Facebook : Travel @ Manager

อัมพวานอกจากจะมีแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างตลาดน้ำอัมพวาเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวแล้ว แต่ถ้ายังไม่ได้มาเยือน “อุทยาน ร.2” ก็ถือว่าการมาเยือนอัมพวายังไม่สมบูรณ์แบบ
“อุทยานพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย” หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า “อุทยาน ร.2” เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ไม่ควรพลาดของอำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม สถานที่แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ณ ตำบลอันเป็นที่พระราชสมภพของพระองค์

อุทยาน ร.2 ตั้งอยู่ติดกับวัดอัมพวันเจติยาราม พื้นที่กว่า 11 ไร่ ของอุทยานเป็นแหล่งรวมวิทยาการและศูนย์กลางการศึกษาศิลปวัฒนธรรมไทยในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย อีกทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชนในละแวกใกล้เคียง
ความโดดเด่นของอุทยาน ร.2 อยู่ที่ “เรือนไทยหมู่ 5 หลัง” เรือนไทยภาคกลางอันงดงาม ที่เป็นพิพิธภัณฑ์วิถีไทยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ โดยแบ่งออกเป็น “เรือนกลาง” (เรือนประธาน) ภายในแบ่งการจัดแสดงออกเป็นห้องต่างๆ อาทิ ห้องพระ ห้องนอน ห้องนวดประคบ และห้องแต่งตัวที่จำลองให้เห็นถึงวิถีชีวิตของหญิงไทยในสมัยต้นกรุง อีกทั้งยังจัดแสดงศิลปวัตถุสมัยต้นรัตนโกสินทร์ในยุครัชกาลที่ 2 อาทิ เครื่องถ้วยเบญจรงค์

ส่วนด้านนอกจัดแสดงเกี่ยวกับสำรับกับข้าวคาวหวานตามบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ได้แก่ เครื่องคาว อาทิ มัสมั่นเนื้อ แกงเทโพ ก้อยกุ้ง หลน เป็นต้น และเครื่องหวาน ได้แก่ ลูกตาลเชื่อม ลูกชิดลอยแก้ว ข้าวเหนียวมะม่วง เป็นต้น
นอกจากนั้นยังมี “เรือนชาย” จัดแสดงเกี่ยวกับวิถีชีวิตของเด็กผู้ชายไทยในอดีตที่จะได้ศึกษาวิชาความรู้ต่างๆ จากพระสงฆ์ที่วัด “เรือนหญิง” จัดแสดงเกี่ยวกับวิถีชีวิตของเด็กหญิงในอดีตที่จะศึกษาเล่าเรียนวิชาการบ้านการเรือนและวิชาช่างฝีมืออยู่กับบ้าน

อีกทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์มรดกทางวัฒนธรรมอัมพวา ภายในจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวอัมพวาซึ่งเป็นชุมชนริมน้ำที่มีความเจริญด้านเกษตรกรรม การค้า การประมงพื้นบ้าน ตลอดจนหัตถกรรม ทั้งยังมีเรื่องราวของวัดสำคัญและเก่าแก่ในอัมพวา บ้านเรือนไทยริมน้ำ เรือนแถวไม้ริมน้ำ และความพยายามในการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมบริเวณสองฝั่งคลอง
นอกจากนั้นยังจัดแสดงเรื่องราวของการดนตรี โดยมีศิลปินที่เกิดในจังหวัดสมุทรสงครามหลายท่าน อาทิ หลวงประดิษฐ์ไพเราะ, ครูเอื้อ สุนทรสนาน, ทูล ทองใจ เป็นต้น รวมไปถึงอาหารและขนมของกินพื้นถิ่น และงานประเพณีต่างๆ ที่สำคัญของสมุทรสงคราม

ส่วนสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ “อาคารเรือนไทยหมู่ 9 หลัง” ที่จัดเป็นพิพิธภัณฑ์พระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รวมถึงพระอัจฉริยะภาพในทางวรรณกรรม ศิลปกรรม ดนตรีไทย นาฏศิลป์ จิตรกรรม ภายในยังเป็นที่ประดิษฐานพระบรมรูปของพระองค์อีกด้วย
บริเวณด้านหน้าอุทยาน ร.2 ยังมีพิพิธภัณฑ์ขนมไทยภายในเรือนไม้โบราณอายุกว่า 100 ปี ชื่อเรือน “อาศรมศึกษา” จัดแสดงขนมไทยจำลองและอาหารตามบทพระราชนิพนธ์ “กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน” ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ที่กล่าวถึงชื่ออาหารคาว 15 ชนิด อาหารหวาน 15 ชนิด และขนมประเภทต่างๆ กว่า 100 ชนิด รวมไปถึงเครื่องมือเครื่องใช้ในการทำขนม เช่น กระต่ายขูดมะพร้าวรูปแบบต่างๆ

ความร่มรื่นของอุทยานฯ และเรือนไทยหลังงามทำให้มีนักท่องเที่ยวมาเยือนอุทยาน ร.2 ไม่ขาดสาย ที่นี่มีมุมถ่ายรูปสวยๆ มากมาย ยิ่งถ้าได้แต่งชุดผ้าไทยมาเที่ยวถ่ายรูปก็ยิ่งเพิ่มความเก๋ไก๋เข้ากับสถานที่มากยิ่งขึ้น
และที่พลาดไม่ได้คืองานสำคัญที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีที่นี่ นั่นคือ “งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย” หรือ “งานอุทยาน ร.2” สำหรับในปีนี้กำหนดจัดขึ้นวันที่ 3-4 กุมภาพันธ์ 2561 ณ อุทยานพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (อุทยาน ร.2) อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เข้าชมงานได้เวลา 10.00-19.00 น.

ภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย ภายใต้แนวคิด “เที่ยวงานอุทยาน ร.2 ดูโขน ละคร ชิมอาหารชาววัง” โดยมีไฮไลต์อยู่ที่การแสดงโขนซึ่งถือเป็นศิลปะการแสดงขั้นสูงที่หาชมได้ยาก ณ โรงละครกลางแจ้ง เป็นการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ ตอน พิธีกุมภนิยา มณโฑขึ้นหึง และอินทรชิตรบพระลักษณ์ พร้อมด้วยละครใน เรื่องอุณรุท
และแน่นอนว่าใครที่อยากมาลองชิมอาหารชาววังอย่างที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ ภายในงานก็มีทั้งการสาธิตและจำหน่ายอาหารคาวหวานตำรับชาววังของราชสกุลในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เช่น มัสมั่น ทองพลุ ม้าฮ่อ มะปรางริ้ว ฯลฯ รับรองว่าหาชิมที่ไหนไม่ได้ง่ายๆ แน่นอน

นอกจากนั้นแล้วสิ่งที่ห้ามพลาดก็คือการชมการสาธิตศิลปหัตถกรรม เช่น งานเขียนลายรดน้ำ งานปิดทองประดับกระจก จากสำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร และงานเครื่องประดับโบราณ จากกาญจนาภิเษกวิทยาลัย ช่างทองหลวง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นงานประณีตศิลป์อันล้ำค่าที่สืบทอดกันมายาวนาน
เรียกได้ว่าเป็นการรวมเอาสุดยอดของดีในยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์มาให้ผู้คนได้ชม ชิมและสัมผัสกันได้ด้วยตัวเอง งานนี้จึงขอแนะนำอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่รักและชื่นชอบในศิลปวัฒนธรรมไทย รวมไปถึงนักท่องเที่ยวที่อาจจะยังไม่เคยมาเยือนอุทยาน ร.2 ในครั้งนี้เป็นโอกาสอันดีแล้ว



และหากใครมาเที่ยวงานอุทยาน ร.2 แล้ว ก็ยังสามารถไปเที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่นๆ ในอัมพวาได้อีก ไม่ว่าจะเป็น “ตลาดน้ำอัมพวา” ตลาดน้ำยามเย็นในบรรยากาศน่ารักที่เต็มไปด้วยของกินหลากหลายและสินค้ามากมายให้เลือกซื้อ หรือจะเป็นตลาดน้ำยามเช้า “ตลาดน้ำท่าคา” ตลาดน้ำแบบวิถีชาวบ้านที่มีทุกเช้าวันเสาร์-อาทิตย์และวันข้างขึ้น-แรม 2 ค่ำ 7 ค่ำ และ 12 ค่ำ มีของอร่อยมากมายให้เลือกชิม
วัดงามๆ ที่อัมพวาก็มีมากมาย อาทิ “วัดอัมพวันเจติยาราม” (ต.อัมพวา) ที่ในพระอุโบสถงดงามไปด้วยจิตรกรรมฝาผนังที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ โปรดเกล้าฯ ให้ช่างเขียนขึ้น เพื่อแสดงเรื่องราวพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของรัชกาลที่ 2 และเรื่องราวในวรรณคดีที่ท่านทรงพระราชนิพนธ์ “วัดบางกุ้ง” ซึ่งมีโบสถ์ปรกโพธิ์เป็นความโดดเด่นไม่มีใครเหมือน ตัวโบสถ์ภายนอกถูกปกคลุมด้วยรากไม้ใหญ่ ส่วนภายในประดิษฐานหลวงพ่อนิลมณี พระพุทธรูปงดงามเป็นที่เคารพศรัทธาของคนในละแวกนี้อีกด้วย



“อุทยานพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย” หรือ “อุทยาน ร.2” ตั้งอยู่บนถนนอัมพวา ต.อัมพวา อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม สอบถามรายละเอียดโทร. 0 3475 1666 หรือ http://www.kingrama2found.or.th/ เปิดให้เข้าชมทุกวัน จันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-17.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.30-17.30 น. ในช่วงงานอุทยาน ร.2 เข้าชมงานได้เวลา 10.00-19.00 น. ค่าเข้าชม เด็ก 10 บาท ผู้ใหญ่ 30 บาท อีกทั้งยังสามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการท่องเที่ยว จ.สมุทรสงคราม ได้ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสมุทรสงคราม (รับผิดชอบพื้นที่สมุทรสงคราม, นครปฐม, สมุทรสาคร) โทร.0 3475 2847-8
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
อัมพวานอกจากจะมีแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างตลาดน้ำอัมพวาเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวแล้ว แต่ถ้ายังไม่ได้มาเยือน “อุทยาน ร.2” ก็ถือว่าการมาเยือนอัมพวายังไม่สมบูรณ์แบบ
“อุทยานพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย” หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า “อุทยาน ร.2” เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ไม่ควรพลาดของอำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม สถานที่แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ณ ตำบลอันเป็นที่พระราชสมภพของพระองค์
อุทยาน ร.2 ตั้งอยู่ติดกับวัดอัมพวันเจติยาราม พื้นที่กว่า 11 ไร่ ของอุทยานเป็นแหล่งรวมวิทยาการและศูนย์กลางการศึกษาศิลปวัฒนธรรมไทยในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย อีกทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชนในละแวกใกล้เคียง
ความโดดเด่นของอุทยาน ร.2 อยู่ที่ “เรือนไทยหมู่ 5 หลัง” เรือนไทยภาคกลางอันงดงาม ที่เป็นพิพิธภัณฑ์วิถีไทยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ โดยแบ่งออกเป็น “เรือนกลาง” (เรือนประธาน) ภายในแบ่งการจัดแสดงออกเป็นห้องต่างๆ อาทิ ห้องพระ ห้องนอน ห้องนวดประคบ และห้องแต่งตัวที่จำลองให้เห็นถึงวิถีชีวิตของหญิงไทยในสมัยต้นกรุง อีกทั้งยังจัดแสดงศิลปวัตถุสมัยต้นรัตนโกสินทร์ในยุครัชกาลที่ 2 อาทิ เครื่องถ้วยเบญจรงค์
ส่วนด้านนอกจัดแสดงเกี่ยวกับสำรับกับข้าวคาวหวานตามบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ได้แก่ เครื่องคาว อาทิ มัสมั่นเนื้อ แกงเทโพ ก้อยกุ้ง หลน เป็นต้น และเครื่องหวาน ได้แก่ ลูกตาลเชื่อม ลูกชิดลอยแก้ว ข้าวเหนียวมะม่วง เป็นต้น
นอกจากนั้นยังมี “เรือนชาย” จัดแสดงเกี่ยวกับวิถีชีวิตของเด็กผู้ชายไทยในอดีตที่จะได้ศึกษาวิชาความรู้ต่างๆ จากพระสงฆ์ที่วัด “เรือนหญิง” จัดแสดงเกี่ยวกับวิถีชีวิตของเด็กหญิงในอดีตที่จะศึกษาเล่าเรียนวิชาการบ้านการเรือนและวิชาช่างฝีมืออยู่กับบ้าน
อีกทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์มรดกทางวัฒนธรรมอัมพวา ภายในจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวอัมพวาซึ่งเป็นชุมชนริมน้ำที่มีความเจริญด้านเกษตรกรรม การค้า การประมงพื้นบ้าน ตลอดจนหัตถกรรม ทั้งยังมีเรื่องราวของวัดสำคัญและเก่าแก่ในอัมพวา บ้านเรือนไทยริมน้ำ เรือนแถวไม้ริมน้ำ และความพยายามในการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมบริเวณสองฝั่งคลอง
นอกจากนั้นยังจัดแสดงเรื่องราวของการดนตรี โดยมีศิลปินที่เกิดในจังหวัดสมุทรสงครามหลายท่าน อาทิ หลวงประดิษฐ์ไพเราะ, ครูเอื้อ สุนทรสนาน, ทูล ทองใจ เป็นต้น รวมไปถึงอาหารและขนมของกินพื้นถิ่น และงานประเพณีต่างๆ ที่สำคัญของสมุทรสงคราม
ส่วนสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ “อาคารเรือนไทยหมู่ 9 หลัง” ที่จัดเป็นพิพิธภัณฑ์พระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รวมถึงพระอัจฉริยะภาพในทางวรรณกรรม ศิลปกรรม ดนตรีไทย นาฏศิลป์ จิตรกรรม ภายในยังเป็นที่ประดิษฐานพระบรมรูปของพระองค์อีกด้วย
บริเวณด้านหน้าอุทยาน ร.2 ยังมีพิพิธภัณฑ์ขนมไทยภายในเรือนไม้โบราณอายุกว่า 100 ปี ชื่อเรือน “อาศรมศึกษา” จัดแสดงขนมไทยจำลองและอาหารตามบทพระราชนิพนธ์ “กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน” ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ที่กล่าวถึงชื่ออาหารคาว 15 ชนิด อาหารหวาน 15 ชนิด และขนมประเภทต่างๆ กว่า 100 ชนิด รวมไปถึงเครื่องมือเครื่องใช้ในการทำขนม เช่น กระต่ายขูดมะพร้าวรูปแบบต่างๆ
ความร่มรื่นของอุทยานฯ และเรือนไทยหลังงามทำให้มีนักท่องเที่ยวมาเยือนอุทยาน ร.2 ไม่ขาดสาย ที่นี่มีมุมถ่ายรูปสวยๆ มากมาย ยิ่งถ้าได้แต่งชุดผ้าไทยมาเที่ยวถ่ายรูปก็ยิ่งเพิ่มความเก๋ไก๋เข้ากับสถานที่มากยิ่งขึ้น
และที่พลาดไม่ได้คืองานสำคัญที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีที่นี่ นั่นคือ “งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย” หรือ “งานอุทยาน ร.2” สำหรับในปีนี้กำหนดจัดขึ้นวันที่ 3-4 กุมภาพันธ์ 2561 ณ อุทยานพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (อุทยาน ร.2) อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เข้าชมงานได้เวลา 10.00-19.00 น.
ภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย ภายใต้แนวคิด “เที่ยวงานอุทยาน ร.2 ดูโขน ละคร ชิมอาหารชาววัง” โดยมีไฮไลต์อยู่ที่การแสดงโขนซึ่งถือเป็นศิลปะการแสดงขั้นสูงที่หาชมได้ยาก ณ โรงละครกลางแจ้ง เป็นการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ ตอน พิธีกุมภนิยา มณโฑขึ้นหึง และอินทรชิตรบพระลักษณ์ พร้อมด้วยละครใน เรื่องอุณรุท
และแน่นอนว่าใครที่อยากมาลองชิมอาหารชาววังอย่างที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ ภายในงานก็มีทั้งการสาธิตและจำหน่ายอาหารคาวหวานตำรับชาววังของราชสกุลในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เช่น มัสมั่น ทองพลุ ม้าฮ่อ มะปรางริ้ว ฯลฯ รับรองว่าหาชิมที่ไหนไม่ได้ง่ายๆ แน่นอน
นอกจากนั้นแล้วสิ่งที่ห้ามพลาดก็คือการชมการสาธิตศิลปหัตถกรรม เช่น งานเขียนลายรดน้ำ งานปิดทองประดับกระจก จากสำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร และงานเครื่องประดับโบราณ จากกาญจนาภิเษกวิทยาลัย ช่างทองหลวง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นงานประณีตศิลป์อันล้ำค่าที่สืบทอดกันมายาวนาน
เรียกได้ว่าเป็นการรวมเอาสุดยอดของดีในยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์มาให้ผู้คนได้ชม ชิมและสัมผัสกันได้ด้วยตัวเอง งานนี้จึงขอแนะนำอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่รักและชื่นชอบในศิลปวัฒนธรรมไทย รวมไปถึงนักท่องเที่ยวที่อาจจะยังไม่เคยมาเยือนอุทยาน ร.2 ในครั้งนี้เป็นโอกาสอันดีแล้ว
และหากใครมาเที่ยวงานอุทยาน ร.2 แล้ว ก็ยังสามารถไปเที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่นๆ ในอัมพวาได้อีก ไม่ว่าจะเป็น “ตลาดน้ำอัมพวา” ตลาดน้ำยามเย็นในบรรยากาศน่ารักที่เต็มไปด้วยของกินหลากหลายและสินค้ามากมายให้เลือกซื้อ หรือจะเป็นตลาดน้ำยามเช้า “ตลาดน้ำท่าคา” ตลาดน้ำแบบวิถีชาวบ้านที่มีทุกเช้าวันเสาร์-อาทิตย์และวันข้างขึ้น-แรม 2 ค่ำ 7 ค่ำ และ 12 ค่ำ มีของอร่อยมากมายให้เลือกชิม
วัดงามๆ ที่อัมพวาก็มีมากมาย อาทิ “วัดอัมพวันเจติยาราม” (ต.อัมพวา) ที่ในพระอุโบสถงดงามไปด้วยจิตรกรรมฝาผนังที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ โปรดเกล้าฯ ให้ช่างเขียนขึ้น เพื่อแสดงเรื่องราวพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของรัชกาลที่ 2 และเรื่องราวในวรรณคดีที่ท่านทรงพระราชนิพนธ์ “วัดบางกุ้ง” ซึ่งมีโบสถ์ปรกโพธิ์เป็นความโดดเด่นไม่มีใครเหมือน ตัวโบสถ์ภายนอกถูกปกคลุมด้วยรากไม้ใหญ่ ส่วนภายในประดิษฐานหลวงพ่อนิลมณี พระพุทธรูปงดงามเป็นที่เคารพศรัทธาของคนในละแวกนี้อีกด้วย
“อุทยานพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย” หรือ “อุทยาน ร.2” ตั้งอยู่บนถนนอัมพวา ต.อัมพวา อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม สอบถามรายละเอียดโทร. 0 3475 1666 หรือ http://www.kingrama2found.or.th/ เปิดให้เข้าชมทุกวัน จันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-17.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.30-17.30 น. ในช่วงงานอุทยาน ร.2 เข้าชมงานได้เวลา 10.00-19.00 น. ค่าเข้าชม เด็ก 10 บาท ผู้ใหญ่ 30 บาท อีกทั้งยังสามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการท่องเที่ยว จ.สมุทรสงคราม ได้ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสมุทรสงคราม (รับผิดชอบพื้นที่สมุทรสงคราม, นครปฐม, สมุทรสาคร) โทร.0 3475 2847-8
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager