Facebook :Travel @ Manager
อีกไม่กี่วันก็จะเข้าสู่ช่วงนับถอยหลังเข้าสู่ศักราชใหม่แล้ว จึงอยากจะขอรวบรวม 5 สถานที่ท่องเที่ยวเกี่ยวกับ “ไก่” เพื่อเป็นการเที่ยวส่งท้ายปีไก่กันสักหน่อย
พระธาตุหริภุญชัย จ.ลำพูน
“พระธาตุหริภุญชัย” ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลำพูนในวัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร หมู่ 1 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ลำพูน อยู่ห่างจากศาลากลางจังหวัดลำพูนประมาณ 150 เมตร
พระธาตุหริภุญชัยเป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์สำคัญของจังหวัดลำพูน เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวลำพูน และเป็นหนึ่งในพระธาตุสำคัญแห่งดินแดนล้านนา นอกจากนี้ยังเป็นพระธาตุประจำปีของคนเกิดปีระกา (ไก่) ตามคติความเชื่อของชาวล้านนาตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น
องค์พระธาตุหริภุญชัย ปัจจุบันเป็นเจดีย์ทรงระฆัง (ทรงกลม) แบบล้านนาอันสวยงามสมส่วน หุ้มทองจังโกสีทองงดงามอร่ามตา อีกทั้งยังเป็นต้นแบบและมีอิทธิพลต่อพระธาตุเจดีย์องค์อื่นๆอีกหลากหลาย อย่างเช่น พระธาตุลำปางหลวง จ.ลำปาง พระธาตุแช่แห้ง จ.น่าน เป็นต้น
กู่ไก่ ที่วัดไก่แก้ว จ.ลำพูน
นอกจากพระธาตุปีไก่แล้ว ในลำพูนยังมี “กู่ไก่” ซึ่งเป็นเจดีย์ที่บรรจุซากร่างของไก่แก้วสีขาวคู่บารมีของพระนางจามเทวีและคู่ขวัญของเมืองหริภุญไชย ที่หลังวัดไก่แก้ว ชุมชนไก่แก้ว อ.เมือง ให้ผู้คนไปสักการะบูชากัน โดยยังมีกู่ช้าง, กู่ม้า และกู่แมว อีกด้วย
เกาะไก่ จ.กระบี่
“เกาะไก่” (เกาะปอดะนอก หรือเกาะด้ามขวาน) ที่เรียกเช่นนี้เพราะว่าที่บริเวณปลายสุดของเกาะมีหินแหลมๆ รูปร่างคล้ายกับคอและหัวของไก่ แต่ถ้ามาที่อีกด้านของเกาะไก่ ก็จะเป็นจุดเชื่อมต่อของ “ทะเลแหวกเกาะไก่" หนึ่งในอันซีนไทยแลนด์เมื่อปี พ.ศ.2546
ความน่าสนใจและน่าอัศจรรย์ใจอยู่ที่เมื่อยามน้ำทะเลลดต่ำลง สันทรายที่ทอดยาวก็จะปรากฏขึ้น กลายเป็นสะพานทรายทอดยาวเชื่อมเกาะ 3 เกาะเข้าด้วยกัน นั่นก็คือ เกาะไก่ เกาะหม้อ และเกาะทับ ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับเกาะปอดะ โดยช่วงที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการไปท่องเที่ยวก็คือ ระหว่างเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนพฤษภาคม ในช่วงเวลาที่น้ำลงต่ำสุดในแต่ละวัน
ชามตราไก่ ที่พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนบดี จ.ลำปาง
“พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนบดี” ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเรื่องราวต้นกำเนิด “ชามตราไก่” ในจังหวัดลำปาง แต่ที่จริงแล้วชามตราไก่นั้นมีต้นกำเนิดมาจากเมืองจีนกว่าร้อยปีมาแล้ว ซึ่งชามไก่นอกจากจะใช้กันในเมืองจีนแล้ว ยังส่งจำหน่ายแก่ชาวจีนโพ้นทะเลด้วย ดังนั้นชามไก่ส่วนหนึ่งจึงส่งมาจำหน่ายยังประเทศไทยด้วยเช่นกัน
ลวดลายที่วาดบนถ้วยชามเป็นรูปไก่ตัวโต มีหงอนและขนหางสวยงาม วาดด้วยมือโดยใช้พู่กันและสีเคลือบ โดยที่โรงงานธนบดีก็ยังคงอนุรักษ์รูปแบบของชามไก่ไว้ให้เหมือนต้นฉบับชามไก่โบราณ โดยวาดเป็นรูปไก่มีขนคอและลำตัวสีส้ม หางและขาสีดำ เดินอยู่บนหญ้าสีเขียว มีดอกเบญจมาศสีชมพูอมม่วง ใบสีเขียวตัดเส้นด้วยสีดำอยู่ด้านซ้าย มีต้นกล้วย 1 ต้น สีเขียวตัดเส้นด้วยสีดำอยู่ด้านขวา บางใบจะมีค้างคาวห้อยหัวอยู่ฝั่งตรงข้ามกับไก่ มีดอกไม้ใบไม้เล็กๆ แต้มก้นชามด้านในเป็นรูปดอกจิก
สปาสุ่มไก่ จ.ตราด
“สปาสุ่มไก่” สปาที่ไม่เหมือนที่ใดในโลก นับว่าเป็นคิดค้นของชาวบ้านที่ บ้านช้างทูน อ.บ่อไร่ จ.ตราด ที่แปลกใหม่และยังไม่มีใครทำ มีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและช่วยให้เลือดหมุนเวียนดี รักษาอาการหลังคลอดได้อีกด้วย
ลักษณะการอบสปาสุ่มไก่ภายในสุ่มจะมีหม้อต้มสมุนไพรนานาชนิดอยู่ในสุ่ม บริเวณโดยรอบในสุ่มไก่มีผ้ากันน้ำอยู่ข้างในรอบสุ่ม วิธีการอบสปาสุ่มไก่ต้องเอาตัวเข้าไปในสุ่ม และจะมีรูตรงกลางข้างบนเพื่อให้สอดหัวขึ้นมา ทั้งยังได้กลิ่นหอมสมุนไพรที่พุ่งเป็นไอขึ้นมา ใช้เวลาในการอบละ 10-15 นาที
และนี่คือสถานที่ท่องเที่ยวส่งท้ายปีไก่ที่อยากชวนทุกคนออกไปเที่ยวกันให้สุขใจ ลาทีปีไก่อย่างสุขสันต์
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
อีกไม่กี่วันก็จะเข้าสู่ช่วงนับถอยหลังเข้าสู่ศักราชใหม่แล้ว จึงอยากจะขอรวบรวม 5 สถานที่ท่องเที่ยวเกี่ยวกับ “ไก่” เพื่อเป็นการเที่ยวส่งท้ายปีไก่กันสักหน่อย
พระธาตุหริภุญชัย จ.ลำพูน
“พระธาตุหริภุญชัย” ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลำพูนในวัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร หมู่ 1 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ลำพูน อยู่ห่างจากศาลากลางจังหวัดลำพูนประมาณ 150 เมตร
พระธาตุหริภุญชัยเป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์สำคัญของจังหวัดลำพูน เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวลำพูน และเป็นหนึ่งในพระธาตุสำคัญแห่งดินแดนล้านนา นอกจากนี้ยังเป็นพระธาตุประจำปีของคนเกิดปีระกา (ไก่) ตามคติความเชื่อของชาวล้านนาตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น
องค์พระธาตุหริภุญชัย ปัจจุบันเป็นเจดีย์ทรงระฆัง (ทรงกลม) แบบล้านนาอันสวยงามสมส่วน หุ้มทองจังโกสีทองงดงามอร่ามตา อีกทั้งยังเป็นต้นแบบและมีอิทธิพลต่อพระธาตุเจดีย์องค์อื่นๆอีกหลากหลาย อย่างเช่น พระธาตุลำปางหลวง จ.ลำปาง พระธาตุแช่แห้ง จ.น่าน เป็นต้น
กู่ไก่ ที่วัดไก่แก้ว จ.ลำพูน
นอกจากพระธาตุปีไก่แล้ว ในลำพูนยังมี “กู่ไก่” ซึ่งเป็นเจดีย์ที่บรรจุซากร่างของไก่แก้วสีขาวคู่บารมีของพระนางจามเทวีและคู่ขวัญของเมืองหริภุญไชย ที่หลังวัดไก่แก้ว ชุมชนไก่แก้ว อ.เมือง ให้ผู้คนไปสักการะบูชากัน โดยยังมีกู่ช้าง, กู่ม้า และกู่แมว อีกด้วย
เกาะไก่ จ.กระบี่
“เกาะไก่” (เกาะปอดะนอก หรือเกาะด้ามขวาน) ที่เรียกเช่นนี้เพราะว่าที่บริเวณปลายสุดของเกาะมีหินแหลมๆ รูปร่างคล้ายกับคอและหัวของไก่ แต่ถ้ามาที่อีกด้านของเกาะไก่ ก็จะเป็นจุดเชื่อมต่อของ “ทะเลแหวกเกาะไก่" หนึ่งในอันซีนไทยแลนด์เมื่อปี พ.ศ.2546
ความน่าสนใจและน่าอัศจรรย์ใจอยู่ที่เมื่อยามน้ำทะเลลดต่ำลง สันทรายที่ทอดยาวก็จะปรากฏขึ้น กลายเป็นสะพานทรายทอดยาวเชื่อมเกาะ 3 เกาะเข้าด้วยกัน นั่นก็คือ เกาะไก่ เกาะหม้อ และเกาะทับ ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับเกาะปอดะ โดยช่วงที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการไปท่องเที่ยวก็คือ ระหว่างเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนพฤษภาคม ในช่วงเวลาที่น้ำลงต่ำสุดในแต่ละวัน
ชามตราไก่ ที่พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนบดี จ.ลำปาง
“พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนบดี” ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเรื่องราวต้นกำเนิด “ชามตราไก่” ในจังหวัดลำปาง แต่ที่จริงแล้วชามตราไก่นั้นมีต้นกำเนิดมาจากเมืองจีนกว่าร้อยปีมาแล้ว ซึ่งชามไก่นอกจากจะใช้กันในเมืองจีนแล้ว ยังส่งจำหน่ายแก่ชาวจีนโพ้นทะเลด้วย ดังนั้นชามไก่ส่วนหนึ่งจึงส่งมาจำหน่ายยังประเทศไทยด้วยเช่นกัน
ลวดลายที่วาดบนถ้วยชามเป็นรูปไก่ตัวโต มีหงอนและขนหางสวยงาม วาดด้วยมือโดยใช้พู่กันและสีเคลือบ โดยที่โรงงานธนบดีก็ยังคงอนุรักษ์รูปแบบของชามไก่ไว้ให้เหมือนต้นฉบับชามไก่โบราณ โดยวาดเป็นรูปไก่มีขนคอและลำตัวสีส้ม หางและขาสีดำ เดินอยู่บนหญ้าสีเขียว มีดอกเบญจมาศสีชมพูอมม่วง ใบสีเขียวตัดเส้นด้วยสีดำอยู่ด้านซ้าย มีต้นกล้วย 1 ต้น สีเขียวตัดเส้นด้วยสีดำอยู่ด้านขวา บางใบจะมีค้างคาวห้อยหัวอยู่ฝั่งตรงข้ามกับไก่ มีดอกไม้ใบไม้เล็กๆ แต้มก้นชามด้านในเป็นรูปดอกจิก
สปาสุ่มไก่ จ.ตราด
“สปาสุ่มไก่” สปาที่ไม่เหมือนที่ใดในโลก นับว่าเป็นคิดค้นของชาวบ้านที่ บ้านช้างทูน อ.บ่อไร่ จ.ตราด ที่แปลกใหม่และยังไม่มีใครทำ มีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและช่วยให้เลือดหมุนเวียนดี รักษาอาการหลังคลอดได้อีกด้วย
ลักษณะการอบสปาสุ่มไก่ภายในสุ่มจะมีหม้อต้มสมุนไพรนานาชนิดอยู่ในสุ่ม บริเวณโดยรอบในสุ่มไก่มีผ้ากันน้ำอยู่ข้างในรอบสุ่ม วิธีการอบสปาสุ่มไก่ต้องเอาตัวเข้าไปในสุ่ม และจะมีรูตรงกลางข้างบนเพื่อให้สอดหัวขึ้นมา ทั้งยังได้กลิ่นหอมสมุนไพรที่พุ่งเป็นไอขึ้นมา ใช้เวลาในการอบละ 10-15 นาที
และนี่คือสถานที่ท่องเที่ยวส่งท้ายปีไก่ที่อยากชวนทุกคนออกไปเที่ยวกันให้สุขใจ ลาทีปีไก่อย่างสุขสันต์
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
