Facebook :Travel @ Manager

สมัยก่อน หากอยากจะลิ้มรส “สตรอว์เบอร์รี่” ก็ต้องหาซื้อเป็นแบบผลไม้นำเข้าจากต่างประเทศ แต่ปัจจุบัน หลังจากมีการปรับปรุงและพัฒนาสายพันธุ์สตรอว์เบอร์รี่แล้ว เราก็มีสตรอว์เบอร์รี่อร่อยๆ จากพื้นที่เพาะปลูกในเมืองไทยไว้ให้ชิมกัน
หลายๆ คนอาจจะคิดว่าพื้นที่ที่เพาะปลูกสตรอว์เบอร์จะอยู่ที่ภาคเหนือเท่านั้น แต่ความจริงแล้วสามารถปลูกได้ในทุกภาคของไทย (แล้วแต่พื้นที่ที่เหมาะสม)

ถ้าพูดถึงแหล่งปลูกสตรอว์เบอร์รี่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดก็คงจะเป็นที่ “อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่” เพราะถือว่าเป็นแหล่งปลูกสตรอว์เบอร์รี่ที่ใหญ่ที่สุดของเมืองไทย โดยปลูกกันมากกว่า 3,000 กว่าไร่ ใครที่ขับรถมาเที่ยวแถวสะเมิง ก็จะเห็นว่ามีไร่สตรอว์เบอร์รี่ และร้านขายสตอว์เบอร์รี่เรียงอยู่สองข้างทาง ซึ่งในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ก็จะมีการจัดงานสตรอว์เบอร์รี่และของดีสะเมิง ให้ได้มาอร่อยกับสตรอว์เบอร์รี่สดๆ กันอย่างจุกใจ
“ดอยอ่างขาง จ.เชียงใหม่” นับว่าเป็นแหล่งปลูกสตรอว์เบอร์รี่ และผลไม้เมืองหนาวแห่งแรกๆ ของเมืองไทย โดยได้รับการสนับสนุนและส่งเสริมจากทางโครงการหลวง หากมาที่ดอยอ่างขาง ก็จะเห็นแปลงสตรอว์เบอร์รี่สวยๆ ท่ามกลางขุนเขา มีสตรอว์เบอร์รี่สดๆ ให้ลองชิมกัน ซึ่งส่วนใหญ่ที่มีขายก็จะเป็นสตรอว์เบอร์รี่พันธุ์พระราชทาน 80 ที่มีความหอมหวาน เนื้อแน่น สีแดงสด

“ไร่ศวิญญู จ.อุตรดิตถ์” อยู่ใน อ.ฟากท่า จ.อุตรดิตถ์ เป็นไร่สตรอว์เบอร์รี่ปลอดสารแบบขั้นบันได บนพื้นที่ภูเขาที่ไม่มีแหล่งน้ำธรรมชาติ โดยใช้สายพันธุ์พระราชทาน 80 ซึ่งการปลูกแบบขั้นบันได ก็ช่วยลดการชะล้างพังทลายของหน้าดิน มีการติดตั้งระบบน้ำหลดและสปริงเกอร์เพื่อช่วยประหยัดน้ำ รวมถึงการนำฟางข้าวและแกลบมาคลุมเพื่อรักษาความชุ่มชื้น และใช้ปุ๋ยชีวภาพในการบำรุงโดยไม่ใช้สารเคมี
“แก่นมะกรูด จ.อุทัยธานี” หรือ โครงการพื้นที่ต้นแบบบูรณาการแก้ไขปัญหาและพัฒนาพื้นที่ ต.แก่นมะกรูด อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ตามแนวพระราชดำริ ที่นี่มีอากาศหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปี ทำให้สามารถปลูกพืชและไม้ดอกเมืองหนาวได้ อาทิ กะหล่ำปลี สตรอว์เบอร์รี่ ดอกลิลลี่ ดอกทิวลิป เป็นต้น โดยผลผลิตที่วางขายนั้นก็เป็นผลผลิตสดๆ จากไร่ ซึ่งนอกจากจะเป็นแหล่งปลูกไม้ผลเมืองหนาวแล้ว ที่นี่ก็ยังถูกพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกด้วย

“ภูเรือ จ.เลย” เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่มีการเพาะปลูกสตรอว์เบอร์รี่อย่างแพร่หลาย ด้วยสภาพพื้นที่และสภาพอากาศที่เหมาะสม หากขับรถผ่านก็จะเห็นว่ามีสตรอว์เบอร์รี่สดๆ วางขายให้เลือกซื้อเลือกชิมกันอย่างเต็มอิ่ม โดยเฉพาะช่วงต้นปี ซึ่งเป็นฤดูกาลของสตรอว์เบอร์รี่
“นาแห้ว จ.เลย” ที่นี่มีมีไร่สตรอเบอร์รี่ขึ้นชื่ออยู่ที่บ้านห้วยน้ำผัก และบ้านบ่อเหมืองน้อย ในตำบลแสงภา การปลูกสตรอเบอร์รี่ในภาคอีสานไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะที่นี่ก็มีอากาศหนาวเย็นเหมือนทางภาคเหนือ แต่ที่นาแห้วนี้เป็นแห่งเดียวที่ปลูกสตรอเบอร์รีได้ครบวงจร ตั้งแต่การผลิตไหล (ต้นอ่อน) ได้เองโดยใช้ต้นอ่อนจากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อที่นำมาจาก จ.เชียงใหม่ ไปจนถึงการปลูก เพราะได้รับการสนับสนุนจากนักวิจัยของสำนักวิจัยและบริการวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และ สวทช.

“ไร่พิมพ์วรัตน์ อ.ด่านซ้าย จ.สุพรรณบุรี” ด้วยพื้นที่ของด่านซ้ายที่อยู่ใกล้ภูเขา อากาศตอนค่ำจะค่อนข้างเย็น ส่วนตอนกลางวันอากาศร้อน จึงมีเทคนิคการให้น้ำในเวลากลางวัน เพื่อให้ต้นสตรอว์เบอร์รี่รู้สึกว่าอากาสไม่มีความแตกต่างกันมากนัก ช่วยให้สตรอวืเบอร์รี่ออกผลได้ โดยที่นี่จะมีทั้งการจำหน่ายผลสตรอวืเบอร์รี่ และต้นกล้าสตรอว์เบอร์รี่ รวมถึงมีผลไม้ชนิดอื่นๆ จำหน่ายด้วย
“สวนละไม จ.ระยอง” เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม โดยมีทั้งพืชสวน พืชไร่ ผัก ผลไม้ และดอกไม้หลากหลายชนิด ซึ่งในช่วงฤดูหนาว จะเปิดให้ชมผลผลิตสตรอว์เบอร์รี่ ทุ่งคอสมอส ผลไม้ และฟาร์มแกะ และยังมีผลผลิตสตรอว์เบอร์รี่จำหน่ายให้ซื้อกลับบ้านกันด้วย
“สวนคุณฝ้าย อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี” ใครที่คิดว่าภาคใต้จะปลูกสตรอว์เบอร์รี่ไม่ได้ ต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ เพราะสตรอว์เบอร์รี่มีหลากหลายสายพันธุ์ และสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพพื้นที่ได้ โดยอาศัยการเตรียมดิน และเตรียมพื้นที่อย่างเหมาะสม โดยสวนแห่งนี้ เป็นสวนสตรอว์เบอร์รี่ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาชม ชิม และเลือกซื้อสตรอว์เบอร์รี่กลับบ้านได้
นอกจากนี้ ในพื้นที่ภาคใต้ก็ยังมีอีกหลายแห่งที่มีการเพาะปลูกสตรอว์เบอร์รี่ โดยอาศัยการคัดเลือกสายพันธุ์ และการเตรียมดิน อย่างเช่นที่ อ.ระโนด จ.สงขลา ก็ทดลองเพาะปลูกสตรอว์เบอร์รี่ได้ผลดี หรือจะเป็นพื้นที่สวนยาง ใน จ.สุราษฎร์ธานี ก็ปลูกสตรอว์เบอร์รี่แซมอยู่ในสวนยางได้ด้วยเช่นกัน
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
สมัยก่อน หากอยากจะลิ้มรส “สตรอว์เบอร์รี่” ก็ต้องหาซื้อเป็นแบบผลไม้นำเข้าจากต่างประเทศ แต่ปัจจุบัน หลังจากมีการปรับปรุงและพัฒนาสายพันธุ์สตรอว์เบอร์รี่แล้ว เราก็มีสตรอว์เบอร์รี่อร่อยๆ จากพื้นที่เพาะปลูกในเมืองไทยไว้ให้ชิมกัน
หลายๆ คนอาจจะคิดว่าพื้นที่ที่เพาะปลูกสตรอว์เบอร์จะอยู่ที่ภาคเหนือเท่านั้น แต่ความจริงแล้วสามารถปลูกได้ในทุกภาคของไทย (แล้วแต่พื้นที่ที่เหมาะสม)
ถ้าพูดถึงแหล่งปลูกสตรอว์เบอร์รี่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดก็คงจะเป็นที่ “อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่” เพราะถือว่าเป็นแหล่งปลูกสตรอว์เบอร์รี่ที่ใหญ่ที่สุดของเมืองไทย โดยปลูกกันมากกว่า 3,000 กว่าไร่ ใครที่ขับรถมาเที่ยวแถวสะเมิง ก็จะเห็นว่ามีไร่สตรอว์เบอร์รี่ และร้านขายสตอว์เบอร์รี่เรียงอยู่สองข้างทาง ซึ่งในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ก็จะมีการจัดงานสตรอว์เบอร์รี่และของดีสะเมิง ให้ได้มาอร่อยกับสตรอว์เบอร์รี่สดๆ กันอย่างจุกใจ
“ดอยอ่างขาง จ.เชียงใหม่” นับว่าเป็นแหล่งปลูกสตรอว์เบอร์รี่ และผลไม้เมืองหนาวแห่งแรกๆ ของเมืองไทย โดยได้รับการสนับสนุนและส่งเสริมจากทางโครงการหลวง หากมาที่ดอยอ่างขาง ก็จะเห็นแปลงสตรอว์เบอร์รี่สวยๆ ท่ามกลางขุนเขา มีสตรอว์เบอร์รี่สดๆ ให้ลองชิมกัน ซึ่งส่วนใหญ่ที่มีขายก็จะเป็นสตรอว์เบอร์รี่พันธุ์พระราชทาน 80 ที่มีความหอมหวาน เนื้อแน่น สีแดงสด
“ไร่ศวิญญู จ.อุตรดิตถ์” อยู่ใน อ.ฟากท่า จ.อุตรดิตถ์ เป็นไร่สตรอว์เบอร์รี่ปลอดสารแบบขั้นบันได บนพื้นที่ภูเขาที่ไม่มีแหล่งน้ำธรรมชาติ โดยใช้สายพันธุ์พระราชทาน 80 ซึ่งการปลูกแบบขั้นบันได ก็ช่วยลดการชะล้างพังทลายของหน้าดิน มีการติดตั้งระบบน้ำหลดและสปริงเกอร์เพื่อช่วยประหยัดน้ำ รวมถึงการนำฟางข้าวและแกลบมาคลุมเพื่อรักษาความชุ่มชื้น และใช้ปุ๋ยชีวภาพในการบำรุงโดยไม่ใช้สารเคมี
“แก่นมะกรูด จ.อุทัยธานี” หรือ โครงการพื้นที่ต้นแบบบูรณาการแก้ไขปัญหาและพัฒนาพื้นที่ ต.แก่นมะกรูด อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ตามแนวพระราชดำริ ที่นี่มีอากาศหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปี ทำให้สามารถปลูกพืชและไม้ดอกเมืองหนาวได้ อาทิ กะหล่ำปลี สตรอว์เบอร์รี่ ดอกลิลลี่ ดอกทิวลิป เป็นต้น โดยผลผลิตที่วางขายนั้นก็เป็นผลผลิตสดๆ จากไร่ ซึ่งนอกจากจะเป็นแหล่งปลูกไม้ผลเมืองหนาวแล้ว ที่นี่ก็ยังถูกพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกด้วย
“ภูเรือ จ.เลย” เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่มีการเพาะปลูกสตรอว์เบอร์รี่อย่างแพร่หลาย ด้วยสภาพพื้นที่และสภาพอากาศที่เหมาะสม หากขับรถผ่านก็จะเห็นว่ามีสตรอว์เบอร์รี่สดๆ วางขายให้เลือกซื้อเลือกชิมกันอย่างเต็มอิ่ม โดยเฉพาะช่วงต้นปี ซึ่งเป็นฤดูกาลของสตรอว์เบอร์รี่
“นาแห้ว จ.เลย” ที่นี่มีมีไร่สตรอเบอร์รี่ขึ้นชื่ออยู่ที่บ้านห้วยน้ำผัก และบ้านบ่อเหมืองน้อย ในตำบลแสงภา การปลูกสตรอเบอร์รี่ในภาคอีสานไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะที่นี่ก็มีอากาศหนาวเย็นเหมือนทางภาคเหนือ แต่ที่นาแห้วนี้เป็นแห่งเดียวที่ปลูกสตรอเบอร์รีได้ครบวงจร ตั้งแต่การผลิตไหล (ต้นอ่อน) ได้เองโดยใช้ต้นอ่อนจากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อที่นำมาจาก จ.เชียงใหม่ ไปจนถึงการปลูก เพราะได้รับการสนับสนุนจากนักวิจัยของสำนักวิจัยและบริการวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และ สวทช.
“ไร่พิมพ์วรัตน์ อ.ด่านซ้าย จ.สุพรรณบุรี” ด้วยพื้นที่ของด่านซ้ายที่อยู่ใกล้ภูเขา อากาศตอนค่ำจะค่อนข้างเย็น ส่วนตอนกลางวันอากาศร้อน จึงมีเทคนิคการให้น้ำในเวลากลางวัน เพื่อให้ต้นสตรอว์เบอร์รี่รู้สึกว่าอากาสไม่มีความแตกต่างกันมากนัก ช่วยให้สตรอวืเบอร์รี่ออกผลได้ โดยที่นี่จะมีทั้งการจำหน่ายผลสตรอวืเบอร์รี่ และต้นกล้าสตรอว์เบอร์รี่ รวมถึงมีผลไม้ชนิดอื่นๆ จำหน่ายด้วย
“สวนละไม จ.ระยอง” เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม โดยมีทั้งพืชสวน พืชไร่ ผัก ผลไม้ และดอกไม้หลากหลายชนิด ซึ่งในช่วงฤดูหนาว จะเปิดให้ชมผลผลิตสตรอว์เบอร์รี่ ทุ่งคอสมอส ผลไม้ และฟาร์มแกะ และยังมีผลผลิตสตรอว์เบอร์รี่จำหน่ายให้ซื้อกลับบ้านกันด้วย
“สวนคุณฝ้าย อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี” ใครที่คิดว่าภาคใต้จะปลูกสตรอว์เบอร์รี่ไม่ได้ ต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ เพราะสตรอว์เบอร์รี่มีหลากหลายสายพันธุ์ และสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพพื้นที่ได้ โดยอาศัยการเตรียมดิน และเตรียมพื้นที่อย่างเหมาะสม โดยสวนแห่งนี้ เป็นสวนสตรอว์เบอร์รี่ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาชม ชิม และเลือกซื้อสตรอว์เบอร์รี่กลับบ้านได้
นอกจากนี้ ในพื้นที่ภาคใต้ก็ยังมีอีกหลายแห่งที่มีการเพาะปลูกสตรอว์เบอร์รี่ โดยอาศัยการคัดเลือกสายพันธุ์ และการเตรียมดิน อย่างเช่นที่ อ.ระโนด จ.สงขลา ก็ทดลองเพาะปลูกสตรอว์เบอร์รี่ได้ผลดี หรือจะเป็นพื้นที่สวนยาง ใน จ.สุราษฎร์ธานี ก็ปลูกสตรอว์เบอร์รี่แซมอยู่ในสวนยางได้ด้วยเช่นกัน
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager