xs
xsm
sm
md
lg

ปั่นลุยลาวใต้(3) : มหัศจรรย์ต้นไม้-สายน้ำ ที่“น้ำตกคอนพะเพ็ง” ไนแองการ่าแห่งเอเชีย/ปิ่น บุตรี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ปิ่น บุตรี

โดย : ปิ่น บุตรี (pinn109@hotmail.com)

Facebook Travel Unlimited / เที่ยวถึงไหนถึงกัน
น้ำตกคอนพะเพ็ง สายน้ำอันยิ่งใหญ่ ที่ได้รับฉายาให้เป็น ไนแองการ่าแห่งเอเชีย
“จำปาสัก ฉันรักเธอ”

เป็นความรู้สึกรักแรกพบของผม เมื่อได้มานอนพักค้างคืนที่เมืองเก่าจำปาสัก ได้สัมผัสกับบรรยากาศของเมืองเล็กๆน่ารักริมฝั่งโขงแห่งดินแดนลาวใต้ ที่ในยามเช้าหลังตะวันเบิกฟ้า ณ ริมฝั่งโขง ภาพวิถีชีวิตอันเรียบง่ายสงบงามของผู้คนที่นี่ก็เริ่มฉายเสน่ห์ให้เห็นอีกครั้ง

เป็นเสน่ห์แห่งความเรียบง่ายที่ชวนให้หลงรัก

เป็นเสน่ห์แห่งความเรียบง่ายที่ไม่อยากจากลา
เด็กๆขี่จักรยานไปโรงเรียนในยามเช้าที่เมืองเก่าจำปาสัก
แต่เมื่องานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ฉันใดก็ฉันเพล ที่ในเช้าวันนี้(เช้าวันที่ 3 ) ผมจึงต้องบอกลาเมืองเก่าจำปาสัก เพื่อมุ่งหน้าออกเดินทางต่อไปสู่จุดหมายสำคัญนั่นก็คือ “น้ำตกคอนพะเพ็ง” สายน้ำอันยิ่งใหญ่อลังการจนได้รับฉายาให้เป็น “ไนแองการ่าแห่งเอเชีย”อันลือลั่น

มะนีโคด

หลังอาหารเช้าที่มีให้เลือกทั้งในแบบฝรั่งตะวันตกหรือในแบบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไทย-ลาว ที่โรงแรมอินทิราที่พักของเรา ผมกับคณะ “Octo Cycling Trip” ที่ทางบริษัท“Octo Cycling” จัดทริปพานักปั่นจักรยานจากเมืองไทย มาปั่นเที่ยวลาวใต้สัมผัสมุมมองใหม่ๆ ก็ได้ฤกษ์ออกเดินทางสู่น้ำตกคอนพะเพ็งที่อยู่ทางตอนใต้(เกือบ)สุดของแขวงจำปาสัก
แก่งน้ำโขงอันรุนแนงบริเวณน้ำตกคอนพะเพ็ง
ระยะทางจากเมืองเก่าจำปาสักไปน้ำตกคอนพะเพ็ง ประมาณ 180 กม. งานนี้คณะเรานั่งรถตู้ไปครับ ไม่ได้ปั่นจักรยานไป ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.ก็มาถึงยังเขต“อุทยานน้ำตกคอนพะเพ็ง” ซึ่งวันนี้มีการพัฒนาปรับปรุงพื้นที่ รับปีการท่องเที่ยวลาวในปีหน้า(2018) มีการจัดภูมิทัศน์อย่างร่มรื่น มีร้านกาแฟเก๋ ๆมีร้านอาหารกว้างขวางสำหรับรับกรุ๊ปทัวร์ มีเส้นทางเดินท่องเที่ยว และจุดชมวิวที่สามารถมองลงไปเห็นความสวยงามยิ่งใหญ่อลังการของน้ำตกคอนพะเพ็งได้อย่างสวยงาม

อย่างไรก็ดีเมื่อมาถึงยังอุทยานน้ำตกคอนพะเพ็ง “คอนสะหวัน ผิวอ่อน” หรือ “โทนี่ หลุยส์”ไกด์ลาวอารมณ์ดี พาพวกเราชมหนึ่งในสิ่งที่มหัศจรรย์ของคนลาว ที่“พิพิธภัณฑ์ต้นไม้มะนีโคด” ที่อยู่ในเส้นทางก่อนที่จะนั่งรถกอล์ฟสู่จุดชมวิวตัวน้ำตกคอนพะเพ็ง
ต้นมะนีโคดในอดีต(ต้นที่มียอด 3 แฉก) สมัยที่ยังมีชีวิตยืนต้นตระหง่านเคียงคู่น้ำตกคอนพะเพ็ง
มะนีโคด(มณีโคตร) เป็นชื่อต้นไม้ที่ชาวลาวนับถือว่าเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ เป็นต้นไม้มหัศจรรย์ อีกทั้งยังเชื่อว่าต้นไม้มะนีโคดมีเพียงต้นเดียวในโลก โดยสันนิษฐานว่าต้นมะนีโคดน่าจะมีอายุกว่าร้อยปี หรือหลายร้อยปี หรืออาจจะถึงพันปีเลยทีเดียว

ต้นมะนีโคด ลักษณะพิเศษคือ เป็นต้นไม้ที่เกิดและเติบโตในแม่น้ำโขง รากของต้นมะนีโคดไม่ได้ยึดเกาะกับพื้นดิน หากแต่ยึดเกาะกับแก่งหินกลางแม่น้ำโขงอันเชี่ยวกรากแห่งน้ำตกคอนพะเพ็ง ขณะที่ปลายยอดของลำต้นมีการแตกกิ่งออกเป็น 3 แฉก ดูคล้ายเขาควาย ชี้ไปยัง 3 ประเทศ คือ ลาว ไทย ละ กัมพูชา
หอพิพิธภัณฑ์เก็บซากต้นไม้มะนีโคด
โทนี่ หลุยส์ บอกกับผมว่า ทุกๆปีในช่วงออกพรรษาจะมีนกกาดำบินมาจับเกาะพักอาศัยบนต้นไม้ต้นนี้ ส่วนในช่วงเข้าพรรษาก็จะมีนกกระยางขาวบินเข้ามาจับเกาะบนต้นไม้แทนที่ ซึ่งชาวลาวเชื่อว่านกเหล่านั้นบินมาจำศีลที่ต้นมะนีโคดต้นนี้

นอกจากนี้ต้นมะนีโคดยังมีตำนานเรื่องเล่าขานอันมหัศจรรย์พันลึกอีกมากมาย อย่างเช่น ถ้าใครได้กินหมาก(ผล)ของมะนีโคดจะมีกำลังวังชาเหนือมนุษย์ หรือถ้านำด้านหัวของกิ่งชี้ไปที่ใครคนนั้นก็จะตาย แต่ถ้าใช้ด้านปลายของกิ่งชี้คนตายก็กลับฟื้นคืนชีวิตขึ้นมา จนทำให้ถูกเรียกขานกันว่าเป็น “ต้นชี้ตายปลายชี้เป็น

อย่างไรก็ดีในวันนี้ต้นมะนีโคดที่น้ำตกคอนพะเพ็งได้ล้มตายสิ้นอายุขัยไปจากโลกนี้แล้ว โดยเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2555 ต้นมะนีโคดได้โค่นล้มตายลงท่ามกลางความเศร้าเสียใจของคนลาวจำนวนมาก
ซากต้นมะนีโคดบรรจุในโลงแก้วที่หอพิพิธภัณฑ์ต้นไม้มะนีโคด
หลังต้นมะนีโคดล้มตาย ทางการลาวได้ทำการกู้ซากต้นมะนีโคดขึ้นมาจากการลำแม่น้ำโขง พร้อมทั้งทำการสมโภชน์ ก่อนจัดทำเป็น“พิพิธภัณฑ์ต้นไม้มะนีโคด” นำเสนอรูปภาพเรื่องราวต่างๆของต้นไม้ต้นนี้ โดยมีไฮไลท์คือซากต้นมะนีโคดขนาดใหญ่ในโลงแก้วที่บรรจุอยู่ในหอพิพิธภัณฑ์ ซึ่งคนลาวนิยมมากราบสักการะ ขอพร เพื่อความเป็นสิริมงคล ด้วยเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ความมหัศจรรย์ของต้นมะนีโคดที่นับถือกันมาช้านาน

สมัยก่อนหลายปีที่แล้ว เวลาผมไปเที่ยวคอนพะเพ็งไกด์ก็จะชี้ให้ดูต้นมะนีโคดที่ยืนต้นตระหง่านอยู่บนแก่งกลางน้ำเชี่ยว พร้อมกับเล่าตำนานที่มาเหมือนกับที่กล่าวข้างต้นให้ฟัง ซึ่งหากมองกันทางวิทยาศาสตร์ การดำรงคงอยู่อย่างช้านานของต้นมะนีโคดที่บริเวณน้ำตกคอนพะเพ็งนั้นถือว่าน่าทึ่งไม่น้อย อีกทั้งต้นมะนีโคดยังถือเป็นหนึ่งในสีสันไฮไลท์ของการเที่ยวคอนพะเพ็งที่ผมโชคดีได้(ยัง)มีโอกาสถ่ายรูปบันทึกภาพต้นมะนีโคดไว้ในสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่
นักท่องเที่ยวสัการะต้นมะนีโคดที่บรรจุในโลงแก้ว
นอกจากนี้การจากไปของต้นมะนีโคดยังเป็นคติเตือนใจเราให้เห็นถึง การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ดังนั้นมนุษย์เราจะมัวถือมั่นยึดติดตัวกูของกู ยึดติดในลาภ ยศ สรรเสริญไปไย

...สาธุ

คอนพะเพ็ง

หลังโทนี่ หลุยส์ พาพวกเราไปสักการะต้นมะนีโคดในโลงแก้วเอาฤกษ์เอาชัยแล้ว ก็พาเรานั่งรถกอล์ฟช่วงสั้นๆมุ่งหน้าสู่บริเวณจุดชมวิว“น้ำตกคอนพะเพ็ง”หรือ“คอนพะเพ็ง”น้ำตกที่มีลักษณะพิเศษ คือเป็นน้ำตกประเภท“คอน” ไม่ใช่น้ำตกประเภท“ตาด”อย่างน้ำตกในบ้านเรา
น้ำตกคอนพะเพ็ง อีกหนึ่งงความมหัศจรรย์ของแม่น้ำโขง
ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากลักษณะของน้ำตกในลาวใต้นั้นมีอยู่ 2 แบบ ด้วยกัน คือ “น้ำตกตาด” เป็นน้ำตกที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในป่าเขาจากการไหลของน้ำตกลงมาตามโตรกผาสู่แอ่งเบื้องล่างเหมือนน้ำตกทั่วไปในบ้านเรา อย่างเช่น ตาดเยือง ตาดฟาน ตาดผาส้วม และตาดขมึด น้ำตกสุดอลังการแห่งลาวใต้

ส่วนน้ำตกอีกแบบหนึ่งนั้นคือ“น้ำตกคอน” คอนก็คือแก่งในบ้านเรา น้ำตกคอนก็คือน้ำตกที่เกิดจากแก่งในแม่น้ำโขงที่มีการไหลตกของสายน้ำในระดับสูงของแก่งต่างระดับ จนมีรูปร่างลักษณะเป็นดังน้ำตกกลายๆ อย่างเช่น น้ำตกคอนพะเพ็ง น้ำตกคอนปลาสร้อย หรือน้ำตกหลี่ผี ที่ในทริปนี้ เราไปพิชิตกันหมดทั้ง 3 แห่ง
สายน้ำอันรุนแรงเชี่ยวกรากบริเวณน้ำตกคอนพะเพ็ง
สำหรับน้ำตกคอนพะเพ็งนั้นเป็นน้ำตกคอนที่มีความยิ่งใหญ่อลังการที่สุดในบรรดาน้ำตกคอนทั้งหลายของสปป.ลาว

คอนพะเพ็ง เป็นน้ำตกที่มีลักษณะพิเศษ เกิดจากการไหลบ่าอย่างดุดันเชี่ยวกรากของแม่น้ำโขง ก่อนจะไหลหักลงอย่างรุนแรงตามระนาบดิ่งตกจากแก่งหินขนาดมหึมาเกิดเป็นสายน้ำตกอันยิ่งใหญ่มหัศจรรย์สวยงาม จนถูกยกให้เป็น“ไนแองการ่าแห่งเอเชีย
น้ำตกคอนพะเพ็ง สายน้ำอันยิ่งใหญ่จนถูกยกให้เป้น ไนแองการ่าแห่งเอเชีย
แม้จะเป็นน้ำตกที่ดูยิ่งใหญ่อลังการ สายน้ำไหลเชี่ยวกรากดุดันรุนแรงเป็นอย่างยิ่ง แต่ชื่อของคอนพะเพ็งนั้นหากแปลเป็นไทยกลับมีความหมายที่น่ารักน่าฟังไม่น้อย โดยคำว่าคอนก็คือแก่งตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น ส่วน “พะเพ็ง”นั้น คือ “พระจันทร์วันเพ็ญ” ในภาษาไทย

คอนพะเพ็ง หากแปลเป็นไทยจึงหมายถึง “แก่งพระจันทร์วันเพ็ญ” หรือถ้าจะพูดให้เท่ๆสมู้ธๆก็คือ “แก่งจันทร์เพ็ญ” ที่ชื่อฟังดูโรแมนติกตรงข้ามกับสายน้ำอันดุดันเชี่ยวกรากของไนแองการ่าแห่งเอเชียเป็นอย่างยิ่ง
ความรุนแรงของสายน้ำโขงแห่งคอนพะเพ็ง
น้ำตกคอนพะเพ็งจะมีจุดชมวิวบนฝั่งอยู่ 3 จุดหลักๆ ให้มองลงไปเห็นความยิ่งใหญ่ของสายน้ำ แต่ถ้าใครอยากลงเดินไปดูความยิ่งใหญ่อย่างใกล้ชิดขึ้น เขามีทางเดินเล็กๆจากริมตลิ่งให้เดินลงไปตามบริเวณโขดหินริมน้ำ ซึ่งหากใครจะลงไปเดินชม ไปถ่ายรูปบริเวณนี้ ขอให้ใช้ความระมัดระวังอย่างสูง เพราะก้อนหินโขดหินนั้นแหลมคม ส่วนที่ต้องระวังเป็นพิเศษก็คืออย่าเข้าไปใกล้สายน้ำมากนัก เพราะเผลอพลั้งตกลงไปดูไม่จืดแน่นอน

ที่จุดชมวิวบนฝั่งผมมองลงไปเห็นนักท่องเที่ยวที่ลงไปเดินถ่ายรูปบริเวณโขดหินแถวๆน้ำตก ซึ่งจากที่มองลงไป ทำให้เราได้เห็นถึงความยิ่งใหญ่อลังการของน้ำตกแห่งนี้ เห็นถึงพลังการสรรค์สร้างของธรรมชาติ ที่เนรมิตให้สายน้ำโขงในบริเวณนี้กลายเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของธรรมชาติสมดังฉายาไนแองการ่าแห่งเอเชีย
จุดชมวิว ถ่ายรูป บริเวณน้ำตกคอนพะเพ็ง
มหานทีสี่พันดอน

นอกจากความยิ่งใหญ่อลังการแล้ว คอนพะเพ็งยังได้ชื่อว่าเป็นคอน(แก่ง)ที่สวยงามที่สุดในพื้นที่แม่น้ำโขงใต้สุดในสปป.ลาว ซึ่งในบริเวณนี้(ตอนใต้สุดของแขวงจำปาสัก)เป็นช่วงที่แม่น้ำโขงมีความกว้างมากๆในสายน้ำจึงเต็มไปด้วยเกาะแก่งน้อยใหญ่มากมาย จนคนลาวยกให้เป็นดินแดน “สี่พันดอน” หรือ ดินแดนแห่ง “มหานทีสี่พันดอน
บ้านเรือน ที่พักอาศัย บนเกาะแห่งมหานทีสี่พันดอน
จากน้ำตกคอนพะเพ็งเมื่อเดินทางขึ้นเหนือไป จะเป็นแม่น้ำโขงในเขต“เมืองโขง” ในช่วงที่มี“ดอน”หรือ“เกาะ”ขนาดใหญ่อยู่หลายเกาะด้วยกัน บนดอน(เกาะ)เหล่านั้นนอกจากจะมีผู้คนอาศัยอยู่แล้ว บางดอนยังเป็นเกาะท่องเที่ยวกลางลำน้ำโขงที่เป็นที่นิยมของฝรั่งต่างชาติ โดยเฉพาะพวกแบ็คแพ็คเกอร์ที่นิยมมาปักหลักพักค้าง ดื่มด่ำธรรมชาติ สัมผัสวิถีชีวิตของชาวบ้าน ใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์เรียบๆเรื่อยๆเอื่อยๆไม่เร่งร้อน ชนิดที่มนุษย์เงินเดือนทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อตหลายๆคนอดอิจฉาคนพวกนี้ไม่ได้

ในบรรดาดอนท่องเที่ยวใหญ่ๆแห่งมหานทีสี่พันดอน ทริปนี้เรามีกิจกรรมสำคัญในช่วงสุดท้าย คือการปั่นพิชิต 4 ดอน นอน 2 คืน บนดอนคอน และดอนโขงที่เป็นเกาะ(น้ำจืด)ที่ใหญ่ที่สุดในแม่น้ำโขงแห่ง สปป.ลาว
ปั่นผ่านทางวิบาก บางช่วงต้องลงเดินเข็นจักรยานแทน
สำหรับจุดเริ่มต้นของการออกสตาร์ทปั่นในวันที่ 3 นี้ ก็ไม่ใช่ที่อื่นใด หากแต่เป็นที่น้ำตกคอนพะเพ็งนั่นเอง โดยหลังจากที่พวกเราเที่ยวชมและบรรยากาศอันยิ่งใหญ่อลังการของไนแองการ่าแห่งเอเชียกันอย่างเพลิดเพลินจุใจแล้ว เป้าหมายต่อไป(ในช่วงบ่ายของวัน)ก็คือการปั่นจากคอนพะเพ็งสู่“ท่าเรือนากะสัง” ในระยะทางประมาณ 10 กม. เพื่อลงเรือข้ามโขงมุ่งหน้าสู่ดอนคอน เป้าหมายหลักของเราในวันนี้
เส้นทางจากคอนพะเพ็งมุ่งหน้าสู่ท่าเรือนากะสัง
เมื่อชาวคณะทุกคนพร้อม จักรยานหรือรถถีบ(ลดถีบ)ในภาลาวก็ได้ฤกษ์ล้อหมุน โดยเส้นทางช่วงแรกหลังออกจากคอนพะเพ็งเราเลือกไปทางลัดบนถนนลูกรัง เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ ก่อนจะขึ้นสู่ถนนหลักเป็นถนนลาดยาง ก่อนจะปั่นมาถึงท่าเรือบ้านนากะสังกันแบบไม่เหนื่อยมาก แค่พอเหงื่อซึมเล็กน้อยไปจนถึงปานกลาง
ท่าเรือบ้านนากะสัง กับจักรยานที่พร้อมนำลงเรือ
ที่ท่าเรือบ้านนากะสังเรานัดเรือไว้ 2 ลำด้วยกัน หนึ่งคือบรรทุกคนและสัมภาระ ส่วนอีกหนึ่งคือบรรทุกจักรยาน มุ่งหน้าสู่ดอนคอน

สำหรับดอนคอนถือเป็นเกาะคู่แฝดคู่กับดอนเดดที่อยู่ใกล้ๆกัน มีสะพานฝรั่งเศสสร้างเชื่อมระหว่างเกาะทั้งสอง ซึ่งพวกเราได้นั่งเรือข้ามมหานทีสี่พันดอนของแม่น้ำโขงมายัง“โรงแรมแสงอรุณ” ที่พักค้างคืนริมฝั่งโขงบรรยากาศดี วิวสวยงาม แถมยังอยู่ใกล้กับสะพานฝรั่งเศสชนิดออกจากที่พักเดินเลี้ยวซ้ายไปไม่กี่สิบเมตรก้ขึ้นไปยืนแอ๊คถ่ายรูป เซลฟี่บนสะพานกันได้แล้ว
ช่วยกันแบกจักรยานลงเรือ ข้ามโขงไปดอนคอน
แต่โปรแกรมในวันนี้ที่ทาง Octo Cycling จัดไว้ เขายังไม่พาไปเที่ยวสะพาน หากแต่เลือกพาไปเที่ยว“น้ำตกคอนปลาสร้อย” แหล่งท่องเที่ยวที่เป็นดังอันซีน(ของคนไทย)บนดอนคอน แต่สำหรับฝรั่งนั้นนี่คือหนึ่งในจุดหมายที่พวกเขารู้จักกันดี และมักจะไม่พลาดการมาเที่ยวชม ถ้าหากได้มานอนที่ดอนคอน

น้ำตกคอนปลาสร้อย
นักท่องเที่ยวปั่นจักรยานฃิลล์ๆ เที่ยวบนดอนคอน
ดอนคอนเป็นเกาะที่มีสภาพถนนส่วนใหญ่เป็น ถนนดินและถนนลูกรัง(มีคอนกรีตบ้างเล็กน้อย) แถมยังเป็นถนนเล็กๆ ซึ่งบนเกาะแห่งนี้ไม่มีรถยนต์วิ่ง จะมีรถใหญ่ก็พวกรถอีแต๊กของชาวบ้าน รถรางวิ่งบริการนักท่องเที่ยว นอกนั้นก็เป็นพวกรถมอเตอร์ไซค์หรือรถจักของคนลาว และรถถีบหรือจักรยาน ที่มีขี่หรือปั่นกันทั่วไปทั้งจากชาวบ้านและนักท่องเที่ยว
เส้นทางสู่น้ำตกคอนปลาสร้อยต้องมุดลอดกิ่งไม้ในบางช่วง
จากที่พักที่ดอนคอน หลังพวกเราเช็คอินเก็บสัมภาระ พักผ่อนเล็กน้อย ก็ได้ฤกษ์การปั่นอีกครั้ง มุ่งหน้าสู่น้ำตกคอนปลาสร้อยที่อยู่ห่างจากที่พักเพียงไม่กี่กิโลเมตร แต่ว่าเส้นทางปั่นนั้นสมบุกสมบันเอาเรื่อง มีทั้งปั่นถนนกรวด ถนนดิน ถนนลูกรังในป่าละเมาะ ที่บางช่วงต้องเข็น ต้องมุดลอดอุปสรรคสิ่งกีดขวางคือกิ่งไม้ที่ทอดตัวกั้นขวางทาง
วิถีชีวิตชาวนาบนดอนคอนยามเย็นที่กำลังต้อนควายกลับบ้าน
แม้เส้นทางปั่นจะลำบาก แต่กลับเป็นเส้นทางที่ปั่นสนุก และบรรยากาศวิวทิวทัศน์ก็ชวนเพลิดเพลินกับวิถีชีวิตของชาวบ้าน โดยเฉพาะช่วงเก็บเกี่ยวเข้ายามเย็น หรือช่วงต้อนฝูงควายกลับบ้าน ซึ่งภาพวิถีแบบนี้ นับวันยิ่งมา ยิ่งหายไปจากเมืองไทยมากขึ้นเรื่อยๆ
สะพานแขวนข้ามลำสาขาของแม่น้ำโขง
หลังปั่นเพลินๆ ลงเดินบ้าง เข็นบ้าง ยกบ้าง ไม่นานพวกเราก็มาถึงยังปากทางเข้า“น้ำตกคอนปลาสร้อย” ที่ต้องฝากจักรยานไว้ แล้วเดินเท้าเข้าไป ซึ่งเส้นทางช่วงแรกที่ต้องเดินผ่านสะพานแขวนข้ามลำสาขาของลำน้ำโขงที่สายน้ำไหลเชี่ยวกรากดุดันนั้นก็สร้างความตื่นเต้น และกระตุ้นให้หัวใจเต้นแรงขึ้นมาได้มากโข
น้ำตกคอนปลาสร้อย
ส่วนถัดจากนั้นก็จะเป็นทางเดินป่าสบายๆสู่ตัวน้ำตกคอนปลาสร้อย ที่มีลักษณะเป็นน้ำตกคอนหรือน้ำตกที่เกิดจากแก่งเหมือนน้ำตกคอนพะเพ็ง น้ำตกหลี่ผี แต่มีขนาดเล็กกว่า แต่ก็เป็นน้ำตกแก่งที่สายน้ำมีความรุนแรงเชี่ยวกราก โจนทะยานไหลมาเป็นเชิงชั้น
ชาวบ้านหาปลากลางสายน้ำเชี่ยวที่น้ำตกคอนปลาสร้อย
ที่บริเวณน้ำตกคอนปลาสร้อยในช่วงที่พบไปยังพบเจอกับการดักปลาด้วย“หลี่” ซึ่งเป็นอุปกรณ์จับปลาภูมิปัญญาพื้นบ้านดั้งเดิมของชาวลาว และเป็นอุปกรณ์ที่เป็นเอกลักษณ์แห่งผู้คนในพื้นที่มหานทีสี่พันดอน ซึ่งนักท่องเที่ยวหลายๆคนนิยมมาถ่ายรูปด้วย
หลี่ อุปกรณ์หาปลาพื้นบ้าน ที่กลายเป็นจุดถ่ายรูปของนักท่องเที่ยว
นอกจากนี้ผมยังได้เห็นภาพวิถีชีวิตการทำประมงพื้นบ้านที่ต้องขอร่ำสุรา คว่ำ 3 จอกคารวะ กับการลงไปหาปลาของชาวบ้านในลำน้ำโขงอันเชี่ยวกรากบริเวณน้ำตกคอนปลาสร้อย ซึ่งในเย็นวันนั้นพวกเขาไม่สูญเปล่า หากแต่ได้ปลาตัวเขื่องจำนวนหนึ่งติดมือกลับมา

นับเป็นภาพการหาปลาที่ดูน่าตื่นตาตื่นใจ และดูน่าทึ่งไม่น้อยเลย
สะพานฝรั่งเศส เชื่อมดอนคอน-ดอนเดด อีกหนึ่งจุดไฮไลท์ของคณะเราในการปั่นวันที่ 4
หลังเที่ยวและถ่ายรูปที่น้ำตกคอนปลาสร้อยกันจนได้เวลานัดหมาย ขากลับพวกเราปั่นกลับมาในทางเดิม ถึงที่พักในช่วงโพล้เพล้ ซึ่งหลังกินอาหารค่ำได้ไม่นาน ฝนได้เริ่มตกเปาะแปะลงมา ก่อนจะค่อยๆโปรยสายหนักขึ้น หนักขึ้น ก่อนจะจัดหนักจัดเต็มลงมาห่าใหญ่ ชโลมค่ำคืนนี้ให้ชุ่มฉ่ำเย็นสบาย ริมฝั่งก็น้ำโขง เบื้องบนก็น้ำฝน

แต่ประทานโทษ!!! พรุ่งนี้พวกเรามีภารกิจสุดท้ายคือการปั่นจักรยานทั้งวัน ไปบนเส้นทางถนนดิน ถนนลูกรัง และถนนคันนา เพราะฉะนั้นถนนหนทางในวันพรุ่งนี้ คงต้องมีเละ เลอะเทอะ ดูไม่จืดกันบ้าง

แต่ก็อย่างว่า ใครล่ะจะไปห้ามฟ้าฝนได้ เพราะฉะนั้นทางที่ดี คืนนี้ควรดื่มด่ำกับบรรยากาศริมฝั่งโขง ดื่มด่ำกับเบียร์ลาวสักเล็กน้อยถึงปานกลาง แล้วรับเข้านอนถนอมแรงไว้ปั่นงานใหญ่พิชิต 4 ดอน ในวันพรุ่งนี้เป็นดีที่สุด

ราตรีสวัสดิ์ดอนคอน...(โปรดติดตามตอนต่อไป)

***********************************************
น้ำตกคอนพะเพ็งช่วงเดือนกุมภาพันธ์
น้ำตกคอนพะเพ็งมีช่วงเวลาสวยงามที่สุดที่ปริมาณน้ำเหมาะสมและสายน้ำเป็นสีขาวใสไหลฟูฟ่องคือในราวเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับสภาพธรรมชาติของปีนั้นๆ และการกัก-ปล่อย น้ำในเขื่อนประเทศจีนด้วย

Octo Cycling เป็นบริษัทที่มุ่งเชิญชวนผู้ชื่นชอบการปั่นจักรยานออกไปผจญโลกกว้างด้วยการปั่นจักรยานท่องเที่ยวสัมผัสกับสถานที่ต่างๆ ทั้งใน กทม. ในเมืองไทย อาเซียน ไต้หวัน ญี่ปุ่น เอเชีย และยุโรป เป็นต้น ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-2181-2088 หรือที่ www. Octocycling.com หรือ www.facebook.com/octocycling
******************************************

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
กำลังโหลดความคิดเห็น