Facebook :Travel @ Manager

เมืองหลวงของเราในทุกวันนี้ มีแต่ตึกอาคารสูงๆ เกิดขึ้น และการจราจรยังเนืองแน่น เวลารถติดไฟแดงแต่ละที ก็จะเกิดควันไอเสียคละคลุ้งเต็มไปหมด ทำให้คนกรุงส่วนมากโหยหาพื้นที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ไว้พักผ่อนปอดบ้าง ซึ่งหากให้ฉันนึกถึง “พื้นที่สีเขียวใจกลางเมือง” หรือ “ป่าในเมือง” ชื่อของ “อุทยานจุฬาฯ 100 ปี” ก็จะผุดเข้ามาในความคิดของฉันเป็นอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้

“อุทยานจุฬาฯ 100 ปี” ตั้งอยู่บนพื้นที่ 28 ไร่ ใจกลางเมือง ใกล้กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงสวนสาธารณะ ที่มีพื้นที่สีเขียวที่ช่วยฟอกปอดให้ชาวกรุงอย่างเดียวเหมือนที่ฉันบอกในตอนแรกเท่านั้น แต่ยังได้ออกแบบเน้นให้มีพื้นที่ที่สามารถทำกิจกรรมได้หลากหลาย เช่น ออกกำลังกายในยามเช้า-เย็น เป็นจุดนัดพบหรือนัดรวมตัวของกลุ่มเพื่อน ไว้สำหรับเดินเล่นสูดอากาศ หรือพาสัตว์เลี้ยงมาเล่น



ก้าวแรกที่ฉันได้เข้ามาในเขตพื้นที่นี้ ฉันได้เห็นต้นไม้นานาพันธุ์ ทั้งไม้ยืนต้น ไม้พุ่ม ไม้ดอก และสระน้ำขนาดกลางที่มองดูแล้วชุ่มฉ่ำสบายตา โดนที่นี่จะปลูกต้นไม้ท้องถิ่นกระจายอยู่ทั่วสวน เช่น ไม้มะค่า ไม้เต็ง ไม้ตะเคียน ส่วนต้นไม้ปลูกเป็นต้นไม้หลักก็คือ “ต้นจามจุรี” สัญลักษณ์ของจุฬาฯ ที่นอกจากให้ร่มเงาแก่รอบๆ บริเวณรอบข้างแล้วส่วนของ “ราก” นั้น ยังช่วยเก็บความชุ่มชื้นไว้ในดินได้เป็นอย่างดี ส่วนโดยรอบของอุทยานจะมีเลนสำหรับให้ขี่จักรยานและทางเดินเท้า เพื่อลดมลภาวะอีกด้วย

ภายในอุทยานยังถูกออกแบบมาเพื่อทำหน้าที่เป็นเหมือน “ห้องเรียนกลางแจ้ง” ที่ให้อาจารย์พานักเรียน นิสิต มาทำการเรียนการสอนนอกห้องเรียน เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศจากการเรียนในห้องสี่เหลี่ยม มาเป็นการเรียนในสวน โดยได้แบ่งพื้นที่กิจกรรมหลักๆ ออกเป็นสามส่วน คือ
1. พื้นที่ทำกิจกรรมขนาดเล็ก
มีทั้งหมด 8 จุด แต่ละจุดจุคนได้ไม่เกิน 50 คน ตั้งอยู่รอบอุทยานบริเวณริมขอบด้านหน้า มีลักษณะเป็นที่นั่งกลางแจ้งรูปแบบครึ่งวงกลม เว้นพื้นที่ตรงกลางสำหรับเป็นที่บรรยาย หรือทำกิจกรรมแบบกลุ่ม โดยแบ่งชื่อห้องตามลักษณะของพื้นที่นั้นๆ ได้แก่ Earth Room, Bamboo Room, Gravel Room, Herb Room, Sand Room, Vine Room, Forest Room และ Stone Room


2. พื้นที่ทำกิจกรรมขนาดกลาง
มีทั้งหมด 4 จุด ความจุแต่ละจุดจะแตกต่างกันออกไปตั้งแต่ 750-1,640 คน โดยจะแบ่งพื้นที่สนามหญ้าตรงกลางออกเป็น 3 จุด และส่วนข้าง (ด้านหลัง) ของอุทยานอีก 1 จุด


3. พื้นที่ทำกิจกรรมขนาดใหญ่
มีทั้งหมด 2 จุด จุดแรกคือสนามหญ้าตรงกลางทั้งหมดของอุทยาน จุได้ 7,000 คน และอีกจุดคือ ส่วนข้างทั้งหมดของด้านหลังอุทยาน จุได้ 2,780 คน


อีกความพิเศษที่ทำให้อุทยานแห่งนี้แตกต่างจากที่อื่นก็คือ พื้นที่โดยรวมของอุทยานจะถูกออกแบบให้ยกขึ้นจนลาดเอียง (มีลักษณะด้านหลังยกสูงและค่อยๆ เอียงไล่ระดับจนมาเป็นระดับระนาบ) เพื่อให้น้ำฝนไหลมารวมกันที่สระน้ำด้านหน้าสุด ที่ออกแบบเช่นนี้เพราะมีการคาดคะเนว่าในอนาคตกรุงเทพฯ อาจจะประสบปัญหาภัยแล้งได้ จึงต้องออกแบบให้อุทยานสามารถกักเก็บน้ำไว้ได้

โดยน้ำทั้งหมดที่กักเก็บได้ จะถูกนำไปใช้ในการหล่อเลี้ยงต้นไม้ในบริเวณอุทยานทั้งหมด นอกจากนี้สระน้ำนี้ยังมีระบบบำบัดน้ำเสียตามธรรมชาติ โดยน้ำที่ไหลผ่านทางลาดเอียงจะผ่านกระบวนการบำบัดน้ำเสียโดยรากไม้ของต้นไม้ในสวนจะช่วยกรองน้ำหนึ่งรอบก่อนที่จะไหลลงสระน้ำ


สำหรับใครที่ต้องเจอกับมลภาวะทางอากาศทุกวัน ฉันแนะนำให้หาเวลาในวันว่างมาฟอกปอดให้สะอาดขึ้นที่ “อุทยานจุฬาฯ 100 ปี” ดูบ้าง รับรองว่าจะได้รับความสดชื่นกลับบ้านไปแน่นอนไม่ใช่
“อุทยานจุฬาฯ 100 ปี” ตั้งอยู่ข้าง I’m Park จุฬาฯ ซอย 5 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร เปิดให้เข้าทุกวัน เวลา 05.00-22.00 น.
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
เมืองหลวงของเราในทุกวันนี้ มีแต่ตึกอาคารสูงๆ เกิดขึ้น และการจราจรยังเนืองแน่น เวลารถติดไฟแดงแต่ละที ก็จะเกิดควันไอเสียคละคลุ้งเต็มไปหมด ทำให้คนกรุงส่วนมากโหยหาพื้นที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ไว้พักผ่อนปอดบ้าง ซึ่งหากให้ฉันนึกถึง “พื้นที่สีเขียวใจกลางเมือง” หรือ “ป่าในเมือง” ชื่อของ “อุทยานจุฬาฯ 100 ปี” ก็จะผุดเข้ามาในความคิดของฉันเป็นอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้
“อุทยานจุฬาฯ 100 ปี” ตั้งอยู่บนพื้นที่ 28 ไร่ ใจกลางเมือง ใกล้กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงสวนสาธารณะ ที่มีพื้นที่สีเขียวที่ช่วยฟอกปอดให้ชาวกรุงอย่างเดียวเหมือนที่ฉันบอกในตอนแรกเท่านั้น แต่ยังได้ออกแบบเน้นให้มีพื้นที่ที่สามารถทำกิจกรรมได้หลากหลาย เช่น ออกกำลังกายในยามเช้า-เย็น เป็นจุดนัดพบหรือนัดรวมตัวของกลุ่มเพื่อน ไว้สำหรับเดินเล่นสูดอากาศ หรือพาสัตว์เลี้ยงมาเล่น
ก้าวแรกที่ฉันได้เข้ามาในเขตพื้นที่นี้ ฉันได้เห็นต้นไม้นานาพันธุ์ ทั้งไม้ยืนต้น ไม้พุ่ม ไม้ดอก และสระน้ำขนาดกลางที่มองดูแล้วชุ่มฉ่ำสบายตา โดนที่นี่จะปลูกต้นไม้ท้องถิ่นกระจายอยู่ทั่วสวน เช่น ไม้มะค่า ไม้เต็ง ไม้ตะเคียน ส่วนต้นไม้ปลูกเป็นต้นไม้หลักก็คือ “ต้นจามจุรี” สัญลักษณ์ของจุฬาฯ ที่นอกจากให้ร่มเงาแก่รอบๆ บริเวณรอบข้างแล้วส่วนของ “ราก” นั้น ยังช่วยเก็บความชุ่มชื้นไว้ในดินได้เป็นอย่างดี ส่วนโดยรอบของอุทยานจะมีเลนสำหรับให้ขี่จักรยานและทางเดินเท้า เพื่อลดมลภาวะอีกด้วย
ภายในอุทยานยังถูกออกแบบมาเพื่อทำหน้าที่เป็นเหมือน “ห้องเรียนกลางแจ้ง” ที่ให้อาจารย์พานักเรียน นิสิต มาทำการเรียนการสอนนอกห้องเรียน เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศจากการเรียนในห้องสี่เหลี่ยม มาเป็นการเรียนในสวน โดยได้แบ่งพื้นที่กิจกรรมหลักๆ ออกเป็นสามส่วน คือ
1. พื้นที่ทำกิจกรรมขนาดเล็ก
มีทั้งหมด 8 จุด แต่ละจุดจุคนได้ไม่เกิน 50 คน ตั้งอยู่รอบอุทยานบริเวณริมขอบด้านหน้า มีลักษณะเป็นที่นั่งกลางแจ้งรูปแบบครึ่งวงกลม เว้นพื้นที่ตรงกลางสำหรับเป็นที่บรรยาย หรือทำกิจกรรมแบบกลุ่ม โดยแบ่งชื่อห้องตามลักษณะของพื้นที่นั้นๆ ได้แก่ Earth Room, Bamboo Room, Gravel Room, Herb Room, Sand Room, Vine Room, Forest Room และ Stone Room
2. พื้นที่ทำกิจกรรมขนาดกลาง
มีทั้งหมด 4 จุด ความจุแต่ละจุดจะแตกต่างกันออกไปตั้งแต่ 750-1,640 คน โดยจะแบ่งพื้นที่สนามหญ้าตรงกลางออกเป็น 3 จุด และส่วนข้าง (ด้านหลัง) ของอุทยานอีก 1 จุด
3. พื้นที่ทำกิจกรรมขนาดใหญ่
มีทั้งหมด 2 จุด จุดแรกคือสนามหญ้าตรงกลางทั้งหมดของอุทยาน จุได้ 7,000 คน และอีกจุดคือ ส่วนข้างทั้งหมดของด้านหลังอุทยาน จุได้ 2,780 คน
อีกความพิเศษที่ทำให้อุทยานแห่งนี้แตกต่างจากที่อื่นก็คือ พื้นที่โดยรวมของอุทยานจะถูกออกแบบให้ยกขึ้นจนลาดเอียง (มีลักษณะด้านหลังยกสูงและค่อยๆ เอียงไล่ระดับจนมาเป็นระดับระนาบ) เพื่อให้น้ำฝนไหลมารวมกันที่สระน้ำด้านหน้าสุด ที่ออกแบบเช่นนี้เพราะมีการคาดคะเนว่าในอนาคตกรุงเทพฯ อาจจะประสบปัญหาภัยแล้งได้ จึงต้องออกแบบให้อุทยานสามารถกักเก็บน้ำไว้ได้
โดยน้ำทั้งหมดที่กักเก็บได้ จะถูกนำไปใช้ในการหล่อเลี้ยงต้นไม้ในบริเวณอุทยานทั้งหมด นอกจากนี้สระน้ำนี้ยังมีระบบบำบัดน้ำเสียตามธรรมชาติ โดยน้ำที่ไหลผ่านทางลาดเอียงจะผ่านกระบวนการบำบัดน้ำเสียโดยรากไม้ของต้นไม้ในสวนจะช่วยกรองน้ำหนึ่งรอบก่อนที่จะไหลลงสระน้ำ
สำหรับใครที่ต้องเจอกับมลภาวะทางอากาศทุกวัน ฉันแนะนำให้หาเวลาในวันว่างมาฟอกปอดให้สะอาดขึ้นที่ “อุทยานจุฬาฯ 100 ปี” ดูบ้าง รับรองว่าจะได้รับความสดชื่นกลับบ้านไปแน่นอนไม่ใช่
“อุทยานจุฬาฯ 100 ปี” ตั้งอยู่ข้าง I’m Park จุฬาฯ ซอย 5 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร เปิดให้เข้าทุกวัน เวลา 05.00-22.00 น.
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager