xs
xsm
sm
md
lg

ล่องเรือสำราญหรู ไปกับ“ซูเปอร์สตาร์ เจมิไน”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

Facebook : Travel @ Manager
“ซูเปอร์สตาร์ เจมิไน” จอดรออยู่ที่แหลมฉบัง
การล่องเรือสำราญเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการท่องเที่ยวที่ “สำราญ” สมชื่อไม่น้อย เพราะนอกจากจะเป็นการหลบหนีความวุ่นวายจากพื้นโลกไปสู่การล่องเรือกลางท้องทะเลกว้างใหญ่ บนเรือก็ยังเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งบันเทิงและสิ่งอำนวยความสะดวกไม่แพ้โรงแรมหรูเลยทีเดียว

วันนี้ “ตะลอนเที่ยว” มีโอกาสได้มาล่องเรือกับผู้ให้บริการเรือสำราญเจ้าดังคือ “สตาร์ครุยส์” (Star Cruises) ซึ่งเป็นครั้งแรกที่พาเรือสำราญลำใหญ่ “ซูเปอร์สตาร์ เจมิไน” (Superstar Gemini) มาประจำการที่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี และจะพาเราไปสำราญในเส้นทาง แหลมฉบัง (จ.ชลบุรี)-สีหนุวิลล์ (กัมพูชา)-เกาะสมุย (จ.สุราษฎร์ธานี)-แหลมฉบัง เป็นเวลา 4 วัน 3 คืน ด้วยกัน
ซูเปอร์สตาร์ เจมิไน พาไปสำราญกลางท้องทะเล
สระว่ายน้ำกลางเรือที่ชั้นดาดฟ้า
เป็นครั้งแรกที่เรือซูเปอร์สตาร์ เจมิไน จะมาประจำการที่นี่ เพราะปกติแล้วเรือสำราญของสตาร์ครุยส์จะประจำการอยู่ที่สิงคโปร์-มาเลเซียเป็นหลัก แต่ในช่วงนี้ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2560 ไปจนถึงเดือนเมษายน 2561 เรือซูเปอร์สตาร์ เจมิไน จะมาให้บริการที่ท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง จ.ชลบุรี มาให้คนไทยได้ล่องเรือสำราญกันแบบสะดวกสบายมากขึ้น

เรามารอขึ้นเรือกันที่ท่าเรือแหลมฉบัง อย่าลืมเอาพาสปอร์ตติดตัวมาเพราะเราต้องเดินทางไปต่างประเทศ หลังจากผ่านกระบวนการตรวจหลักฐานต่างๆ ในอาคารผู้โดยสารแล้ว ก็ทยอยขึ้นเรือกัน ซึ่งเมื่อผู้โดยสารขึ้นเรือครบเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่เรือจะออกจากท่า ทุกคนก็จะต้องมาฟังและชมการสาธิตการใช้อุปกรณ์ช่วยเหลือหากเกิดอุบัติเหตุ เช่น การใช้เสื้อชูชีพ จุดรวมพล จุดขึ้นเรือเล็ก เป็นต้น อย่าลืมตั้งใจฟังและจดจำไว้เพื่อความไม่ประมาท
อีกหนึ่งสระทางท้ายเรือ
อาบแดดบนชั้นดาดฟ้า
17.00 น. เวลาดี เรือสำราญค่อยๆ เคลื่อนออกจากท่าเรือแหลมฉบังท่ามกลางแสงแดดยามเย็น ทิ้งชายฝั่งไว้เบื้องหลัง มุ่งหน้าไปยังสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชาเป็นจุดหมายต่อไป เป็นโอกาสดีที่ “ตะลอนเที่ยว” จะพามาสำรวจว่าบนเรือซูเปอร์สตาร์ เจมิไน มีสิ่งที่น่าสนใจอะไรบ้าง

สำหรับเรือซูเปอร์สตาร์ เจมิไน เป็นเรือขนาดใหญ่ มีระวางน้ำหนักเรืออยู่ที่ 50,764 ตัน ความยาวของเรือ 230 เมตร และกว้าง 29 เมตร แบ่งออกเป็น 12 ชั้น จุคนได้กว่า 1,530 คน
นั่งชมวิวเพลินๆ
นอนสบายในห้องสวีท
ขึ้นชื่อว่าเรือสำราญ รับรองว่าบนเรือต้องมีสิ่งอำนวยความสำราญอยู่ไม่น้อย ตั้งแต่ห้องพักบนเรือที่อยู่ในชั้น 5-11 ที่มีห้องให้เลือก 4 แบบ คือ “ห้องสวีท” ซึ่งแบ่งย่อยเป็นเอ็กเซ็กคิวทีฟ สวีท ที่แบ่งส่วนเป็นห้องนอนและห้องนั่งเล่น พร้อมห้องอาบน้ำและระเบียงส่วนตัว และจูเนียร์ สวีท ที่แบ่งโซนของห้องนอนและห้องนั่งเล่นด้วยม่าน

“ห้องบัลโคนี เคบิน” (Balcony Cabin) ห้องพักที่มีระเบียงเปิดออกไปรับลมทะเลได้อย่างเป็นส่วนตัว “ห้องโอเชียนวิว เคบิน” (Ocean View Cabin) ห้องพักที่มีหน้าต่างชมท้องทะเลได้ตลอดเวลา และ "ห้องอินไซด์ เคบิน" (Inside Cabin) ซึ่งไม่มีหน้าต่าง ห้องพักทั้งหมดรวมแล้ว 765 ห้องด้วยกัน
ห้องบัลโคนี เคบิน
ห้องโอเชียนวิว เคบิน
มุ่งหน้าออกสู่ท้องทะเล
เทียบท่าที่สีหนุวิลล์
ห้องอาหารไดนาสตี้
นอกจากความสำราญกับห้องพักแล้ว ยังสำราญกับอาหารการกินที่มีให้บริการถึง 5 มื้อ (เช้า กลางวัน บ่าย เย็น ดึก) ตลอด 4 วัน 3 คืน (ไม่รวมเครื่องดื่มซอฟท์ดริงค์และแอลกอฮอล์) ในห้องอาหาร 4 แห่งที่หมุนเวียนให้บริการ ได้แก่ ห้องอาหารเบลล่า วิสต้า ให้บริการอาหารตะวันตกและอาหารอินเดีย ห้องอาหารมารีเนอร์ส ให้บริการบุฟเฟต์นานาชาติและอาหารอินเดีย และห้องอาหารไดนาสตี้ ให้บริการบุฟเฟต์อาหารจีน และในบางวันจะมีปาร์ตี้บาร์บีคิวที่โอเชียน่าบาร์บีคิวบนชั้นดาดฟ้า ให้บริการฟรีสำหรับทุกคนบนเรือเช่นกัน

ส่วนใครอยากเลือกกินตามใจ ก็มีห้องอาหารบลูลากูน เปิดให้บริการ 24 ชม. ห้องอาหารไทปันให้บริการอาหารจีน และบาร์เครื่องดื่มอีก 5 แห่งบนเรือ ให้เลือกได้ตามความชอบ ทั้งนี้มีค่าใช้จ่าย และใช้จ่ายด้วยเงินสกุลดอลลาร์สิงคโปร์
มีภาพวาดสามมิติให้ถ่ายรูปเล่นบนเรือ
และหากใครอยากผ่อนคลายว่ายน้ำเล่น บนเรือมีสระว่ายน้ำให้บริการกันถึง 2 สระ อยู่บนชั้น 9 บริเวณท้ายเรือ และอีกหนึ่งสระอยู่บนดาดฟ้าชั้น 12 ตรงกลางเรือ สระไม่ใหญ่นักแต่ก็สามารถลงไปแช่ผ่อนคลายชิลๆ ชมวิวกลางทะเลกันได้ และที่ชั้นดาดฟ้านี้ก็จะเป็นแหล่งรวมผู้คนในยามแดดร่มลมตก เพราะสามารถมารับลมชมวิวได้กว้างไกล มีเก้าอี้ให้เอนนอนพักผ่อนอ่านหนังสือหรือพูดคุยกับเพื่อนฝูงได้

เมื่อเรือออกจากฝั่งแล้วอย่าเพิ่งคิดว่าไม่มีอะไรให้ทำ เพราะบนเรือนี้มีกิจกรรมและความบันเทิงหลายอย่างให้เลือกชมกัน จะมีอะไรบ้างนั้นเราสามารถดูได้จากเอกสารที่พนักงานจะนำมาเสียบไว้หน้าห้องทุกเช้า เอามาเปิดดูก็จะรู้ว่าวันนี้ห้องอาหารใดเปิดให้บริการบ้างในช่วงกี่โมง วันนี้มีกิจกรรมอะไรที่ไหน มีโชว์อะไรให้ชมบ้างจะมีรายละเอียดทั้งหมดในเอกสารนี้
ชมโชว์สนุกๆ ได้ฟรีทุกคืน
ขอยกตัวอย่างกิจกรรมต่างให้ฟังคร่าวๆ อาทิ คลาสออกกำลังกาย คลาสสอนเต้นซัลซ่า คลาสสอนทำตุ๊กตาหิมะจากแก้วกระดาษ ทัวร์ห้องปรุงอาหารและสะพานเดินเรือ การแสดงมายากล ฯลฯ ทั้งนี้มีทั้งกิจกรรมฟรีและมีค่าใช้จ่าย สามารถดูได้จากเอกสาร

ใครเบื่อๆ อยากจะไปดูหนังก็มีหนังฉายใน "สตาร์ดัส เลาจน์" ที่เป็นเวทีเอนกประสงค์ ฉายหนังก็ได้ ชมการแสดงก็ได้ รวมทั้งเป็นที่จัดเวิร์คชอปในคลาสต่างๆ อยากร้องคาราโอเกะก็มีห้องคาราโอเกะเตรียมไว้ พักบนเรือนานๆ รู้สึกอยากออกกำลังก็มีห้องฟิตเนสเปิดรอ หรือแม้แต่อยากเล่นบาสเก็ตบอลก็มีสนามเตรียมไว้พร้อมที่ชั้นดาดฟ้า ยังไม่ต้องพูดถึงร้านทำผม สปา ร้านขายของที่ระลึก ก็มีพร้อมทุกอย่าง

ส่วนดิวตี้ฟรีชอปและคาสิโนนั้น เมื่อเรือเดินทะเลออกสู่น่านน้ำสากลก็จะมีประกาศให้ผู้ที่สนใจสามารถช้อปปิ้ง หรือมาเสี่ยงโชคกันได้ตามศรัทธา
หาดโอชัดเทลที่สีหนุวิลล์
มาพูดถึงเส้นทางท่องเที่ยวของเราครั้งนี้กันบ้าง ในวันที่สองของการเดินทาง เรือมาจอดเทียบท่าที่เมืองสีหนุวิลล์หรือชื่อเดิมคือกำปงโสม ซึ่งเป็นเมืองท่าเรือน้ำลึกและยังเป็นเมืองตากอากาศชายทะเลชั้นนำของกัมพูชา โดยเป็นเมืองที่ติดอันดับ 8 ในการจัดอันดับ 10 สุดยอดชายหาดในเอเชีย (จัดโดยหนังสือพิมพ์ Sunday Herald Sun ของประเทศออสเตรเลีย) ที่นี่มีชายหาดสวยสงบหลายแห่งและมีรีสอร์ททั้งระดับหรูหราห้าดาวไปจนถึงเกสต์เฮาส์เล็กๆ ให้เลือก

สำหรับการลงไปเที่ยวบนฝั่งนั้น ผู้โดยสารสามารถเลือกแพ็คเกจท่องเที่ยวที่ทางเรือจัดไว้ ซึ่งมีหลายแพ็คเกจด้วยกัน (มีค่าใช้จ่าย) ไม่ว่าจะเป็นการไปชมบรรยากาศและวิถีชีวิตที่ “หมู่บ้านชาวประมงทัมนับลอลัก” ชม “วัดเลอ” หนึ่งในห้าวัดเก่าแก่ของสีหนุวิลล์ เที่ยว “ตลาดพลาซาเลอ” ตลาดกลางที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้ หรือจะไปผ่อนคลายที่ “ชายหาดโอชัดเทล” (Ocheuteal) ชายหาดที่มีชื่อเสียงของที่นี่ และถ้าใครไม่อยากซื้อแพ็คเกจ ต้องการไปเที่ยวด้วยตัวเองก็สามารถทำได้ แต่จะต้องเดินออกไปเรียกรถทางด้านนอกท่าเรือและต่อราคากับรถรับจ้างเอง และอย่าลืมว่าต้องกลับมาขึ้นเรือตามเวลาที่กำหนด
เมืองชายหาดชื่อดังของกัมพูชา
วันนี้ “ตะลอนเที่ยว” ขอเลือกให้รถไปส่งที่ชายหาดโอชัดเทลและใช้เวลาชิลๆ อยู่ที่นั่น ชายหาดแห่งนี้เป็นหาดที่ยาว น้ำทะเลใสสะอาดแม้หาดทรายจะไม่ขาวเนียนนัก บรรยากาศของที่นี่ก็คล้ายๆ กับหาดบางแสนหรือหาดชะอำบ้านเรา มีร้านอาหารให้บริการเพียบ มีเก้าอี้ชายหาดเรียงรายให้เลือกนั่ง พอเลือกทำเลเหมาะๆ ได้ก็จ่ายค่าเก้าอี้ จากนั้นแม่ค้าชายทะเลก็จะมารุมล้อมราวกับเราเป็นซูเปอร์สตาร์ มาเสนอขายกั้งทอด หมึกย่าง ปูนึ่งและสารพัดของกินที่ดูน่ากินไม่น้อย ลองชิมกั้งและหมึกสดหวานตัวโตฟินไม่เบา

ไม่เพียงเท่านั้นแม่ค้าชายหาดยังรุมล้อมเสนอบริการนวดบ่านวดไหล่ให้ด้วย ใครชอบก็ลองนวดได้ แต่ถ้าไม่ต้องการก็ปฏิเสธไปดีๆ และกิจกรรมบนหาดนอกจากมานอนเล่นชิลๆ หรือเล่นน้ำทะเลแล้ว ก็ยังมีกิจกรรมทางน้ำอย่างการขี่เจ็ทสกีให้ลองกันด้วย หรือแค่อยากเดินเล่นออกกำลังชมทิวทัศน์ริมชายหาดก็สามารถทำได้เช่นกัน
ห้ามพลาดกั้งทอดและหมึกย่างที่ชายหาด
ประมาณ 17.00 น. ก็เป็นเวลาที่เราต้องกลับมาขึ้นเรืออีกครั้ง ก่อนที่เรือจะค่อยๆ เคลื่อนออกจากท่าเรือน้ำลึกสีหนุวิลล์มุ่งหน้าสู่เกาะสมุย ประเทศไทยต่อไป ระหว่างการเดินทางนี้เราก็สามารถร่วมกิจกรรมต่างๆ บนเรือได้เช่นเคย
เกาะสมุย สวยใสไม่แพ้ที่ไหน
ช่วงเช้าของการเดินทางวันที่สาม เรือมาจอดอยู่ใกล้กับเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เกาะที่มีชื่อเสียงของเมืองไทยในเรื่องของท้องทะเลและชายหาดสวยใส มีรีสอร์ทหรูหลายระดับให้เลือกพัก และเช่นเคยผู้โดยสารสามารถเลือกแพ็คเกจทัวร์ของเรือเพื่อลงไปเที่ยวที่เกาะสมุย (มีค่าใช้จ่าย) หรือจะเลือกไปเที่ยวด้วยตัวเองก็ได้เช่นกัน แต่จะต้องลงเรือเล็กเข้าสู่ท่าเรือก่อน

บนเกาะสมุยมีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่งไม่ว่าจะเป็น “วัดพระใหญ่” ที่อยู่ทางตอนเหนือของเกาะสมุย นอกจากขึ้นไปไหว้พระแล้วด้านบนยังเป็นจุดชมวิวที่สวยงามของเกาะสมุยได้อย่างกว้างไกล “หินตาหินยาย” หินแกรนิตขนาดใหญ่ที่ถูกกัดเซาะด้วยน้ำและลมจนมีรูปร่างเหมือนสัญลักษณ์ของเพศชายและเพศหญิง “หาดเฉวง” หาดทรายยาวขาวสะอาดพร้อมกับทิวมะพร้าวที่ขึ้นเป็นแนว ที่นี่เป็นแหล่งรวมความบันเทิงหลากหลายบนเกาะสมุยไว้ หรืออยากจะไปชมโชว์ลิงเก็บมะพร้าวอันขึ้นชื่อของสมุยก็สามารถเลือกได้ตามใจ
วิวทะเลของเกาะสมุย
จากนั้นในช่วงเย็นก็ได้เวลากลับสู่เรืออีกครั้ง คืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายที่อยู่บนเรือแล้ว จึงมีการจัดปาร์ตี้แฟร์เวลล์ส่งท้าย โชว์วันนี้อาจจะดึกสักหน่อยเพื่อให้ใช้เวลาบนเรืออย่างเต็มที่ และเป็นโชว์ที่น่าชมมากที่สุดอีกด้วย แถมยังมีปาร์ตี้ส่งท้ายที่เหล่าลูกเรือและทีมกัปตันจะออกมาร่วมสนุกกับผู้โดยสาร ไม่อยากให้พลาดกัน

ในช่วงสายของวันที่สี่ เรือซูเปอร์สตาร์ เจมิไน ก็กลับมาเทียบท่าที่แหลมฉบังอีกครั้ง และเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางครั้งใหม่ ดังนั้นใครที่อยากสัมผัสกับประสบการณ์การล่องเรือสำราญก็มีตัวเลือกที่น่าลองสะดวกสบายไม่น้อย โดยนอกจากแพ็คเกจ 4 วัน 3 คืน เส้นทางแหลมฉบัง-สีหนุวิลล์-สมุย-แหลมฉบัง ที่เล่ามานี้แล้ว ก็ยังมีแพ็คเกจ 3 วัน 2 คืน เส้นทางแหลมฉบัง - เกาะกูด - แหลมฉบัง (ออกเดินทางวันพุธ) และแพ็คเกจ 3 วัน 2 คืน เส้นทางแหลมฉบัง - น่านน้ำสากล - แหลมฉบัง (ออกเดินทางวันศุกร์) ดังนั้นใครที่ยังไม่เคยลองท่องเที่ยวไปกับเรือสำราญ นี่เป็นโอกาสดีของคุณแล้ว
หินตาหินยาย สัญลักษณ์ของเกาะสมุย
สามารถดููรายละเอียดของเรือและเส้นทางเดินเรือได้ที่
https://www.starcruises.com/th/en/ships/gemini

ผู้สนใจสามารถติดตามแคมเปญการตลาดด้านการท่องเที่ยวได้ที่ www.ktcworld.co.th เฟสบุ๊ค ktcworld หรือ KTC Line Official หรือติดต่อ KTC World Travel Service โทรศัพท์ 0 2123 5050
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager


กำลังโหลดความคิดเห็น