Facebook :Travel @ Manager

หากกำลังมองหาร้านคาเฟ่สุดชิล เพื่อมานั่งผ่อนคลายพบปะพูดคุยกับเพื่อนฝูงหลังเวลาเลิกงาน หรือมองหาร้านที่มีเมนูอาหารสั่งมากินง่ายๆ ในช่วงวันหยุด ขอแนะนำ “Café Noir” ร้านคาเฟ่บรรยากาศสบายๆ ย่านม.เกษตรฯ
“Café Noir” (คาเฟ่ นัวร์) ร้านคาเฟ่บรรยากาศร่มรื่น ตกแต่งร้านปลอดโปร่งโล่งสบาย ตั้งอยู่ในซ.งามวงศ์วาน 44 (ถ.งามวงศ์วาน) ใกล้กับม.เกษตรศาสตร์ บางเขน มีโลโก้ร้านเป็นรูปสุนัขสายพันธุ์ Scottish Terrier ใช้เป็นสัญลักษณ์ ซึ่งที่มาของชื่อร้านมาจากภาษาฝรั่งเศส “Noir” มีความหมายว่า ดำ ดังนั้น “Café Noir” จึงมีความหมายว่า “กาแฟดำ” แต่หากอ่านคำว่า “นัวร์” เป็นภาษาไทยอีสานแล้วก็ออกเสียงว่า “นัว” หรือหมายความว่า กลมกล่อม นั่นเอง

ร้าน “Café Noir” มีที่นั่งหลากหลายมุมให้เลือก ทั้งด้านนอกบรรยากาศสบาย ร่มรื่น โอบล้อมด้วยต้นไม้หลากหลายชนิด มีความเขียวขจี มองแล้วเพลิดเพลิน ส่วนที่นั่งด้านในเป็นห้องกระจกใสติดแอร์เย็นสบาย ซึ่งที่นั่งทั้งหมดสามารถรองรับลูกค้าได้มากถึง 150 คน และยังมีที่จอดรถสะดวก กว้างขวาง

มาเริ่มต้นกันที่เครื่องดื่มเย็นๆ เติมความสดชื่นกับเมนู “Noir Soda” (95 บาท) เพิ่มความเปรี้ยวซ่ากับอิตาเลียนโซดา เคี้ยวหนุบหนับนุ่มๆ ที่มีส่วนผสมกับบุก ซึ่งเมนูนี้เป็นเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน นอกจากนี้ยังมีเมนูเครื่องดื่มร้อนและเย็นอื่นๆ ทั้งกาแฟดิป คาปูชิโน ลาเต้ ช็อกโกแลต มาให้เลือกอีกมากมาย


ส่วนเมนูของคาวขอเริ่มที่ “Cigar Noir” (149 บาท) เป็นเมนูกินเล่น เมนูนี้มีลักษณะคล้ายกับปอเปี๊ยะทอด ซึ่งทางร้านใช้แผ่นแป้งเดียวกับปอเปี๊ยะ โดยนำมาห่อกับหมู กุ้ง และผัก ม้วนเป็นแท่งยาว แล้วนำไปทอดด้วยน้ำมันที่มีไฟร้อนปานกลาง ทอดจนกรอบกำลังดี มีน้ำจิ้มที่มีรสหวาน พร้อมผักสลัดราดด้วยน้ำสลัดงาญี่ปุ่นเสิร์ฟมาในจาน

เมนูต่อมา “Spaghetti Carbonara” (260 บาท) เมนูสปาเกตตีคาโบนาราจานนี้จะแปลกกว่าร้านอื่นตรงที่มีไข่กุ้งใส่ลงไปด้วย เพิ่มสีสันให้กับเมนูนี้ได้เป็นอย่างดี เข้มข้นด้วยเบคอนและชีส จะได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของชีส กินตอนเสิร์ฟร้อนๆ รสกลมกล่อม ไม่เลี่ยน

อีกเมนูสปาเกตตี “Spaghetti Tomato Sauce” (200 บาท) สปาเกตตีจานนี้ใส่กุ้งกับหมูสับราดด้วยน้ำซอสมะเขือเทศ เมนูนี้จะมีรสเปรี้ยวจากมะเขือเทศ และใส่มะเขือเทศราชินีหั่นครึ่งเข้าไปด้วย เมื่อกินเข้าไปแล้วเพิ่มความสดชื่นได้ดี

ถ้าใครชอบเมนูอาหารจานเดียวกินง่ายๆ แนะนำ “Prawn Chilli with Rice” (180 บาท) เมนูนี้เป็นข้าวหน้ากุ้งผัดพริกสดไข่ข้น ข้างในเป็นข้าวสวยหอมนุ่ม ราดหน้าด้วยไข่ข้นกึ่งสุก แล้วตามด้วยน้ำซอสผัดพริกขี้หนูใส่กุ้งไซส์ปานกลาง รสชาติกลมกล่อมครบทุกรส ทั้งหวาน เค็ม มีรสเผ็ดเล็กน้อย

จานต่อมา “Sa-Lid Fried Rice” (200 บาท) เมนูไทยๆ อย่างข้าวผัดปลาสลิด เมนูนี้ทางร้านปรุงรสจัดจ้าน ใส่พริกขี้หนูลงไปผัดกับข้าวและใส่เนื้อปลาสลิดเข้าไปคลุกเคล้า จานนี้เสิร์ฟมาพร้อมกับแตงกวาสดหั่นสไลด์และไข่เค็ม

นอกจากเมนูเครื่องดื่มและเมนูอาหารคาว ที่เลือกมาแนะนำแล้ว ทางร้านยังมีเมนูของหวานอีกมากมายมาให้เลือกลิ้มรส อย่างเช่น Lychee Rosy Cheese Pie (155 บาท) ชีสพายกลิ่นหอมของลิ้นจี่ เนื้อเนียนนุ่มละมุนลิ้น สั่งมาล้างปากปิดท้ายให้กับมื้ออาหารได้ดี

ร้าน “Café Noir” ตั้งอยู่ที่ 99/99 ซ.งามวงศ์วาน 44 ถ.งามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. วันศุกร์-อาทิตย์ ปิดเวลา 22.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือจองที่นั่งได้ที่ โทร.08-9536-8888
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
หากกำลังมองหาร้านคาเฟ่สุดชิล เพื่อมานั่งผ่อนคลายพบปะพูดคุยกับเพื่อนฝูงหลังเวลาเลิกงาน หรือมองหาร้านที่มีเมนูอาหารสั่งมากินง่ายๆ ในช่วงวันหยุด ขอแนะนำ “Café Noir” ร้านคาเฟ่บรรยากาศสบายๆ ย่านม.เกษตรฯ
“Café Noir” (คาเฟ่ นัวร์) ร้านคาเฟ่บรรยากาศร่มรื่น ตกแต่งร้านปลอดโปร่งโล่งสบาย ตั้งอยู่ในซ.งามวงศ์วาน 44 (ถ.งามวงศ์วาน) ใกล้กับม.เกษตรศาสตร์ บางเขน มีโลโก้ร้านเป็นรูปสุนัขสายพันธุ์ Scottish Terrier ใช้เป็นสัญลักษณ์ ซึ่งที่มาของชื่อร้านมาจากภาษาฝรั่งเศส “Noir” มีความหมายว่า ดำ ดังนั้น “Café Noir” จึงมีความหมายว่า “กาแฟดำ” แต่หากอ่านคำว่า “นัวร์” เป็นภาษาไทยอีสานแล้วก็ออกเสียงว่า “นัว” หรือหมายความว่า กลมกล่อม นั่นเอง
ร้าน “Café Noir” มีที่นั่งหลากหลายมุมให้เลือก ทั้งด้านนอกบรรยากาศสบาย ร่มรื่น โอบล้อมด้วยต้นไม้หลากหลายชนิด มีความเขียวขจี มองแล้วเพลิดเพลิน ส่วนที่นั่งด้านในเป็นห้องกระจกใสติดแอร์เย็นสบาย ซึ่งที่นั่งทั้งหมดสามารถรองรับลูกค้าได้มากถึง 150 คน และยังมีที่จอดรถสะดวก กว้างขวาง
มาเริ่มต้นกันที่เครื่องดื่มเย็นๆ เติมความสดชื่นกับเมนู “Noir Soda” (95 บาท) เพิ่มความเปรี้ยวซ่ากับอิตาเลียนโซดา เคี้ยวหนุบหนับนุ่มๆ ที่มีส่วนผสมกับบุก ซึ่งเมนูนี้เป็นเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน นอกจากนี้ยังมีเมนูเครื่องดื่มร้อนและเย็นอื่นๆ ทั้งกาแฟดิป คาปูชิโน ลาเต้ ช็อกโกแลต มาให้เลือกอีกมากมาย
ส่วนเมนูของคาวขอเริ่มที่ “Cigar Noir” (149 บาท) เป็นเมนูกินเล่น เมนูนี้มีลักษณะคล้ายกับปอเปี๊ยะทอด ซึ่งทางร้านใช้แผ่นแป้งเดียวกับปอเปี๊ยะ โดยนำมาห่อกับหมู กุ้ง และผัก ม้วนเป็นแท่งยาว แล้วนำไปทอดด้วยน้ำมันที่มีไฟร้อนปานกลาง ทอดจนกรอบกำลังดี มีน้ำจิ้มที่มีรสหวาน พร้อมผักสลัดราดด้วยน้ำสลัดงาญี่ปุ่นเสิร์ฟมาในจาน
เมนูต่อมา “Spaghetti Carbonara” (260 บาท) เมนูสปาเกตตีคาโบนาราจานนี้จะแปลกกว่าร้านอื่นตรงที่มีไข่กุ้งใส่ลงไปด้วย เพิ่มสีสันให้กับเมนูนี้ได้เป็นอย่างดี เข้มข้นด้วยเบคอนและชีส จะได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของชีส กินตอนเสิร์ฟร้อนๆ รสกลมกล่อม ไม่เลี่ยน
อีกเมนูสปาเกตตี “Spaghetti Tomato Sauce” (200 บาท) สปาเกตตีจานนี้ใส่กุ้งกับหมูสับราดด้วยน้ำซอสมะเขือเทศ เมนูนี้จะมีรสเปรี้ยวจากมะเขือเทศ และใส่มะเขือเทศราชินีหั่นครึ่งเข้าไปด้วย เมื่อกินเข้าไปแล้วเพิ่มความสดชื่นได้ดี
ถ้าใครชอบเมนูอาหารจานเดียวกินง่ายๆ แนะนำ “Prawn Chilli with Rice” (180 บาท) เมนูนี้เป็นข้าวหน้ากุ้งผัดพริกสดไข่ข้น ข้างในเป็นข้าวสวยหอมนุ่ม ราดหน้าด้วยไข่ข้นกึ่งสุก แล้วตามด้วยน้ำซอสผัดพริกขี้หนูใส่กุ้งไซส์ปานกลาง รสชาติกลมกล่อมครบทุกรส ทั้งหวาน เค็ม มีรสเผ็ดเล็กน้อย
จานต่อมา “Sa-Lid Fried Rice” (200 บาท) เมนูไทยๆ อย่างข้าวผัดปลาสลิด เมนูนี้ทางร้านปรุงรสจัดจ้าน ใส่พริกขี้หนูลงไปผัดกับข้าวและใส่เนื้อปลาสลิดเข้าไปคลุกเคล้า จานนี้เสิร์ฟมาพร้อมกับแตงกวาสดหั่นสไลด์และไข่เค็ม
นอกจากเมนูเครื่องดื่มและเมนูอาหารคาว ที่เลือกมาแนะนำแล้ว ทางร้านยังมีเมนูของหวานอีกมากมายมาให้เลือกลิ้มรส อย่างเช่น Lychee Rosy Cheese Pie (155 บาท) ชีสพายกลิ่นหอมของลิ้นจี่ เนื้อเนียนนุ่มละมุนลิ้น สั่งมาล้างปากปิดท้ายให้กับมื้ออาหารได้ดี
ร้าน “Café Noir” ตั้งอยู่ที่ 99/99 ซ.งามวงศ์วาน 44 ถ.งามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. วันศุกร์-อาทิตย์ ปิดเวลา 22.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือจองที่นั่งได้ที่ โทร.08-9536-8888
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager