โดย : ปิ่น บุตรี (pinn109@hotmail.com)
Facebook :Travel @ Manager
มีตำนานของเมืองจีนเล่าขานกันว่า...
...ในอดีตกาลนานมาแล้ว ในสมัยราชวงศ์โจว(ประมาณ 1123 ปีก่อนคริสต์ศักราช - 256 ปีก่อนคริสต์ศักราช) มีเทวดา 5 องค์มองเห็นเมืองกวางโจว(ชื่อเดิมฉู่ถิง) ซึ่งเดิมเป็นเมืองเล็กๆ ชาวบ้านใช้ชีวิตอย่างยากจนข้นแค้น เทวดาทั้ง 5 จึงสวมเสื้อสีสันแตกต่างกัน ขี่แพะคาบรวงข้าว 5 ตัว ลงมาสู่เมืองกวางโจว และได้มอบเมล็ดพันธุ์ข้าวให้แก่ชาวเมือง พร้อมอวยพรให้เมืองนี้หลุดพ้นจากความอดอยากตลอดกาล เมื่อเทวดาพูดจบก็หายตัวไป ส่วนแพะที่ขี่มาก็กลายเป็นหิน 5 ก้อน
...ต่อมาประติมากร ได้นำหินทั้ง 5 ก้อน มาแกะสลักเป็นแพะ 5 ตัว หลังจากนั้นเมืองกวางโจวก็เจริญรุ่งเรืองอย่างมาก ซึ่งชาวเมืองเชื่อว่านี่เป็นเพราะเทวดาที่ทำให้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง พวกเขาจึงได้จัดสร้างอนุสาวรีย์ 5 แพะขึ้น เพื่อรำลึกในพระคุณของเทวดาทั้ง 5...
นั่นคือเรื่องเล่าขานตำนานที่มาของ “อนุสาวรีย์ 5 แพะ” สัญลักษณ์แห่งกวางโจว ที่ได้ถูกนำเชื่อมโยงร้อยเรียงกับเรื่องราวความเจริญของเมืองกวางโจว ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเมืองสำคัญของประเทศจีน และเป็นเมืองที่มาการเติบโต พัฒนามาอย่างต่อเนื่องยาวนาน
กวางโจว-ภูเก็ต
“กวางโจว” (Guangzhou) หรือ “กวางโจ่ว” ในภาษาจีน หรือที่คนไทยนิยมเรียกกันว่า “กวางเจา” เป็นเมืองเอกของมณฑล“กว่างตง”หรือ“กวางตุ้ง” ของประเทศจีน
กวางโจวเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,800 ปี ในอดีตเคยเป็นจุดเริ่มของเส้นทางสายไหมทางทะเล และยังเคยเป็นเมืองท่าเสรีแห่งแรกและแห่งเดียวที่เปิดต้อนรับชาวตะวันตกที่เข้ามาติดต่อค้าขาย
ปัจจุบันกวางโจว เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดทางตอนใต้ของจีน เป็นเมืองที่มีความเจริญในอันดับต้นๆของจีน ที่มีความสำคัญทั้งทางด้าน เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน เทคโนโลยี และด้านการศึกษา รวมถึงยังเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
ด้วยศักยภาพอันโดดเด่นของกวางโจว ล่าสุดทาง“สายการบินไทยสมายล์” จึงได้สยายปีกเปิดบินตรงในเส้นทาง “ภูเก็ต-กวางโจว” เพื่อให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียงในพื้นที่ภาคใต้ที่จะเดินทางไปยังเมืองกวางโจว และที่สำคัญคือการตอบสนองความต้องการของชาวจีนที่จะเดินทางมาเที่ยวทะเลภูเก็ต กระบี่ พังงา และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆในพื้นที่ภาคใต้
อนุสาวรีย์ 5 แพะ
กวางโจวเป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีคนไทยนิยมเดินทางไปท่องเที่ยว ชม ชิม แชะ และช้อปกันเป็นจำนวนมาก สำหรับผู้มาเยือนกวางโจวสิ่งที่ไม่ควรพลาดการไปเที่ยวชมก็คือ “อนุสาวรีย์ 5 แพะ” สัญลักษณ์แห่งเมืองกวางโจวที่“สวนสาธารณะเยี่ยซิ่ว”กับเรื่องราวตำนานตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น
อนุสาวรีย์ 5 แพะ แกะสลักด้วยหินแกรนิตจำนวน 120 ก้อน เป็นรูปแพะ 5 ตัว ในลีลาที่แตกต่างกันออกไป มีความสูง 11 เมตร แพะตัวใหญ่สุดที่ยืนเด่นเป็นพระเอกอยู่ด้านบนสุดกำลังคาบรวงข้าวไว้ในปาก
นอกจากอนุสาวรีย์ 5 แพะแล้ว ในสวนสาธารณะเยี่ยซิ่วที่ร่มรื่นกว้างขวางยังมีอีกหลายจุดให้เที่ยวชม มีรถรางไว้วิ่งบริการ หากใครไปเที่ยวสวนแห่งนี้ในช่วงเช้าหรือช่วงสาย จะได้เห็นเหล่าสาวๆผู้อาวุโสชาวจีน มาออกกำลังกายร่ายรำแอโรบิคแบบจีน ด้วยลีล่าท่าทางกึ่งงิ้ว กึ่งไทเก็ก ผสมคอนเทมโพรารีแดนซ์ ดูแล้วมีสีสันน่าเพลิดเพลินไม่น้อย ซึ่งเมืองจีนในวันนี้เขามีนโยบายสร้างสวนสาธารณะเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้เมืองเป็นจำนวนมาก เพื่อให้ประชาชนคนจีนใช้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกาย ทำกิจกรรม และเป็นปอดของชาวเมือง นับเป็นจีนยุคใหม่ที่พี่ไทยเราน่าเดินตามรอยยิ่งนัก
กวางโจวทาวเวอร์
เมืองกวางโจววันนี้ยังมีอีกหนึ่งสัญลักษณ์ใหม่สำคัญนั่นก็คือ “กวางโจวทาวเวอร์”(Guangzhou Tower) หรือ “แคนตันทาวเวอร์”(Canton Tower) หรือ“หอคอยกวางโจว” ที่สร้างแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 2010 ก่อนเปิดกีฬาเอเชียนเกมส์ 2010 ที่เมืองกวางโจวเป็นเจ้าภาพ
กวางโจวทาวเวอร์ เป็นสถานีส่งสัญญาณโทรทัศน์ มีความสูง 600 เมตร ปัจจุบันเป็นหอคอยที่สูงที่สุดในประเทศจีน และสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก
หอคอยแห่งนี้ ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากสรีระเรือนร่างของสุภาพสตรีที่สวยงามสูงเพรียวระหงกำลังเอี้ยวตัว มีลักษณะเอวคอด อกเต่งตึง สะโพกผาย ดูงดงามทรงเสน่ห์ จนได้รับฉายาว่าหอคอย“ซุปเปอร์โมเดล”
กวางโจวทาวเวอร์ นอกจากจะเป็นสัญลักษณ์ใหม่ที่ตั้งโดดเด่นตระหง่านมองเห็นแต่ไกลแห่งเมืองกวางโจวแล้ว ยังเป็นแลนด์มาร์คสำคัญริมแม่น้ำจูเจียง รวมถึงเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวสำคัญของเมืองกวางโจว ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถตีตั๋วขึ้นไปบนหอคอยเพื่อชมวิวเมืองกวางโจวในมุมสูงกันได้
จุดชมวิวบนหอคอยจะแบ่งระดับชั้นตามระดับราคา โดยชั้นที่ได้รับความนิยมที่สุดคือชั้น 108 ที่ระดับความสูง 433 เมตร ในสนนราคา 150 หยวน
บนจุดชมวิวชั้น 108 นอกจากจะได้ชมวิวเมืองกวางโจวอันสวยงามกว้างไกลแบบรอบทิศแล้ว ยังมีบางมุมเป็นจุดชมวิวพิเศษกับพื้นกระจกใส เพราะเป็นส่วนที่ยื่นออกไปชมวิวเมือง ส่วนพื้นล่างเป็นกระจกมองลงไปเห็นเมืองกวางโจวอยู่เบื้องล่างใต้เท้า ถือเป็นจุดชมวิววัดใจของคนไม่กลัวความสูงที่น่าตื่นตาตื่นใจ
และน่าไปทดลองยืนชมวิวบนนั้นไม่น้อยเลย
จัตุรัสฮัวเฉิง
ความทรงเสน่ห์ของหอคอยเอวคอดกิ่วกวางโจวทาวเวร์ที่ตั้งเด่นตะหง่านนั้นมีมุมเก๋ๆให้ชมกันได้ในหลายจุด โดยเฉพาะที่“จัตุรัสฮัวเฉิง” หรือ“จัตุรัสดอกไม้” ถือเป็นมุมองกวางโจวทาวเวอร์ที่มีเอกลักษณ์ไม่น้อย
จัตุรัสฮัวเฉิง เป็นศูนย์กลางแห่งใหม่ของกวางโจว มีพื้นที่กว่า 560,000 เมตร ตั้งอยู่ท่ามกลางสิ่งก่อสร้างสมัยใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์อันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น บรรดาตึกสูงสมัยใหม่ของกวางโจว กวางโจวทาวเวอร์ พิพิธภัณฑ์กวางตุ้ง หอดนตรี สนามเปิดกีฬาเอเชียนเกมส์ เป็นต้น
จัตุรัสฮัวเฉิงมีส่วนหนึ่งเป็นลานโล่ง มีการตกแต่งภูมิทัศน์และจัดสร้างสตรีทเฟอร์นิเจอร์อย่างสวยงาม ถือเป็นหนึ่งในจุดชมวิวเมืองในระดับสายตามนุษย์ ที่มีคนนิยมมาชมวิวสิ่งก่อสร้างและความทันสมัยของที่นี่ เพราะด้านหนึ่งโอบล้อมไปด้วยตึกสูง ฝั่งหนึ่งติดแม่น้ำจูเจียง และยังมีมุมหนึ่งเป็นมุมไฮไลท์สามารถมองเห็นกวางโจวทาวเวอร์ที่ตั้งตระหง่านได้อย่างโดดเด่นสวยงาม เคียงคู่ไปกับสนามเปิดกีฬาเอเชียนเกมส์ ที่เป็นมุมมองเฉพาะตัวที่น่ายลไม่น้อย
ส่วนอีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้มาเที่ยวจัตุรัสฮัวเฉิงนั่นก็คือการเข้าไปเที่ยวชมใน “พิพิธภัณฑ์กวางตุ้ง”(Guangdong Museum) ที่เป็นพิพิธภัณฑ์ร่วมสมัยขนาดใหญ่ ดูโอ่อ่าทันสมัย พร้อมทั้งมีร้านหนังสือ ร้านอาหาร และร้านกาแฟ ไว้บริการ
ในส่วนของการจัดแสดงภายในอาคารพิพิธภัณฑ์ มีการแบ่งพื้นที่การจัดแสดงออกเป็นชั้นๆ โดยมีการจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับวัฒนธรรมต่างๆ ของมณฑลกวางตุ้ง, การจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับทรัพยากรต่างๆ อันมากมายของมณฑลกวางตุ้ง, การจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมของมณฑลกวางตุ้ง และยังมีนิทรรศการจัดแสดงงานแบบชั่วคราวที่จะหมุนเวียนเปลี่ยนไป
ล่องเรือ แม่น้ำจูเจียง
กวางโจว เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำ“จูเจียง”(Zhujiang) หรือ“แม่น้ำไข่มุก”(Pearl River) แม่น้ำสายยาวอันดับที่ 3 ของเมืองจีน(มีความยาวประมาณ 2,000 กม.) ซึ่งถือเป็นเส้นเลือดหลักที่หล่อเลี้ยงชาวเมืองกวางโจวมาอย่างช้านานนับจากอดีตถึงปัจจุบัน
ชื่อแม่น้ำไข่มุก(จูเจียง) มาจากเรื่องเล่าขานว่ามีการพบก้อนหินใหญ่ก้อนหนึ่งที่ก้นแม่น้ำ เป็นก้อนหินที่มีลักษณะมนกลม ผิวเรียบเนียนสวยงาม พร้อมทั้งส่องแสงเป็นประกายคล้ายไข่มุก ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นไข่มุกทะเล ผู้คนจึงขนานนามแม่น้ำสายนี้ว่าแม่น้ำไข่มุก
และด้วยความสำคัญและความโดดเด่นของแม่น้ำกวางโจว ทางรัฐบาลจีนจึงจัดให้มีกิจกรรมล่องเรือยามราตรี(คล้ายกับในหลายๆเมืองของจีน)ชมแสงสีริมฝั่งแม่น้ำจูเจียง ซึ่งปัจจุบันริม 2 ฟากฝั่งแม่น้ำจูเจียง คลาคล่ำไปด้วยตึกสูง สิ่งก่อสร้างทันสมัย โรงแรม 5 ดาว และแหล่งช้อปปิ้งมากมาย
จุดลงล่องเรือชมวิวแม่น้ำไข่มุกยามราตรีอยู่ในเขตเทียนเหอ หนึ่งในย่านธุรกิจสำคัญของเมืองกวางเจา ที่บริเวณนี้จะมีท่าเรือ มีเรือท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบมาจอดรอเทียบท่ารอให้บริการนำนักท่องเที่ยวล่องเรือสัมผัสเสน่ห์แสงสีของแม่น้ำไข่มุก
สำหรับการล่องเรือชมแม่น้ำไข่มุกยามราตรีจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง โดยเรือนำเที่ยวที่มี 2-3 ชั้น ทั้งอินดอร์ในห้องติดแอร์ และเอาท์ดอร์บนชั้นดาดฟ้า ที่นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นไปรับลมชมวิว จิบชาชื่นชมบรรยากาศ
ในเส้นทางชมแม่น้ำไข่มุก เรือจะพาเราล่องชมวิวทิวทัศน์ 2 ฟากฝั่งของแม่น้ำไข่มุกยามราตรี ที่ดูน่าตื่นตาตื่นใจไปด้วยแสงสีประดับจากตึกสูงระฟ้า อาคารบ้านเรือน สะพาน สะพานแขวน ที่มีการตกแต่งย้อมด้วยแสงสีไฟ อันสวยงามเจิดจ้าเฉิดฉาย
เรือนำเที่ยวจะค่อยๆขับเอื่อยๆ ล่องไปตามลำน้ำที่มีสายลมพัดโชยเย็นสบาย พาเราชมแสงสี วิวทิวทัศน์ 2 ฟากฝั่งแม่น้ำ โดยมีไฮไลท์สำคัญคือการชมกวางโจวทาวเวอร์ยามราตรี ที่มีการย้อมแสงสีสันของหอคอยแห่งนี้ยามสวยงาม พร้อมทั้งยังมีการยิงแสงเลเซอร์เป็นลำทางยาวขึ้นสู่ฟากฟ้าเบื้องบน ช่วยขับเน้นให้หอคอยแห่งนี้ดูโดดเด่นน่าตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้น
และหากวันไหน พระจันทร์ขึ้นกระจ่างส่องนำทางสัญจร เราจะมองเห็นตึกหอคอยรูปทรงอรชรนี้ ยืนเด่นตระหง่านท่ามกลางแสงจันทร์ที่ดูทรงเสน่ห์เป็นยิ่งนัก
ช้อปปิ้ง
คนไทยจำนวนมากเมื่อมาเยือนกวางโจว หนึ่งในสิ่งสำคัญที่มักจะไม่พลาดก็คือการ“ช้อปปิ้ง” เพราะกวางโจวถือเป็นหนึ่งในเมืองช้อปปิ้งสำคัญของเมืองจีน เนื่องจากมณฑลกว่างตง ที่มีกวางโจวเป็นเมืองเอก เป็นที่ตั้งของ 3 เขตเศรษฐกิจพิเศษ คือ เซินเจิ้น จูไห่ และซัวเถา นอกจากนี้กวางโจวยังอยู่ใกล้กับ ฮ่องกง มาเก๊า ซึ่งก็ทำให้เมืองนี้เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการช้อปปิ้งไม่น้อย
สำหรับจุดช้อปปิ้งเด่นๆในกวางโจว(และทัวร์ไทยนิยมพาไปช้อป) ได้แก่
-“Onelink Plaza” เป็นห้างขนาดใหญ่ มี 8 ชั้น ด้านในตึกติดแอร์เดินเย็นสบาย คลาคล่ำไปด้วยเหล่าพ่อค้าแม่ค้าชาวจีน ที่นำเสนอขายสินค้าหลากหลายประเภท อาทิ ของเล่น กิฟต์ชอปน่ารักๆ ของฝากจากจีน ฯลฯ
สินค้าที่นี่จะมีทั้งแบบขายปลีกและขายส่ง หากซื้อจำนวนเยอะราคาต่อชิ้นก็จะถูกกว่าซื้อชิ้นเดียว ซึ่งก็เหมือนกับที่สำเพ็งบ้านเรา และเท่าที่ได้เดินช้อปก็เห็นว่าสินค้าต่างๆ ที่มีขายเหล่านี้ ที่เมืองไทยบ้านเราก็มีเหมือนกัน เพราะว่าพ่อค้าแม่ค้าชาวไทยส่วนหนึ่งก็จะสั่งสินค้าจากที่นี่ไปขายที่เมืองไทยกัน
- ถนนช่างเซี่ยจิ่ว (Shang Xia Jiu) เดิมถนนสายนี้เป็นถนนโบราณที่สร้างเชื่อมไปยังท่าเรือ แต่ปัจจุบันถูกปรับปรุงเป็นถนนคนเดิน ซึ่งถือเป็นถนนคนเดินที่ขึ้นชื่อของกวางโจว ที่แม้จะเป็นถนนคนเดินของคนท้องถิ่น แต่ก็มีบรรยากาศน่าเดินชม ชิม ช้อป แชะ ไม่น้อย ที่นี่มีสินค้าข้าวของขายมากมาย สารพัดสารพัน มีอาหารการกินอันหลากหลาย
ถนนช่างเซี่ยจิ่ว มีศูนย์กลางอยู่ที่ “จัตุรัสช่างเซี่ยจิ่ว”(Shang Xia Jiu Square) ที่เป็นลานกว้าง มีการสร้างสตรีทเฟอร์นิเจอร์ อนุสาวรีย์ และงานประติมากรรมเก๋ๆ ไว้เป็นจุดถ่ายรูปสำหรับนักท่องเที่ยว ที่เรียกได้ว่าแทบจะหัวกระไดไม่แห้ง เพราะมีคนมาเข้าคิวรอถ่ายรูปกันไม่ได้ขาด
-“ถนนเป่ยจิงลู่” หรือ “ถนนปักกิ่ง” เป็นถนนคนเดินชื่อดังของเมืองกวางโจวที่คนไทยนิยมไปช้อปปิ้งกันเป็นจำนวนมาก
ถนนเป่ยจิงลู่ปัจจุบันเป็นการสร้างทับถนนโบราณ ตั้งแต่ยุคราชวงศ์ซ่ง (ปี 960 - 1279) ซึ่งได้มีการเก็บรักษาสภาพของถนนสายเก่าไว้เป็นอย่างดี โดยใช้กระจกใสครอบสภาพเดิมของถนนโบราณไว้ให้ผู้คนที่มาเดินชอปปิ้งได้เห็นถึงร่องรอยของถนนสายเก่าอันเปี่ยมไปด้วยมนต์ขลัง
ถนนเป่ยจิงลู่ มีสินค้าให้เลือกช้อปกันหลากหลาย โดยเฉพาะสินค้าแบรนด์เนมสากล แบรนด์เนมจีน และสินค้าที่เหมือนแบรนด์ดังชนิดที่ต้องใช้ความสามารถเพ่งพินิจให้ดี
นอกจากนี้บนถนนเป่ยจิงลู่ยังมีอาหารการกินให้เลือกอิ่มอร่อยอีกมากมาย รวมไปถึงมีการประดับตกแต่งอย่างสวยงาม
ส่วนสิ่งที่ผมชอบมากบนถนนสายนี้ก็คือ เขาไม่ตัดต้นไม้ใหญ่ทิ้ง หากแต่ทำการก่อสร้างสิ่งต่างๆให้กลมกลืนไปกับต้นไม้ใหญ่ ทำให้ถนนสายนี้ดูร่มรื่น น่าเดินยิ่งนัก ชนิดที่ใครเดินไป เดินมาเพลิน เผลอแผล็บเดียว เงินในกระเป๋าถูกละลายไปกับการช้อปปิ้งแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว
เที่ยวหลากหลายในกวางโจว
นอกจากมนต์เสน่ห์บนความร่วมสมัยของกวางโจว แล้วเมืองนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอีกหลากหลายให้เที่ยวชมกัน ไม่ว่าจะเป็น
-“ภูเขาดอกบัว”(เหลียนฮัวซาน) ที่มีเจดีย์ดอกบัวเก่าแก่ตั้งเด่นตระหง่าน และมีรูปเคารพเจ้าแม่กวนอิมที่สูงที่สุดในกว่างตงสีทองอร่าม
-“วัดลิ่วหยงซื่อ” หรือ “วัดไทรหกต้น” ที่โดดเด่นไปด้วยเจดีย์โบราณ และต้นไทร 6 ต้นสูงใหญ่ อายุหลายร้อยหรืออาจจะถึงพันปี
-“สวนอุทยานเป่าม่อ” อุทยานที่มีบรรยากาศร่มรื่น เป็นระเบียบ งดงามไปด้วยสถาปัตยกรรมจีนอันทรงเสน่ห์ มีสะพานมังกรให้ข้ามเพื่อความเป็นสิริมงคล มีกำแพงศิลาที่แกะสลักเป็นรูปหงส์อย่างสวยงาม มีพิพิธภัณฑ์เก็บศิลปวัตถุล้ำค่ามากมาย และสิ่งชวนชมอื่นๆอีกมากมาย
-“ภูเขาไป๋หยุน”ที่ต้องนั่งกระเช้าชึ้นไปชมวิวบนยอดเขา ซึ่งสร้างเป็นสวนสาธารณะอันร่มรื่น มีสิ่งน่าสนใจหลากหลายให้ทัศนากัน
นอกจากนี้เมืองกวางโจวก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอื่นๆอีก อาทิ “วัดกวงเสี้ยว”, “คฤหาสน์ตระกูลเฉิน” , “อนุสรณ์สถาน ดร.ซุนยัดเซ็น” และ "พิพิธภัณฑ์สุสานกษัตริย์หนานเยว่" เป็นต้น
นับได้ว่ากวางโจวเป็นอีกหนึ่งเมืองที่มากไปด้วยสิ่งชวนเที่ยวทั้ง ชม ชิม แชะ ช้อป แชะ เป็นเสน่ห์แห่งเมืองแพะที่มากไปด้วยสีสันไม่น้อยเลย
**************************************************
กวางโจว เป็นเมืองเอกของมณฑลกว่างตง(กวางตุ้ง) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดทางตอนใต้ของจีน มีความเจริญในอันดับต้นๆของจีน ซึ่งล่าสุด “สายการบินไทยสมายล์” ได้เปิดเที่ยวบินตรงในเส้นทาง “ภูเก็ต-กวางโจว” สัปดาห์ละ 4 เที่ยวบิน ในวันจันทร์ พุธ ศุกร์ และอาทิตย์ ด้วยเที่ยวบิน WE696 ภูเก็ต-กวางโจว (HKT-CAN) 23.05-04.00 (+1วัน) และ WE697 กวางโจว-ภูเก็ต (CAN-HKT) 05.15-07.55
ผู้สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสำรองที่นั่งได้ที่ www.thaismileair.com Smile Call Center 1181 หรือ 0 2118 8888 และตัวแทนจำหน่ายบัตรโดยสารสายการบินไทยสมายล์ทั่วประเทศ
******************************************
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
Facebook :Travel @ Manager
มีตำนานของเมืองจีนเล่าขานกันว่า...
...ในอดีตกาลนานมาแล้ว ในสมัยราชวงศ์โจว(ประมาณ 1123 ปีก่อนคริสต์ศักราช - 256 ปีก่อนคริสต์ศักราช) มีเทวดา 5 องค์มองเห็นเมืองกวางโจว(ชื่อเดิมฉู่ถิง) ซึ่งเดิมเป็นเมืองเล็กๆ ชาวบ้านใช้ชีวิตอย่างยากจนข้นแค้น เทวดาทั้ง 5 จึงสวมเสื้อสีสันแตกต่างกัน ขี่แพะคาบรวงข้าว 5 ตัว ลงมาสู่เมืองกวางโจว และได้มอบเมล็ดพันธุ์ข้าวให้แก่ชาวเมือง พร้อมอวยพรให้เมืองนี้หลุดพ้นจากความอดอยากตลอดกาล เมื่อเทวดาพูดจบก็หายตัวไป ส่วนแพะที่ขี่มาก็กลายเป็นหิน 5 ก้อน
...ต่อมาประติมากร ได้นำหินทั้ง 5 ก้อน มาแกะสลักเป็นแพะ 5 ตัว หลังจากนั้นเมืองกวางโจวก็เจริญรุ่งเรืองอย่างมาก ซึ่งชาวเมืองเชื่อว่านี่เป็นเพราะเทวดาที่ทำให้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง พวกเขาจึงได้จัดสร้างอนุสาวรีย์ 5 แพะขึ้น เพื่อรำลึกในพระคุณของเทวดาทั้ง 5...
นั่นคือเรื่องเล่าขานตำนานที่มาของ “อนุสาวรีย์ 5 แพะ” สัญลักษณ์แห่งกวางโจว ที่ได้ถูกนำเชื่อมโยงร้อยเรียงกับเรื่องราวความเจริญของเมืองกวางโจว ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเมืองสำคัญของประเทศจีน และเป็นเมืองที่มาการเติบโต พัฒนามาอย่างต่อเนื่องยาวนาน
กวางโจว-ภูเก็ต
“กวางโจว” (Guangzhou) หรือ “กวางโจ่ว” ในภาษาจีน หรือที่คนไทยนิยมเรียกกันว่า “กวางเจา” เป็นเมืองเอกของมณฑล“กว่างตง”หรือ“กวางตุ้ง” ของประเทศจีน
กวางโจวเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,800 ปี ในอดีตเคยเป็นจุดเริ่มของเส้นทางสายไหมทางทะเล และยังเคยเป็นเมืองท่าเสรีแห่งแรกและแห่งเดียวที่เปิดต้อนรับชาวตะวันตกที่เข้ามาติดต่อค้าขาย
ปัจจุบันกวางโจว เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดทางตอนใต้ของจีน เป็นเมืองที่มีความเจริญในอันดับต้นๆของจีน ที่มีความสำคัญทั้งทางด้าน เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน เทคโนโลยี และด้านการศึกษา รวมถึงยังเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
ด้วยศักยภาพอันโดดเด่นของกวางโจว ล่าสุดทาง“สายการบินไทยสมายล์” จึงได้สยายปีกเปิดบินตรงในเส้นทาง “ภูเก็ต-กวางโจว” เพื่อให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียงในพื้นที่ภาคใต้ที่จะเดินทางไปยังเมืองกวางโจว และที่สำคัญคือการตอบสนองความต้องการของชาวจีนที่จะเดินทางมาเที่ยวทะเลภูเก็ต กระบี่ พังงา และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆในพื้นที่ภาคใต้
อนุสาวรีย์ 5 แพะ
กวางโจวเป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีคนไทยนิยมเดินทางไปท่องเที่ยว ชม ชิม แชะ และช้อปกันเป็นจำนวนมาก สำหรับผู้มาเยือนกวางโจวสิ่งที่ไม่ควรพลาดการไปเที่ยวชมก็คือ “อนุสาวรีย์ 5 แพะ” สัญลักษณ์แห่งเมืองกวางโจวที่“สวนสาธารณะเยี่ยซิ่ว”กับเรื่องราวตำนานตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น
อนุสาวรีย์ 5 แพะ แกะสลักด้วยหินแกรนิตจำนวน 120 ก้อน เป็นรูปแพะ 5 ตัว ในลีลาที่แตกต่างกันออกไป มีความสูง 11 เมตร แพะตัวใหญ่สุดที่ยืนเด่นเป็นพระเอกอยู่ด้านบนสุดกำลังคาบรวงข้าวไว้ในปาก
นอกจากอนุสาวรีย์ 5 แพะแล้ว ในสวนสาธารณะเยี่ยซิ่วที่ร่มรื่นกว้างขวางยังมีอีกหลายจุดให้เที่ยวชม มีรถรางไว้วิ่งบริการ หากใครไปเที่ยวสวนแห่งนี้ในช่วงเช้าหรือช่วงสาย จะได้เห็นเหล่าสาวๆผู้อาวุโสชาวจีน มาออกกำลังกายร่ายรำแอโรบิคแบบจีน ด้วยลีล่าท่าทางกึ่งงิ้ว กึ่งไทเก็ก ผสมคอนเทมโพรารีแดนซ์ ดูแล้วมีสีสันน่าเพลิดเพลินไม่น้อย ซึ่งเมืองจีนในวันนี้เขามีนโยบายสร้างสวนสาธารณะเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้เมืองเป็นจำนวนมาก เพื่อให้ประชาชนคนจีนใช้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกาย ทำกิจกรรม และเป็นปอดของชาวเมือง นับเป็นจีนยุคใหม่ที่พี่ไทยเราน่าเดินตามรอยยิ่งนัก
กวางโจวทาวเวอร์
เมืองกวางโจววันนี้ยังมีอีกหนึ่งสัญลักษณ์ใหม่สำคัญนั่นก็คือ “กวางโจวทาวเวอร์”(Guangzhou Tower) หรือ “แคนตันทาวเวอร์”(Canton Tower) หรือ“หอคอยกวางโจว” ที่สร้างแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 2010 ก่อนเปิดกีฬาเอเชียนเกมส์ 2010 ที่เมืองกวางโจวเป็นเจ้าภาพ
กวางโจวทาวเวอร์ เป็นสถานีส่งสัญญาณโทรทัศน์ มีความสูง 600 เมตร ปัจจุบันเป็นหอคอยที่สูงที่สุดในประเทศจีน และสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก
หอคอยแห่งนี้ ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากสรีระเรือนร่างของสุภาพสตรีที่สวยงามสูงเพรียวระหงกำลังเอี้ยวตัว มีลักษณะเอวคอด อกเต่งตึง สะโพกผาย ดูงดงามทรงเสน่ห์ จนได้รับฉายาว่าหอคอย“ซุปเปอร์โมเดล”
กวางโจวทาวเวอร์ นอกจากจะเป็นสัญลักษณ์ใหม่ที่ตั้งโดดเด่นตระหง่านมองเห็นแต่ไกลแห่งเมืองกวางโจวแล้ว ยังเป็นแลนด์มาร์คสำคัญริมแม่น้ำจูเจียง รวมถึงเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวสำคัญของเมืองกวางโจว ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถตีตั๋วขึ้นไปบนหอคอยเพื่อชมวิวเมืองกวางโจวในมุมสูงกันได้
จุดชมวิวบนหอคอยจะแบ่งระดับชั้นตามระดับราคา โดยชั้นที่ได้รับความนิยมที่สุดคือชั้น 108 ที่ระดับความสูง 433 เมตร ในสนนราคา 150 หยวน
บนจุดชมวิวชั้น 108 นอกจากจะได้ชมวิวเมืองกวางโจวอันสวยงามกว้างไกลแบบรอบทิศแล้ว ยังมีบางมุมเป็นจุดชมวิวพิเศษกับพื้นกระจกใส เพราะเป็นส่วนที่ยื่นออกไปชมวิวเมือง ส่วนพื้นล่างเป็นกระจกมองลงไปเห็นเมืองกวางโจวอยู่เบื้องล่างใต้เท้า ถือเป็นจุดชมวิววัดใจของคนไม่กลัวความสูงที่น่าตื่นตาตื่นใจ
และน่าไปทดลองยืนชมวิวบนนั้นไม่น้อยเลย
จัตุรัสฮัวเฉิง
ความทรงเสน่ห์ของหอคอยเอวคอดกิ่วกวางโจวทาวเวร์ที่ตั้งเด่นตะหง่านนั้นมีมุมเก๋ๆให้ชมกันได้ในหลายจุด โดยเฉพาะที่“จัตุรัสฮัวเฉิง” หรือ“จัตุรัสดอกไม้” ถือเป็นมุมองกวางโจวทาวเวอร์ที่มีเอกลักษณ์ไม่น้อย
จัตุรัสฮัวเฉิง เป็นศูนย์กลางแห่งใหม่ของกวางโจว มีพื้นที่กว่า 560,000 เมตร ตั้งอยู่ท่ามกลางสิ่งก่อสร้างสมัยใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์อันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น บรรดาตึกสูงสมัยใหม่ของกวางโจว กวางโจวทาวเวอร์ พิพิธภัณฑ์กวางตุ้ง หอดนตรี สนามเปิดกีฬาเอเชียนเกมส์ เป็นต้น
จัตุรัสฮัวเฉิงมีส่วนหนึ่งเป็นลานโล่ง มีการตกแต่งภูมิทัศน์และจัดสร้างสตรีทเฟอร์นิเจอร์อย่างสวยงาม ถือเป็นหนึ่งในจุดชมวิวเมืองในระดับสายตามนุษย์ ที่มีคนนิยมมาชมวิวสิ่งก่อสร้างและความทันสมัยของที่นี่ เพราะด้านหนึ่งโอบล้อมไปด้วยตึกสูง ฝั่งหนึ่งติดแม่น้ำจูเจียง และยังมีมุมหนึ่งเป็นมุมไฮไลท์สามารถมองเห็นกวางโจวทาวเวอร์ที่ตั้งตระหง่านได้อย่างโดดเด่นสวยงาม เคียงคู่ไปกับสนามเปิดกีฬาเอเชียนเกมส์ ที่เป็นมุมมองเฉพาะตัวที่น่ายลไม่น้อย
ส่วนอีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้มาเที่ยวจัตุรัสฮัวเฉิงนั่นก็คือการเข้าไปเที่ยวชมใน “พิพิธภัณฑ์กวางตุ้ง”(Guangdong Museum) ที่เป็นพิพิธภัณฑ์ร่วมสมัยขนาดใหญ่ ดูโอ่อ่าทันสมัย พร้อมทั้งมีร้านหนังสือ ร้านอาหาร และร้านกาแฟ ไว้บริการ
ในส่วนของการจัดแสดงภายในอาคารพิพิธภัณฑ์ มีการแบ่งพื้นที่การจัดแสดงออกเป็นชั้นๆ โดยมีการจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับวัฒนธรรมต่างๆ ของมณฑลกวางตุ้ง, การจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับทรัพยากรต่างๆ อันมากมายของมณฑลกวางตุ้ง, การจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมของมณฑลกวางตุ้ง และยังมีนิทรรศการจัดแสดงงานแบบชั่วคราวที่จะหมุนเวียนเปลี่ยนไป
ล่องเรือ แม่น้ำจูเจียง
กวางโจว เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำ“จูเจียง”(Zhujiang) หรือ“แม่น้ำไข่มุก”(Pearl River) แม่น้ำสายยาวอันดับที่ 3 ของเมืองจีน(มีความยาวประมาณ 2,000 กม.) ซึ่งถือเป็นเส้นเลือดหลักที่หล่อเลี้ยงชาวเมืองกวางโจวมาอย่างช้านานนับจากอดีตถึงปัจจุบัน
ชื่อแม่น้ำไข่มุก(จูเจียง) มาจากเรื่องเล่าขานว่ามีการพบก้อนหินใหญ่ก้อนหนึ่งที่ก้นแม่น้ำ เป็นก้อนหินที่มีลักษณะมนกลม ผิวเรียบเนียนสวยงาม พร้อมทั้งส่องแสงเป็นประกายคล้ายไข่มุก ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นไข่มุกทะเล ผู้คนจึงขนานนามแม่น้ำสายนี้ว่าแม่น้ำไข่มุก
และด้วยความสำคัญและความโดดเด่นของแม่น้ำกวางโจว ทางรัฐบาลจีนจึงจัดให้มีกิจกรรมล่องเรือยามราตรี(คล้ายกับในหลายๆเมืองของจีน)ชมแสงสีริมฝั่งแม่น้ำจูเจียง ซึ่งปัจจุบันริม 2 ฟากฝั่งแม่น้ำจูเจียง คลาคล่ำไปด้วยตึกสูง สิ่งก่อสร้างทันสมัย โรงแรม 5 ดาว และแหล่งช้อปปิ้งมากมาย
จุดลงล่องเรือชมวิวแม่น้ำไข่มุกยามราตรีอยู่ในเขตเทียนเหอ หนึ่งในย่านธุรกิจสำคัญของเมืองกวางเจา ที่บริเวณนี้จะมีท่าเรือ มีเรือท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบมาจอดรอเทียบท่ารอให้บริการนำนักท่องเที่ยวล่องเรือสัมผัสเสน่ห์แสงสีของแม่น้ำไข่มุก
สำหรับการล่องเรือชมแม่น้ำไข่มุกยามราตรีจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง โดยเรือนำเที่ยวที่มี 2-3 ชั้น ทั้งอินดอร์ในห้องติดแอร์ และเอาท์ดอร์บนชั้นดาดฟ้า ที่นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นไปรับลมชมวิว จิบชาชื่นชมบรรยากาศ
ในเส้นทางชมแม่น้ำไข่มุก เรือจะพาเราล่องชมวิวทิวทัศน์ 2 ฟากฝั่งของแม่น้ำไข่มุกยามราตรี ที่ดูน่าตื่นตาตื่นใจไปด้วยแสงสีประดับจากตึกสูงระฟ้า อาคารบ้านเรือน สะพาน สะพานแขวน ที่มีการตกแต่งย้อมด้วยแสงสีไฟ อันสวยงามเจิดจ้าเฉิดฉาย
เรือนำเที่ยวจะค่อยๆขับเอื่อยๆ ล่องไปตามลำน้ำที่มีสายลมพัดโชยเย็นสบาย พาเราชมแสงสี วิวทิวทัศน์ 2 ฟากฝั่งแม่น้ำ โดยมีไฮไลท์สำคัญคือการชมกวางโจวทาวเวอร์ยามราตรี ที่มีการย้อมแสงสีสันของหอคอยแห่งนี้ยามสวยงาม พร้อมทั้งยังมีการยิงแสงเลเซอร์เป็นลำทางยาวขึ้นสู่ฟากฟ้าเบื้องบน ช่วยขับเน้นให้หอคอยแห่งนี้ดูโดดเด่นน่าตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้น
และหากวันไหน พระจันทร์ขึ้นกระจ่างส่องนำทางสัญจร เราจะมองเห็นตึกหอคอยรูปทรงอรชรนี้ ยืนเด่นตระหง่านท่ามกลางแสงจันทร์ที่ดูทรงเสน่ห์เป็นยิ่งนัก
ช้อปปิ้ง
คนไทยจำนวนมากเมื่อมาเยือนกวางโจว หนึ่งในสิ่งสำคัญที่มักจะไม่พลาดก็คือการ“ช้อปปิ้ง” เพราะกวางโจวถือเป็นหนึ่งในเมืองช้อปปิ้งสำคัญของเมืองจีน เนื่องจากมณฑลกว่างตง ที่มีกวางโจวเป็นเมืองเอก เป็นที่ตั้งของ 3 เขตเศรษฐกิจพิเศษ คือ เซินเจิ้น จูไห่ และซัวเถา นอกจากนี้กวางโจวยังอยู่ใกล้กับ ฮ่องกง มาเก๊า ซึ่งก็ทำให้เมืองนี้เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการช้อปปิ้งไม่น้อย
สำหรับจุดช้อปปิ้งเด่นๆในกวางโจว(และทัวร์ไทยนิยมพาไปช้อป) ได้แก่
-“Onelink Plaza” เป็นห้างขนาดใหญ่ มี 8 ชั้น ด้านในตึกติดแอร์เดินเย็นสบาย คลาคล่ำไปด้วยเหล่าพ่อค้าแม่ค้าชาวจีน ที่นำเสนอขายสินค้าหลากหลายประเภท อาทิ ของเล่น กิฟต์ชอปน่ารักๆ ของฝากจากจีน ฯลฯ
สินค้าที่นี่จะมีทั้งแบบขายปลีกและขายส่ง หากซื้อจำนวนเยอะราคาต่อชิ้นก็จะถูกกว่าซื้อชิ้นเดียว ซึ่งก็เหมือนกับที่สำเพ็งบ้านเรา และเท่าที่ได้เดินช้อปก็เห็นว่าสินค้าต่างๆ ที่มีขายเหล่านี้ ที่เมืองไทยบ้านเราก็มีเหมือนกัน เพราะว่าพ่อค้าแม่ค้าชาวไทยส่วนหนึ่งก็จะสั่งสินค้าจากที่นี่ไปขายที่เมืองไทยกัน
- ถนนช่างเซี่ยจิ่ว (Shang Xia Jiu) เดิมถนนสายนี้เป็นถนนโบราณที่สร้างเชื่อมไปยังท่าเรือ แต่ปัจจุบันถูกปรับปรุงเป็นถนนคนเดิน ซึ่งถือเป็นถนนคนเดินที่ขึ้นชื่อของกวางโจว ที่แม้จะเป็นถนนคนเดินของคนท้องถิ่น แต่ก็มีบรรยากาศน่าเดินชม ชิม ช้อป แชะ ไม่น้อย ที่นี่มีสินค้าข้าวของขายมากมาย สารพัดสารพัน มีอาหารการกินอันหลากหลาย
ถนนช่างเซี่ยจิ่ว มีศูนย์กลางอยู่ที่ “จัตุรัสช่างเซี่ยจิ่ว”(Shang Xia Jiu Square) ที่เป็นลานกว้าง มีการสร้างสตรีทเฟอร์นิเจอร์ อนุสาวรีย์ และงานประติมากรรมเก๋ๆ ไว้เป็นจุดถ่ายรูปสำหรับนักท่องเที่ยว ที่เรียกได้ว่าแทบจะหัวกระไดไม่แห้ง เพราะมีคนมาเข้าคิวรอถ่ายรูปกันไม่ได้ขาด
-“ถนนเป่ยจิงลู่” หรือ “ถนนปักกิ่ง” เป็นถนนคนเดินชื่อดังของเมืองกวางโจวที่คนไทยนิยมไปช้อปปิ้งกันเป็นจำนวนมาก
ถนนเป่ยจิงลู่ปัจจุบันเป็นการสร้างทับถนนโบราณ ตั้งแต่ยุคราชวงศ์ซ่ง (ปี 960 - 1279) ซึ่งได้มีการเก็บรักษาสภาพของถนนสายเก่าไว้เป็นอย่างดี โดยใช้กระจกใสครอบสภาพเดิมของถนนโบราณไว้ให้ผู้คนที่มาเดินชอปปิ้งได้เห็นถึงร่องรอยของถนนสายเก่าอันเปี่ยมไปด้วยมนต์ขลัง
ถนนเป่ยจิงลู่ มีสินค้าให้เลือกช้อปกันหลากหลาย โดยเฉพาะสินค้าแบรนด์เนมสากล แบรนด์เนมจีน และสินค้าที่เหมือนแบรนด์ดังชนิดที่ต้องใช้ความสามารถเพ่งพินิจให้ดี
นอกจากนี้บนถนนเป่ยจิงลู่ยังมีอาหารการกินให้เลือกอิ่มอร่อยอีกมากมาย รวมไปถึงมีการประดับตกแต่งอย่างสวยงาม
ส่วนสิ่งที่ผมชอบมากบนถนนสายนี้ก็คือ เขาไม่ตัดต้นไม้ใหญ่ทิ้ง หากแต่ทำการก่อสร้างสิ่งต่างๆให้กลมกลืนไปกับต้นไม้ใหญ่ ทำให้ถนนสายนี้ดูร่มรื่น น่าเดินยิ่งนัก ชนิดที่ใครเดินไป เดินมาเพลิน เผลอแผล็บเดียว เงินในกระเป๋าถูกละลายไปกับการช้อปปิ้งแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว
เที่ยวหลากหลายในกวางโจว
นอกจากมนต์เสน่ห์บนความร่วมสมัยของกวางโจว แล้วเมืองนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอีกหลากหลายให้เที่ยวชมกัน ไม่ว่าจะเป็น
-“ภูเขาดอกบัว”(เหลียนฮัวซาน) ที่มีเจดีย์ดอกบัวเก่าแก่ตั้งเด่นตระหง่าน และมีรูปเคารพเจ้าแม่กวนอิมที่สูงที่สุดในกว่างตงสีทองอร่าม
-“วัดลิ่วหยงซื่อ” หรือ “วัดไทรหกต้น” ที่โดดเด่นไปด้วยเจดีย์โบราณ และต้นไทร 6 ต้นสูงใหญ่ อายุหลายร้อยหรืออาจจะถึงพันปี
-“สวนอุทยานเป่าม่อ” อุทยานที่มีบรรยากาศร่มรื่น เป็นระเบียบ งดงามไปด้วยสถาปัตยกรรมจีนอันทรงเสน่ห์ มีสะพานมังกรให้ข้ามเพื่อความเป็นสิริมงคล มีกำแพงศิลาที่แกะสลักเป็นรูปหงส์อย่างสวยงาม มีพิพิธภัณฑ์เก็บศิลปวัตถุล้ำค่ามากมาย และสิ่งชวนชมอื่นๆอีกมากมาย
-“ภูเขาไป๋หยุน”ที่ต้องนั่งกระเช้าชึ้นไปชมวิวบนยอดเขา ซึ่งสร้างเป็นสวนสาธารณะอันร่มรื่น มีสิ่งน่าสนใจหลากหลายให้ทัศนากัน
นอกจากนี้เมืองกวางโจวก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอื่นๆอีก อาทิ “วัดกวงเสี้ยว”, “คฤหาสน์ตระกูลเฉิน” , “อนุสรณ์สถาน ดร.ซุนยัดเซ็น” และ "พิพิธภัณฑ์สุสานกษัตริย์หนานเยว่" เป็นต้น
นับได้ว่ากวางโจวเป็นอีกหนึ่งเมืองที่มากไปด้วยสิ่งชวนเที่ยวทั้ง ชม ชิม แชะ ช้อป แชะ เป็นเสน่ห์แห่งเมืองแพะที่มากไปด้วยสีสันไม่น้อยเลย
**************************************************
กวางโจว เป็นเมืองเอกของมณฑลกว่างตง(กวางตุ้ง) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดทางตอนใต้ของจีน มีความเจริญในอันดับต้นๆของจีน ซึ่งล่าสุด “สายการบินไทยสมายล์” ได้เปิดเที่ยวบินตรงในเส้นทาง “ภูเก็ต-กวางโจว” สัปดาห์ละ 4 เที่ยวบิน ในวันจันทร์ พุธ ศุกร์ และอาทิตย์ ด้วยเที่ยวบิน WE696 ภูเก็ต-กวางโจว (HKT-CAN) 23.05-04.00 (+1วัน) และ WE697 กวางโจว-ภูเก็ต (CAN-HKT) 05.15-07.55
ผู้สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสำรองที่นั่งได้ที่ www.thaismileair.com Smile Call Center 1181 หรือ 0 2118 8888 และตัวแทนจำหน่ายบัตรโดยสารสายการบินไทยสมายล์ทั่วประเทศ
******************************************
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
