xs
xsm
sm
md
lg

"ศูนย์ศึกษาฯ อ่าวคุ้งกระเบน" ฟื้นป่าชายเลนสู่ความสมบูรณ์ด้วยพระกรุณา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

Facebook :Travel @ Manager
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน ช่วยฟื้นฟูป่าชายเลนอันเสื่อมโทรม
โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ ที่สำคัญในภาคตะวันออกคือ “ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ” ซึ่งตั้งอยู่ใน อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี

เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ.2524 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่จังหวัดจันทบุรี พระองค์ได้พระราชทานพระราชดำรัสแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีว่า "...ให้พิจารณาพื้นที่ที่เหมาะสม จัดทำโครงการพัฒนาด้านอาชีพการประมงและการเกษตร ในเขตพื้นที่ชายฝั่งทะเล และจังหวัดจันทบุรี..." อีกทั้งยังได้พระราชทานเงินที่ราษฎรจังหวัดจันทบุรีทูลเกล้าฯ ถวายในโอกาสนั้นเป็นทุนเริ่มดำเนินการ
สะพานแขวนระหว่างเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ
ต่อมาเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ.2524 พระองค์ได้มีพระราชดำริเพิ่มเติม ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน สาระสรุปได้ว่า “...ให้พิจารณาจัดหาพื้นที่ป่าสงวนเสื่อมโทรมหรือพื้นที่สาธารณประโยชน์ เพื่อจัดตั้งเป็นศูนย์ศึกษาการพัฒนาเช่นเดียวกับศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนฯ ให้เป็นศูนย์ศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาในเขตที่ดินชายทะเล...”

ทางจังหวัดจันทบุรีจึงได้ร่วมกันหารือกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อพิจารณาความเหมาะสม และกำหนดพื้นที่บริเวณอ่าวคุ้งกระเบน อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี เป็นพื้นที่จัดตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีกรมประมงเป็นหน่วยงานหลักในการประสานการดำเนินงานในพื้นที่
ต้นโกงกางรากระโยงระยางสมบูรณ์
ชาวประมงก็ได้รับประโยชน์จากความอุดมสมบูรณ์ที่ฟื้นคืน
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จึงถือกำเนิดขึ้นโดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมประมง กรมพัฒนาที่ดิน สำนักงานจังหวัดจันทบุรี กรมที่ดิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร โครงการชลประทานจังหวัดจันทบุรี กรมชลประทาน สำนักนโยบายและสิ่งแวดล้อม กรมป่าไม้ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด กรมปศุสัตว์ และอื่นๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่และบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง อีกทั้งยังเป็นสถานที่ฟื้นฟูดูแลสภาพแวดล้อมของชายฝั่งทะเลให้มีสภาพสมบูรณ์ โดยมีพื้นที่ครอบคลุมชายฝั่งทะเลกว่า 2,000 ไร่

นับแต่นั้นมาป่าชายเลนอ่าวคุ้งกระเบนจึงได้พลิกฟื้นจากป่าเสื่อมโทรม กลายเป็นป่าชายเลนอันทรงคุณค่าที่มากไปด้วยระบบนิเวศอันหลากหลาย อีกทั้งภายหลังจากที่ฟื้นฟูสภาพป่ากลับคืนเป็นป่าชายเลนอุดมสมบูรณ์แล้ว ชาวบ้านในพื้นที่รอบผืนป่าก็มีรายได้จากการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและผลิตผลจากป่าเพิ่มขึ้น
ศาลาและป้ายสื่อความหมายให้ความรู้ระหว่างทาง
ปูก้ามดาบขึ้นมาโชว์ตัว
นอกจากนั้นแล้วที่นี่ยังกลายเป็นห้องเรียนธรรมชาติและสถานที่ท่องเที่ยวอันโดดเด่นแห่งภาคตะวันออก ที่นักท่องเที่ยวต่างเดินทางมาชมสีสันของพืชและสัตว์บนสะพานไม้ในเส้นทางศึกษาธรรมชาติของอ่าวคุ้งกระเบนอันร่มรื่น

นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนสามารถมาเดินชมเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ซึ่งจัดทำเป็นทางเดินสะพานไม้ระยะทางประมาณ 1,600 เมตร ระหว่างทางจะมีศาลาและป้ายสื่อความหมายให้ความรู้ในเรื่องราวต่างๆ ของพืชและสัตว์ในป่าชายเลนตลอดเส้นทาง ทำให้ได้ทราบถึงระบบนิเวศของป่าชายเลนอันหลากหลายแต่อยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืน ทั้งต้นโกงกางใบเล็ก โกงกางใบใหญ่ ต้นฝาด ต้นฝาดแดง แสมขาว แสมดำ ลำพู ลำแพน ตะบูน ประสัก ฯลฯ รวมไปถึงสัตว์น้ำ อาทิ ปลาตีน ปูก้ามดาบ และนกนานาชนิด
อนุสรณ์หมูดุด
ปลากระเบนตัวใหญ่ในสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำฯ
เส้นทางเดินจะผ่านสะพานแขวนที่เป็นทั้งจุดชมวิวและมุมถ่ายรูปยอดนิยม สะพานไม้ทางเดินทอดยาวไปสู่ปากอ่าว มีศาลาชมวิวให้ยืนชมธรรมชาติรับลมทะเล และมีอนุสรณ์ “หมูดุด” หรือ “พะยูน” ซึ่งเดิมเคยมีหมูดุดที่อ่าวคุ้งกระเบนเป็นจำนวนมาก แต่ปัจจุบันสูญพันธุ์ไปแล้ว ทางศูนย์ศึกษาฯ จึงจัดทำอนุสรณ์ไว้ให้ความรู้แก่ผู้ที่เข้ามาชม และในช่วงปลายของเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติมีจุดสาธิตบ่อกุ้งกุลาดำระบบปิดที่ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะ และมีป่ารอยต่อระหว่างป่าชายเลน ป่าชายหาด และป่าบก ให้ได้ชมถึงการอยู่ร่วมกันของป่าอันอุดมสมบูรณ์

ผู้ที่มาชมเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติแล้วก็ไม่ควรพลาดแวะชม “สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา” ซึ่งจัดแสดงพันธุ์ปลาน้ำเค็มที่มีถิ่นอาศัยอยู่ในบริเวณอ่าวคุ้งกระเบน และมีอุโมงค์สัตว์น้ำระยะทางสั้นๆ แต่ก็เต็มไปด้วยสัตว์ทะเลที่น่าสนใจ เช่น ปลากระเบน ปลาฉลาม เป็นต้น
หน่วยสาธิตการเลี้ยงสัตว์น้ำภายในอ่าวคุ้งกระเบน
ลงให้อาหารปลาฉลามที่หน่วยสาธิตการเลี้ยงสัตว์น้ำ
อีกทั้งนักท่องเที่ยวยังสามารถไปชม “หน่วยสาธิตการเลี้ยงสัตว์น้ำภายในอ่าวคุ้งกระเบน” ซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน และอยู่ภายใต้การบริหารงานของศูนย์ฯ เช่นกัน ที่นี่มีกระชังเลี้ยงปลาสาธิตกลางทะเลขนาดใหญ่เพื่อให้ความรู้กับชาวประมง โดยมีพันธุ์สัตว์น้ำนานาชนิด ทั้งฉลามหลากหลายพันธุ์ ปลาหมอทะเล ปลากะพง เต่าทะเล ฯลฯ ซึ่งสามารถให้อาหารกับสัตว์น้ำเหล่านี้ได้ด้วย

ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระองค์ทรงเปลี่ยนป่าเสื่อมโทรมร้างไร้ประโยชน์ให้กลับฟื้นคืนมาเป็นป่าชายเลนอันอุดมสมบูรณ์ ซึ่งไม่เพียงพืชพรรณและสัตว์ทะเลที่ได้รับประโยชน์ แต่ประชาชนโดยรอบก็ได้รับประโยชน์จากความอุดมสมบูรณ์นั้นด้วยเช่นกัน

“ศูนย์ศึกษาและพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ” ตั้งอยู่ที่หมู่ 4 ต.คลองขุด อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น. การเดินทางจากตัวเมืองจันทบุรี ไปตาม ถนนสุขุมวิท (ทางหลวงหมายเลข 3) ถึงหลักกิโลเมตรที่ 301 จะมีแยกเลี้ยวซ้ายเข้าไปตามทางหลวงหมายเลข 3399 อีกประมาณ 18 กม. ก็จะถึงศูนย์ฯ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอ่าวคุ้งกระเบน โทร. 0-3938-8116-8

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager

กำลังโหลดความคิดเห็น