Facebook :Travel @ Manager
28 ธันวาคม ของทุกปีถือเป็นวันสำคัญของประวัติศาสตร์ชาติไทย โดยเป็น “วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” หรือวันคล้ายวันปราบดาภิเษกสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พระมหากษัตริย์พระองค์แรกและพระองค์เดียวแห่งกรุงธนบุรี
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเป็นพระมหากษัตริย์ผู้กอบกู้เอกราชบ้านเมืองกลับคืนมาหลังจากที่แผ่นดินกรุงศรีอยุธยาถูกข้าศึกบุกทำลายเสียหายใน พ.ศ.2310 โดยสมเด็จพระเจ้าตากสินหรือเจ้าเมืองตากในขณะนั้นได้ตีฝ่าวงล้อมข้าศึกออกไปตั้งมั่นที่จังหวัดจันทบุรี จากนั้นก็ได้รวบรวมไพร่พลยกทัพกลับมาตีข้าศึกกู้เอกราชเอาบ้านเมืองกลับคืนมาเป็นของชาวไทยอีกครั้ง
หลังจากนั้นพระองค์ทรงย้ายเมืองหลวงจากกรุงศรีอยุธยามายังกรุงธนบุรี ตั้งราชธานีใหม่นามว่า "กรุงธนบุรีศรีมหาสมุทร" และทรงปราบดาภิเษกเป็นสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2310 พระชนมายุ 34 พรรษา
พระราชกรณียกิจหลักในรัชสมัยของพระองค์คือการปราบปรามก๊กต่างๆ ที่แตกแยกเป็นหลายฝ่ายเพื่อรวบรวมให้เป็นอาณาจักรเดียวกัน และฟื้นฟูความเสียหายที่เกิดขึ้นหลังจากทำสงครามกับพม่า พระองค์ทรงครองราชย์ได้เพียง 15 ปี ก็เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ.2325 โดยเหตุแห่งการสวรรคตก็มีข้อสันนิษฐานแตกต่างกันไป
แม้กระนั้นประชาชนชาวไทยต่างก็ยกย่องและถวายพระเกียรติแด่พระองค์ให้เป็น “มหาราช” องค์หนึ่งของไทย หลายภาคส่วนในหลายพื้นที่ของประเทศได้ร่วมใจกันสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระองค์เพื่อให้ประชาชนได้รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครฝั่งธนบุรี รวมไปถึงจังหวัดต่างๆ ที่พระองค์ได้เคยเสด็จผ่าน โดยแต่ละแห่งก็มีเรื่องราวแตกต่างกันไป เราขอรวบรวมมาไว้ 9 แห่งด้วยกัน
“วงเวียนใหญ่” กรุงเทพฯ
พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ตั้งอยู่กลางวงเวียนใหญ่ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2496 ออกแบบและควบคุมการหล่อโดยศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี เป็นพระบรมรูปทรงเครื่องกษัตริย์ ทรงพระมาลา ประทับบนหลังม้า หันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้สู่จันทบุรี พระหัตถ์ขวาทรงพระแสงดาบชูออกไปเบื้องหน้า พระหัตถ์ซ้ายทรงบังเหียนท่านำพลรุกไล่ข้าศึก และในวันที่ 28 ธันวาคม ของทุกปีจะมีพิธีถวายบังคมพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี และพิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณของพระองค์ ณ ที่แห่งนี้
ในปีนี้จะมีการจัดงานเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ในช่วงวันที่ 27-28 ธันวาคม บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (วงเวียนใหญ่) โดยวันที่ 27 ธ.ค. เวลา 09.30 น. จะมีพิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ณ วัดอินทารามวรวิหาร เขตธนบุรี เวลา 16.00 น. กิจกรรมเดินเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จากวัดอินทารามวรวิหาร เข้าสู่บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (วงเวียนใหญ่) และในวันที่ 28 ธ.ค. ตั้งแต่เวลา 06.30 น. มีพิธีบวงสรวงดวงวิญญาณสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร และพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เวลา 07.00 น. พิธีตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 99 รูป ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เวลา 07.45 น. พิธีบวงสรวงดวงวิญญาณสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เวลา 09.00 น. พิธีวางพานพุ่มถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช นอกจากนี้จะมีการออกร้านจำหน่ายสินค้า และการแสดงต่างๆ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เวลา 16.00-24.00 น. ชมฟรีตลอดทั้งงาน
“พระราชวังเดิม” กรุงเทพฯ
พระราชวังเดิมคือพระราชวังแห่งกรุงธนบุรี สถานที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าตากสิน ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของกองทัพเรือ ภายในพระราชวังเดิมยังคงมีอาคารดั้งเดิมที่ได้รับการดูแลรักษาอย่างดี อาทิ อาคารท้องพระโรงซึ่งใช้เป็นที่เสด็จออกว่าขุนนางและประกอบพิธีสำคัญต่างๆ พระที่นั่งขวาง เป็นส่วนของราชมณเฑียรหรือที่ประทับส่วนพระองค์
เนื่องจากพระราชวังเดิมเป็นสถานที่อันสำคัญยิ่งภายหลังจึงได้สร้างศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินขึ้น โดยภายในศาลประดิษฐานรูปหล่อและพระบรมสาทิสสลักษณ์ของพระองค์ รวมทั้งพระบรมรูปในท่าประทับยืนและทรงพระแสงดาบขนาดเท่าคนจริง อีกทั้งด้านหน้าพระราชวังเดิมติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาก็มีพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระองค์ในท่าประทับยืนหันหน้าไปทางทิศที่ตั้งของกรุงศรีอยุธยา มือซ้ายถือพระแสงดาบ ส่วนมือขวาชี้ลงพื้นดิน
ในช่วงนี้ทางกองทัพเรือ ร่วมกับ มูลนิธิอนุรักษ์โบราณสถานในพระราชวังเดิม ได้เปิดโบราณสถานในพระราชวังเดิม ประกอบด้วย ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน ท้องพระโรงกรุงธนบุรี ตำหนักเก๋งคู่ ตำหนักเก๋งสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ประชาชนได้เช้าชมและถวายสักการะสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พร้อมทั้งเปิดให้เช่าบูชาวัตถุมงคลและจำหน่ายสินค้าที่ระลึก อาทิ ตราไปรษณียากร หนังสือ เสื้อ ผู้สนใจ เข้าชมได้ตั้งแต่วันนี้ - 28 ธันวาคม 2560 ระหว่างเวลา 08.30 - 16.30 น. สามารถเข้าไปชมกันได้
“วัดอินทาราม” กรุงเทพฯ
วัดอินทารามวรวิหารเป็นวัดสำคัญในฝั่งธนบุรีที่มีประวัติเกี่ยวข้องกับสมเด็จพระเจ้าตากสิน โดยเป็นวัดโบราณตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาที่พระองค์โปรดเกล้าฯ ให้บูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก อีกทั้งพระองค์ยังเคยเสด็จมาประทับแรมเพื่อทรงนั่งวิปัสสนากรรมฐานและทรงศีลภาวนาที่วัดแห่งนี้ จนเมื่อพระองค์เสด็จสวรรคต วัดอินทารามก็ยังเป็นที่ประดิษฐานพระบรมศพ ถวายพระเพลิง และบรรจุพระบรมอัฐิ
ภายในวัดมีพระเจดีย์คู่หนึ่ง เรียกว่าพระเจดีย์กู้ชาติ อยู่หน้าพระอุโบสถหลังเก่า เชื่อกันว่าเป็นที่บรรจุพระบรมอัฐิของพระเจ้าตากและพระอัครมเหสีไว้ ส่วนในพระอุโบสถมีพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยปางตรัสรู้เป็นพระประธาน ภายในบรรจุพระบรมราชสรีรังคาร หรือ เถ้ากระดูกของสมเด็จพระเจ้าตากสินไว้ด้วย
“วัดหงส์รัตนาราม” กรุงเทพฯ
วัดหงส์รัตนารามเป็นวัดในสมัยอยุธยาตอนปลายที่มาบูรณปฏิสังขรณ์ในสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรีเช่นกัน เมื่อพระองค์ทรงรับวัดนี้ไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ก็ทรงปฏิสังขรณ์ทั้งวัดในคราวเดียวกันกับวัดอินทาราม และพระองค์ก็มักจะเสด็จมานั่งวิปัสสนากรรมฐานที่วัดนี้ด้วยเช่นกัน
ที่ด้านหน้าวัดหงส์รัตนารามเป็นที่ตั้งของศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน เชื่อกันว่าเมื่อพระองค์สวรรคตแล้วได้มีการเคลื่อนย้ายพระบรมศพผ่านมาทางนี้และโลหิตของพระองค์ได้ตกลงพื้นในบริเวณนี้ด้วย ประชาชนจึงได้สร้างศาลไว้สักการะบูชา ศาลเดิมนั้นเป็นศาลไม้ชำรุดทรุดโทรม แต่ต่อมากองทัพเรือได้มาบูรณะสร้างศาลใหม่ แต่ยังรักษาศาลเก่าเอาไว้ด้านหน้าด้วย
“ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” จ.จันทบุรี
จังหวัดจันทบุรีเป็นสถานที่รวบรวมไพร่พลและกองทัพของพระเจ้าตาก ก่อนที่พระองค์จะบุกกลับมากู้แผ่นดินคืนจากข้าศึก ที่นี่จึงมีความเกี่ยวข้องผูกพันกับพระเจ้าตากสินเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงมีสถานที่ที่เป็นที่ระลึกถึงท่านอยู่มากมาย สถานที่สำคัญแห่งหนึ่งก็คือ “ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” ในตัวเมืองจันท์ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2463 ก่อนที่ชาวจันทบุรีจะร่วมกันบริจาคเงินสร้างศาลใหม่ขึ้นใกล้กับศาลเดิมใน พ.ศ.2534
ศาลแห่งนี้มีรูปทรงเก้าเหลี่ยมสร้างด้วยหินอ่อน พื้นเป็นหินแกรนิต หลังคาเป็นรูปพระมาลายอดแหลมประดับลวดลายทองงามไม่เหมือนที่ไหน ภายในประดิษฐานพระบรมรูปของสมเด็จพระเจ้าตากสินในลักษณะประทับนั่งทรงเมือง หล่อด้วยทองเหลืองรมดำ มีผู้คนมากราบสักการะมิได้ขาด
“วัดลุ่มมหาชัยชุมพล” จ.ระยอง
ในอำเภอเมืองระยองเป็นที่ตั้งของวัดลุ่มมหาชัยชุมพล หรือเรียกสั้นๆ ว่าวัดลุ่ม มีประวัติเล่ากันว่าสมเด็จพระเจ้าตากสินได้นำทหารและพลเรือนอพยพมาผูกช้างผูกม้าพักแรมที่โคนต้นสะตือใหญ่บริเวณวัดแห่งนี้ ก่อนจะบุกไปเมืองจันทบุรีต่อไป
ต้นสะตือที่ว่านี้ยังคงปรากฏอยู่ในบริเวณวัด ยืนต้นแผ่กิ่งก้านสาขาร่มรื่นเป็นอย่างมาก บริเวณข้างต้นสะตือเป็นที่ตั้งของศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชรูปทรงแบบจัตุรมุข ด้านในประดิษฐานพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชขนาดเท่าองค์จริง มีผู้คนมากราบสักการะจำนวนมากโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีน
“วัดโยธานิมิตร” จ.ตราด
เล่ากันว่าหลังเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 สมเด็จพระเจ้าตากสินได้มาตั้งทัพที่เมืองตราดเพื่อรวบรวมไพร่พลและตั้งค่ายพักแรมบริเวณที่ตั้งวัดนี้ และให้กำลังพลขนมูลดินมาเพื่อสร้างวัด และต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 3 ได้มีการสร้างวัดจนสำเร็จ ให้ชื่อว่าวัดโยธานิมิตร
ปัจจุบันภายในวัดโยธานิมิตรมีพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินทรงม้าศึกลักษณะเดียวกับที่วงเวียนใหญ่ และมีศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินที่สร้างขึ้นในศาลากลางน้ำ ลักษณะคล้ายเรือ ภายในประดิษฐานรูปหล่อสมเด็จพระเจ้าตากสินขนาดเท่าคนจริงในท่าประทับนั่ง มีพระแสงดาบวางพาดพระเพลา
“ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน” จ.ตาก
ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชตั้งอยู่ในอำเภอเมืองตาก เมืองที่ครั้งหนึ่งพระองค์เคยเป็นเจ้าเมืองปกครองอยู่ระยะหนึ่ง ศาลแห่งนี้จึงมีความสำคัญกับจังหวัดตากเป็นอย่างมาก ตัวศาลเป็นศาลาแบบจตุรมุข ภายในประดิษฐานพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชในพระอิริยาบถกำลังประทับอยู่บนราชอาสน์ มีพระแสงดาบพาดอยู่ที่พระเพลา ด้านหน้าศาลแขวนโคมจีนสีแดง ภายในประดิษฐานพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ขนาดใหญ่กว่าพระองค์จริงเล็กน้อย ในพระราชอิริยาบถที่กำลังประทับอยู่บนราชอาสน์ มีพระแสงดาบพาดอยู่ที่พระเพลา ด้านหลังศาลจะมีรูปปั้นช้างศึกม้าศึกอยู่เต็มบริเวณ ซึ่งได้มาจากผู้ที่นำมาถวายหลังจากขอพรจากศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินได้ตามประสงค์
“วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร” จ.นครศรีธรรมราช
ปิดท้ายกันที่วัดพระมหาธาตุ หรือวัดพระบรมธาตุ จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยคนจำนวนไม่น้อยเชื่อว่าแท้จริงแล้วพระเจ้าตากสินมิได้สวรรคตจากการสำเร็จโทษด้วยท่อนจันทน์ หากแต่พระองค์ทรงลี้ภัยมายังแดนใต้ถึงเมืองนครศรีธรรมราช และทรงใช้ชีวิตบั้นปลายบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ที่นี่ โดยได้ประทับและภาวนาศีลอยู่ที่ถ้ำเขาขุนพนม อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช
ที่วัดพระมหาธาตุนครศรีธรรมราช มี “เส้นทางพระเจ้าตาก” อยู่ที่วิหารทับเกษตร เป็นเส้นทางที่เชื่อว่าพระองค์เคยมาเดินปฏิบัติธรรมที่นี่ และภายในวัดยังมีพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินทรงเครื่องแบบกษัตริย์ประทับนั่ง และมีรูปจำลองพระภิกษุสงฆ์มีนามว่า “สมเด็จสมณเจ้าสิน พรหมปัญโญ วิสุทธิเทพ ภิกขุ” ซึ่งเชื่อว่าพระเจ้าตากสินที่เสด็จมาบวชอยู่ที่เมืองนครฯ แห่งนี้นั่นเอง
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
28 ธันวาคม ของทุกปีถือเป็นวันสำคัญของประวัติศาสตร์ชาติไทย โดยเป็น “วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” หรือวันคล้ายวันปราบดาภิเษกสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พระมหากษัตริย์พระองค์แรกและพระองค์เดียวแห่งกรุงธนบุรี
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเป็นพระมหากษัตริย์ผู้กอบกู้เอกราชบ้านเมืองกลับคืนมาหลังจากที่แผ่นดินกรุงศรีอยุธยาถูกข้าศึกบุกทำลายเสียหายใน พ.ศ.2310 โดยสมเด็จพระเจ้าตากสินหรือเจ้าเมืองตากในขณะนั้นได้ตีฝ่าวงล้อมข้าศึกออกไปตั้งมั่นที่จังหวัดจันทบุรี จากนั้นก็ได้รวบรวมไพร่พลยกทัพกลับมาตีข้าศึกกู้เอกราชเอาบ้านเมืองกลับคืนมาเป็นของชาวไทยอีกครั้ง
หลังจากนั้นพระองค์ทรงย้ายเมืองหลวงจากกรุงศรีอยุธยามายังกรุงธนบุรี ตั้งราชธานีใหม่นามว่า "กรุงธนบุรีศรีมหาสมุทร" และทรงปราบดาภิเษกเป็นสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2310 พระชนมายุ 34 พรรษา
พระราชกรณียกิจหลักในรัชสมัยของพระองค์คือการปราบปรามก๊กต่างๆ ที่แตกแยกเป็นหลายฝ่ายเพื่อรวบรวมให้เป็นอาณาจักรเดียวกัน และฟื้นฟูความเสียหายที่เกิดขึ้นหลังจากทำสงครามกับพม่า พระองค์ทรงครองราชย์ได้เพียง 15 ปี ก็เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ.2325 โดยเหตุแห่งการสวรรคตก็มีข้อสันนิษฐานแตกต่างกันไป
แม้กระนั้นประชาชนชาวไทยต่างก็ยกย่องและถวายพระเกียรติแด่พระองค์ให้เป็น “มหาราช” องค์หนึ่งของไทย หลายภาคส่วนในหลายพื้นที่ของประเทศได้ร่วมใจกันสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระองค์เพื่อให้ประชาชนได้รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครฝั่งธนบุรี รวมไปถึงจังหวัดต่างๆ ที่พระองค์ได้เคยเสด็จผ่าน โดยแต่ละแห่งก็มีเรื่องราวแตกต่างกันไป เราขอรวบรวมมาไว้ 9 แห่งด้วยกัน
“วงเวียนใหญ่” กรุงเทพฯ
พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ตั้งอยู่กลางวงเวียนใหญ่ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2496 ออกแบบและควบคุมการหล่อโดยศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี เป็นพระบรมรูปทรงเครื่องกษัตริย์ ทรงพระมาลา ประทับบนหลังม้า หันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้สู่จันทบุรี พระหัตถ์ขวาทรงพระแสงดาบชูออกไปเบื้องหน้า พระหัตถ์ซ้ายทรงบังเหียนท่านำพลรุกไล่ข้าศึก และในวันที่ 28 ธันวาคม ของทุกปีจะมีพิธีถวายบังคมพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี และพิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณของพระองค์ ณ ที่แห่งนี้
ในปีนี้จะมีการจัดงานเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ในช่วงวันที่ 27-28 ธันวาคม บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (วงเวียนใหญ่) โดยวันที่ 27 ธ.ค. เวลา 09.30 น. จะมีพิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ณ วัดอินทารามวรวิหาร เขตธนบุรี เวลา 16.00 น. กิจกรรมเดินเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จากวัดอินทารามวรวิหาร เข้าสู่บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (วงเวียนใหญ่) และในวันที่ 28 ธ.ค. ตั้งแต่เวลา 06.30 น. มีพิธีบวงสรวงดวงวิญญาณสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร และพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เวลา 07.00 น. พิธีตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 99 รูป ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เวลา 07.45 น. พิธีบวงสรวงดวงวิญญาณสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เวลา 09.00 น. พิธีวางพานพุ่มถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช นอกจากนี้จะมีการออกร้านจำหน่ายสินค้า และการแสดงต่างๆ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เวลา 16.00-24.00 น. ชมฟรีตลอดทั้งงาน
“พระราชวังเดิม” กรุงเทพฯ
พระราชวังเดิมคือพระราชวังแห่งกรุงธนบุรี สถานที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าตากสิน ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของกองทัพเรือ ภายในพระราชวังเดิมยังคงมีอาคารดั้งเดิมที่ได้รับการดูแลรักษาอย่างดี อาทิ อาคารท้องพระโรงซึ่งใช้เป็นที่เสด็จออกว่าขุนนางและประกอบพิธีสำคัญต่างๆ พระที่นั่งขวาง เป็นส่วนของราชมณเฑียรหรือที่ประทับส่วนพระองค์
เนื่องจากพระราชวังเดิมเป็นสถานที่อันสำคัญยิ่งภายหลังจึงได้สร้างศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินขึ้น โดยภายในศาลประดิษฐานรูปหล่อและพระบรมสาทิสสลักษณ์ของพระองค์ รวมทั้งพระบรมรูปในท่าประทับยืนและทรงพระแสงดาบขนาดเท่าคนจริง อีกทั้งด้านหน้าพระราชวังเดิมติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาก็มีพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระองค์ในท่าประทับยืนหันหน้าไปทางทิศที่ตั้งของกรุงศรีอยุธยา มือซ้ายถือพระแสงดาบ ส่วนมือขวาชี้ลงพื้นดิน
ในช่วงนี้ทางกองทัพเรือ ร่วมกับ มูลนิธิอนุรักษ์โบราณสถานในพระราชวังเดิม ได้เปิดโบราณสถานในพระราชวังเดิม ประกอบด้วย ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน ท้องพระโรงกรุงธนบุรี ตำหนักเก๋งคู่ ตำหนักเก๋งสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ประชาชนได้เช้าชมและถวายสักการะสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พร้อมทั้งเปิดให้เช่าบูชาวัตถุมงคลและจำหน่ายสินค้าที่ระลึก อาทิ ตราไปรษณียากร หนังสือ เสื้อ ผู้สนใจ เข้าชมได้ตั้งแต่วันนี้ - 28 ธันวาคม 2560 ระหว่างเวลา 08.30 - 16.30 น. สามารถเข้าไปชมกันได้
“วัดอินทาราม” กรุงเทพฯ
วัดอินทารามวรวิหารเป็นวัดสำคัญในฝั่งธนบุรีที่มีประวัติเกี่ยวข้องกับสมเด็จพระเจ้าตากสิน โดยเป็นวัดโบราณตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาที่พระองค์โปรดเกล้าฯ ให้บูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก อีกทั้งพระองค์ยังเคยเสด็จมาประทับแรมเพื่อทรงนั่งวิปัสสนากรรมฐานและทรงศีลภาวนาที่วัดแห่งนี้ จนเมื่อพระองค์เสด็จสวรรคต วัดอินทารามก็ยังเป็นที่ประดิษฐานพระบรมศพ ถวายพระเพลิง และบรรจุพระบรมอัฐิ
ภายในวัดมีพระเจดีย์คู่หนึ่ง เรียกว่าพระเจดีย์กู้ชาติ อยู่หน้าพระอุโบสถหลังเก่า เชื่อกันว่าเป็นที่บรรจุพระบรมอัฐิของพระเจ้าตากและพระอัครมเหสีไว้ ส่วนในพระอุโบสถมีพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยปางตรัสรู้เป็นพระประธาน ภายในบรรจุพระบรมราชสรีรังคาร หรือ เถ้ากระดูกของสมเด็จพระเจ้าตากสินไว้ด้วย
“วัดหงส์รัตนาราม” กรุงเทพฯ
วัดหงส์รัตนารามเป็นวัดในสมัยอยุธยาตอนปลายที่มาบูรณปฏิสังขรณ์ในสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรีเช่นกัน เมื่อพระองค์ทรงรับวัดนี้ไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ก็ทรงปฏิสังขรณ์ทั้งวัดในคราวเดียวกันกับวัดอินทาราม และพระองค์ก็มักจะเสด็จมานั่งวิปัสสนากรรมฐานที่วัดนี้ด้วยเช่นกัน
ที่ด้านหน้าวัดหงส์รัตนารามเป็นที่ตั้งของศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน เชื่อกันว่าเมื่อพระองค์สวรรคตแล้วได้มีการเคลื่อนย้ายพระบรมศพผ่านมาทางนี้และโลหิตของพระองค์ได้ตกลงพื้นในบริเวณนี้ด้วย ประชาชนจึงได้สร้างศาลไว้สักการะบูชา ศาลเดิมนั้นเป็นศาลไม้ชำรุดทรุดโทรม แต่ต่อมากองทัพเรือได้มาบูรณะสร้างศาลใหม่ แต่ยังรักษาศาลเก่าเอาไว้ด้านหน้าด้วย
“ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” จ.จันทบุรี
จังหวัดจันทบุรีเป็นสถานที่รวบรวมไพร่พลและกองทัพของพระเจ้าตาก ก่อนที่พระองค์จะบุกกลับมากู้แผ่นดินคืนจากข้าศึก ที่นี่จึงมีความเกี่ยวข้องผูกพันกับพระเจ้าตากสินเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงมีสถานที่ที่เป็นที่ระลึกถึงท่านอยู่มากมาย สถานที่สำคัญแห่งหนึ่งก็คือ “ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” ในตัวเมืองจันท์ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2463 ก่อนที่ชาวจันทบุรีจะร่วมกันบริจาคเงินสร้างศาลใหม่ขึ้นใกล้กับศาลเดิมใน พ.ศ.2534
ศาลแห่งนี้มีรูปทรงเก้าเหลี่ยมสร้างด้วยหินอ่อน พื้นเป็นหินแกรนิต หลังคาเป็นรูปพระมาลายอดแหลมประดับลวดลายทองงามไม่เหมือนที่ไหน ภายในประดิษฐานพระบรมรูปของสมเด็จพระเจ้าตากสินในลักษณะประทับนั่งทรงเมือง หล่อด้วยทองเหลืองรมดำ มีผู้คนมากราบสักการะมิได้ขาด
“วัดลุ่มมหาชัยชุมพล” จ.ระยอง
ในอำเภอเมืองระยองเป็นที่ตั้งของวัดลุ่มมหาชัยชุมพล หรือเรียกสั้นๆ ว่าวัดลุ่ม มีประวัติเล่ากันว่าสมเด็จพระเจ้าตากสินได้นำทหารและพลเรือนอพยพมาผูกช้างผูกม้าพักแรมที่โคนต้นสะตือใหญ่บริเวณวัดแห่งนี้ ก่อนจะบุกไปเมืองจันทบุรีต่อไป
ต้นสะตือที่ว่านี้ยังคงปรากฏอยู่ในบริเวณวัด ยืนต้นแผ่กิ่งก้านสาขาร่มรื่นเป็นอย่างมาก บริเวณข้างต้นสะตือเป็นที่ตั้งของศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชรูปทรงแบบจัตุรมุข ด้านในประดิษฐานพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชขนาดเท่าองค์จริง มีผู้คนมากราบสักการะจำนวนมากโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีน
“วัดโยธานิมิตร” จ.ตราด
เล่ากันว่าหลังเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 สมเด็จพระเจ้าตากสินได้มาตั้งทัพที่เมืองตราดเพื่อรวบรวมไพร่พลและตั้งค่ายพักแรมบริเวณที่ตั้งวัดนี้ และให้กำลังพลขนมูลดินมาเพื่อสร้างวัด และต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 3 ได้มีการสร้างวัดจนสำเร็จ ให้ชื่อว่าวัดโยธานิมิตร
ปัจจุบันภายในวัดโยธานิมิตรมีพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินทรงม้าศึกลักษณะเดียวกับที่วงเวียนใหญ่ และมีศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินที่สร้างขึ้นในศาลากลางน้ำ ลักษณะคล้ายเรือ ภายในประดิษฐานรูปหล่อสมเด็จพระเจ้าตากสินขนาดเท่าคนจริงในท่าประทับนั่ง มีพระแสงดาบวางพาดพระเพลา
“ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน” จ.ตาก
ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชตั้งอยู่ในอำเภอเมืองตาก เมืองที่ครั้งหนึ่งพระองค์เคยเป็นเจ้าเมืองปกครองอยู่ระยะหนึ่ง ศาลแห่งนี้จึงมีความสำคัญกับจังหวัดตากเป็นอย่างมาก ตัวศาลเป็นศาลาแบบจตุรมุข ภายในประดิษฐานพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชในพระอิริยาบถกำลังประทับอยู่บนราชอาสน์ มีพระแสงดาบพาดอยู่ที่พระเพลา ด้านหน้าศาลแขวนโคมจีนสีแดง ภายในประดิษฐานพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ขนาดใหญ่กว่าพระองค์จริงเล็กน้อย ในพระราชอิริยาบถที่กำลังประทับอยู่บนราชอาสน์ มีพระแสงดาบพาดอยู่ที่พระเพลา ด้านหลังศาลจะมีรูปปั้นช้างศึกม้าศึกอยู่เต็มบริเวณ ซึ่งได้มาจากผู้ที่นำมาถวายหลังจากขอพรจากศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินได้ตามประสงค์
“วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร” จ.นครศรีธรรมราช
ปิดท้ายกันที่วัดพระมหาธาตุ หรือวัดพระบรมธาตุ จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยคนจำนวนไม่น้อยเชื่อว่าแท้จริงแล้วพระเจ้าตากสินมิได้สวรรคตจากการสำเร็จโทษด้วยท่อนจันทน์ หากแต่พระองค์ทรงลี้ภัยมายังแดนใต้ถึงเมืองนครศรีธรรมราช และทรงใช้ชีวิตบั้นปลายบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ที่นี่ โดยได้ประทับและภาวนาศีลอยู่ที่ถ้ำเขาขุนพนม อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช
ที่วัดพระมหาธาตุนครศรีธรรมราช มี “เส้นทางพระเจ้าตาก” อยู่ที่วิหารทับเกษตร เป็นเส้นทางที่เชื่อว่าพระองค์เคยมาเดินปฏิบัติธรรมที่นี่ และภายในวัดยังมีพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินทรงเครื่องแบบกษัตริย์ประทับนั่ง และมีรูปจำลองพระภิกษุสงฆ์มีนามว่า “สมเด็จสมณเจ้าสิน พรหมปัญโญ วิสุทธิเทพ ภิกขุ” ซึ่งเชื่อว่าพระเจ้าตากสินที่เสด็จมาบวชอยู่ที่เมืองนครฯ แห่งนี้นั่นเอง
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager