Facebook :Travel @ Manager
เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2561 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้เปิดตัวกิจกรรม “สายลับจับขยะ” ซึ่งจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้นักดำน้ำและนักท่องเที่ยว เกิดกระแสตื่นตัวในการดำน้ำเก็บขยะในทะเล เพื่อให้เกิดค่านิยมที่ดีในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม โดยนำสื่อมวลชนและบล็อกเกอร์ ดำน้ำสำรวจความสวยงามของแหล่งดำน้ำบริเวณเกาะทะลุ อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด และหินเพลิง ณ จังหวัดระยอง
นายนิธี สีแพร ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมสินค้าการท่องเที่ยว ททท. กล่าวว่า ททท. ได้ร่วมกับบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (PTTGC) และมูลนิธิ ECOALF ดำเนินโครงการ Upcycling the Oceans, Thailand ตั้งแต่ปี 2560 ที่ผ่านมา โดยภารกิจหลักของโครงการนี้คือ การอนุรักษ์ท้องทะเลไทย และส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ โดยรณรงค์ลดการสร้างขยะและบริหารจัดการขยะในแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลให้เกิดมูลค่าเพิ่ม โดยพื้นที่ดำเนินการระยะแรกของโครงการ คือ เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง จังหวัดภูเก็ต และเกาะสมุย-เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวชายทะเลที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ปริมาณขยะมากขึ้น
โครงการฯ มุ่งแก้ไขปัญหาขยะในมหาสมุทรอย่างสร้างสรรค์ โดยเริ่มต้นครั้งแรกที่ประเทศสเปน ตั้งแต่ปี 2558 โดยมูลนิธิอีโคอัลฟ์ (Ecoalf Foundation) ซึ่งดำเนินธุรกิจแฟชั่นควบคู่ไปกับการทำกิจกรรมเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม โดยการแปรรูปขยะพลาสติกในทะเลให้เป็นเส้นใยผลิตเป็นสินค้าแฟชั่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เพื่อเพิ่มมูลค่าให้ขยะในทะเล
โดย ททท. ปรารถนาให้นักท่องเที่ยว และนักดำน้ำทุกคน มีส่วนร่วมในการช่วยดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม แบบนี้อย่างต่อเนื่อง จึงได้ริเริ่มโครงการ “ทำดี ได้ดีล” โดยร่วมกับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวดำน้ำในพื้นที่นำร่องทั้ง 3 แห่ง จัดทำแพ็คเกจดำน้ำพร้อมกิจกรรมจิตอาสาเก็บขยะ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และภายใต้โครงการ “ทำดี ได้ดีล” ททท. ได้จัดกิจกรรม “สายลับจับขยะ” ขึ้นซึ่งเราได้ออกแบบอุปกรณ์ คือ “กระเป๋าสายลับจับขยะ” เป็นกระเป๋าที่ถูกออกแบบขึ้นโดยเฉพาะสำหรับคาดเอวติดตัวขณะดำน้ำ เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักดำน้ำสามารถเก็บขยะทุกโอกาสที่พบเห็น โดยกระเป๋าใบนี้จะถูกจัดส่งไปตามบริษัททัวร์ดำน้ำที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อให้นักดำน้ำยืมใช้ และส่งคืนเมื่อจบทริป เมื่อนักดำน้ำส่งกระเป๋าคืนพร้อมขยะที่เก็บได้ ทางบริษัททัวร์ดำน้ำก็จะประทับตราที่ระลึกลงบน LOGBOOK หรือ Diving Passport ที่ ททท. จัดพิมพ์ขึ้นโดยเฉพาะ ตราประทับที่นักดำน้ำได้รับนี้จะสามารถใช้แลกรับสิทธิพิเศษส่วนลดในการดำน้ำครั้งต่อไปกับร้านดำน้ำและบริษัททัวร์ดำน้ำที่เข้าร่วมโครงการในทั้ง 3 พื้นที่ และจะมีการรณรงค์ให้นักดำน้ำทั่วไปรู้จัก “กระเป๋าสายลับจับขยะ” ผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อให้เกิดกระแสการดำน้ำเชิงจิตอาสา
สำหรับทริปเปิดตัวกิจกรรมในครั้งนี้ ททท. ได้นำคณะสื่อมวลชนและบล็อกเกอร์มาดำน้ำชมความสมบูรณ์ของธรรมชาติใต้ทะเลพร้อมทำกิจกรรม “สายลับ จับขยะ” ที่เกาะทะลุ และหินเพลิง จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งดำน้ำยอดนิยมของจังหวัดระยองที่สามารถเดินทางมาได้สะดวก และมีความสวยงามไม่แพ้จุดดำน้ำอื่นๆ ในเมืองไทย
ทั้งนี้ จังหวัดระยอง และพื้นที่ใกล้เคียง เป็นพื้นที่แรกที่ ททท. ได้เปิดตัวกิจกรรม “สายลับจับขยะ” มีร้านดำน้ำ และบริษัททัวร์ดำน้ำเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 7 ราย ซึ่งกระจายตัวอยู่ตามแหล่งดำน้ำต่างๆ หลังจากนี้จะมีการเปิดตัวโครงการและจัดกิจกรรมในพื้นที่อื่นต่อไป คือ จังหวัดภูเก็ต และเกาะสมุย เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยจะมีร้านดำน้ำและบริษัททัวร์ดำน้ำเข้าร่วมโครงการใน 3 พื้นที่ รวมทั้งสิ้นไม่น้อยกว่า 25 ราย เป็นช่องทางให้นักดำน้ำหัวใจอนุรักษ์ที่สนใจสามารถร่วมกิจกรรม “สายลับจับขยะ” ได้ทุกพื้นที่
“ททท. หวังเป็นอย่างยิ่งว่า กิจกรรม สายลับจับขยะ นี้จะเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดกระแสการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบ และกลายเป็นค่านิยมของการทำดี เพื่อให้เรามีท้องทะเลที่สวยงามและยั่งยืนตลอดไป” นายนิธี กล่าวทิ้งท้าย
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2561 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้เปิดตัวกิจกรรม “สายลับจับขยะ” ซึ่งจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้นักดำน้ำและนักท่องเที่ยว เกิดกระแสตื่นตัวในการดำน้ำเก็บขยะในทะเล เพื่อให้เกิดค่านิยมที่ดีในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม โดยนำสื่อมวลชนและบล็อกเกอร์ ดำน้ำสำรวจความสวยงามของแหล่งดำน้ำบริเวณเกาะทะลุ อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด และหินเพลิง ณ จังหวัดระยอง
นายนิธี สีแพร ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมสินค้าการท่องเที่ยว ททท. กล่าวว่า ททท. ได้ร่วมกับบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (PTTGC) และมูลนิธิ ECOALF ดำเนินโครงการ Upcycling the Oceans, Thailand ตั้งแต่ปี 2560 ที่ผ่านมา โดยภารกิจหลักของโครงการนี้คือ การอนุรักษ์ท้องทะเลไทย และส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ โดยรณรงค์ลดการสร้างขยะและบริหารจัดการขยะในแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลให้เกิดมูลค่าเพิ่ม โดยพื้นที่ดำเนินการระยะแรกของโครงการ คือ เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง จังหวัดภูเก็ต และเกาะสมุย-เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวชายทะเลที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ปริมาณขยะมากขึ้น
โครงการฯ มุ่งแก้ไขปัญหาขยะในมหาสมุทรอย่างสร้างสรรค์ โดยเริ่มต้นครั้งแรกที่ประเทศสเปน ตั้งแต่ปี 2558 โดยมูลนิธิอีโคอัลฟ์ (Ecoalf Foundation) ซึ่งดำเนินธุรกิจแฟชั่นควบคู่ไปกับการทำกิจกรรมเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม โดยการแปรรูปขยะพลาสติกในทะเลให้เป็นเส้นใยผลิตเป็นสินค้าแฟชั่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เพื่อเพิ่มมูลค่าให้ขยะในทะเล
โดย ททท. ปรารถนาให้นักท่องเที่ยว และนักดำน้ำทุกคน มีส่วนร่วมในการช่วยดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม แบบนี้อย่างต่อเนื่อง จึงได้ริเริ่มโครงการ “ทำดี ได้ดีล” โดยร่วมกับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวดำน้ำในพื้นที่นำร่องทั้ง 3 แห่ง จัดทำแพ็คเกจดำน้ำพร้อมกิจกรรมจิตอาสาเก็บขยะ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และภายใต้โครงการ “ทำดี ได้ดีล” ททท. ได้จัดกิจกรรม “สายลับจับขยะ” ขึ้นซึ่งเราได้ออกแบบอุปกรณ์ คือ “กระเป๋าสายลับจับขยะ” เป็นกระเป๋าที่ถูกออกแบบขึ้นโดยเฉพาะสำหรับคาดเอวติดตัวขณะดำน้ำ เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักดำน้ำสามารถเก็บขยะทุกโอกาสที่พบเห็น โดยกระเป๋าใบนี้จะถูกจัดส่งไปตามบริษัททัวร์ดำน้ำที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อให้นักดำน้ำยืมใช้ และส่งคืนเมื่อจบทริป เมื่อนักดำน้ำส่งกระเป๋าคืนพร้อมขยะที่เก็บได้ ทางบริษัททัวร์ดำน้ำก็จะประทับตราที่ระลึกลงบน LOGBOOK หรือ Diving Passport ที่ ททท. จัดพิมพ์ขึ้นโดยเฉพาะ ตราประทับที่นักดำน้ำได้รับนี้จะสามารถใช้แลกรับสิทธิพิเศษส่วนลดในการดำน้ำครั้งต่อไปกับร้านดำน้ำและบริษัททัวร์ดำน้ำที่เข้าร่วมโครงการในทั้ง 3 พื้นที่ และจะมีการรณรงค์ให้นักดำน้ำทั่วไปรู้จัก “กระเป๋าสายลับจับขยะ” ผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อให้เกิดกระแสการดำน้ำเชิงจิตอาสา
สำหรับทริปเปิดตัวกิจกรรมในครั้งนี้ ททท. ได้นำคณะสื่อมวลชนและบล็อกเกอร์มาดำน้ำชมความสมบูรณ์ของธรรมชาติใต้ทะเลพร้อมทำกิจกรรม “สายลับ จับขยะ” ที่เกาะทะลุ และหินเพลิง จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งดำน้ำยอดนิยมของจังหวัดระยองที่สามารถเดินทางมาได้สะดวก และมีความสวยงามไม่แพ้จุดดำน้ำอื่นๆ ในเมืองไทย
ทั้งนี้ จังหวัดระยอง และพื้นที่ใกล้เคียง เป็นพื้นที่แรกที่ ททท. ได้เปิดตัวกิจกรรม “สายลับจับขยะ” มีร้านดำน้ำ และบริษัททัวร์ดำน้ำเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 7 ราย ซึ่งกระจายตัวอยู่ตามแหล่งดำน้ำต่างๆ หลังจากนี้จะมีการเปิดตัวโครงการและจัดกิจกรรมในพื้นที่อื่นต่อไป คือ จังหวัดภูเก็ต และเกาะสมุย เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยจะมีร้านดำน้ำและบริษัททัวร์ดำน้ำเข้าร่วมโครงการใน 3 พื้นที่ รวมทั้งสิ้นไม่น้อยกว่า 25 ราย เป็นช่องทางให้นักดำน้ำหัวใจอนุรักษ์ที่สนใจสามารถร่วมกิจกรรม “สายลับจับขยะ” ได้ทุกพื้นที่
“ททท. หวังเป็นอย่างยิ่งว่า กิจกรรม สายลับจับขยะ นี้จะเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดกระแสการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบ และกลายเป็นค่านิยมของการทำดี เพื่อให้เรามีท้องทะเลที่สวยงามและยั่งยืนตลอดไป” นายนิธี กล่าวทิ้งท้าย
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager