Facebook :Travel @ Manager

“จังหวัดเชียงราย” เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายอย่าง วัดร่องขุ่น ดอยตุง ดอยผาตั้ง สิงห์ปาร์ค ฯลฯ ที่เป็นแลนด์มาร์คห้ามพลาดของจังหวัด แต่ที่นี่ก็ยังมี “ชุมชนบ้านแซว” ใน ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน ที่เป็นอีกชุมชนท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ที่น่าสนใจ ซึ่งรวบรวมหลายวัฒนธรรม หลายเชื้อชาติ ให้นักท่องเที่ยวได้ไปลองเปลี่ยนบรรยากาศอีกด้วย
“ชุมชนบ้านแซว” จะแบ่งพื้นที่ออกไปอีกนับ 10 หมู่บ้าน และแต่ละหมู่บ้านก็จะมีจุดเด่นแตกต่างกันออกไป อย่างที่ “บ้านแม่แอบ” ที่เรียกว่าเป็นหมู่บ้านที่รวมชาวเขาถึง 5 ชนเผ่า 5 วัฒนธรรม เข้าไว้ด้วยกันบนพื้นที่กว่า 4,000 ไร่ ชาวบ้านที่นี่ก็คือ "กองกำลังทหารจีนกองพล 93" ที่อพยพมาจากจีนเข้าเมียนมาและมาตั้งถิ่นฐานอยู่ในประเทศนั่นเอง

ทางรัฐบาลไทยจึงได้จัดหาวิธีให้พวกเขามีอาชีพสามารถยืนได้ด้วยตนเอง จึงจัดให้เป็นชุมชนท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านแซว เปิดเป็นเส้นทางเดินชมวัฒนธรรม 5 ชนเผ่า ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวัฒนธรรมที่หลากหลาย พร้อมทั้งทำกิจกรรมต่างๆ และชิมอาหารที่ทั้ง 5 ชนเผ่าได้จัดเตรียมไว้ให้
เริ่มที่ชนเผ่าแรกคือ “ชาวไตใหญ่” (ไทยใหญ่) ที่นี่จะมีการแสดง “รำวงไตใหญ่” ให้ชมกัน ต่อด้วยมีกิจกรรมทำ “ข้าวแคบ” ซึ่งเป็นขนมของชาวไตใหญ่ให้ได้ลองทำ และสุดท้ายจะได้ชิมอาหารพื้นเมือง นั่นคือ น้ำพริกผัก (คล้ายน้ำพริกหนุ่ม) กินแกล้มกับผักพื้นเมือง ข้าวเหลือง และแกงไก่อบ



ชนเผ่าที่สองคือ “ชาวจีนยูนนาน” ที่นี่ก็จะมีอาหารพื้นเมืองให้ลองชิม ได้แก่ บะหมี่เหลือง น้ำเต้าหู้สด เค้กขนมไข่ เต้าหู้ทรงเครื่อง (คล้ายน้ำพริกอ่อง) ข้าวแรมฟืน ให้ได้ชิมกัน
ชนเผ่าที่สามคือ “ชาวลาหู่” ที่นี่จะขึ้นชื่อเรื่อง “ชาลาหู่” โดยจะมีกิจกรรมชงน้ำชาจากกระบอกไม้ไผ่และการตำข้าวปุ๊กให้ได้ร่วมทำกัน แล้วยังมีการละเล่นทางวัฒนธรรมเรียกว่า เต้นจะคึ หรือ ปอย เต เว ในภาษาถิ่นให้ได้ชมอีกด้วย


ชนเผ่าที่สี่คือ “ชาวอาข่า” จุดเด่นของที่นี่คือ การเล่น “บ่อฉ่องเตออู” หรือ “ลาวกระทบไม้” ที่จัดแสดงไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยว และมี “บ้านอาข่าโบราณ” ที่ตัวบ้านทำจากดิน ส่วนหลังคาจะมุงด้วยหญ้า เป็นเอกลักษณ์ของชาวอาข่านั่นเอง


ชนเผ่าสุดท้ายคือ “ชาวลัวะ” มาที่นี่ต้องลองชิม “ขนมเขาควาย” และ “พิซซ่าลัวะ” หรือ “ข้าวซอยน้อย” ที่ทำจากแป้งข้าวเจ้า ปรุงรสด้วยเกลือ ซีอิ๊วดำ น้ำตาล ใส่เครื่องต่างๆ เช่น ยอดถั่วลันเตา กะหล่ำปลี ถั่วลิสง หอมเจียว แล้วนำไปร่อนในถาดเหล็กวงกลมและไปลอยในน้ำเดือดจนสุกใช้เวลาประมาณ 5 นาที จะได้เป็นพิซซ่าลัวะ นุ่มๆ เครื่องทะลัก แถมประโยชน์เยอะอีกด้วย



ส่วนถ้าใครอยากลองนอนโฮมสเตย์ต้องลองไปที่ “บ้านท่าขันทอง” ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน ชาวบ้านส่วนใหญ่ของที่นี่เป็นชาวอีสานที่ได้ย้ายถิ่นขึ้นมาปักหลักถิ่นฐานอยู่รวมกันมากว่า 60 ปี เรียกว่า “อีสานล้านนา” เสน่ห์ของที่นี่ก็คือมีวิวที่สวยงามและอากาศที่สดชื่นเพราะตั้งอยู่ติดริมโขง

หากนักท่องเที่ยวมาที่นี่จะมี “รถอีต๊อก” ให้ได้ลองนั่งชมความงามริมฝั่งแม่น้ำโขง มีจุดให้แวะถ่ายรูปสวยๆ จากนั้นก็จะนั่งรถอีต๊อกไปยังฐานกิจกรรมต่างๆ ของในหมู่บ้าน ที่มีให้เลือกถึง 10 กิจกรรมด้วยกัน เช่น ไปชมสวนเกษตรชิมเสาวรสสดๆ ปลอดสารเคมี, ชิมชาถั่วดาวอินคา ที่มีสรรพคุณและสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย, ดูการโม่ข้าวด้วยมือแบบดั้งเดิม เป็นต้น




นอกจากนี้ในชุมชนยังมี "บ้านพักโฮมสเตย์" ถึง 20 หลัง รองรับได้ประมาณ 100 คน คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่ติดริมฝั่งแม่น้ำโขง แถมยังราคาไม่แพงมีทั้งแบบห้องแอร์ คิดคนละ 250 บาท ส่วนห้องพัดลม คิดคนละ 300 บาท (รวมอาหารเช้า)
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โฮมสเตย์บ้านท่าขันทอง การท่องเที่ยวโดยชุมชน ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย โทร. 08-1952-7058 และ 08-61942647 หรือที่ https://www.facebook.com/BanSaeoVillage/
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
“จังหวัดเชียงราย” เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายอย่าง วัดร่องขุ่น ดอยตุง ดอยผาตั้ง สิงห์ปาร์ค ฯลฯ ที่เป็นแลนด์มาร์คห้ามพลาดของจังหวัด แต่ที่นี่ก็ยังมี “ชุมชนบ้านแซว” ใน ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน ที่เป็นอีกชุมชนท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ที่น่าสนใจ ซึ่งรวบรวมหลายวัฒนธรรม หลายเชื้อชาติ ให้นักท่องเที่ยวได้ไปลองเปลี่ยนบรรยากาศอีกด้วย
“ชุมชนบ้านแซว” จะแบ่งพื้นที่ออกไปอีกนับ 10 หมู่บ้าน และแต่ละหมู่บ้านก็จะมีจุดเด่นแตกต่างกันออกไป อย่างที่ “บ้านแม่แอบ” ที่เรียกว่าเป็นหมู่บ้านที่รวมชาวเขาถึง 5 ชนเผ่า 5 วัฒนธรรม เข้าไว้ด้วยกันบนพื้นที่กว่า 4,000 ไร่ ชาวบ้านที่นี่ก็คือ "กองกำลังทหารจีนกองพล 93" ที่อพยพมาจากจีนเข้าเมียนมาและมาตั้งถิ่นฐานอยู่ในประเทศนั่นเอง
ทางรัฐบาลไทยจึงได้จัดหาวิธีให้พวกเขามีอาชีพสามารถยืนได้ด้วยตนเอง จึงจัดให้เป็นชุมชนท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านแซว เปิดเป็นเส้นทางเดินชมวัฒนธรรม 5 ชนเผ่า ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวัฒนธรรมที่หลากหลาย พร้อมทั้งทำกิจกรรมต่างๆ และชิมอาหารที่ทั้ง 5 ชนเผ่าได้จัดเตรียมไว้ให้
เริ่มที่ชนเผ่าแรกคือ “ชาวไตใหญ่” (ไทยใหญ่) ที่นี่จะมีการแสดง “รำวงไตใหญ่” ให้ชมกัน ต่อด้วยมีกิจกรรมทำ “ข้าวแคบ” ซึ่งเป็นขนมของชาวไตใหญ่ให้ได้ลองทำ และสุดท้ายจะได้ชิมอาหารพื้นเมือง นั่นคือ น้ำพริกผัก (คล้ายน้ำพริกหนุ่ม) กินแกล้มกับผักพื้นเมือง ข้าวเหลือง และแกงไก่อบ
ชนเผ่าที่สองคือ “ชาวจีนยูนนาน” ที่นี่ก็จะมีอาหารพื้นเมืองให้ลองชิม ได้แก่ บะหมี่เหลือง น้ำเต้าหู้สด เค้กขนมไข่ เต้าหู้ทรงเครื่อง (คล้ายน้ำพริกอ่อง) ข้าวแรมฟืน ให้ได้ชิมกัน
ชนเผ่าที่สามคือ “ชาวลาหู่” ที่นี่จะขึ้นชื่อเรื่อง “ชาลาหู่” โดยจะมีกิจกรรมชงน้ำชาจากกระบอกไม้ไผ่และการตำข้าวปุ๊กให้ได้ร่วมทำกัน แล้วยังมีการละเล่นทางวัฒนธรรมเรียกว่า เต้นจะคึ หรือ ปอย เต เว ในภาษาถิ่นให้ได้ชมอีกด้วย
ชนเผ่าที่สี่คือ “ชาวอาข่า” จุดเด่นของที่นี่คือ การเล่น “บ่อฉ่องเตออู” หรือ “ลาวกระทบไม้” ที่จัดแสดงไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยว และมี “บ้านอาข่าโบราณ” ที่ตัวบ้านทำจากดิน ส่วนหลังคาจะมุงด้วยหญ้า เป็นเอกลักษณ์ของชาวอาข่านั่นเอง
ชนเผ่าสุดท้ายคือ “ชาวลัวะ” มาที่นี่ต้องลองชิม “ขนมเขาควาย” และ “พิซซ่าลัวะ” หรือ “ข้าวซอยน้อย” ที่ทำจากแป้งข้าวเจ้า ปรุงรสด้วยเกลือ ซีอิ๊วดำ น้ำตาล ใส่เครื่องต่างๆ เช่น ยอดถั่วลันเตา กะหล่ำปลี ถั่วลิสง หอมเจียว แล้วนำไปร่อนในถาดเหล็กวงกลมและไปลอยในน้ำเดือดจนสุกใช้เวลาประมาณ 5 นาที จะได้เป็นพิซซ่าลัวะ นุ่มๆ เครื่องทะลัก แถมประโยชน์เยอะอีกด้วย
ส่วนถ้าใครอยากลองนอนโฮมสเตย์ต้องลองไปที่ “บ้านท่าขันทอง” ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน ชาวบ้านส่วนใหญ่ของที่นี่เป็นชาวอีสานที่ได้ย้ายถิ่นขึ้นมาปักหลักถิ่นฐานอยู่รวมกันมากว่า 60 ปี เรียกว่า “อีสานล้านนา” เสน่ห์ของที่นี่ก็คือมีวิวที่สวยงามและอากาศที่สดชื่นเพราะตั้งอยู่ติดริมโขง
หากนักท่องเที่ยวมาที่นี่จะมี “รถอีต๊อก” ให้ได้ลองนั่งชมความงามริมฝั่งแม่น้ำโขง มีจุดให้แวะถ่ายรูปสวยๆ จากนั้นก็จะนั่งรถอีต๊อกไปยังฐานกิจกรรมต่างๆ ของในหมู่บ้าน ที่มีให้เลือกถึง 10 กิจกรรมด้วยกัน เช่น ไปชมสวนเกษตรชิมเสาวรสสดๆ ปลอดสารเคมี, ชิมชาถั่วดาวอินคา ที่มีสรรพคุณและสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย, ดูการโม่ข้าวด้วยมือแบบดั้งเดิม เป็นต้น
นอกจากนี้ในชุมชนยังมี "บ้านพักโฮมสเตย์" ถึง 20 หลัง รองรับได้ประมาณ 100 คน คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่ติดริมฝั่งแม่น้ำโขง แถมยังราคาไม่แพงมีทั้งแบบห้องแอร์ คิดคนละ 250 บาท ส่วนห้องพัดลม คิดคนละ 300 บาท (รวมอาหารเช้า)
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โฮมสเตย์บ้านท่าขันทอง การท่องเที่ยวโดยชุมชน ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย โทร. 08-1952-7058 และ 08-61942647 หรือที่ https://www.facebook.com/BanSaeoVillage/
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager