xs
xsm
sm
md
lg

มา “เลย” แล้วจะหลง (รัก) ชมพระอาทิตย์บนภู ดูวิวงามริมฝั่งโขง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

Facebook :Travel @ Manager
ทะเลหมอกยามเช้าที่ภูทอก
พอถึงช่วงฤดูหนาว (ปลายปี-ต้นปี) หลายๆ คนก็มักมองหาทริปท่องเที่ยวสัมผัสอากาศหนาว บางคนอาจจะมุ่งหน้าขึ้นเหนือไปรับลมเย็น แต่สำหรับทริปนี้ “ตะลอนเที่ยว” ขอเลือกมุ่งหน้ามาที่ จ.เลย เพราะที่นี่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นจังหวัดที่หนาวที่สุดของไทย

ซึ่งในช่วงที่อากาศดีๆ แบบนี้ ก็ต้องเดินทางขึ้นไปบนยอดภู ดูพระอาทิตย์สวยๆ ยามเช้าและยามเย็น สัมผัสอากาศดีๆ ให้สดชื่น และบางภูนั้น นอกจากจะมีวิวสวยๆ ให้ได้ชมแล้ว ก็ยังมีดอกไม้งามๆ ให้ขึ้นมาถ่ายรูปกันด้วย อย่างเช่นที่ “ภูลมโล” ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย จ.เลย เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า บนรอยต่อของสามจังหวัด คือ เลย พิษณุโลก และเพชรบูรณ์

ทุกปีๆ ในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ที่นี่จะงดงามไปด้วยดอกนาพญาเสือโคร่งสีชมพูสวยสดที่บานสะพรั่ง รอต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะขึ้นมาชมความงาม ซึ่งสำหรับปีนี้ (2561) ถือว่าเป็นช่วงปลายของฤดูกาลชมดอกซากุระเมืองไทยแล้ว หากอยากจะชมขุนเขาสีชมพูของภูลมโล ต้องอดใจรอในปีถัดไป
พระธาตุศรีสองรัก
สำหรับที่ อ.ด่านซ้าย ก็มีอีกจุดหนึ่งที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง นั่นคือ “พระธาตุศรีสองรัก” พระธาตุศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองเลย องค์พระธาตุมีลักษณะศิลปะล้านช้าง โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นสักขีพยานในการเป็นไม่ตรีต่อกันระหว่างกรุงศรีอยุธยาและกรุงศรีสัตนาคนหุต ฉะนั้น จึงมีข้อควรปฏิบัติหากว่าจะขึ้นไปสักการะองค์พระธาตุ คือ ไม่นำดอกไม้ สิ่งของ หรือสวมใส่เสื้อผ้าที่มีสีแดง เพราะสีแดงเป็นสัญญลักษณ์ของเลือดและความรุนแรง

จากด่านซ้าย เรามุ่งหน้าสู่ อ.ภูเรือ ระหว่างทางก็จะเห็นว่ามีร้านขายสตรอว์เบอร์รี่และสวนสตรอว์เบอร์รี่อยู่เป็นระยะ สตรอว์เบอร์รี่ของที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นพันธุ์ 80 โดยแต่ละสวนก็จะเปิดให้ลูกค้าได้เข้าไปถ่ายรูปในแปลง ลองเก็บผลสตรอว์เบอร์รี่ด้วยตัวเอง หรือจะแวะซื้อผลสตรอว์เบอร์รี่สดๆ ไปกินให้ฉ่ำใจ
รอชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ภูเรือ
เมื่อมาถึงภูเรือ แน่นอนว่าเราต้องขึ้นมาที่ “ยอดภูเรือ” ซึ่งตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติภูเรือ เมื่อขึ้นมาด้านบนก็จะเห็นป่าสนเขาสลับกับสวนหินธรรมชาติและดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งบนยอดภูเรือนี้ เป็นอีกหนึ่งจุดยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวจะขึ้นมาชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าตรู่ โดยสามารถขับรุขึ้นมาจอดไว้ที่ลานด้านบน และเดินเท้าขึ้นสู่ยอดภูเรือด้วยระยะทางเกือบๆ 1 กิโลเมตร หรือถ้าไม่อยากใช้กำลังขาก็มีบริการรถสองแถวขึ้นยอดภูให้เป็นอีกทางเลือก
พระพุทธนาวาบรรพต ประดิษฐานบนยอดภูเรือ
ชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า ท่ามกลางขุนเขาสลับซับซ้อน และวิวมุมสูงของเมืองเลยแล้ว ด้านบนยอดภูก็ยังเป็นจุดประดิษฐาน “พระพุทธนาวาบรรพต” เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ปางมารวิชัยที่ชาวภูเรืออัญเชิญมาจากวัดพระญาติ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

นอกจากบริเวณยอดภูเรือแล้ว ที่ภูเรือยังมีจุดชมวิวและสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายจุด เช่น ผาโหล่นน้อย จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกที่สวยงาม, ผาซำทอง จุดชมพระอาทิตย์ตก, น้ำตกห้วยไผ่, หินศิวลึงค์, สวนหินพาลี, ทุ่งหินพานขันหมาก, หินเต่า เป็นต้น
พระอุโบสถ วัดป่าห้วยลาด
สำหรับที่ภูเรือ ยังมีอีกจุดที่น่าแวะชมไม่น้อย นั่นคือ “วัดป่าห้วยลาด” เข้ามาถึงที่นี่แล้วก็จะเห็น “พระอุโบสถ” หลังใหญ่สง่างาม ด้านในประดิษฐาน “พระสัพพัญญู” หรือหลวงพ่อขาว พระประธานองค์ใหญ่ ส่วนด้านบนเขาก็จะมีวิหารทรงไทยประยุกต์ และเจดีย์ นอกจากนี้ บริเวณโดยรอบวัดก็ยังมีการปรังปรุงภูมิทัศน์ให้ดูงดงาม ด้านหน้าลานวัดก็มีการสร้างองค์เทพต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปกราบไหว้ อาทิ พระตรีมูรติ พระอินทร์ พระพิฆเณศ รวมถึงพญานาคองค์ใหญ่
ห้วยกระทิง
ส่วนใครที่อยากนั่งแพชิลล์ๆ ริมน้ำ แนะนำที่นี่เลย “อ่างเก็บน้ำห้วยกระทิง” ในพื้นที่ อ.เมือง จ.เลย มีอีกชื่อหนึ่งว่า อ่างเก็บน้ำหมานตอนบน ที่นี่เป็นอ่างเก็บน้ำที่ล้อมรอบด้วยป่าไม้และขุนเขา บรรยากาศสดชื่นเย็นสบาย กิจกรรมยอดนิยมเมื่อมาที่นี่ก็คือ การมาล่องแพพักผ่อน พร้อมกับลิ้มลองอาหารรสเด็ด ที่ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารอีสาน จำพวกส้มตำ ลาบ ปลาเผา ฯลฯ แพร้านอาหารมีให้เลือกหลายเจ้า ส่วนใหญ่ค่าบริการก็จะมีอัตราใกล้เคียงกัน ช่วงบ่ายๆ พอแดดร่มลมตก ได้ออกมานั่งแพเล่นแบบนี้ก็ยิ่งชิลล์เข้าไปใหญ่
ทางเดินเข้าชมสวนหินผางาม
จุดชมวิวสวนหินผางาม คุนหมิงเมืองเลย
จากนั้นมากันที่ อ.หนองหิน ที่นี่มีความน่าสนใจอยู่ที่ “สวนหินผางาม” ซึ่งเป็นแนวผาหินปูนสูงใหญ่ มีรูปร่างสวยงามแปลกตา หลายๆ คนอาจจะเรียกว่าเป็น “คุนหมิงเมืองเลย” เพราะทัศนียภาพของที่นี่คล้ายคลึงกับอุทยานป่าหิน ที่นครคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน

การจะเข้ามาชมสวนผาหินงาม สามารถทำได้สองแบบคือ นั่งรถอีแต๊กขึ้นไปยังจุดชมวิวที่อยู่ด้านบน สำหรับคนที่มีเวลาน้อย หรือ เดินไม่ไหว และอีกวิธีคือการเดินซอกแซกเข้าไปชมหินรูปร่างแปลกตา ซึ่งเพื่อให้ได้สัมผัสกับสวนหินแห่งนี้อย่างเต็มที่ เราเลยเลือกวิธีเดินเข้าไปด้านใน

สำหรับการเดินชมสวนหินผางามนั้น จะต้องมีไกด์ท้องถิ่นเป็นผู้นำทาง โดยไกด์จะบรรยายให้ข้อมูลต่างๆ ระหว่างทางที่เราเดิน ซึ่งก็จะเห็นหินรูปร่างแปลกๆ ตามจินตนาการ ทั้งหินไดโนเสาร์ หินช้างร้องไห้ หินนกเพนกวิน โดยในเส้นทางเดินก็จะมีทั้งการลอดเข้าถ้ำ มุดรู เดินขึ้นบันได้ จนไปถึงจุดชมวิวที่อยู่ด้านบน ส่วนขากลับ ใครที่ยังเดินไหว้ก็สามารถเดินลงมาตามถนนได้เลย หรือถ้าเมื่อยแล้วก็สามารถนั่งรถอีแต๊กกลับลงมาได้ (ค่าเข้าชมสวนหินผางาม 100 บาท/นักท่องเที่ยวไม่เกิน 10 คน ส่วนค่ารถอีแต๊กเที่ยวละ 15 บาท)
นั่งรถอีแต๊กขึ้นภูป่าเปาะ
ไม่ไกลจากสวนหินผางาม ก็เป็นจุดชมวิวเมืองเลยอีกแห่งหนึ่ง คือ “ภูป่าเปาะ” อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูค้อ-ภูกระแต ซึ่งห่างจากสวนผาหินงามหรือคุนหมิงเมืองไทยประมาณ 7 กิโลเมตร เป็นจุดชมวิวที่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 900 ม. ต้องนั่งรถอีแต๊กขึ้นไปชม โดยบนภูป่าเปาะนั้นมีจุดชมวิวอยู่ด้วยกัน 4 จุด แต่ละจุดมีระยะทางห่างกันประมาณ 200 ม. แต่จุดชมวิวที่สำคัญก็คือจุดที่สามารถมองเห็น “ภูหอ” ภูเขาที่ว่ากันว่ามีลักษณะคล้ายกับภูเขาไฟฟูจิ ของประเทศญี่ปุ่น จนทำให้ใครหลายคนขนานนามให้เป็น “ฟูจิเมืองเลย”
ชมวิวภูป่าเปาะ ฟูจิเมืองไทย
สำหรับ “ภูหอ” หรือฟูจิเมืองเลยที่ว่านี้ มีลักษณะเป็นภูเขาสูงฐานกว้าง มีพื้นที่ด้านล่างเป็นพื้นราบโล่ง ปลายยอดภูเขาเป็นเขาหัวตัดเหมือนปล่องภูเขาไฟ บนยอดเขาจะมีกลุ่มเมฆปกคลุมจางๆ เมื่อมองแล้วทำให้คล้ายกับภูเขาไฟฟูจิ ของประเทศญี่ปุ่น ส่วนจุดชมวิวอีก 3 จุด ก็จะมองเห็นทิวทัศน์ที่แตกต่างกันไป บางจุดสามารถชมทัศนียภาพได้ถึง 360 องศา ในวันฟ้าโปร่งจะสามารถมองเห็นวิวของภูเขาได้ถึง 8 แห่งด้วยกัน ได้แก่ ภูหินร่องกล้า ภูหอ ภูหลวง ภูกระดึง ภูผาจิต ภูผาม่าน สวนหินผางาม และเขาค้ออีกด้วย
ยามเย็นริมแม่น้ำโขงที่เชียงคาน
และหากว่าใครที่มาถึง จ.เลย แล้ว เราก็ไม่อยากให้พลาดที่จะมาสัมผัสบรรยากาศสบายๆ ริมแม่น้ำโขง ที่ “เชียงคาน” อันเป็นชายแดนแสนงามริมฝั่งโขง ที่อวลไปด้วยวิถีอันทรงเสน่ห์ ทั้งวิถีอันเรียบง่ายของผู้คนเชียงคานดั้งเดิม และวิถีในบรรยากาศของการท่องเที่ยวบนถนนคนเดินอันคึกคัก

บริเวณทางเดินริมฝั่งโขง ที่นอกจากจะเป็นจุดวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำโขง และเมืองสานะคาม สปป.ลาว ที่อย่างฝั่งตรงข้ามได้อย่างเพลินตาแล้ว ในยามเย็นที่นี่ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ลาลับของฟ้าในเวิ้งโค้งแม่น้ำโขงที่สวยงามมากแห่งหนึ่งของเมืองไทย
ถนนคนเดินเชียงคานยามค่ำ
ส่วนที่ “ถนนชายโขง” เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ต้องห้ามพลาด กับบรรยากาศของวัดวาอารามต่างๆ และอาคารบ้านเรือนไม้เก่าแก่สุดคลาสสิก ที่วันนี้บ้านเรือนไม้ส่วนหนึ่งบนถนนชายโขงจึงได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็นโรงแรม เกสต์เฮาส์ โฮมสเตย์ ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึก เป็นต้น โดยช่วงเย็นย่ำค่ำมืดของทุกวัน ก็จะถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นถนนคนเดิน มีทั้งของกิน ของฝาก ให้เลือกซื้อหากันได้ตามอัธยาศัย

และทุกๆ เช้าที่เชียงคานจะมี การ “ตักบาตรข้าวเหนียว” อันขึ้นชื่อเป็นเอกลักษณ์ กับภาพของพระ-เณรที่ออกเดินบิณฑบาตเป็นแถวยาว ให้ทั้งชาวเชียงคานและนักท่องเที่ยวใส่บาตรกันด้วยความรู้สึกอิ่มเอิบเปี่ยมศรัทธา
วิถียามเช้าของเชียงคาน
แก่งคุดคู้
ที่เที่ยวใกล้ๆ กับเชียงคานก็มีอีกหลายแห่ง เริ่มจาก “แก่งคุดคู้” ที่เป็นแนวหินก้อนใหญ่ทอดตัวอยู่ในแม่น้ำโขง เกิดจากการกัดเซาะของน้ำทำให้หินมีสีสันสวยงาม ช่วงที่เหมาะกับการชมแก่งคุดคู้อยู่ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงที่น้ำแห้ง ทำให้มองเห็นเกาะแก่งในลำน้ำโขงได้อย่างชัดเจน ถ้าน้ำลดลงไปมากๆ ก็สามารถลงไปเดินเล่นบนสันทราย ชมความงามของแก่งได้อย่างใกล้ชิด
พระอาทิตย์ขึ้นที่ภูทอก เชียงคาน
ขึ้นภูทอก ชมทะเลหมอกยามเช้า
ส่วนใครที่อยากชมทะเลหมอกยามเช้า หากมาที่เชียงคานแล้วก็ต้องขึ้นไปที่ “ภูทอก” เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวเชียงคานแล้วมักไม่พลาดไปชมทะเลหมอกและทิวทัศน์ยามเช้ากันที่ภูทอก

คำว่า “ภูทอก” เป็นภาษาถิ่นหมายถึง “ภูเขาที่โดดเดี่ยว” โดยภูทอกแห่งเชียงคานนั้นเป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่มีชื่อเสียง บนยอดภูจะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองเชียงคานที่ปกคลุมไปด้วยไอหมอก และลำน้ำโขงที่ไหลผ่านแนบชิดเมืองเชียงคานแห่งนี้ การขึ้นไปบนยอดภูทอกนั้นไม่สามารถนำรถขึ้นไปบนยอดภูได้เอง แต่จะมีรถบริการคอยรับส่งสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งขาไปและกลับขึ้นสู่บนยอดภู
วัดพระพุทธบาทภูควายเงิน
รอยพระพุทธบาทที่ประดิษฐานอยู่บนหินลับมีด
เลยภูทอกไปอีกไม่ไกลก็จะเป็น “วัดพระพุทธบาทภูควายเงิน” มาถึงวัดแล้วก็ต้องเข้ามาสักการะรอยพระพุทธบาทที่อยู่ภายในมณฑป โดยรอยพระพุทธบาทนี้ประดิษฐานอยู่บนหินลับมีด ในอดีตนั้นชาวบ้านเชื่อว่า จะต้องเป็นผู้มีบุญเท่านั้นถึงจะได้ขึ้นมาสักการะรอยพระพุทธบาทแห่งนี้ เนื่องจากการเดินทางที่ยากลำบาก จึงมีน้อยคนที่จะได้ขึ้นมา แต่ในปัจจุบันนี้มีการปรับปรุงเส้นทางแล้วทำให้สามารถเดินทางขึ้นมาด้านบนได้สะดวกสบาย

ด้านนอกมณฑปก็ถือว่าเป็นจุดชมวิวเมืองเชียงคาน เนื่องจากวัดตั้งอยู่บนที่สูง สามารถมองเห็นด้านล่างได้อย่างชัดเจน ด้านหลังมณฑปยังมี “พระพุทธฉัพรรณรังสี” พระพุทธรูปสีขาวองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง และรอบๆ มณฑปยังมีโซนเลี้ยงกระต่ายนับร้อยตัว สามารถซื้อผักสดๆ ไปให้อาหารกระต่ายได้ด้วย
นั่งรถอีแต๊กขึ้นภูลำดวน
และไหนๆ ก็มาถึงเชียงคานแล้ว แนะนำให้ขับรถเลยมาที่ “อ.ปากชม” ที่อยู่ห่างกันประมาณ 40 กิโลเมตร ขับรถเลียบแม่น้ำโขงราว 1 ชั่วโมงเท่านั้น ระหว่างทางจะได้ชมทิวทัศน์ที่สวยงามของเกาะแก่งในแม่น้ำโขงและทิวเขาทั้งสองฟากฝั่ง

ส่วนจุดท่องเที่ยวสำคัญของปากชมก็คือ "ภูลำดวน" เป็นจุดชมวิวน้องใหม่ของอำเภอปากชม แต่เดิมมีชื่อเรียกว่า "ภูซำทอง" เพราะมีห้วยซำทองไหลผ่านใกล้ๆ อีกทั้งเมื่อก่อนที่นี่เคยเป็นพื้นที่ปลูกข้าวโพดของชาวบ้าน แต่ต่อมาได้อนุญาตให้ใช้พื้นที่นี้เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยเปิดให้เป็นจุดชมวิวแห่งใหม่ของปากชม เพราะจากบริเวณนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของโค้งแม่น้ำโขงได้อย่างสวยงาม จึงตั้งชื่อใหม่ให้จุดชมวิวแห่งนี้ว่า "ภูลำดวน" ตามชื่อของเจ้าของที่ดินแห่งนี้
จุดชมวิวบนภูลำดวน
ทิวทัศน์บนภูลำดวนนั้นสามารถชมวิวได้แบบ 360 องศา ด้านหน้ามองเห็นแม่น้ำโขงช่วงโค้งน้ำพอดี มีเกาะแก่งน้อยใหญ่อยู่กลางน้ำ มองเห็นบ้านเรือนของตัวอำเภอปากชมอยู่ทางขวามือ และเห็นบ้านเรือนของพี่น้องชาวลาวทางฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำโขง และเมื่อหันมามองทางซ้ายมือ ทางฝั่งไทยจะเห็นบ้านเรือนของบ้านคกไผ่ ของอำเภอปากชมเช่นกัน บริเวณนี้มีร้านอาหารริมแม่น้ำโขงให้บริการหลายร้าน

ปัจจุบันสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางไปเที่ยวชมภูลำดวนคือ “สกายวอล์ก” หรือสะพานที่สร้างด้วยไม้ ยาวประมาณ 200 เมตรทอดยาวสุดตา ทำให้ได้เห็นมุมมองของธรรมชาติในมุมสูงหันไปมองได้รอบตัว 360 องศา

จบทริป “เลย” ที่ “ปากชม” เมืองริมแม่น้ำโขงอันสงบเงียบ ลองแวะเข้ามานั่งพักริมน้ำ นั่งเล่นสบายๆ ดื่มด่ำกับความสุขที่หาได้ง่ายๆ รอบตัว
สกายวอล์กภูลำดวน
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager


กำลังโหลดความคิดเห็น