Facebook : Travel @ Manager

น้ำตาลโตนด น้ำตาลมะพร้าว น้ำตาลอ้อย... หลายคนคงคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว แต่ถ้าพูดถึง “น้ำตาลจาก” หรือ “น้ำผึ้งจาก” อาจไม่คุ้นหูมากนัก แต่ก็เป็นอีกหนึ่งชนิดน้ำตาลที่ได้มาจาก “ต้นจาก” ซึ่งเป็นพืชจำพวกปาล์มชนิดหนึ่ง ที่กว่าจะได้น้ำตาลออกมาก็ต้องทุบกันจนเมื่อยเลยทีเดียว
สำหรับคนปักษ์ใต้แล้วน่าจะรู้จัก “น้ำตาลจาก” เป็นอย่างดี เพราะ “น้ำส้มจาก” ที่ถือเป็นของคู่ครัวชูรสอาหารใต้ให้จัดจ้านยิ่งขึ้น ก็ได้มาจากน้ำตาลจากที่หมักแล้วนั่นเอง
“ต้นจาก” เป็นพืชจำพวกปาล์ม ซึ่งเป็นปาล์มชนิดเดียวที่เป็นพืชป่าชายเลน พบได้ทั่วไปในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งในบริเวณน้ำจืดและน้ำกร่อย มักขึ้นอยู่เป็นดงกว้าง ถือเป็นพืชสารพัดประโยชน์ของชุมชนชายฝั่งป่าชายเลนเพราะต้นจากสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ลูกจากสามารถกินสดหรือนำไปเชื่อมเป็นของหวานก็ได้ ใบจากนำไปเย็บเป็นตับใช้มุงหลังคา สานหมวก สานหมาจาก (ภาชนะใส่น้ำ) และแน่นอน... ต้นจากยังให้น้ำตาลแสนหวาน จนกลายเป็นพืชเศรษฐกิจของชาวขนาบนาก

และถ้าใครอยากเห็นที่มาของน้ำตาลจาก หรือชมการปาดตาลในไร่จาก ขอแนะนำให้มาเที่ยวที่ ตำบลขนาบนาก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นแหล่งปลูกต้นจากแหล่งใหญ่ โดยมี “ไร่จันทรังษี” เป็นหนึ่งในไร่จากที่เปิดเป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องราวของต้นจาก อีกทั้งยังจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากน้ำตาลจากอีกด้วย
คุณโกวิทย์ จันทรังษี คือเจ้าของไร่จันทรังษี และเป็นผู้ที่พาเราเดินชมไร่จาก ชมกระบวนการต่างๆ ที่ทำให้ได้น้ำตาลจากมาบริโภค และยังได้สาธิตวิธี “ทุบ” และปาดงวงจากให้ชมกันด้วย

คุณโกวิทย์เล่าว่า เดิมพื้นที่กว่า 3 ไร่ ของไร่จันทรังษีบริเวณที่เปิดเป็นแหล่งเรียนรู้นี้เคยเป็นนากุ้งมาก่อน แต่เมื่อทำนากุ้งกุลาดำไม่รุ่ง จึงหันมาทำไร่จากแทน โดยมีจุดเริ่มต้นเมื่อ รศ.ดร.นพรัตน์ บำรุงรักษ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ต้องการทำวิจัยเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากต้นจาก และสนใจที่จะพลิกฟื้นบ่อกุ้งร้างให้กลายเป็นที่ดินทำประโยชน์ได้ คุณโกวิทย์จึงเสนอพื้นที่ตรงนี้ให้ทำแปลงสาธิต อีกทั้งเมื่อนำดินและน้ำไปวิจัยก็พบว่าพื้นที่บริเวณนี้เหมาะที่จะปลูกต้นจาก จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการทำไร่จันทรังษี
ส่วนกระบวนการผลิตน้ำตาลจาก จะว่าไปก็คล้ายกับน้ำตาลโตนด หรือน้ำตาลมะพร้าว ที่ต้องมีการปาดงวงจากให้น้ำตาลไหลออกมา จากนั้นจึงนำไปเคี่ยวจนงวดเป็นน้ำตาลปี๊บ แต่สำหรับน้ำตาลจากมีขั้นตอนพิเศษอยู่ที่การ “ทุบ” ที่เรียกได้ว่า ยิ่งทุบยิ่งหวาน ยิ่งให้น้ำตาลเยอะ


“งวงตาล” หรืองวงจากนั้นก็คือก้านดอก และเมื่อดอกเจริญเติบโตมาเป็นผล ผลนั้นจะเรียกว่า “ทะลาย” ส่วนก้านดอกก็จะยื่นยาวออกมาและเนื้อก็จะแข็ง เรียกก้านดอกนี้ว่า “งวงตาล” ข้างในงวงตาลจะมีเส้นใยเหมือนท่อน้ำเต็มไปหมด ซึ่งก็คือท่อน้ำเลี้ยงลำเลียงอาหารมาเลี้ยงลูกจาก ดังนั้นการทำ “น้ำตาลจาก” ก็คือการตัดลูกทิ้งแล้วรองรับน้ำหวานจากท่อในงวงตาลนั่นเอง
“ต้นจากปลูกได้ 5 ปีก็ออกลูกแล้ว และพอมีอายุ 5-6 ปี ก็สามารถทำน้ำตาลได้ แต่ต้นจากที่ไร่จันทรังษีตอนนี้มีอายุกว่า 16 ปี พันธุ์จากที่ให้น้ำตาลก็เช่น พันธุ์อีแลง อีเพล้ง ชิงชาลี อีทองพริ้ม อีอึ่งอ่าง เป็นต้น และน้ำตาลจากก็มาจากงวงจากเหมือนกัน การจะทำน้ำตาลจากต้องดูว่าทะลาย(ลูก)จากสมบูรณ์แล้วไหม ถ้าสมบูรณ์แล้วขั้นตอนถัดไปคือการตีงวงจากหรือการตีตาล คือการใช้ไม้เนื้อแข็งตีที่งวงจาก เพื่อให้ลูกจากหยุดการเจริญเติบโต และเพื่อให้น้ำเลี้ยงหรือน้ำหวานมาคั่งอยู่ที่งวงจาก ต้องตีที่งวง 30 ที เพื่อกระตุ้นน้ำหวาน ตีแบบนี้วันเว้นวัน พอครบ 9 วันก็ทิ้งช่วงไป 5-10 วัน”


“จากนั้นก็ฟันงวงจาก หรือฟันทะลายลูกจากทิ้ง แล้วเอาดินเหนียวมาบ่มหน้าไว้ 1 คืน ให้หน้าตาลเย็น พอหัวรุ่งประมาณตี 5 ก็มาปาดตาลใหม่ ปาดเสร็จแล้วให้น้ำตาลหยดลงกระบอก ในกระบอกใส่เคี่ยมไว้ เคี่ยมนี้คือเศษไม้ต้นเคี่ยมใส่ไว้เพื่อกันน้ำตาลเปรี้ยวหรือบูด” โกวิทย์ กล่าว
และจากนั้นก็เป็นขั้นตอนของการนำน้ำหวานที่ได้มากรองและเคี่ยวด้วยไฟแรงจนน้ำตาลงวด และได้น้ำตาลเหลวเหมือนยางมะตูม ก่อนจะยกลงจากเตาเพื่อนำมาโซมโดยใช้ไม้โซมตาลตีกดลงในกระทะน้ำตาล เพื่อไม่ให้น้ำตาลเหนียวจนจับกันเป็นก้อน และนำไปใส่ในปี๊บเป็นขั้นตอนสุดท้าย โดยน้ำตาลสด 6 ปี๊บจะเคี่ยวได้น้ำตาล 1 ปี๊บ


ที่ไร่จันทรังษียังแปรรูปน้ำตาลสดและน้ำตาลปี๊บที่ได้จากต้นจาก ให้เป็นผลิตภัณฑ์อันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น น้ำผึ้งจาก ที่นำน้ำตาลจากมาเคี่ยวให้ข้น มีกลิ่นหอม ใช้ประกอบอาหารเช่นกุ้งต้มน้ำผึ้ง หมึกต้มหวาน หรือทำขนมจาก ขนมลา ชงกับเครื่องดื่มก็ได้ และยังแปรรูปเป็นน้ำตาลจากชนิดผงโดยไม่ผสมน้ำตาลทราย ไว้ชงกับเครื่องดื่มต่างๆ ได้รสหวานหอม และแปรรูปเป็นเครื่องปรุงคู่ครัวคนใต้อย่างน้ำส้มจาก ที่นำน้ำตาลสดมากรองแล้วหมักประมาณ 15 วัน เหมาะสำหรับการทำน้ำจิ้ม น้ำพริก หรือทำต้มส้มได้หรอยไม่เบา
ใครสนใจอยากชมการทำน้ำตาลจากที่ไร่จันทรังษี หรืออยากซื้อหาน้ำตาลจากแปรรูป สามารถสอบถามได้ที่ โทร.08 5784 5321 การเดินทางมายังไร่จันทรังษี จากสะพานข้ามแม่น้ำปากพนังฝั่งตะวันออก ให้วิ่งตรงมายังสามแยกชายทะเล (บ้านเนินตาขำ) เมื่อถึงสามแยกให้เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 4013 ปากพนัง-หัวไทร รวมระยะทางจากปากพนังจนถึงทางแยกเข้าบ้านขนาบนากราว 21 กิโลเมตร
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
น้ำตาลโตนด น้ำตาลมะพร้าว น้ำตาลอ้อย... หลายคนคงคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว แต่ถ้าพูดถึง “น้ำตาลจาก” หรือ “น้ำผึ้งจาก” อาจไม่คุ้นหูมากนัก แต่ก็เป็นอีกหนึ่งชนิดน้ำตาลที่ได้มาจาก “ต้นจาก” ซึ่งเป็นพืชจำพวกปาล์มชนิดหนึ่ง ที่กว่าจะได้น้ำตาลออกมาก็ต้องทุบกันจนเมื่อยเลยทีเดียว
สำหรับคนปักษ์ใต้แล้วน่าจะรู้จัก “น้ำตาลจาก” เป็นอย่างดี เพราะ “น้ำส้มจาก” ที่ถือเป็นของคู่ครัวชูรสอาหารใต้ให้จัดจ้านยิ่งขึ้น ก็ได้มาจากน้ำตาลจากที่หมักแล้วนั่นเอง
“ต้นจาก” เป็นพืชจำพวกปาล์ม ซึ่งเป็นปาล์มชนิดเดียวที่เป็นพืชป่าชายเลน พบได้ทั่วไปในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งในบริเวณน้ำจืดและน้ำกร่อย มักขึ้นอยู่เป็นดงกว้าง ถือเป็นพืชสารพัดประโยชน์ของชุมชนชายฝั่งป่าชายเลนเพราะต้นจากสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ลูกจากสามารถกินสดหรือนำไปเชื่อมเป็นของหวานก็ได้ ใบจากนำไปเย็บเป็นตับใช้มุงหลังคา สานหมวก สานหมาจาก (ภาชนะใส่น้ำ) และแน่นอน... ต้นจากยังให้น้ำตาลแสนหวาน จนกลายเป็นพืชเศรษฐกิจของชาวขนาบนาก
และถ้าใครอยากเห็นที่มาของน้ำตาลจาก หรือชมการปาดตาลในไร่จาก ขอแนะนำให้มาเที่ยวที่ ตำบลขนาบนาก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นแหล่งปลูกต้นจากแหล่งใหญ่ โดยมี “ไร่จันทรังษี” เป็นหนึ่งในไร่จากที่เปิดเป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องราวของต้นจาก อีกทั้งยังจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากน้ำตาลจากอีกด้วย
คุณโกวิทย์ จันทรังษี คือเจ้าของไร่จันทรังษี และเป็นผู้ที่พาเราเดินชมไร่จาก ชมกระบวนการต่างๆ ที่ทำให้ได้น้ำตาลจากมาบริโภค และยังได้สาธิตวิธี “ทุบ” และปาดงวงจากให้ชมกันด้วย
คุณโกวิทย์เล่าว่า เดิมพื้นที่กว่า 3 ไร่ ของไร่จันทรังษีบริเวณที่เปิดเป็นแหล่งเรียนรู้นี้เคยเป็นนากุ้งมาก่อน แต่เมื่อทำนากุ้งกุลาดำไม่รุ่ง จึงหันมาทำไร่จากแทน โดยมีจุดเริ่มต้นเมื่อ รศ.ดร.นพรัตน์ บำรุงรักษ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ต้องการทำวิจัยเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากต้นจาก และสนใจที่จะพลิกฟื้นบ่อกุ้งร้างให้กลายเป็นที่ดินทำประโยชน์ได้ คุณโกวิทย์จึงเสนอพื้นที่ตรงนี้ให้ทำแปลงสาธิต อีกทั้งเมื่อนำดินและน้ำไปวิจัยก็พบว่าพื้นที่บริเวณนี้เหมาะที่จะปลูกต้นจาก จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการทำไร่จันทรังษี
ส่วนกระบวนการผลิตน้ำตาลจาก จะว่าไปก็คล้ายกับน้ำตาลโตนด หรือน้ำตาลมะพร้าว ที่ต้องมีการปาดงวงจากให้น้ำตาลไหลออกมา จากนั้นจึงนำไปเคี่ยวจนงวดเป็นน้ำตาลปี๊บ แต่สำหรับน้ำตาลจากมีขั้นตอนพิเศษอยู่ที่การ “ทุบ” ที่เรียกได้ว่า ยิ่งทุบยิ่งหวาน ยิ่งให้น้ำตาลเยอะ
“งวงตาล” หรืองวงจากนั้นก็คือก้านดอก และเมื่อดอกเจริญเติบโตมาเป็นผล ผลนั้นจะเรียกว่า “ทะลาย” ส่วนก้านดอกก็จะยื่นยาวออกมาและเนื้อก็จะแข็ง เรียกก้านดอกนี้ว่า “งวงตาล” ข้างในงวงตาลจะมีเส้นใยเหมือนท่อน้ำเต็มไปหมด ซึ่งก็คือท่อน้ำเลี้ยงลำเลียงอาหารมาเลี้ยงลูกจาก ดังนั้นการทำ “น้ำตาลจาก” ก็คือการตัดลูกทิ้งแล้วรองรับน้ำหวานจากท่อในงวงตาลนั่นเอง
“ต้นจากปลูกได้ 5 ปีก็ออกลูกแล้ว และพอมีอายุ 5-6 ปี ก็สามารถทำน้ำตาลได้ แต่ต้นจากที่ไร่จันทรังษีตอนนี้มีอายุกว่า 16 ปี พันธุ์จากที่ให้น้ำตาลก็เช่น พันธุ์อีแลง อีเพล้ง ชิงชาลี อีทองพริ้ม อีอึ่งอ่าง เป็นต้น และน้ำตาลจากก็มาจากงวงจากเหมือนกัน การจะทำน้ำตาลจากต้องดูว่าทะลาย(ลูก)จากสมบูรณ์แล้วไหม ถ้าสมบูรณ์แล้วขั้นตอนถัดไปคือการตีงวงจากหรือการตีตาล คือการใช้ไม้เนื้อแข็งตีที่งวงจาก เพื่อให้ลูกจากหยุดการเจริญเติบโต และเพื่อให้น้ำเลี้ยงหรือน้ำหวานมาคั่งอยู่ที่งวงจาก ต้องตีที่งวง 30 ที เพื่อกระตุ้นน้ำหวาน ตีแบบนี้วันเว้นวัน พอครบ 9 วันก็ทิ้งช่วงไป 5-10 วัน”
“จากนั้นก็ฟันงวงจาก หรือฟันทะลายลูกจากทิ้ง แล้วเอาดินเหนียวมาบ่มหน้าไว้ 1 คืน ให้หน้าตาลเย็น พอหัวรุ่งประมาณตี 5 ก็มาปาดตาลใหม่ ปาดเสร็จแล้วให้น้ำตาลหยดลงกระบอก ในกระบอกใส่เคี่ยมไว้ เคี่ยมนี้คือเศษไม้ต้นเคี่ยมใส่ไว้เพื่อกันน้ำตาลเปรี้ยวหรือบูด” โกวิทย์ กล่าว
และจากนั้นก็เป็นขั้นตอนของการนำน้ำหวานที่ได้มากรองและเคี่ยวด้วยไฟแรงจนน้ำตาลงวด และได้น้ำตาลเหลวเหมือนยางมะตูม ก่อนจะยกลงจากเตาเพื่อนำมาโซมโดยใช้ไม้โซมตาลตีกดลงในกระทะน้ำตาล เพื่อไม่ให้น้ำตาลเหนียวจนจับกันเป็นก้อน และนำไปใส่ในปี๊บเป็นขั้นตอนสุดท้าย โดยน้ำตาลสด 6 ปี๊บจะเคี่ยวได้น้ำตาล 1 ปี๊บ
ที่ไร่จันทรังษียังแปรรูปน้ำตาลสดและน้ำตาลปี๊บที่ได้จากต้นจาก ให้เป็นผลิตภัณฑ์อันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น น้ำผึ้งจาก ที่นำน้ำตาลจากมาเคี่ยวให้ข้น มีกลิ่นหอม ใช้ประกอบอาหารเช่นกุ้งต้มน้ำผึ้ง หมึกต้มหวาน หรือทำขนมจาก ขนมลา ชงกับเครื่องดื่มก็ได้ และยังแปรรูปเป็นน้ำตาลจากชนิดผงโดยไม่ผสมน้ำตาลทราย ไว้ชงกับเครื่องดื่มต่างๆ ได้รสหวานหอม และแปรรูปเป็นเครื่องปรุงคู่ครัวคนใต้อย่างน้ำส้มจาก ที่นำน้ำตาลสดมากรองแล้วหมักประมาณ 15 วัน เหมาะสำหรับการทำน้ำจิ้ม น้ำพริก หรือทำต้มส้มได้หรอยไม่เบา
ใครสนใจอยากชมการทำน้ำตาลจากที่ไร่จันทรังษี หรืออยากซื้อหาน้ำตาลจากแปรรูป สามารถสอบถามได้ที่ โทร.08 5784 5321 การเดินทางมายังไร่จันทรังษี จากสะพานข้ามแม่น้ำปากพนังฝั่งตะวันออก ให้วิ่งตรงมายังสามแยกชายทะเล (บ้านเนินตาขำ) เมื่อถึงสามแยกให้เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 4013 ปากพนัง-หัวไทร รวมระยะทางจากปากพนังจนถึงทางแยกเข้าบ้านขนาบนากราว 21 กิโลเมตร
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager