถคล้ายกับโบสถ์ฝรั่งในศาสนาคริสต์ มีหลังคายอดแหลมและช่องหน้าต่างเจาะโค้งแบบโกธิค ผนังอุโบสถเหนือหน้าต่างด้านหน้าพระประธานประดับกระจกสีเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ของรัชกาลที่ 5 ฐานชุกชีที่ประดิษฐานพระประธาน “พระพุทธนฤมลธรรโมภาส” ทำเหมือนที่ตั้งไม้กางเขนในโบสถ์คริสต์ศาสนา
พระพุทธนฤมลธรรโมภาส พระประทาน
วัดใหญ่ชัยมงคล
วัดใหญ่ชัยมงคล (ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา)

วัดที่สองของวันนี้ฉันขอพามาที่วัดใหญ่ชัยมงคล เดิมชื่อ วัดป่าแก้ว สันนิษฐานว่าสร้างเมื่อ พ.ศ. 1900 โดยสมเด็จพระเจ้าอู่ทอง และในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พ.ศ.2135 ได้มีการสร้าง “พระเจดีย์ชัยมงคล” ขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติยศที่ได้ชัยในการทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชาแห่งกรุงหงสาวดี พร้อมกับพระราชทานนามว่าวัดชัยมงคล แต่ชาวบ้านนิยมเรียกว่า วัดใหญ่ชัยมงคล เพราะมีเจดีย์ขนาดใหญ่ที่สูงที่สุดในอยุธยามองเห็นโดดเด่นแต่ไกล
พระเจดีย์ชัยมงคล
เมื่อไปที่วัดใหญ่ฯ แล้วก็อย่าลืมเข้าไปไหว้ “พระพุทธชัยมงคล” ที่เป็นพระประธานของวัด และ “พระพุทธไสยาสน์” หรือพระนอน ซึ่งว่ากันว่าใครใครที่ไหว้พระวัดนี้จะมีมงคล สมดังชื่อวัดแถมยังจะมีหน้าที่การงานใหญ่โต สามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆ ได้โดยง่าย
พระพุทธชัยมงคล ภายในพระอุโบสถ
พระพุทธไสยาสน์
พระอุโบสถวัดบรมวงศ์ฯ
วัดบรมวงศ์อิศรวรารามวรวิหาร (ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา)

วัดสุดท้ายที่ฉันจะพามาก็คือวัดบรมวงศ์อิศรวรารามวรวิหาร เดิมชื่อ วัดทะเลหญ้า ตั้งอยู่ริมคลองใกล้กับเพนียดคล้องช้าง ทางกรมพระคชบาลสร้างขึ้นตั้งแต่กรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2419 มีการบูรณะวัดขึ้นมาใหม่ โดยสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ามหามาลากรมพระบำราบปรปักษ์ และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานชื่อใหม่ว่าวัดบรมวงศ์อิศรวราราม พร้อมทั้งเสด็จพระราชดำเนินตัดลูกพัทธสีมา พระองค์เสด็จพระราชดำเนินมายังวัดบรมวงศ์อิศรวรารามวรวิหารถึง 8 ครั้ง
พระประธานปางสมาธิบนฐานชุกชีใต้เรือนแก้วทรงกลีบบัวสัตตบุษย์
ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระประธานปางสมาธิบนฐานชุกชีใต้เรือนแก้วทรงกลีบบัวสัตตบุษย์ ส่วนพระวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ในบุษบกสมัยอยุธยาตอนปลาย ด้านตรงข้ามยังมีพระพุทธรูป ยืน นั่ง และนอน ส่วนด้านในมีพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ในบุษบกสมัยอยุธยาตอนปลาย
พระพุทธรูป ยืน นั่ง และนอน
พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระบรมฉายาลักษณ์ของรัชกาลที่ ๕ ติดเรียงรายอยู่ทั่วผนังในวิหาร
อีกหนึ่งความประทับใจของฉันที่ได้ก้าวเข้ามาในวิหารนี้ก็คือ พระบรมฉายาลักษณ์ของรัชกาลที่ ๕ พระมเหสี พระชายา ที่ติดเรียงรายอยู่ทั่วผนังในวิหาร เป็นภาพที่หาชมได้ยากนับร้อยภาพ เป็นบุญตาของฉันจริงๆ

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ “1 วัง 3 วัด” ในจังหวัดอยุธยา ที่ฉันพาทุกคนมาในวันนี้ และนอกจากวัดวาอาราม โบราณสถานมากมายแล้ว ที่นี่ยังมีอาหารอร่อยๆ อีกหลากหลายอีกด้วย เรียกว่ามาจังหวัดเดียวทั้งอิ่มใจและอิ่มท้องในคราเดียวกัน
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager


กำลังโหลดความคิดเห็น