Facebook :Travel @ Manager
ร้านอาหารฝรั่งเศสในบ้านเรานั้นมีอยู่หลายร้าน ที่ชวนให้เหล่านักกินทั้งหลายได้เลือกตามไปลิ้มลองรสชาติกัน มื้อนี้ “ตระเวนกิน” เลยขอเอาใจคออาหารฝรั่งเศสด้วยการแนะนำร้านอาหารฝรั่งเศสสวยๆ ที่นำเสนออาหารฝรั่งเศสแบบต้นตำรับรสเลิศให้ได้ตามไปลองลิ้มกัน
ร้านที่ว่านี้คือ “Water Library Brasserie” ตั้งอยู่ที่ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี เป็นร้านอาหารที่มีบรรยากาศร้านสวยงาม โดยทางร้านได้แรงบันดาลใจจากช่วงยุคทองของฝรั่งเศส ปี ค.ศ. 1920 มาประยุกต์การออกแบบตกแต่งภายในร้านให้มีบรรยากาศที่คลาสสิก แต่ก็ยังคงความล้ำสมัยไว้ได้อย่างลงตัว แสดงให้เห็นถึงความเป็นร้านอาหารฝรั่งเศส สไตล์บราสเซอรีแท้ๆ
เมื่อเดินเข้ามาภายในร้านให้ความรู้สึกเหมือนมานั่งกินข้าวอยู่ภายใต้หอไอเฟลที่สวยงาม ด้านในมีโต๊ะนั่งหลากหลายโซนให้เลือกนั่งตามชอบใจ มีทั้งบรรยากาศโต๊ะนั่งด้านหน้าร้าน ด้านในร้านมีหลายโซนให้เลือกนั่ง มีโซนเคาน์เตอร์บาร์บริการเครื่องดื่มแบบหลายหลาก มีไวน์จากทั่วโลกให้เลือกดื่ม และมีโซนโต๊ะนั่งเทอเรสด้านนอกร้านรับลมธรรมชาติ
อาหารฝรั่งเศสของที่ร้านนี้เป็นสูตรแบบต้นตำรับ โดยมีเชฟไฮเคิล โจฮารี เป็นผู้สร้างสรรค์เมนูขึ้นมา คัดสรรวัตถุดิบพรีเมียมมาปรุงแต่งเป็นอาหารฝรั่งเศสขนานแท้ ให้ได้เลือกลิ้มลองมากมาย และยังมีเมนูใหม่ๆ หมุนเวียนมาอยู่เสมอ
เมนูฝรั่งเศสจานเด่นที่ชวนชิมของที่นี่มีหลายอย่าง ที่อยากแนะนำก็มี Baked Camembert (690 บาท++) เอาใจคนรักชีสโดยเฉพาะ มีชีสคาเมมเบิร์ต เป็นชีสจากฝรั่งเศสนำไปอบ เสิร์ฟมาพร้อมกับซอสน้ำผึ้งที่มีส่วนผสมของเห็ดทรัฟเฟิล กินกับขนมปังที่ทางร้านทำเอง กินเมนูนี้แล้วขอบอกว่าโดนใจ เคี้ยวกร้วมขนมปังทั้งคำ หอมกลิ่นทรัฟเฟิลอ่อนๆ ขึ้นจมูก ขนมปังกรอบนอกนุ่มใน ชุ่มชีสนุ่มยืดได้รสหวานนิดๆ จากน้ำผึ้งกินละมุนปากมาก
จานถัดมาสีสันชวนกิน Blue Swimmer Crab (450 บาท++) เป็นแตงโมสีแดงปรุงรสกับพอนซึ มีเนื้อปูม้าปรุงรสตามสูตรเฉพาะใส่มาบนแตงโม ท็อปด้วยแบล็คฟอเรสแฮมกับเบบี้สปิแนช ราดด้วยครีมฮอสแรดิช เรียกว่ากินทุกอย่างพร้อมกันทั้งคำได้รสชาติถูกใจ สดชื่นฉ่ำปากกับแตงโมเข้ากันดีกับเนื้อปูรสกลมกล่อม และแฮมรสเยี่ยม
แล้วมาลองลิ้ม Vol Au Vent (350 บาท++) เป็นพายซอสครีมเห็ดรวม หมูเบิร์กเชียร์ ท็อปด้วยไข่โพชเอ้ก ใส่พามาซานชีส และทรัฟเฟิล กินพายกรอบนอกนุ่มใน ผสานรสชาติเห็ดและหมูรสชาติกลมกล่อมปาก หอมกลิ่นทรัฟเฟิล กินเข้ากันดีกับชีสและไข่แบบลงตัว
เมนูต่อมาชวนชิม Red Snapper (650 บาท++) เนื้อปลากะพงแดงทอดแบบหนังกรอบกำลังดี มีกุ้งใส่มาด้วย ท็อปด้วยหอมทอด รองจานด้วยมันบด ราดด้วยซอสสไปซี่ซีฟู้ด กินปลากะพงเนื้อนุ่มแน่นหวานสด กุ้งเนื้อเด้งสดหวาน กินเข้ากันดีกับซอสสไปซี่รสเข้มข้น ละมุนลิ้นกับมันบดเนื้อเนียน จานนี้ถูกปากดีแท้
ถ้าใครชอบกินสเต๊กแนะนำเมนูเด่นจานนี้ Rack of Australian Lamb (990 บาท++) ซี่โครงแกะออสเตรเลียปรุงรสอย่างดีตามสูตรเฉพาะแล้วย่าง (สามารถเลือกสั่งระดับความสุกของเนื้อแกะได้) ราดด้วยซอสแกะสูตรเด็ด แล่เนื้อแกะส่งเข้าปากกินแล้วเนื้อเคี้ยวนุ่มหนึบหวานฉ่ำปาก ได้รสชาติน้ำซอสรสกลมกล่อม เสิร์ฟพร้อมพริกหวาน มะเขือม่วงอบเครื่องเทศ และมันฝรั่งอบครีมสไตล์ฝรั่งเศสมาให้กินเคียงกัน
กินของคาวแล้ว ต้องล้างปากด้วยของหวาน Valrhona Chocolate Fondant (320 บาท++) ใครชื่นชอบช็อกโกแลตเป็นต้องโดนใจ กับช็อกโกแลตเวโรนาฟองดองรสชาติเข้มข้นหอมหวาน มีซาบายองส้มตัดเลี่ยนได้ดี เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมคาราเมลโฮมเมดที่หวานเย็นกินแล้วฟินดีต่อใจ
แต่ว่าก็ยังมีอาหารฝรั่งเศสเลิศรสอื่นๆ ที่ชวนลองลิ้มอีก อาทิ Yellow Fin Tuna Tartare (390 บาท++) Truffle & Mushroom Risotto (450 บาท++) Asparagus (430 บาท++) Côte De Boeuf (3,900 บาท++) และอีกหลากหลายเมนูฝรั่งเศสต้นตำรับ ที่ถ้าใครเป็นคออาหารฝรั่งเศสแนะนำว่าต้องมากันให้ได้ที่ร้าน “Water Library Brasserie”
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“Water Library Brasserie” ตั้งอยู่ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ชั้น 5 ถนนเพลินจิต ปทุมวัน กรุงเทพฯ เปิดทุกวัน เวลา 11.30 - 22.00 น. (รับออเดอร์สุดท้าย 21.00 น.) โทร. 09-4703-7777 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.waterlibrary.com
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
ร้านอาหารฝรั่งเศสในบ้านเรานั้นมีอยู่หลายร้าน ที่ชวนให้เหล่านักกินทั้งหลายได้เลือกตามไปลิ้มลองรสชาติกัน มื้อนี้ “ตระเวนกิน” เลยขอเอาใจคออาหารฝรั่งเศสด้วยการแนะนำร้านอาหารฝรั่งเศสสวยๆ ที่นำเสนออาหารฝรั่งเศสแบบต้นตำรับรสเลิศให้ได้ตามไปลองลิ้มกัน
ร้านที่ว่านี้คือ “Water Library Brasserie” ตั้งอยู่ที่ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี เป็นร้านอาหารที่มีบรรยากาศร้านสวยงาม โดยทางร้านได้แรงบันดาลใจจากช่วงยุคทองของฝรั่งเศส ปี ค.ศ. 1920 มาประยุกต์การออกแบบตกแต่งภายในร้านให้มีบรรยากาศที่คลาสสิก แต่ก็ยังคงความล้ำสมัยไว้ได้อย่างลงตัว แสดงให้เห็นถึงความเป็นร้านอาหารฝรั่งเศส สไตล์บราสเซอรีแท้ๆ
เมื่อเดินเข้ามาภายในร้านให้ความรู้สึกเหมือนมานั่งกินข้าวอยู่ภายใต้หอไอเฟลที่สวยงาม ด้านในมีโต๊ะนั่งหลากหลายโซนให้เลือกนั่งตามชอบใจ มีทั้งบรรยากาศโต๊ะนั่งด้านหน้าร้าน ด้านในร้านมีหลายโซนให้เลือกนั่ง มีโซนเคาน์เตอร์บาร์บริการเครื่องดื่มแบบหลายหลาก มีไวน์จากทั่วโลกให้เลือกดื่ม และมีโซนโต๊ะนั่งเทอเรสด้านนอกร้านรับลมธรรมชาติ
อาหารฝรั่งเศสของที่ร้านนี้เป็นสูตรแบบต้นตำรับ โดยมีเชฟไฮเคิล โจฮารี เป็นผู้สร้างสรรค์เมนูขึ้นมา คัดสรรวัตถุดิบพรีเมียมมาปรุงแต่งเป็นอาหารฝรั่งเศสขนานแท้ ให้ได้เลือกลิ้มลองมากมาย และยังมีเมนูใหม่ๆ หมุนเวียนมาอยู่เสมอ
เมนูฝรั่งเศสจานเด่นที่ชวนชิมของที่นี่มีหลายอย่าง ที่อยากแนะนำก็มี Baked Camembert (690 บาท++) เอาใจคนรักชีสโดยเฉพาะ มีชีสคาเมมเบิร์ต เป็นชีสจากฝรั่งเศสนำไปอบ เสิร์ฟมาพร้อมกับซอสน้ำผึ้งที่มีส่วนผสมของเห็ดทรัฟเฟิล กินกับขนมปังที่ทางร้านทำเอง กินเมนูนี้แล้วขอบอกว่าโดนใจ เคี้ยวกร้วมขนมปังทั้งคำ หอมกลิ่นทรัฟเฟิลอ่อนๆ ขึ้นจมูก ขนมปังกรอบนอกนุ่มใน ชุ่มชีสนุ่มยืดได้รสหวานนิดๆ จากน้ำผึ้งกินละมุนปากมาก
จานถัดมาสีสันชวนกิน Blue Swimmer Crab (450 บาท++) เป็นแตงโมสีแดงปรุงรสกับพอนซึ มีเนื้อปูม้าปรุงรสตามสูตรเฉพาะใส่มาบนแตงโม ท็อปด้วยแบล็คฟอเรสแฮมกับเบบี้สปิแนช ราดด้วยครีมฮอสแรดิช เรียกว่ากินทุกอย่างพร้อมกันทั้งคำได้รสชาติถูกใจ สดชื่นฉ่ำปากกับแตงโมเข้ากันดีกับเนื้อปูรสกลมกล่อม และแฮมรสเยี่ยม
แล้วมาลองลิ้ม Vol Au Vent (350 บาท++) เป็นพายซอสครีมเห็ดรวม หมูเบิร์กเชียร์ ท็อปด้วยไข่โพชเอ้ก ใส่พามาซานชีส และทรัฟเฟิล กินพายกรอบนอกนุ่มใน ผสานรสชาติเห็ดและหมูรสชาติกลมกล่อมปาก หอมกลิ่นทรัฟเฟิล กินเข้ากันดีกับชีสและไข่แบบลงตัว
เมนูต่อมาชวนชิม Red Snapper (650 บาท++) เนื้อปลากะพงแดงทอดแบบหนังกรอบกำลังดี มีกุ้งใส่มาด้วย ท็อปด้วยหอมทอด รองจานด้วยมันบด ราดด้วยซอสสไปซี่ซีฟู้ด กินปลากะพงเนื้อนุ่มแน่นหวานสด กุ้งเนื้อเด้งสดหวาน กินเข้ากันดีกับซอสสไปซี่รสเข้มข้น ละมุนลิ้นกับมันบดเนื้อเนียน จานนี้ถูกปากดีแท้
ถ้าใครชอบกินสเต๊กแนะนำเมนูเด่นจานนี้ Rack of Australian Lamb (990 บาท++) ซี่โครงแกะออสเตรเลียปรุงรสอย่างดีตามสูตรเฉพาะแล้วย่าง (สามารถเลือกสั่งระดับความสุกของเนื้อแกะได้) ราดด้วยซอสแกะสูตรเด็ด แล่เนื้อแกะส่งเข้าปากกินแล้วเนื้อเคี้ยวนุ่มหนึบหวานฉ่ำปาก ได้รสชาติน้ำซอสรสกลมกล่อม เสิร์ฟพร้อมพริกหวาน มะเขือม่วงอบเครื่องเทศ และมันฝรั่งอบครีมสไตล์ฝรั่งเศสมาให้กินเคียงกัน
กินของคาวแล้ว ต้องล้างปากด้วยของหวาน Valrhona Chocolate Fondant (320 บาท++) ใครชื่นชอบช็อกโกแลตเป็นต้องโดนใจ กับช็อกโกแลตเวโรนาฟองดองรสชาติเข้มข้นหอมหวาน มีซาบายองส้มตัดเลี่ยนได้ดี เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมคาราเมลโฮมเมดที่หวานเย็นกินแล้วฟินดีต่อใจ
แต่ว่าก็ยังมีอาหารฝรั่งเศสเลิศรสอื่นๆ ที่ชวนลองลิ้มอีก อาทิ Yellow Fin Tuna Tartare (390 บาท++) Truffle & Mushroom Risotto (450 บาท++) Asparagus (430 บาท++) Côte De Boeuf (3,900 บาท++) และอีกหลากหลายเมนูฝรั่งเศสต้นตำรับ ที่ถ้าใครเป็นคออาหารฝรั่งเศสแนะนำว่าต้องมากันให้ได้ที่ร้าน “Water Library Brasserie”
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“Water Library Brasserie” ตั้งอยู่ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ชั้น 5 ถนนเพลินจิต ปทุมวัน กรุงเทพฯ เปิดทุกวัน เวลา 11.30 - 22.00 น. (รับออเดอร์สุดท้าย 21.00 น.) โทร. 09-4703-7777 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.waterlibrary.com
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
