Facebook :Travel @ Manager

“ทะเลสวยๆ กับทรายขาวๆ เข้ากันได้ดี คลื่นลมพลิ้วๆ กับเรือน้อยๆ ก็ดู เข้าที ครืนๆ คลื่นซัดมา ช้าๆ ตามลม ที่พัดมา ตะวันกับเมฆบนท้องฟ้า แต่งเติมท้องทะเล ให้งดงาม”

“ตะลอนเที่ยว” กำลังฮัมเพลง “ทะเลสวยๆ ทรายขาวๆ” ของคุณตู่ นันทิดา แก้วบัวสาย อย่างเพลิดเพลิน ขณะที่เรากำลังรอลงเรืออยู่ที่ท่าเรือประภาคารระนอง เพราะว่าเนื้อหาของเพลงนี้ ช่างเข้ากับบรรยากาศและอารมณ์ความรู้สึกของการได้มาออกเที่ยวในทริปนี้ กับทาง “เคทีซี” และ “เลิฟ อันดามัน” ที่ได้จัดทริป “มิงกะละบา จากระนอง สู่เมียนมาร์ โอบท้องฟ้า ท้าลมทะเล” ชวนมาร่วมสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ ท่ามกลางท้องทะเลสีฟ้าคราม เยือน “เกาะนาวโอพี” เป็นเกาะสวรรค์แห่งใหม่ของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ (พม่า) ที่มีความสวยงาม และโลกใต้ท้องทะเลมีความอุดมสมบูรณ์งดงาม

จากท่าเรือประภาคารระนอง พวกเราก็เดินลงเรือสปีดโบตกันทันที ซึ่งการผ่านด่านข้ามแดนไปยังประเทศพม่าก็ไม่ยุ่งยาก เพียงแค่โชว์บัตรประชาชนกับเจ้าหน้าที่เท่านั้น เพราะทางเลิฟอันดามันได้มาดำเนินเรื่องไว้ให้ล่วงหน้าแล้ว ใช้เวลาแล่นเรือข้ามประเทศประมาณแค่ 10 นาที ก็มาถึงยัง “เกาะสอง” ซึ่งเป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางใต้สุดของประเทศพม่า

เมื่อพวกเรามาถึงยังท่าเทียบเรือของเกาะสอง ก็ต้องเปลี่ยนไปลงเรือลำใหญ่อีกที หลังจากนั้นเรือก็แล่นฉลุยวิ่งยาวฝ่าเกลียวคลื่นเข้าสู่เขตทะเลพม่า ซึ่งระหว่างทางของการเดินเรือไป เราก็ได้เห็นทัศนียภาพของเกาะแก่งน้อยใหญ่หลายเกาะของทะเลพม่า เรือแล่นไปเรื่อยๆ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที ก็มาถึงยังจุดหมายปลายทางสำคัญของพวกเราแล้ว นั่นก็คือ “เกาะนาวโอพี” (Nyaung Oo Phee Island) เป็นเกาะส่วนตัวที่ถูกเปิดตัวใหม่ ตั้งอยู่ในทะเลอันดามันฝั่งประเทศพม่า

ทันทีที่เรือค่อยๆ แล่นเข้าใกล้เกาะนาวโอพี ทุกคนที่อยู่บนเรือต่างก็ส่งเสียงร้องอุทาน แทบจะพร้อมเพรียงเป็นเสียงเดียวกันว่า “โอ้ว!! สวยจัง น้ำทะเลใสมากเลย” ซึ่ง “ตะลอนเที่ยว” เองได้เห็นประจักษ์ชัดแจ้งกับตาตัวเองก็ต้องขอร้องอุทานเหมือนกับทุกคนบนเรือ และยิ่งเรือแล่นเข้าใกล้ฝั่งเข้าไปเรื่อยๆ ก็ยิ่งได้เห็นถึงความสวยงามของเกาะนาวโอพีอันเงียบสงบ ไร้ผู้คน มีแนวภูเขาที่มีป่าไม้ที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ไว้ได้มากเลยทีเดียว ท้องน้ำทะเลใสราวกับกระจก สะท้อนแสงแดดงดงามจับตา

ในที่สุดเรือก็ทอดสมอ และจอดนิ่งให้พวกเราทยอยลงเรือ เพื่อขึ้นไปเกาะนาวโอพี โดยจุดที่พวกเราได้ลงไปสัมผัสกับความสวยงามของเกาะสวรรค์นี้อย่างใกล้ชิด เรียกว่า “หาดมาดาม” (Madam Beach) ทันทีที่เท้าเหยียบลงยังผืนทรายของหาดมาดาม ก็สัมผัสได้ถึงเม็ดทรายที่นุ่มแน่นและมีสีขาวสะอาดตามาก ชายหาดทอดตัวยาวมองไปกว้างไกลได้แบบสุดลูกหูลูกตา เบื้องหน้าของหาดมาดาม มีผืนน้ำทะเลที่งดงามจับตา น้ำทะเลสวยใส น้ำทะเลมีสีสันลดหลั่นกันทั้งสีน้ำเงิน สีฟ้าคราม และสีเขียวใสแจ๋ว

พวกเราปักหลังเที่ยวบนหาดมาดามแห่งนี้กัน ซึ่งทางเลิฟ อันดามัน ได้มีการเตรียมอาหารกลางวันไว้อย่างพร้อมสรรพ มีทั้งเครื่องดื่มหลากหลาย อาหารทะเลสดๆ อย่างกุ้งเผา หมึกย่าง รวมถึงมีขนมมากมายให้ได้อิ่มเอมกันอย่างเต็มที่ รวมถึงมีห้องน้ำและห้องอาบน้ำที่สะอาดไว้ให้บริการด้วย

“ตะลอนเที่ยว” ออกเดินเที่ยวสัมผัสความงดงามของหาดมาดามแบบใกล้ชิด โดยเราเดินไปตามแนวชายหาดอันมีทรายเม็ดละเอียดขาวสะอาดเดินแล้วนุ่มเท้าเพลิดเพลิน บนหาดมาดามมีแนวภูเขาหินที่มีต้นไม้น้อยใหญ่ขึ้นปกคลุมสร้างความร่มรื่นและรื่นรมย์ใจดีจริง มีกองหินโผล่พ้นหาดขึ้นมาให้ได้เก็บภาพสวยๆ มีจุดให้ได้นั่งเล่น นอนเล่น บนหาดทราย พร้อมกับมีสายลมทะเลพัดมา สร้างความเย็นกายแสนสุขใจจริงเชียว


หลังจากเดินสัมผัสผืนทราย และถ่ายรูปเก็บภาพความสวยงามของท้องทะเลอันสดใสจนหนำใจแล้ว คราวนี้เราไม่รอช้าขอกระโจนลงท้องทะเลที่อยู่เบื้องหน้าทันที เพราะน้ำทะเลใสแจ๋วมันช่างยั่วยวนใจ ให้ต้องขอลงไปแหวกว่ายแบบถึงเนื้อถึงตัวกันสักหน่อย ซึ่งบริเวณหน้าหาดมาดามสามารถลงเล่นน้ำได้อย่างสบาย แต่ก็ต้องระวังโขดหินและแนวปะการังสักหน่อย เพราะว่าว่ายน้ำออกจากฝั่งไปไม่ไกล เราก็สามารถดำน้ำแบบ Snorkeling ได้เห็นความงดงามของโลกใต้ท้องทะเลกันแล้ว มีปลาหลากหลายให้ได้เห็นด้วย เรียกว่าที่หาดมาดามมีความสมบูรณ์ทั้งบนบกและใต้น้ำ มีความพิสุทธิ์อยู่มากจริงๆ


เราได้ว่ายน้ำเล่น นอนเล่นชิลๆ และอิ่มอร่อยกับอาหารกันที่หาดมาดามจนเต็มอิ่มแล้ว ก็มาถึงช่วงเวลาแห่งการรอคอย ที่จะได้ออกไปตะลุยกับกิจกรรม Snorkeling รอบเกาะ ไปดำดิ่งสู่โลกใต้ท้องทะเลพม่าว่าจะสวยงาม และมีความอุดมสมบูรณ์มากอย่างว่าหรือไม่ พวกเราก็กลับขึ้นเรือเรือสปีดโบตอีกครั้ง พร้อมมุ่งหน้าไปยังจุดดำน้ำแรกกันทันที

จุดดำน้ำแรกที่เรือมาจอดทอดสมอ ให้พวกเราได้ลงไปดำน้ำแบบ Snorkeling มีชื่อว่า “ทุ่งดอกไม้” จุดดำน้ำตรงนี้มีไฮไลต์ตามชื่อจุดจริงๆ เพราะเพียงแค่ลอยตัวอยู่เหนือผิวน้ำ ก้มหน้ามองลงไปยังโลกใต้ท้องทะเลเบื้องล่าง เราก็ประจักษ์แจ้งเห็นด้วยสองตาตัวเองว่า โลกแห่งท้องทะเลพม่านี้ช่างอุดมสมบูรณ์จริงๆ มีความสวยงามของเหล่าปะการังอันหลากหลาย อาทิปะการังผักกาด ปะการังดอกกะหล่ำ ปะการังโขดหินหรือปะการังก้อน ปะการังก้อนรูปสมอง ปะการังเขากวาง แล้วก็ยังงดงามไปด้วยดอกไม้ทะเลหลากหลายสีสัน

มีเหล่าปลาทะเลหลายหลากสายพันธุ์ให้ได้พบเจอ ไม่ว่าจะเป็น ปลานีโมแดงปานดำ ปลานีโมโทเมโท ปลาโนรีเทวรูป ปลาปากแตร ปลานกแก้ว ปลาสลิดหิน ปลากะพงลายสี่แถบหรือปลากะพงแถบน้ำเงิน ปลาปักเป้าหน้าหมา ปลาไหลมอเรย์ ปลาดาวหนามหรือดาวมงกุฎหนาม หอยเม่น หอยมือเสือ และอีกสารพัดพันธุ์ปลาทะเลสีสันสวยสดงดงาม แหวกว่ายไปมา ให้ได้ดำน้ำดูกันอย่างเพลิดเพลินสำราญใจ


พวกเราใช้เวลาดำน้ำอยู่ที่จุดทุ่งดอกไม้อยู่เป็นนานสองนาน ก็ได้เวลากลับขึ้นเรือ เพื่อไปยังจุดดำน้ำจุดที่สองที่รออยู่ ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากจุดแรกมากนัก เรือก็มาจอดทอดสมออีกครั้ง ยังจุดดำน้ำที่มีชื่อว่า “เดอะเลตเตอร์” จุดดำน้ำจุดนี้เป็นเกาะเล็กๆ โผล่มากลางทะเล ซึ่งโลกใต้ท้องทะเลตรงนี้ มีจุดเด่นอยู่ตรงที่มีความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก มีพวกกะละปังหาหรือกัลปังหา หลากหลายรูปแบบและหลายหลากสีสัน มีปลาดาวขนนกสีสันสดใส ปะการังอ่อนสีชมพูงดงามเป็นยิ่งนัก และปะการังอ่อนสีสันสดใสอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก แล้วก็มีปลาหลากหลายสายพันธุ์ทั้งตัวเล็กตัวใหญ่อยู่เต็มท้องทะเลไปหมด
เรียกว่าเมื่อได้เห็นโลกแห่งท้องทะเลพม่าอันอุดมสมบูรณ์นี้แล้ว ก็นึกคิดอยู่ในใจว่าขอให้นักท่องเที่ยวทุกคนที่ได้มาเที่ยว จงมาเที่ยวกันอย่างมีจิตสำนึก โปรดช่วยกันรักษาทรัพยากรอันมีค่าเหล่านี้ไว้ ให้สวยสดงดงามเช่นนี้ต่อไปตราบนานเท่านาน

“ตะลอนเที่ยว” ได้ดำน้ำชื่นชมความสวยงามของโลกใต้ท้องทะเลพม่าจนอิ่มเอมใจเป็นอย่างมากแล้ว ก็ถึงเวลาที่เราต้องโบกมืออำลาท้องทะเลพม่ากันแล้ว โดยเรือได้หันหัวเรือแล่นฝ่าเกลียวคลื่นกลับสู่เกาะสองอีกครั้ง และพวกเราก็มีโอกาสได้เหยียบแผ่นดินประเทศพม่า ได้ขึ้นไปสัมผัสกับแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจเป็นเกาะสองกัน

โดยได้มาที่ “เจดีย์ปิดอร์เอ” ชื่อของเจดีย์แห่งนี้มีความหมายว่า เจดีย์แห่งความสงบร่มเย็น ถือว่าเป็นวัดที่ชาวเกาะสองให้ความเคารพศรัทธาเป็นอย่างมาก ด้านในมีเจดีย์สีทองเหลืองอร่ามตั้งเด่นเป็นสง่า ซึ่งจำลองรูปทรงมาจากเจดีย์ชเวดากองที่เมืองย่างกุ้ง ภายในเจดีย์ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และบริเวณฐานด้านในเจดีย์มีพระพุทธรูปประจำวันเกิดตั้งอยู่ประจำทิศต่างๆ ให้กราบสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล อีกทั้งยังมีพระพุทธรูปหลวงพ่อทันใจให้ได้กราบไหว้ขอพร และบริเวณลานเจดีย์ปิดอร์เอยังเป็นจุดชมวิวชั้นดี เมื่อมองลงไปจะได้เห็นบ้านเมืองเกาะสองและทัศนียภาพริมทะเลที่ดูคึกคัก

ครั้นพอได้ไหว้พระจนอิ่มบุญอิ่มใจกันแล้ว พวกเราได้มาปิดทริปเยือนเกาะสองกันยังที่ “ตลาดร่างสุเวนีย์” ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับท่าเทียบเรือ ตลาดแห่งนี้มีความคึกคักเป็นอย่างมาก มีทั้งชาวเกาะสองที่มีเดินซื้อหาของกินของใช้ มีพ่อค้าแม่ค้ามาตั้งแผงขายของมากมาย มีทั้งพวกพืชผักสดต่างๆ สินค้าอุปโภคบริโภคมากมาย รวมถึงยังเป็นแหล่งขายสินค้าพื้นเมือง ให้นักท่องเที่ยวได้มาเดินเลือกซื้อหาเป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับไปกัน สินค้าที่เป็นที่นิยม อาทิ ชาพม่า งานไม้แกะสลัก ผ้าโสร่ง และสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย

และแล้วทริปแห่งการมาเยือนเกาะสอง ไปสัมผัสกับความสวยงามของเกาะนาวโอพี และต้องมนต์เสน่ห์โลกใต้ท้องทะเลพม่าก็ต้องจบลง เมื่อพวกเราต้องลงเรือสปีดโบตกันแล้ว ก็ได้แต่โบกมือลาพม่า ลาก่อนแต่ไม่ลาลับ หากมีโอกาส “ตะลอนเที่ยว” จะกลับมาเยือนอีก เพราะว่าเกาะสองประเทศพม่า กับระนองประเทศไทยอยู่ใกล้กันแค่เอื้อม สามารถมาเที่ยวได้แบบสุขใจ
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ผู้ที่สนใจเดินทางไปท่องเที่ยวเกาะนาวโอพี สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ (พม่า) สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ “เลิฟอันดามัน” (LOVE Andaman) โทร. 08-1999-8844, 08-9500-5111 และ 08-1919-0101 หรือ www.facebook.com/loveandaman และสามารถติดตามแคมเปญการตลาดด้านการท่องเที่ยวของ “เคทีซี” (KTC) ได้ที่ www.ktcworld.co.th เฟซบุ๊ก ktcworld หรือ KTC Line Official หรือติดต่อ KTC World Travel Service โทร. 0-2123-5050
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
“ทะเลสวยๆ กับทรายขาวๆ เข้ากันได้ดี คลื่นลมพลิ้วๆ กับเรือน้อยๆ ก็ดู เข้าที ครืนๆ คลื่นซัดมา ช้าๆ ตามลม ที่พัดมา ตะวันกับเมฆบนท้องฟ้า แต่งเติมท้องทะเล ให้งดงาม”
“ตะลอนเที่ยว” กำลังฮัมเพลง “ทะเลสวยๆ ทรายขาวๆ” ของคุณตู่ นันทิดา แก้วบัวสาย อย่างเพลิดเพลิน ขณะที่เรากำลังรอลงเรืออยู่ที่ท่าเรือประภาคารระนอง เพราะว่าเนื้อหาของเพลงนี้ ช่างเข้ากับบรรยากาศและอารมณ์ความรู้สึกของการได้มาออกเที่ยวในทริปนี้ กับทาง “เคทีซี” และ “เลิฟ อันดามัน” ที่ได้จัดทริป “มิงกะละบา จากระนอง สู่เมียนมาร์ โอบท้องฟ้า ท้าลมทะเล” ชวนมาร่วมสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ ท่ามกลางท้องทะเลสีฟ้าคราม เยือน “เกาะนาวโอพี” เป็นเกาะสวรรค์แห่งใหม่ของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ (พม่า) ที่มีความสวยงาม และโลกใต้ท้องทะเลมีความอุดมสมบูรณ์งดงาม
จากท่าเรือประภาคารระนอง พวกเราก็เดินลงเรือสปีดโบตกันทันที ซึ่งการผ่านด่านข้ามแดนไปยังประเทศพม่าก็ไม่ยุ่งยาก เพียงแค่โชว์บัตรประชาชนกับเจ้าหน้าที่เท่านั้น เพราะทางเลิฟอันดามันได้มาดำเนินเรื่องไว้ให้ล่วงหน้าแล้ว ใช้เวลาแล่นเรือข้ามประเทศประมาณแค่ 10 นาที ก็มาถึงยัง “เกาะสอง” ซึ่งเป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางใต้สุดของประเทศพม่า
เมื่อพวกเรามาถึงยังท่าเทียบเรือของเกาะสอง ก็ต้องเปลี่ยนไปลงเรือลำใหญ่อีกที หลังจากนั้นเรือก็แล่นฉลุยวิ่งยาวฝ่าเกลียวคลื่นเข้าสู่เขตทะเลพม่า ซึ่งระหว่างทางของการเดินเรือไป เราก็ได้เห็นทัศนียภาพของเกาะแก่งน้อยใหญ่หลายเกาะของทะเลพม่า เรือแล่นไปเรื่อยๆ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที ก็มาถึงยังจุดหมายปลายทางสำคัญของพวกเราแล้ว นั่นก็คือ “เกาะนาวโอพี” (Nyaung Oo Phee Island) เป็นเกาะส่วนตัวที่ถูกเปิดตัวใหม่ ตั้งอยู่ในทะเลอันดามันฝั่งประเทศพม่า
ทันทีที่เรือค่อยๆ แล่นเข้าใกล้เกาะนาวโอพี ทุกคนที่อยู่บนเรือต่างก็ส่งเสียงร้องอุทาน แทบจะพร้อมเพรียงเป็นเสียงเดียวกันว่า “โอ้ว!! สวยจัง น้ำทะเลใสมากเลย” ซึ่ง “ตะลอนเที่ยว” เองได้เห็นประจักษ์ชัดแจ้งกับตาตัวเองก็ต้องขอร้องอุทานเหมือนกับทุกคนบนเรือ และยิ่งเรือแล่นเข้าใกล้ฝั่งเข้าไปเรื่อยๆ ก็ยิ่งได้เห็นถึงความสวยงามของเกาะนาวโอพีอันเงียบสงบ ไร้ผู้คน มีแนวภูเขาที่มีป่าไม้ที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ไว้ได้มากเลยทีเดียว ท้องน้ำทะเลใสราวกับกระจก สะท้อนแสงแดดงดงามจับตา
ในที่สุดเรือก็ทอดสมอ และจอดนิ่งให้พวกเราทยอยลงเรือ เพื่อขึ้นไปเกาะนาวโอพี โดยจุดที่พวกเราได้ลงไปสัมผัสกับความสวยงามของเกาะสวรรค์นี้อย่างใกล้ชิด เรียกว่า “หาดมาดาม” (Madam Beach) ทันทีที่เท้าเหยียบลงยังผืนทรายของหาดมาดาม ก็สัมผัสได้ถึงเม็ดทรายที่นุ่มแน่นและมีสีขาวสะอาดตามาก ชายหาดทอดตัวยาวมองไปกว้างไกลได้แบบสุดลูกหูลูกตา เบื้องหน้าของหาดมาดาม มีผืนน้ำทะเลที่งดงามจับตา น้ำทะเลสวยใส น้ำทะเลมีสีสันลดหลั่นกันทั้งสีน้ำเงิน สีฟ้าคราม และสีเขียวใสแจ๋ว
พวกเราปักหลังเที่ยวบนหาดมาดามแห่งนี้กัน ซึ่งทางเลิฟ อันดามัน ได้มีการเตรียมอาหารกลางวันไว้อย่างพร้อมสรรพ มีทั้งเครื่องดื่มหลากหลาย อาหารทะเลสดๆ อย่างกุ้งเผา หมึกย่าง รวมถึงมีขนมมากมายให้ได้อิ่มเอมกันอย่างเต็มที่ รวมถึงมีห้องน้ำและห้องอาบน้ำที่สะอาดไว้ให้บริการด้วย
“ตะลอนเที่ยว” ออกเดินเที่ยวสัมผัสความงดงามของหาดมาดามแบบใกล้ชิด โดยเราเดินไปตามแนวชายหาดอันมีทรายเม็ดละเอียดขาวสะอาดเดินแล้วนุ่มเท้าเพลิดเพลิน บนหาดมาดามมีแนวภูเขาหินที่มีต้นไม้น้อยใหญ่ขึ้นปกคลุมสร้างความร่มรื่นและรื่นรมย์ใจดีจริง มีกองหินโผล่พ้นหาดขึ้นมาให้ได้เก็บภาพสวยๆ มีจุดให้ได้นั่งเล่น นอนเล่น บนหาดทราย พร้อมกับมีสายลมทะเลพัดมา สร้างความเย็นกายแสนสุขใจจริงเชียว
หลังจากเดินสัมผัสผืนทราย และถ่ายรูปเก็บภาพความสวยงามของท้องทะเลอันสดใสจนหนำใจแล้ว คราวนี้เราไม่รอช้าขอกระโจนลงท้องทะเลที่อยู่เบื้องหน้าทันที เพราะน้ำทะเลใสแจ๋วมันช่างยั่วยวนใจ ให้ต้องขอลงไปแหวกว่ายแบบถึงเนื้อถึงตัวกันสักหน่อย ซึ่งบริเวณหน้าหาดมาดามสามารถลงเล่นน้ำได้อย่างสบาย แต่ก็ต้องระวังโขดหินและแนวปะการังสักหน่อย เพราะว่าว่ายน้ำออกจากฝั่งไปไม่ไกล เราก็สามารถดำน้ำแบบ Snorkeling ได้เห็นความงดงามของโลกใต้ท้องทะเลกันแล้ว มีปลาหลากหลายให้ได้เห็นด้วย เรียกว่าที่หาดมาดามมีความสมบูรณ์ทั้งบนบกและใต้น้ำ มีความพิสุทธิ์อยู่มากจริงๆ
เราได้ว่ายน้ำเล่น นอนเล่นชิลๆ และอิ่มอร่อยกับอาหารกันที่หาดมาดามจนเต็มอิ่มแล้ว ก็มาถึงช่วงเวลาแห่งการรอคอย ที่จะได้ออกไปตะลุยกับกิจกรรม Snorkeling รอบเกาะ ไปดำดิ่งสู่โลกใต้ท้องทะเลพม่าว่าจะสวยงาม และมีความอุดมสมบูรณ์มากอย่างว่าหรือไม่ พวกเราก็กลับขึ้นเรือเรือสปีดโบตอีกครั้ง พร้อมมุ่งหน้าไปยังจุดดำน้ำแรกกันทันที
จุดดำน้ำแรกที่เรือมาจอดทอดสมอ ให้พวกเราได้ลงไปดำน้ำแบบ Snorkeling มีชื่อว่า “ทุ่งดอกไม้” จุดดำน้ำตรงนี้มีไฮไลต์ตามชื่อจุดจริงๆ เพราะเพียงแค่ลอยตัวอยู่เหนือผิวน้ำ ก้มหน้ามองลงไปยังโลกใต้ท้องทะเลเบื้องล่าง เราก็ประจักษ์แจ้งเห็นด้วยสองตาตัวเองว่า โลกแห่งท้องทะเลพม่านี้ช่างอุดมสมบูรณ์จริงๆ มีความสวยงามของเหล่าปะการังอันหลากหลาย อาทิปะการังผักกาด ปะการังดอกกะหล่ำ ปะการังโขดหินหรือปะการังก้อน ปะการังก้อนรูปสมอง ปะการังเขากวาง แล้วก็ยังงดงามไปด้วยดอกไม้ทะเลหลากหลายสีสัน
มีเหล่าปลาทะเลหลายหลากสายพันธุ์ให้ได้พบเจอ ไม่ว่าจะเป็น ปลานีโมแดงปานดำ ปลานีโมโทเมโท ปลาโนรีเทวรูป ปลาปากแตร ปลานกแก้ว ปลาสลิดหิน ปลากะพงลายสี่แถบหรือปลากะพงแถบน้ำเงิน ปลาปักเป้าหน้าหมา ปลาไหลมอเรย์ ปลาดาวหนามหรือดาวมงกุฎหนาม หอยเม่น หอยมือเสือ และอีกสารพัดพันธุ์ปลาทะเลสีสันสวยสดงดงาม แหวกว่ายไปมา ให้ได้ดำน้ำดูกันอย่างเพลิดเพลินสำราญใจ
พวกเราใช้เวลาดำน้ำอยู่ที่จุดทุ่งดอกไม้อยู่เป็นนานสองนาน ก็ได้เวลากลับขึ้นเรือ เพื่อไปยังจุดดำน้ำจุดที่สองที่รออยู่ ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากจุดแรกมากนัก เรือก็มาจอดทอดสมออีกครั้ง ยังจุดดำน้ำที่มีชื่อว่า “เดอะเลตเตอร์” จุดดำน้ำจุดนี้เป็นเกาะเล็กๆ โผล่มากลางทะเล ซึ่งโลกใต้ท้องทะเลตรงนี้ มีจุดเด่นอยู่ตรงที่มีความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก มีพวกกะละปังหาหรือกัลปังหา หลากหลายรูปแบบและหลายหลากสีสัน มีปลาดาวขนนกสีสันสดใส ปะการังอ่อนสีชมพูงดงามเป็นยิ่งนัก และปะการังอ่อนสีสันสดใสอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก แล้วก็มีปลาหลากหลายสายพันธุ์ทั้งตัวเล็กตัวใหญ่อยู่เต็มท้องทะเลไปหมด
เรียกว่าเมื่อได้เห็นโลกแห่งท้องทะเลพม่าอันอุดมสมบูรณ์นี้แล้ว ก็นึกคิดอยู่ในใจว่าขอให้นักท่องเที่ยวทุกคนที่ได้มาเที่ยว จงมาเที่ยวกันอย่างมีจิตสำนึก โปรดช่วยกันรักษาทรัพยากรอันมีค่าเหล่านี้ไว้ ให้สวยสดงดงามเช่นนี้ต่อไปตราบนานเท่านาน
“ตะลอนเที่ยว” ได้ดำน้ำชื่นชมความสวยงามของโลกใต้ท้องทะเลพม่าจนอิ่มเอมใจเป็นอย่างมากแล้ว ก็ถึงเวลาที่เราต้องโบกมืออำลาท้องทะเลพม่ากันแล้ว โดยเรือได้หันหัวเรือแล่นฝ่าเกลียวคลื่นกลับสู่เกาะสองอีกครั้ง และพวกเราก็มีโอกาสได้เหยียบแผ่นดินประเทศพม่า ได้ขึ้นไปสัมผัสกับแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจเป็นเกาะสองกัน
โดยได้มาที่ “เจดีย์ปิดอร์เอ” ชื่อของเจดีย์แห่งนี้มีความหมายว่า เจดีย์แห่งความสงบร่มเย็น ถือว่าเป็นวัดที่ชาวเกาะสองให้ความเคารพศรัทธาเป็นอย่างมาก ด้านในมีเจดีย์สีทองเหลืองอร่ามตั้งเด่นเป็นสง่า ซึ่งจำลองรูปทรงมาจากเจดีย์ชเวดากองที่เมืองย่างกุ้ง ภายในเจดีย์ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และบริเวณฐานด้านในเจดีย์มีพระพุทธรูปประจำวันเกิดตั้งอยู่ประจำทิศต่างๆ ให้กราบสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล อีกทั้งยังมีพระพุทธรูปหลวงพ่อทันใจให้ได้กราบไหว้ขอพร และบริเวณลานเจดีย์ปิดอร์เอยังเป็นจุดชมวิวชั้นดี เมื่อมองลงไปจะได้เห็นบ้านเมืองเกาะสองและทัศนียภาพริมทะเลที่ดูคึกคัก
ครั้นพอได้ไหว้พระจนอิ่มบุญอิ่มใจกันแล้ว พวกเราได้มาปิดทริปเยือนเกาะสองกันยังที่ “ตลาดร่างสุเวนีย์” ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับท่าเทียบเรือ ตลาดแห่งนี้มีความคึกคักเป็นอย่างมาก มีทั้งชาวเกาะสองที่มีเดินซื้อหาของกินของใช้ มีพ่อค้าแม่ค้ามาตั้งแผงขายของมากมาย มีทั้งพวกพืชผักสดต่างๆ สินค้าอุปโภคบริโภคมากมาย รวมถึงยังเป็นแหล่งขายสินค้าพื้นเมือง ให้นักท่องเที่ยวได้มาเดินเลือกซื้อหาเป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับไปกัน สินค้าที่เป็นที่นิยม อาทิ ชาพม่า งานไม้แกะสลัก ผ้าโสร่ง และสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย
และแล้วทริปแห่งการมาเยือนเกาะสอง ไปสัมผัสกับความสวยงามของเกาะนาวโอพี และต้องมนต์เสน่ห์โลกใต้ท้องทะเลพม่าก็ต้องจบลง เมื่อพวกเราต้องลงเรือสปีดโบตกันแล้ว ก็ได้แต่โบกมือลาพม่า ลาก่อนแต่ไม่ลาลับ หากมีโอกาส “ตะลอนเที่ยว” จะกลับมาเยือนอีก เพราะว่าเกาะสองประเทศพม่า กับระนองประเทศไทยอยู่ใกล้กันแค่เอื้อม สามารถมาเที่ยวได้แบบสุขใจ
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ผู้ที่สนใจเดินทางไปท่องเที่ยวเกาะนาวโอพี สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ (พม่า) สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ “เลิฟอันดามัน” (LOVE Andaman) โทร. 08-1999-8844, 08-9500-5111 และ 08-1919-0101 หรือ www.facebook.com/loveandaman และสามารถติดตามแคมเปญการตลาดด้านการท่องเที่ยวของ “เคทีซี” (KTC) ได้ที่ www.ktcworld.co.th เฟซบุ๊ก ktcworld หรือ KTC Line Official หรือติดต่อ KTC World Travel Service โทร. 0-2123-5050
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager