xs
xsm
sm
md
lg

“สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์” น้ำพระทัยในหลวง ร.๙ สู่ชาวเขา เพื่อชีวิตและธรรมชาติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

Facebook :Travel @ Manager
ทัศนียภาพสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์
ในอดีต วิถีชีวิตของชาวไทยภูเขานั้นยากลำบากกว่าในปัจจุบันมากนัก แต่เดิม พืชที่เคยปลูกก็คือฝิ่น เนื่องจากเป็นพืชที่ทำรายได้ ส่วนพืชอื่นๆ เช่น ข้าว ข้าวโพด ก็ปลูกเพื่อกินและเลี้ยงสัตว์เท่านั้น อีกทั้งวิธีการในการปลูกพืชและการแผ้วถางป่า ก็เป็นวิธีที่ไม่ถูกต้อง

แต่ด้วยสายพระเนตรอันยาวไกลและพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงตระหนักถึงภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศ เช่น การทำไร่เลื่อนลอย การปลูกฝิ่น และการตัดไม้ทำลายป่า ที่จะทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา เช่น น้ำท่วมเมืองเมื่อไม่มีผืนป่าคอยอุ้มมวลน้ำจากธรรมชาติ หรือปัญหายาเสพติดภายในประเทศ จึงทรงมีพระราชประสงค์ที่จะช่วยเหลือชาวเขาให้มีพื้นที่ทำกินเป็นหลักเป็นแหล่ง ส่งเสริมการปลูกพืชแทนการปลูกฝิ่น ถ่ายทอดวิชาความรู้ทางด้านการเกษตรแผนใหม่เพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรให้สูงขึ้น ปรับปรุงฐานะความเป็นอยู่ของชาวเขาให้ดีขึ้น ตลอดจนป้องกันการบุกรุกทำลายป่าต้นน้ำ

ดังนั้น ในปี พ.ศ.2522 มูลนิธิโครงการหลวงจึงได้จัดตั้ง “สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์” ขึ้นบนพื้นที่ 65 ไร่ ในเขตหมู่บ้านขุนกลาง ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่
ผลผลิตพืชผักเมืองหนาว(ภาพจาก Facebook : สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์)
สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ เป็นสถานีวิจัยของมูลนิธิโครงการหลวง มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือชาวไทยภูเขาให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีที่อยู่และที่ทำกินเป็นหลักแหล่ง สนับสนุนส่งเสริมให้หันมาปลูกพืชเมืองหนาวแทนการปลูกฝิ่น และเลี้ยงสัตว์โดยยังคงอนุรักษ์วิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของชุมชนให้สอดคล้องกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่น

การดำเนินงาน ณ สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ จะแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ ได้แก่ งานวิจัยเพื่อเพิ่มผลผลิตให้มีคุณภาพได้มาตรฐาน งานวิจัยจำพวกไม้ดอกและไม้ประดับ มีทั้งการพัฒนาและรวบรวมสายพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับเพื่อจำหน่ายเป็นไม้ตัดดอกและไม้ตัดใบ ประเภทผักก็มีการคัดเลือกและปรับปรุงพันธุ์เพื่อให้ต้านทานโรค พืชไร่ก็มีการส่งเสริมให้เกษตรกรขยายพันธุ์ข้าว งานไม้ผลมีการปรับปรุงเพื่อทดสอบสายพันธุ์ใหม่ให้ทนต่อการปลูกบนที่สูงของไทย และมีการส่งเสริมงานประมงบนที่สูง
ภายในสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์
ด้านที่สอง คือ การเป็นศูนย์การเรียนรู้การเกษตรบนพื้นที่สูง เพื่อส่งเสริมให้ผลงานวิจัยของสถานีเผยแพร่ไปยังชุมชนและผู้สนใจ โดยที่สถานีหลักมีการจัดแสดงรวบรวมพันธุ์ไม้บนที่สูง งานผลิตพืช และไม้กระถาง และงานวิจัยประมงบนพื้นที่สูง

และสุดท้าย มีการดำเนินการพัฒนาและส่งเสริมอาชีพให้กับเกษตรกรชาวไทยภูเขาไปพร้อมกับการฟื้นฟูอนุรักษ์ธรรมชาติ โดยมีการส่งเสริมปลูกพืชไร่ งานหัตถกรรม งานท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ งานเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่ชุมชน งานฟื้นฟู และงานอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ

พื้นที่ดำเนินงานของสถานีมีทั้งหมด 4 แห่ง คือ
เดินเที่ยวในสถานีหลักบ้านขุนกลาง
“สถานีหลักบ้านขุนกลาง” เป็นที่ทำการของสถานีและเป็นจุดท่องเที่ยวที่มีบริการที่พักและอาหาร ซึ่งภายในสถานีหลักนั้นก็มีจุดที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชมความสวยงามได้หลายจุด อาทิ “สวน 80 พรรษา” ที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2550 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในวโรกาสที่ทรงมีพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา ภายในมีไม้ดอกเมืองหนาวหาชมยาก ไม้ดอก และไม้ยืนต้น นำมาจัดภูมิทัศน์ให้สวยงาม

แล้วก็ยังมี “สวนหลวงสิริภูมิ” ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์เฟิน “โรงเรือนจัดแสดงพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับ” เป็นจุดที่จัดแสดงพันธุ์ไม้ดอก ไม้ประดับ ที่ไม่สามารถทนต่อสภาพแวดล้อมโดยทั่วไป และเป็นพันธุ์ไม้ที่ต้องการได้รับการดูแลเป็นพิเศษ “สวนกุหลาบพันปี” เป็นสวนที่เกิดจากการศึกษาและขยายพันธุ์กุหลาบพันปีจากแหล่งต่างๆ ที่มีการกระจายพันธุ์อยู่ตามพื้นที่สูงทั้งในและต่างประเทศ “สวนซากุระ” เป็นสวนที่ปลูกและรวบรวมพันธุ์พีชในวงศ์ Prunus เช่น ซากุระ ท้อดอก พลัม บ๊วย ฯลฯ
ซากุระออกดอกสะพรั่งงาม
“หน่วยวิจัยขุนห้วยแห้ง” เป็นที่ทำงานวิจัยและปรับปรุงพันธุ์พืช ทั้งพันธุ์ไม้ผลและพืชไร่ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2552 เพื่อปรับปรุงให้ต้นสามารถเติบโตได้ดี ออกผลใหญ่ และรสชาติกลมกล่อม อีกทั้งยังคิดค้นสายพันธุ์ใหม่ๆ เช่น ปรับสีดอกไฮเดรนเยีย เพื่อให้ออกดอกสวยและทนต่อสภาพอากาศในบ้านเราได้
ลูกพีชจากอินทนนท์ (ภาพจาก Facebook : สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์)
“หน่วยวิจัยแม่ยะน้อย” เป็นแหล่งผลิตเมล็ดพันธุ์อาราบิก้า ซึ่งเป็นกาแฟพันธุ์ที่เจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่สูง มีอากาศเย็นตลอดทั้งปี จุดเด่นของกาแฟอาราบิก้าคือ กลิ่นที่หอมเข้มและรสชาติกลมกล่อมกว่ากาแฟสายพันธุ์อื่น หน่วยวิจัยแห่งนี้ตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์หลักคือ ให้เป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์กาแฟอาราบิก้าของโครงการหลวง และเป็นแหล่งทดลองและสาธิตการปลูกต้นกาแฟ เพื่อเป็นต้นแบบให้กับเกษตรในหมู่บ้านแม่ยะน้อยที่อยู่ใกล้เคียงเป็นตัวอย่าง ปัจจุบัน หน่วยวิจัยแม่ยะน้อยจึงถูกขนานนามว่าเป็น “ศูนย์ผลิตเมล็ดพันธุ์กาแฟพน่วยแม่ยะน้อย” โดยทำการส่งเสริมวิธีการปลูกกาแฟพันธุ์อาราบิก้าแก่เกษตรกรในพื้นที่ เพื่อส่งเสริมการปลูกกาแฟให้ได้ผลผลิตสูงและมีคุณภาพดีรสชาติกลมกล่อม

“หน่วยวิจัยผาตั้ง” มีหน้าที่อนุรักษ์พันธุ์ไม้โบราณจำพวก สน และกุหลาบพันปี พืชเมืองหนาวหายาก และการทำปศุสัตว์พื้นที่สูง
ผลผลิตกาแฟสายพันธุ์อาราบิก้า
นอกจากนี้แล้วก็ยังมี “หน่วยวิจัยประพงพื้นที่สูงอินทนนท์” โดยมูลนิธิโครงการหลวงร่วมมือกับกรมประมง มีการทดลองเพาะเลี้ยงและส่งเสริมให้ชุมชนทำการประมงในพื้นที่สูง เนื่องจากภูมิประเทศแถบนี้เหมาะแก่การเพาะเลี้ยงปลาเรนโบว์เทร้าต์ ปลาสเตอร์เจี้ยน กุ้งก้ามแดง และ ปูขน เพราะปลาต้องการน้ำเย็นที่ไหลอยู่ตลอดเวลา จึงเป็นโอกาสที่ดีในการส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่มีรายได้อีกทางหนึ่งนอกจากผลผลิตทางการเกษตร
กุหลาบพันปี
ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทำให้ปัจจุบันนี้เกษตรกรในพื้นที่สูงมีอาชีพดีขึ้น มีรายได้มั่นคงและมีความรู้ในด้านการเกษตรที่เอื้อต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่นของตนให้ยังอยู่สืบไป
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
กำลังโหลดความคิดเห็น