xs
xsm
sm
md
lg

3 สปาธรรมชาติแสนชิลแห่งคลองท่อม อย่าพลาด! “น้ำพุร้อนเค็ม” ออนเซนสุดอันซีน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

น้ำพุร้อนเค็ม หนึ่งใน Big 3 แห่งคลองท่อม
เมืองสปาน้ำพุร้อนอันโด่งดังในโลกนี้มีอยู่หลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นเมืองเบปปุ ประเทศญี่ปุ่น เมืองโรโตรัว ประเทศนิวซีแลนด์ เมืองปามุคคาเล ประเทศตุรกี เมืองบาเดน บาเดน ประเทศเยอรมนี เป็นต้น ด้วยพื้นที่ที่มีความร้อนจากใต้พื้นพิภพก่อให้เกิดน้ำพุร้อนที่พาให้พื้นที่นั้นกลายเป็นเมืองพักผ่อนเพื่อสุขภาพ

ที่ “อำเภอคลองท่อม” ในจังหวัดกระบี่ สามารถเรียกได้ว่าเป็น “เมืองสปาน้ำพุร้อน” (Spa Town) แห่งเมืองไทย ด้วยพื้นที่ที่ตั้งอยู่บนรอยเลื่อนของเปลือกโลกทำให้เกิดน้ำพุธรรมชาติ (Natural Spring) ขึ้นหลายแห่ง ซึ่งมีทั้งน้ำพุร้อน (Hot Spring) น้ำพุเย็น (Cold Spring) และน้ำพุร้อนเค็ม (Saline Spring หรือ Salt Spring) กระจายอยู่ทั่วอำเภอ รวมถึงหาดโคลนร้อน (Hot Clay Beach) อีกด้วย

ชาวอำเภอคลองท่อมและภาคส่วนต่างๆ จึงอยากจะนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวสุดพิเศษที่ธรรมชาติมอบให้นี้ให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว แนะนำให้ชาวไทยและชาวต่างชาติรู้ว่า “คลองท่อม” นี้มีดีในระดับ “เมืองสปา” ที่น่าเที่ยวไม่เบา รวมถึงทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ก็ได้เข้ามาศึกษาและพัฒนาพื้นที่น้ำพุร้อนคลองท่อมเพื่อให้เป็นเมืองสปาต้นแบบ หรือ “Spa Town”

แหล่งน้ำพุธรรมชาติที่คลองท่อมมีอยู่หลายแห่งด้วยกัน แต่แหล่งน้ำพุสำคัญที่ชาวคลองท่อมยกให้เป็น “Big 3” แห่งคลองท่อมนั้นได้แก่ สระมรกต น้ำตกร้อนสะพานยูง และ น้ำพุร้อนเค็ม ซึ่งเป็นแหล่งน้ำพุ 3 แห่งที่มีความพร้อม และเป็นแม่เหล็กดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเยือนคลองท่อม
นักท่องเที่ยวเล่นน้ำที่สระมรกต
“สระมรกต”

“สระมรกต” (ต.คลองท่อมเหนือ) เป็นแหล่งท่องเที่ยวในระดับอันซีนไทยแลนด์ซึ่งเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวขาวไทยและชาวต่างชาติกันมานาน สระมรกตมีต้นกำเนิดมาจากสระน้ำผุดที่เป็นพุน้ำร้อนที่ผุดขึ้นมาบนผิวดิน จากนั้นน้ำร้อนในสระน้ำผุดได้ไหลรวมกับน้ำจากผืนป่าไหลลงสู่แอ่งขนาดใหญ่ เกิดเป็นสระน้ำธรรมชาติกลางผืนป่ามีสีเขียวสดใสด้วยสารละลายหินปูนหรือแคลเซียมคาร์บอเนตและสารอื่นๆ ที่ปะปนอยู่ในน้ำ จนได้ชื่อว่าเป็น “สระมรกต” มีอุณหภูมิเฉลี่ยของน้ำอยู่ที่ประมาณ 30-35 องศาเซลเซียส
น้ำในสระมรกตสีเขียวสดใส
มีนักท่องเที่ยวมาเยือนสระมรกตทุกวัน
การจะเข้าไปยังสระมรกตจะต้องเดินเท้าจากจุดจอดรถเข้าไป มีให้เลือก 2 เส้นทางคือทางถนนลูกรังระยะทาง 800 เมตร กับเดินในเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทาง 1,400 เมตร ที่ทำเป็นสะพานปูนทอดยาวผ่านผืนป่า เลาะเลียบธารน้ำที่ไหลมาจากสระน้ำผุดและสระมรกต และการจะเข้าไปด้านในนั้นห้ามนำอาหารและเครื่องดื่มเข้าไป เพราะเป็นพื้นที่ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ-บางคราม ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่อนุรักษ์ที่ค่อนข้างเข้มงวด การเปิดให้เข้าไปท่องเที่ยวได้ก็ถือว่าเป็นการอนุโลมมากแล้ว ดังนั้นจึงต้องช่วยกันดูแลพื้นที่ ไม่นำอะไรแปลกปลอมจากธรรมชาติเข้าไป และไม่ทิ้งอะไรไว้นอกจากความทรงจำ

เมื่อเดินเข้าไปเราจะพบกับสระมรกตก่อน ซึ่งตลอดทั้งวันก็จะมีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติแวะเวียนมาเล่นน้ำในสระมรกตกันเป็นจำนวนมาก น้ำใสแจ๋วและบ่อธรรมชาติกว้างขวางมีต้นไม้ร่มครึ้มรอบบ่อก็ดึงดูดให้ลงไปแหวกว่าย ส่วนสระน้ำผุดอันเป็นต้นกำเนิดของสระมรกตนั้นจะอยู่ลึกเข้าไปในป่า ต้องเดินเท้าจากสระมรกตเข้าไปอีกราว 800 เมตร เป็นสระสีฟ้าใสดูสวยงามและลึกลับไปพร้อมๆ กัน แต่ไม่สามารถลงเล่นน้ำได้เพราะเป็นน้ำลึกและมีโคลนดูด
เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติที่สระมรกต
สระมรกต เปิดให้เข้าชม 08.00-17.00 น. ค่าเข้าชมคนไทยผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ต่างชาติผู้ใหญ่ 200 บาท เด็กต่างชาติ 100 บาท
น้ำตกร้อนแห่งเดียวในไทย
“น้ำตกร้อน”

“น้ำตกร้อน” หรือ “น้ำตกร้อนสะพานยูง” (ต.คลองท่อมเหนือ) ถือเป็นน้ำตกร้อนเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่มีน้ำไหลตลอดปี พุน้ำร้อนอยู่กลางผืนป่าพรุสะพานยูงมีอุณหภูมิประมาณ 45 องศาเซลเซียส น้ำผุดขึ้นมาและไหลรวมเป็นลำธารน้ำอุ่นตามธรรมชาติ ไหลผ่านโขดหินเกิดเป็น “น้ำตกร้อน” น้ำตกเล็กๆ ที่มีความอุ่นสบายท่ามกลางธรรมชาติอันร่มรื่น
ธารน้ำอุ่นไหลผ่านโขดหินกลายเป็นน้ำตกร้อน
น้ำตกร้อนขนาดไม่ใหญ่นัก แบ่งกันแช่แบ่งกันชม
พื้นที่ของน้ำตกร้อนไม่ใหญ่โตนัก แต่รอบด้านมีแมกไม้ร่มรื่น ตัวน้ำตกถูกธรรมชาติสร้างสรรค์ให้โขดหินโตรกหินเกิดเป็นแอ่งขนาดย่อมให้ลงไปแช่น้ำอุ่นได้แบบชิลๆ ดังสปาธรรมชาติ โดยน้ำอุ่นนี้มีประโยชน์ในการบำบัดโรคปวดเมื่อย ปวดข้อ ช่วยผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจได้เป็นอย่างดี แต่ก็ไม่ควรแช่นานเกิน 15-20 นาที เพราะอาจทำให้หน้ามืดเป็นลมได้ และเนื่องจากพื้นที่ของน้ำตกที่ไม่กว้างขวางนัก ในช่วงที่นักท่องเที่ยวหนาแน่นอาจทำให้เกิดความไม่สะดวกไปสักหน่อย ก็สามารถมาแช่สระด้านนอกที่ต่อท่อนำน้ำตกอุ่นมาไว้ในสระได้เช่นกัน
แอ่งน้ำอุ่นธรรมชาติ
น้ำตกร้อนไหลลงสู่คลองท่อม
น้ำตกร้อน เปิดให้เข้าชม 08.30-17.00 น. ค่าเข้าชมคนไทยผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ต่างชาติผู้ใหญ่ 160 บาท เด็ก 80 บาท
แช่น้ำพุร้อนเค็มผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ
“น้ำพุร้อนเค็ม”

อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่อยากให้พลาดเมื่อมาเยือนคลองท่อมเมืองสปาก็คือ “น้ำพุร้อนเค็ม” (ต.ห้วยน้ำขาว) ที่นี่เป็น Salt Spring หรือน้ำพุร้อนที่มีความเค็มซึ่งมีเพียงไม่กี่แห่งในโลกเท่านั้น (อีกแห่งหนึ่งคือที่สาธารณรัฐเช็ค) น้ำพุร้อนเค็มนี้เกิดขึ้นตามธรรมชาติจากการผสมกันของน้ำร้อนและน้ำทะเลในระดับลึกลงไปในดิน ก่อนจะถูกดันสู่ผิวดิน

แต่เดิมบ่อน้ำพุร้อนเค็มนี้อยู่ท่ามกลางป่าชายเลน ชาวบ้านรู้จักและพากันมาแช่น้ำร้อนกันมาเป็นเวลานาน และต่อมาทาง อบต.ห้วยน้ำขาวได้เข้ามาปรับปรุงพื้นที่ให้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้นเมื่อราว 5 ปีก่อน และได้เก็บเงินค่าเข้าเพื่อนำมาพัฒนาพื้นที่ โดยที่นี่มีบ่อน้ำผุดที่เรียกว่า “บ่อแม่” เป็นบ่อต้นน้ำ มีอุณหภูมิประมาณ 47 องศาเซลเซียส (ไม่อนุญาตให้ลงแช่ ให้ตักอาบเท่านั้น) และ “บ่อแฝด” ที่อยู่เหนือบ่อแม่ขึ้นไปก็เป็นบ่อต้นน้ำที่ห้ามลงแช่เช่นกัน บ่อเหล่านี้เป็นบ่อธรรมชาติทั้งหมด ทาง อบต.ได้สร้างขอบบ่อและบริเวณรอบๆ บ่อให้สะดวกปลอดภัยขึ้นเท่านั้น
น้ำพุร้อนเค็มมีไม่กี่แห่งในโลก หนึ่งในนั้นอยู่ที่คลองท่อม
ชาวบ้านที่นี่ยังเชื่อว่าบ่อแม่นี้เป็นบ่อศักดิ์สิทธิ์ เรียกกันว่า “โต๊ะน้ำพุร้อนเค็ม” (โต๊ะคือคำเรียกของคนอิสลาม หมายถึงปู่ย่าตายายหรือบรรพบุรุษ) ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำบ่อน้ำพุ มาอธิษฐานเพื่อให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บและวักน้ำจากบ่อแม่ดื่ม เมื่อหายจากโรคก็จะมาแก้บนด้วยการผูกผ้าสีตามต้นไม้ หรือนำไก่บ้านมาปล่อยแก้บน เมื่อก่อนมีคนโยนเหรียญเพื่ออธิษฐานลงไปในบ่อ แต่ขอแนะนำว่าไม่ควรทำเพราะจะทำให้บ่อธรรมชาติเสียหาย

ข้อแนะนำสำหรับการแช่น้ำพุร้อนเค็มก็คือต้องอาบน้ำชำระล้างร่างกายก่อนลงบ่อ (มีฝักบัวให้บริการรอบๆ บ่อ) และไม่ควรแช่นานเกิน 10-15 นาที โดยเชื่อกันว่าการแช่น้ำร้อนเค็มนี้จะช่วยแก้โรคผิวหนัง แก้โรคปวดเข่าปวดข้อ คนป่วยโรคอัมพฤกษ์อัมพาต หากได้แช่สม่ำเสมออาการจะค่อยๆ ดีขึ้น
บ่อแม่อุณหภูมิราว 47 องศาเซลเซียส
บ่อน้ำพุร้อนเค็มนั้นเป็นที่รู้จักของชาวคลองท่อมและคนในพื้นที่ภาคใต้ แต่ยังไม่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวต่างชาติมากนัก คนที่มาแช่บ่อน้ำพุร้อนเค็มที่นี่ส่วนใหญ่จึงมีแต่คนในพื้นที่ที่เห็นหน้ากันบ่อยๆ และทำให้มีบรรยากาศน่ารักๆ ของการพูดคุยทักทายไปพร้อมๆ กับล้อมวงแช่น้ำร้อนด้วยกัน ดูราวกับหมู่บ้านออนเซนในประเทศญี่ปุ่น

บริเวณบ่อน้ำพุร้อนเค็มยังมีเส้นทางเดินชมธรรมชาติป่าชายเลน ระหว่างเส้นทางสามารถแวะ “ศูนย์แพทย์แผนไทยน้ำพุร้อนเค็ม” ให้บริการนวดไทยอยู่ด้วย ทางเดินยังสร้างไม่เสร็จดี แต่หากเสร็จแล้วจะเชื่อมต่อไปยังบ่อจระเข้ ซึ่งเป็นบ่อที่ยังคงสภาพธรรมชาติอยู่ด้านใน เป็นอีกหนึ่งบ่อที่ชาวบ้านนิยมมาแช่น้ำร้อนเค็มกัน
ยามเย็นมีคนในพื้นที่มาแช่น้ำร้อนพร้อมทั้งพูดคุยทักทายกัน
นอกจากน้ำพุร้อนทั้ง 3 แห่งนี้แล้ว ในอำเภอคลองท่อมยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ พิพิธภัณฑสถานคลองท่อม ณ วัดคลองท่อม ซึ่งจัดแสดง “ลูกปัดโบราณ” โดยเฉพาะลูกปัด“สุริยเทพ” อันลือลั่น ซึ่งเป็นหลักฐานแสดงให้เห็นถึงความเป็นแหล่งค้าขายสำคัญแห่งโลกยุคโบราณเมื่อหลายพันปีก่อน นอกจากนั้นก็ยังมีธรรมชาติของป่าไม้ภูเขาอันอุดมสมบูรณ์ และยังสามารถเชื่อมโยงไปยังแหล่งท่องเที่ยวในตัวเมืองกระบี่ และหมู่เกาะต่างๆ ได้สะดวกอีกด้วย

ขณะนี้โครงการที่จะชูให้คลองท่อมเป็นเมืองสปานั้นอาจจะยังอยู่ในระยะเริ่มต้น แต่ด้วยศักยภาพของพื้นที่ บวกด้วยความร่วมมือของคนในชุมชน ก็เชื่อว่าอีกไม่นานชื่อของ "คลองท่อมเมืองสปา" ก็จะเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติในอีกไม่ช้า แต่อย่าลืมว่าการพัฒนาที่ยั่งยืนจะต้องควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ เม็ดเงินที่เข้ามาจึงควรใช้ไปกับการรักษาสภาพพื้นที่ธรรมชาติไว้ให้มากที่สุด
เส้นทางเดินชมป่าชายเลนที่น้ำพุร้อนเค็ม
น้ำพุร้อนเค็ม เปิดให้เข้าชม 05.00-20.00 น. ค่าเข้าชมคนไทยผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ต่างชาติ 100 บาท

สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในอำเภอคลองท่อม และในจังหวัดกระบี่ได้ที่ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกระบี่ โทร.0 7566 3246 และที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกระบี่ โทร.0 7562 2163, 0 7561 2811-2

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
กำลังโหลดความคิดเห็น